เมื่อวันพุธที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปร่วมพูดคุย และรับประทานอาหารกับ มร. แดนนี่ โบลดุค ผู้อำนวยการ ประจำประเทศไทย บริษัท รีเสิร์ช อิน โมชั่น และพี่ๆ บล็อกเกอร์ รวมทั้งตัวแทนจาก Online Community รวมทั้งหมด 15 คน ที่ ร้านอาหาร 55 ชั้น 55 เซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ในบรรยากาศสบายๆ อาหารอร่อย พร้อมทั้งสัมผัส มือถือรุ่นใหม่ของค่าย BlackBerry ที่มีชื่อรุ่นว่า “BlackBerry® Bold™ 9780 smartphone”
โดยส่วนตัวแล้ว ไม่เคยเป็นเจ้าของ BB เคยแค่แตะๆ ของคนรู้จักบ้าง เล็กน้อย ต้องบอกว่าหลังจากได้สัมผัสและใช้งานในส่วนต่างๆ เป็นระยะเวลาพอสมควร ก็ติดอกติดใจมาก ด้วยปุ่มที่มีการออกแบบให้พิมพ์ง่าย เหมาะสำหรับการ chat มากๆ ไหนจะ ตุ่มมหัศจรรย์ (trackpad) แล้วก็ BBM และ social feed ที่ทำให้เราเกาะติดทุกสถานการณ์ ไม่พลาดทุกการติดต่อ ว่าแล้วก็มาดูรูปบรรยากาศในงานกันเลยดีกว่าค่ะ
บรรยากาศแรก
พี่ๆ บล็อกเกอร์ และตัวแทนจาก online community
หน้าตาของ BlackBerry® Bold™ 9780 smartphone
social feed ส่วนตัวคิดว่ามันเจ๋งมาก ที่รวมการแจ้งเตือนจาก account ของทุก social network ไว้ด้วยกัน
ดูคลิปทาง youtube เสียดายที่มันเล็กไปหน่อย
มีภาษาไทยด้วย !! แต่ที่ปุ่มกดไม่มีภาษาไทย
BB map
ภาพจากกล้องของ BlackBerry® Bold™ 9780 smartphone
และสุดท้าย...
ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณ รีเสิร์ช อิน โมชั่น (RIM) มากๆ ค่ะ
Comments
เห็นภาพสุดท้ายนึกว่างานแต่ง...
ใจร้าย ไม่มีชวนอะ :P
มร นี่แปลว่าอะไรครับ
twitter.com/djnoly
มร. = Mr. (Mister) ครับ
จริงๆน่าจะเป็นคุณอะ ผมว่าอ่านง่ายกว่า
อ่านแว๊บแรกนึกว่า หม่อมอะไรสักอย่าง - -"
คิดเหมือนผมตอนแรกเลย 555+
555
ผมมึนไปราวๆ 3 นาที กด google หาเลยหล่ะ "มร. แปลว่า"
เห็นด้วยนะถ้า Mr. หรือ คำนำหน้าชื่อ น่าจะใช้คำแบบอื่น ที่ไม่ใช่ มร. เคยเห็นแว๊ปๆ ข่าวก่อนหน้านี้สักข่าวแต่รู้สึกไม่ได้อ่่านละเอียดจำไม่ได้ข่าวไหน
เอาตามหนังสือ พิมพ์ ไปเลยก็ได้มั๊ง Mr. นาย Miss นางสาว อะไรแบบนั้น
Ton-Or
มันก็เหมือนกับ ดร. หละครับ Dr.
มร. มอ ร๋อง
เป็นเหมือนกันเลย
นี่รายงาน รีวิวร้าน หรือเป็น post ขอบคุณ RIM ครับ ? ต้อง sticky ด้วย ?
ไม่มีอะไรเลย นอกจากบอกว่าได้รับเชิญจากฝรั่ง บลาๆๆ พร้อมภาพบรรยากาศ จบ...
สาระสำคัญอยู่ตรงไหน ? หรือเพื่ออะไร ?
ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ แค่สงสัยน่ะ
คุณ chobi_nizzy เขาอยากเล่าบรรยากาศของงานนะครับ จริงๆ แล้วงานนนี้ผมเองก็ไปด้วย เดี๋ยวคงมี version ของผมเองอีกที ซึ่งคงไม่มีภาพ มีแต่บรรยาย เหมือนตอนงาน intel
ส่วนเรื่องว่าบทความไหนต้อง sticky บ้าง เป็นสิทธิของผม กับ mk ครับ ถ้าคิดว่าอันไหนควร/ไม่ควร ถูก sticky ก็แจ้งมาได้ครับ ไม่มีปัญหาอะไร
lewcpe.com, @wasonliw
เห็นด้วยกับ intendr
เห็นเป็นหัวข้อปักหมุด ก็คลิกเข้ามาอ่าน แต่ไม่มีเนื้อหาอะไรเลย...ภาพก็ไม่ชัดด้วย มืดๆ ไม่รู้ให้ดูอะไร
คิดเหมือนกัน
ก็ดีนี่ครับ มีบทความให้อ่านฟรี ชื่อหัวข่าวก็บอกอยู่แล้ว
แต่ก็มองอีกแง่นึงคือความคาดหวังของคนอ่านมีมากขึ้นนะเนี่ย
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
โมเดลของเราก็คือ คนอ่านคาดหวังอะไร ก็ส่งเรื่องนั้นเข้ามาครับ ไม่ใช่ปัญหาสำคัญอะไร
"พี่ๆ บล็อกเกอร์ รวมทั้งตัวแทนจาก Online Community รวมทั้งหมด 15 คน"
ปล.น่าจะเป็นการตลาดอย่างหนึ่งครับ ^^
sticky ครับ
สาระสำคัญของเรื่องนี้คือ RIM รุกตลาด BB ด้วย social network เต็มรูปแบบแล้ว มีภาพถ่ายเป็นเครื่องยืนยัน ส่วนเรื่องตัว BB Bold รุ่นล่าสุดจะมีอะไรบ้าง อ่านเว็บอื่นมีเยอะแยะที่เขียนละเอียดกว่าครับ
หรือถ้ายังไม่ถูกใจในสาระสำคัญ ก็เขียนส่งมาก็ได้ครับ คนอื่นจะได้เข้าใจว่าสาระสำคัญที่คุณอยากได้ ควรมีหน้าตาอย่างไร เขียนอย่างไร
เห็นคนเขียนบางคน โดนโน่นโดนนี่ ต้องแก้โน่นแก้นี่ ข่าวไม่สำคัญ เนื้อหาไม่พอ ยังไม่ได้แม้แต่จะขึ้นหน้า 1 แต่นี่ ได้ขึ้น พร้อมโปร sticky ด้วย เลยสงสัย ว่าเรื่องมันมีอะไรมากกว่านั้น
เพราะเห็นคุณพร่ำบ่นเรื่อง 2 มาตรฐาน มาพอสมควร ไม่รู้ว่าเข้าข่ายหรือเปล่า
หรือว่าผมจะคิดมากไปเองคนเดียว แทนคนเขียนคนอื่น อีกแล้ว ?
มาตรฐานคือ Writer มีสิทธิ์เอาข่าวขึ้นและผมกับ mk มีสิทธิ sticky ครับ
ถ้าตอบข้อเรียกร้องของ Writer ไม่ได้ก็ไม่ได้เอาข่าวขึ้น
lewcpe.com, @wasonliw
ข่าวนี้ (และข่าวอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน) คนเขียนได้สละเวลาส่วนตัว ไปถ่ายรูปที่งาน กลับมาเขียนเล่าเรื่องให้คนอื่นๆ ได้อ่าน ทั้งหมดไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ให้คนเขียนเลย ผมก็ไม่ได้จ่าย RIM ก็ไม่ได้จ้างเขียน
เนื้อหาก็มีประเด็นอย่างที่อธิบายไปแล้ว ไม่ใช่ไม่มีอะไรอย่างที่คุณกล่าวอ้าง
แบบนี้ทำไมถึงไม่ควรจะไม่ให้ sticky ล่ะครับ?
ในทางกลับกัน คุณไม่ทำอะไรเลย โผล่มาก็มาโวยวายใหญ่โต ข่าวก็ไม่เคยเขียนสักข่าว
แบบนี้ ผมควรจะฟังใครล่ะครับ?
อีกประเด็น ถ้าไม่เคยเขียนข่าวจริงๆ อย่ามามั่วให้คนอื่นเข้าใจผิดนะครับ
แก้เสร็จตามที่ระบุ ผมให้ขึ้นหน้า 1 ทุกข่าวครับ
ผมว่าคุณน่าจะลองเขียนข่าวดูบ้างนะครับจะได้เข้าใจอะไรหน่อย ถ้าจะให้ดีลองไปงานแบบนี้แล้วเขียนดูครับ แล้วก็กรุณา subscribe blognone groups ด้วยก็ดีครับ จะได้รู้บ้างว่ามีงานให้สมาชิกไปอยู่ประจำ
ขออภัย จริงๆค่ะ ที่เขียนสาระสำคัญ ออกมาไม่ได้ตามที่คาดหวัง
สาระสำคัญของงานตามที่คุณ mk สรุปค่ะ
ส่วนหัวข้ออื่นนั้นเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับ BB ว่าอยากให้มีอะไรใหม่ๆ บ้าง
เน้นที่การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันค่ะ หากเนื้อหาไม่หนักพอ ก็คงเป็นเพราะอาหารพาไป
ต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่เอาแต่สนใจอาหารตรงหน้ามากกว่า technical data ที่ผู้จัดงานนำเสนอ
JuSci - when science made easy
ในฐานะที่เคยเขียนข่าวมา 2-3 ข่าวนะครับ ผมชอบให้มีคนทักให้แก้มากกว่านะ เพราะถ้า Writer ปล่อยหมดแล้วมีข้อผิดพลาดมันขึ้นไปทุกคนที่อ่านข่าวเห็นความผิดพลาดของเรา ผมว่าคนเขียนข่าวจะรู้สึกไม่ดีมากกว่าโดนติก่อนเอาขึ้นอีกนะครับ
"สาระสำคัญของเรื่องนี้คือ RIM รุกตลาด BB ด้วย social network เต็มรูปแบบแล้ว"
คืออ่านเองแล้วไม่เก็ตเลย
อันนี้แล้วแต่คนตีความครับ ผมตีได้แบบนี้ และเห็นว่าน่าสนใจดีจนสมควรเป็น sticky ได้เลย
น่าจะเป็น RIM รุกตลาด social network ด้ว BB เต็มรูปแบบแล้ว มากกว่านะครับ
ขอบคุณสำหรับภาพครับ
งานน่าจะอบอุ่นดีนาะครับ ดูจากรูป
ชอบดูเจาะข่าวตื้นก็ไม่บอก!!!
Coder | Designer | Thinker | Blogger
แล้วได้ไปพบปะพูดคุยอะไรบ้างครับ??
ติดใจตรง "ตุ่มมหัศจรรย์ (trackpad)" ด้วยครับ
อยากกิน fifty five มากกว่า ห้าๆๆๆ
"รายงานงานพบผู้บริหาร RIM" ตอนแรกอ่านไม่เข้าใจพอกดเข้าดูถึงรู้ความหมายของหัวข้อข่าว สงสัยจะมึนแหะเรา
ปล.ที่แปลตรง "มร. แดนนี่ โบลดุค" อันนี้ถูกต้องรึป่าวครับผมจะได้เข้าใจใหม่ว่า "Mr." ในข่าวเมืองนอกถ้าจะแปลเป็นไทยต้องแปลว่า "มร." เพราะผมค่อนข้างเชื่อมั่นว่าข่าวใน Blognone.com ใช้คำค่อนข้างถูกถึงจะขึ้นหน้าหนึ่งหรือปักหมุดได้
มร. - นาย (Mr. - Mister) - อ้างอิง
ไม่ได้กวนนะครับแต่อยากรู้จริงๆว่า
มี mrs กับ miss แบบย่อด้วยรึป่าวครับเหมือนว่าจะแปลแต่ mr อย่างเดียว แบบว่าสงสัย - -"
mrs กับ miss ภาษาไทยใช้ มรส. กับ มอสส. ครับ
:p
อันนี้ไม่ทราบเหมือนกันครับ
ขอตอบดังนี้นะคะ
ตามหน้าหนังสือพิมพ์ มีการใช้คำว่า "มร." อย่างแพร่หลายค่ะ
ตัวอย่างเช่น http://www.sc.mahidol.ac.th/tha/news/clipping/thairath_06-11-49.htm
ต้องขออภัยที่ไม่สามารถหา evidence ที่น่าเชื่อถือกว่านี้ได้ค่ะ
ยอมรับว่าครั้งแรกๆ ที่เห็นคำนี้ก็แปลผิดเหมือนกันค่ะ แต่ค้นเอา เลยรู้คำแปลค่ะ
JuSci - when science made easy
Mister แปลเป็นไทย ใช้คำว่า "นาย" ก็ได้ครับ
แต่ถ้าจะไม่แปลก็เป็นสิทธิ์ของคนเขียนครับ ถ้าเขาเขียนถูกต้องอยู่แล้ว
lewcpe.com, @wasonliw
ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ ได้ความรู้เพิ่มอีก +1
เหมือนเคยเห็นเอกสารราชการหรือข่าวหนังสือพิมพ์ใช้อยู่เหมือนกันครับ
+1
ข่าวนี้มีสองประเด็น
มร.
ปักหมุด
:P
2 ประเด็นนี้นอกเรื่อง แต่ก็ถกกันได้ ได้ความรู้เพิ่ม
ส่วนประเด็นของข่าวจริงๆ คุณ mk สรุปให้แล้ว
คุณ sunback ตอบให้เกือบหมดแล้ว
แต่ผมขอย้ำอีกรอบตรงนี้ครับว่า คอมเมนต์ของ Blognone คุยเรื่องอะไรก็ได้ครับ จะคุยไม่มีสาระ ผมก็ไม่มีปัญหาใดๆ
เป็นงานที่ผมอยากไปมาก (ได้ invite มา) แต่วันนั้น Server ล่ม ต้องเข้าไปแก้ไขด่วนเลยอดไป T_T
ตอนเแรกเห็นข่าวหายไปก็นึกว่ามันหมดเวลาปักหมุดแล้ว ที่ไหนได้ ปักไม่แน่นนี่เอง :)
ผิดไปละมั้ง mk ถ้าจะบอกว่า อยากได้สาระสำคัญยังไงก็ให้เขียนข่าวมา มันเหมือนกับคนวิจารณ์หนังแล้วโดนบอกว่า อยากได้หนังแบบไหนก็ไปสร้างมา
ถ้าดูจากเฉพาะเนื้อหาในข่าว จุดที่เห็นว่าพอจะมีเนื้อหาอยู่บ้างก็คือย่อหน้าที่ว่า "ด้วยปุ่มที่มีการออกแบบให้พิมพ์ง่าย เหมาะสำหรับการ chat มากๆ ไหนจะ ตุ่มมหัศจรรย์ (trackpad) แล้วก็ BBM และ social feed ที่ทำให้เราเกาะติดทุกสถานการณ์ ไม่พลาดทุกการติดต่อ" เท่านี้เอง และก็ยังสงสัยอยู่ว่า ถ้า RIM เปิดตัว BB เจาะ social network ใหญ่โต ทำไมเชิญแค่ Blogger & ตัวแทน Online Community "15 คน" ตัวเลขนี้มันดูน้อยมาก ทำให้สงสัยต่อว่า 15 คนนี้คือใคร เป็น community ใหญ่น้อยขนาดไหน อย่างน้อยก็น่าจะบอกว่ามีตัวแทนจากที่ไหนบ้าง เพื่อให้เห็นภาพว่า เฮ้ย RIM มันเอาจริงนะ มันเจาะกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ หรืออะไรทำนองนี้
คำตอบก่อนหน้านั้นของคุณ lew คือ "คุณ chobi_nizzy เขาอยากเล่าบรรยากาศของงานนะครับ จริงๆ แล้วงานนนี้ผมเองก็ไปด้วย เดี๋ยวคงมี version ของผมเองอีกที ซึ่งคงไม่มีภาพ มีแต่บรรยาย เหมือนตอนงาน intel" นี่ช่วยย้ำเราว่า บทความนี้โชว์บรรยากาศอย่างเดียว ยังไม่เจาะเนื้อหาจริงจัง แต่สำหรับพี่ดูภาพมืดๆ แล้วก็ยังไม่เก็ตอยู่ดีว่าทำไมต้องขึ้น sticky ด้วย (ด้วยความเคารพนะคะ คุณ chobits_nizzy เราไม่ได้จะว่าร้ายอะไรนะคะ ต้องขอบคุณมากที่ถ่ายภาพมาแชร์ค่ะ แต่ภาพมันมืดและเราดูไม่รู้เรื่องจริงๆ ค่ะ) อีกอย่าง ไม่มีส่วนไหนในบทความเลยว่า เป็นการโพสต์ภาพบรรยากาศเท่านั้น รายงานจริงจากคุณ lew จะตามมาอีกที ดูแค่หัวข้อบทความว่า "รายงานงานพบผู้บริหาร...." นี่ไม่ทำให้คนอ่านเข้าใจผิดหรือคะ
เราเองก็เคยทำงานอาสาสมัคร ไม่มีรายได้ใดๆ ทั้งนั้น ทำก็เพราะอยากทำ แต่การโต้ตอบกับผู้วิจารณ์งานของเราอย่างไม่แยแส ว่าอยากได้ยังไงก็มาทำเอง บอกตามตรงเป็นสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะเห็นจาก Blognone นะ
ที่ Blognone มีนโยบายว่า อยากได้อะไร ต้องทำเองครับ เรื่องนี้มีการกล่าวถึงหลายครั้งแล้ว
mk กับ lew ก็พูดเสมอว่า คุณอยากได้อะไร คุณต้องทำเอง ไม่มีคนอื่นมาทำให้อย่างที่คุณอยากได้หรอก
และสิทธิ์ ว่าใครควรจะได้ขึ้น sticky mk กับ lew ก็เป็นคนตัดสิน นั้นก็ชัดเจนอยู่แล้ว
และผมก็ยังเห็นด้วยว่า "ผลงานจากคนที่ลงมือทำ" ย่อมมีคุณค่าเพียงพอที่จะนำเสนอครับ
เพียงแค่มันไม่ถูกใจบางคนเท่านั้น ซึ่งทาง blognone ก็เปิดหนทางให้คนเหล่านั้นด้วยการ ให้โอกาสทำเอง ครับ
อย่าคาดหวังว่า blognone จะเป็นอะไรอย่างที่คุณอยากให้เป็นเลยครับ ตราบใดที่คุณยังไม่มีส่วนร่วมในการสร้างมัน
lewcpe.com, @wasonliw
โมเดลของ Blognone นำมาจากสายของโอเพนซอร์สนะครับ เทียบกับหนังแล้วคงไม่ถูกนัก (แต่จริงๆ ผมก็เห็นด้วยกับ "อยากได้หนังแบบไหนก็ไปสร้างมา" นะ)
คำวิจารณ์บนอินเทอร์เน็ตมีเยอะแยะมากมาย ผมไม่สามารถทำตามทุกความเห็นได้ การจะฟังใครหรือทำตามใคร ต้องดูตาม contribution ของคนนั้นๆ ว่ามีเจตจำนงค์มากแค่ไหน คอมเมนต์ก็เป็นแค่คอมเมนต์ให้เว็บคึกคักขึ้น แต่ไม่มีผลต่อเนื้อหาของเว็บแต่อย่างใด
ดังนั้นในกรณีนี้ ระหว่างคอมเมนต์เฉยๆ กับบทความที่เขียนส่งเข้ามา น้ำหนักมันเทียบกันไม่ได้เลย (แม้ว่าผมอาจจะไม่เห็นด้วยกับบทความ หรือเห็นด้วยกับคอมเมนต์มากกว่าก็ตาม) อันนี้เหมือนกับคอมเมนต์ใน bug กับ patch ที่ส่งเข้ามา ซึ่งน้ำหนักมันเทียบกันไม่ได้เลย
ส่วนเรื่องคุณภาพของบทความนี่เป็นอีกประเด็นนึงนะครับ ถ้าคิดว่าคุณภาพของบทความไม่ถึง (เช่น เขียนผิด อธิบายไม่ดี) ก็เสนอเข้ามาได้ แต่ไม่ได้มีผลอะไรกับการที่จะได้ sticky หรือไม่ (บทความที่เขียนผิด ลิงก์ผิด เนื้อหาผิดบ้าง ก็เคยขึ้น sticky เยอะแยะไป) แนวคิดของบทความของเราจะไม่นิ่งเหมือนบทความบนกระดาษ นั่นคือจะปรับแก้เนื้อหาไปตลอดเวลาอยู่แล้ว
ที่จริงถ้าเปลี่ยนชื่อบทความนิดเดียว เป็น "ภาพบรรยากาศงานพบผู้บริหาร..." เราว่ามันจะไม่มีปัญหาอะไรเลย
อันนี้เป็นหน้าที่ของคนอ่านที่จะช่วยกันเสนอแนะคนเขียนครับ ผมเองก็ปรับแก้หัวเรื่องอยู่บ่อยไป
แต่ไม่ใช่ว่าจู่ๆ จะเข้ามาด่าๆๆ แบบคอมเมนต์ของ intendr
ขอโทษนะครับที่เข้ามาด่าๆๆ
แล้วทำไมคนที่มีสิทธิ์แก้ ไม่แก้อันนี้สักคนล่ะครับ มันเห็นทนโท่อยู่ ว่ามันเป็นยังไง
ถ้าเจตนาที่จะพัฒนาจริงๆ ต้องแบ่งแยกหรือ ? หรือว่าต้องการจะโชว์พาวกัน ?
สำหรับผม ทุกส่วนมีค่าเท่ากันหรือไม่ต่างกันมาก ทั้งคนรายงาน bug กับคน ส่ง patch ซึ่ง comment จากหลายคน มีค่ามากกว่าข่าวบางข่าว บางทีใช้เวลาและความตั้งใจมากกว่า
แต่ถ้าคุณคิดว่าคนเขียนข่าว ยังไงก็มีน้ำหนักมากกว่า comment "ในทุกกรณี" ก็แล้วแต่ครับ เพราะนี่เป็นพื้นที่ของคุณ ก็คงต้องตามนั้น
จะได้รู้ว่า comment มันไร้ค่า ท่านทั้งหลายก็จำใส่หัวไว้ว่า ถ้าไม่ทำก็อย่าสะเออะ comment แล้วก็อย่าด่าด้วย
ถ้ามีแต่คนทำ ไม่มีคนวิจารณ์ หรือให้ความสำคัญกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากหรือน้อยเกินไป ผมว่ามันจะเป็นจุดเริ่มต้นของความเสื่อม ก็ลองดูกันต่อไป
ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมจะเข้ามายุ่งทำไม ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรกับผมเลย อ่อ.. เท่าที่ผ่านมา ผมว่าคุณ lew จัดการปัญหาได้ดีนะครับ
ด่าอย่างเดียว โดยไม่เสนอแนวทางแก้ไข ผมไม่เรียกว่าคอมเม้น...
และ
ไม่ใช่หน้าที่เขานี่ครับ ทุกคนใน Blognone ยกเว้นผมกับคุณ lew เป็นอาสาสมัคร ไม่มีเงินเดือน ทำไมต้องมีหน้าที่มาแก้?
อันนั้นก็เรื่องของคุณครับ คุณก็เขียนเองชัดว่า "สำหรับผม"
คอมเมนต์แบบนี้ถือว่าไร้ค่าแน่นอนครับ คอนเฟิร์ม
คนวิจารณ์ใน Blognone มีมากมาย ทุกคนก็รับคำวิจารณ์ไปพัฒนาตัวเองต่อ คุณน่าจะลองพิจารณาวิธีการคอมเมนต์ของตัวเองดูมากกว่านะครับ ว่าทำไมคนอื่นเขาไม่ฟังคุณ
ทำไมผมถึงใช้คำว่า "คนที่มีสิทธิ์" แทนที่จะระบุตัว (ไม่ใช่หน้าที่ไม่มีเงินเดือนก็ไม่ต้องทำนะครับเพราะมันไม่ใช่หน้าที่)
ทำไมผมถึงเขียนคำว่า "สำหรับผม" เข้าไป เพราะประโยคนี้สมบูรณ์ได้ โดยที่ไม่ต้องใส่วลีนี้
คนไม่ฟังผม รวม "คุณ" ด้วยใช่ไหม หรือว่า ทุกคน ?
สำหรับผม ก็แปลว่าผม ไม่ได้แปลว่าทุกคนที่ครับ ถึงใช้คำว่า "มาตรฐานเดียว" เรายังคงมีมาตรฐานในใจที่สูงกว่าหรือต่ำกว่ามาตรฐานได้ ผมเห็นด้วยสำหรับคำถามว่า "ทำไมข่าวนี้ถึงได้ Sticky?" ในเชิงคำถามต้องการคำตอบ ไม่ใช่แนวหาเรื่อง ผม"ขี้เกียจ" scroll ขึ้นไปอ่าน เยอะเกิน (แน่นอนว่าเป็นความขี้เกียจมาตรฐานผม) จึงไม่แน่ใจว่าข้างบนคุณ intendr ถามด้วยคำถามต้องการคำตอบหรือหาเรื่อง แต่ตรงนี้ผมว่าเริ่มหาเรื่อง
แน่นอนครับ ผมยังไม่ได้บอกว่า MK ถูกหรือผิด ;p
ผมจะถูกหรือผิดไม่ใช่สาระสำคัญนัก แต่ละคนก็มี judgement ของตัวเองที่ต่างกันไป คนเกลียดผมก็มีไม่ใช่น้อย ซึ่งผมก็ไม่มีปัญหาอะไรในจุดนี้ และผมเชื่อว่าคนอ่านในภาพรวมจะเป็นคนตัดสินผมเอง
แต่สิ่งสำคัญคือ
ผมขอออกความเห็นในฐานะผู้อ่านนะครับ...ถ้าเห็นว่าไม่มีประโยชน์ก็ข้ามไปนะครับ
ผมคิดว่าในส่วนคอมเมนต์ของคุณ intendr ผมว่าเค้าวิจารณ์เรื่องมาตรฐานการปักหมุดข่าวนะครับ ซึ่งผู้ที่มีอำนาจในการปักหมุดก็คือ คุณ mk กับ คุณ lew ซึ่งคุณ lew ก็ได้ตอบไปแต่แรกแล้วว่า "ส่วนเรื่องว่าบทความไหนต้อง sticky บ้าง เป็นสิทธิของผม กับ mk ครับ ถ้าคิดว่าอันไหนควร/ไม่ควร ถูก sticky ก็แจ้งมาได้ครับ ไม่มีปัญหาอะไร"
ถ้ามองในมุมมองผู้ให้บริการหรือเจ้าของกิจการ ผมว่าคอมเมนต์ตรงๆแบบนี้มีประโยชน์นะครับ ไม่ควรมองข้ามและเอามาเป็นอารมณ์ครับ (มันบอกถึงความคาดหวังของผู้บริโภคได้ครับ)
ในส่วนของเนื้อข่าว บางทีถ้าไม่ใช่คนเขียนข่าวด้วยกันแล้วมาวิจารณ์ โดยคนวิจารณ์อาจไม่เคยเขียนข่าวเลยด้วยซ้ำ
ตรงนี้จะรับฟังหรือไม่รับฟังขึ้นอยู่กับทัศนะคติของผู้เขียนข่าวเองครับ ถ้าอยากพัฒนาผมว่าฟังไว้บ้างก็ดีนะครับ นอกจาก blognone จะประกาศเจตนารมณ์ว่า ข่าวในเวปนี้เพื่อนักเขียนข่าวเท่านั้น กลุ่มเป้าหมายอื่นๆไม่สน ใครไม่ใช่คนเขียนข่าวห้ามวิจารณ์ (ผมแอบน้อยใจนะเนี่ย)
ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับดนตรี คนฟังคงไม่จำเป็นต้องเล่นดนตรีเป็นถึงจะมีสิทธิ์บอกได้ว่าเพลงนี้เพราะหรือไม่เพราะ เรื่องอย่างนี้อยู่ที่รสนิยมของผู้ฟัง ส่วนผู้สร้างผลงานก็เลือกได้ครับว่าสนใจกลุ่มเป้า้หมายใด ก็เลือกรับฟังคอมเมนต์ของกลุ่มนั้นๆ ส่วนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายก็ข้ามๆไป แต่จะไปต่อล้อต่อเถียงว่า ใครเล่นตนตรีไม่เป็น ไม่ต้องมาวิจารณ์ ผมว่าคิดได้แต่อย่าแสดงออกดีกว่าครับ
ป.ล. เข้าใจนะครับว่างานบางงานเป็นงานอาร์ต แต่ถึงมีคนวิจารณ์แล้วไม่ถูกใจคุณ ก็ไม่จำเป็นต้องไปต่อล้อต่อเถียงหรอกครับ เรื่องบางเรื่องนิ่งเสียตำลึงทองครับ :)
ด้วยความหวังดีจากผู้อ่านคนนึงที่แวะมาอ่านข่าวบ่อยๆครับ
ขอเล่นตัดเฉพาะประโยคแบบศรีธนญชัยนะครับ
คุณ lew ก็บอกแล้วนะครับ ว่าไม่มีปัญหาอะไร คุณ mk ก็ย้ำแล้ว ว่าจะคอมเมนต์อะไรก็ได้ ไร้สาระก็ได้ (ด่าก็ยังได้เอ้า) แต่ จะรับฟังและรับไปดำเนินการหรือเปล่านั้น เป็นสิทธิของพวกเขาครับ คุณ mk ก็บอกแล้วว่า ขอเลือกพิจารณาและให้ความสำคัญกับผู้ที่ลงมือทำก่อน มากกว่าผู้ที่เอาแต่วิจารณ์ (ถึงบางครั้งมันจะถูก)
คุณ lew เคยบอกแล้วว่า อย่าคาดหวังอะไรกับ blognone อย่าคาดหวังว่าจะเป็นกลาง อย่าคาดหวังว่าจะตรงกับความต้องการของผู้อ่าน ผมว่าชัดเจนดีแล้ว ชอบอะไรก็เขียนมา เกลียดอะไรก็เขียนมา ชอบก็อ่าน ไม่ชอบก็ข้าม แค่นั้น อำนาจการคลิกลิงค์อยู่ในมือของท่าน
เขาไม่ได้บอกว่าไม่ให้วิจารณ์ครับ เขาบอกว่า เขาฟัง แต่จะทำตามหรือไม่ ไม่แน่ เขาเรื่องลำดับความสำคัญให้ดูแล้วครับ (ผู้ลงมือทำ มีความสำคัญมากกว่าผู้วิจารณ์อย่างเดียว)
ลองดูว่าผม reply ความเห็นไหน แล้วลองเปิดใจอ่านดูใหม่นะครับ..
ป.ล. คอมเมนต์ผมก็นโยบายเดียวกันครับ...ถ้าเห็นว่าไม่สำคัญก็ข้ามไปครับ (ประโยคในตอนท้ายอ่านแล้วรู้สึกอะไรบ้างมั้ยครับ? หรือผมรู้สึกไปคนเดียว?)
ผมขอถามกลับอีกเหมือนกันว่า คุณเปิดใจอ่านความเห็นคนอื่น ก่อนจะบอกให้คนอื่นเปิดใจอ่านความเห็นของคุณหรือยังครับ
ย้ำอีกครั้งนะครับว่า ที่เสนอแนะไปนั้นเพราะชอบอ่านข่าวจากเวปนี้ครับ
จริงๆผมพิมพ์อธิบายเพิ่มอีกกว่าสิบบรรทัด แต่ตัดสินใจลบออกดีกว่าครับ ขอเป็นแค่เศษคอมเมนต์ในจักรวาลอินเทอร์เน็ตแล้วกันครับ
กลิ่นมาม่าคุ้นๆโชยมา
ขอบคุณที่ชอบครับ แต่ก็แบบที่ตอบไปแล้วว่า ความเห็นไม่จำเป็นต้องได้รับการตอบสนองในทุกเรื่องครับ
ถ้าอยากได้ทุกอย่างตามที่ฝัน ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเปิดเว็บเอง
ผมว่าผมก็ไม่ได้แสดงออกนะครับว่าคอมเมนต์ผมต้องได้รับการตอบสนอง ผมแค่เสนอครับ รับหรือไม่รับอันนี้อยู่ที่คุณครับ ดังที่ผมพิมพ์ไว้ในตอนต้น
แต่ที่ผมพยายามจะแนะคุณ mk ว่าบางครั้งการนิ่งมันก็ดีกว่า เพราะถึงแม้วันนี้คอมเมนต์ของคนคนนึง (ยกตัวอย่างว่าเป็นผมละกัน) มันจะไม่ได้เรื่องหรือไม่ตรงใจคุณ แต่การที่คุณออกมาโต้แบบนี้ ผมรู้สึกว่าผมไม่ควรเสนออะไรอีก แล้วก็เหมือนกับคุณปิดโอกาสตัวเองในการรับคอมเมนต์ในอนาคตจากผมครับ
ขอบคุณครับ
เรื่องคุณจะเสนออะไรหรือไม่ อันนี้ก็เป็นสิทธิ์ของคุณครับ รวมถึงผู้อ่านเงียบอีกจำนวนมากที่ไม่ได้แสดงตัวอะไรในคอมเมนต์ เสนอมาผมก็ตอบ ไม่เสนอผมก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรเพิ่มเติม ชอบก็อ่าน อยากตอบก็เขียน ขี้เกียจก็เลิก ไม่มีใครบังคับอะไร ไม่ใช่หน้าที่
คุณ sunback มาช่วยตอบไปเยอะแล้ว ผมขอตอบเฉพาะประเด็นที่ผมคิดว่าน่าสนใจนะครับ
ผมก็อ่านแทบทุกคอมเมนต์ในข่าวนะครับ (ถ้าไม่ใช่ข่าวเก่าจนเกินไป) อันไหนสมเหตุสมผลก็ยินดีเอามาใช้เสมอครับ ส่วนเรื่องความคาดหวังของผู้บริโภค ก็ต้องถามกลับว่าผู้บริโภคแบบไหนด้วย Blognone ไม่ใช่เว็บสำหรับทุกคน ซึ่งเราถือนโยบายนี้มาตั้งแต่แรก และนโยบายหนึ่งของเราก็คือ กล้าปฏิเสธผู้บริโภคที่ไม่ได้เรื่องบางกลุ่มออกไปด้วย
อันนี้ตอบไปแล้วข้างบน
อันนี้ตอบไปแล้วในคอมเมนต์ก่อนๆ แต่ก็จะตอบอีกรอบว่า ผมให้ความสำคัญกับนักเขียนข่าวมากกว่าแน่นอนครับ แต่เราก็เปิดให้คอมเมนต์ได้ ส่วนจะนำไปปฏิบัติหรือไม่ก็อีกเรื่องนึง ไม่ใช่สิ่งที่จะมาบังคับกัน และสิ่งที่น่าเศร้ามากที่เกิดบ่อยๆ ก็คือ คนที่คอมเมนต์แล้วไม่ได้รับการตอบสนองดั่งใจ ก็จะโมโห ซึ่งผมว่าไร้สาระมาก อยากได้ทุกอย่างก็ต้องไปเปิดเว็บเอาเองแล้วล่ะครับ
การทำเฉยถือว่าปล่อยให้มาตรฐานผิดๆ กลายเป็นเรื่องชินชาของสังคมไปครับ
+๑ ครับ สำหรับคำตอบที่ชัดเจน
แต่ถ้าเปลี่ยนจากคำว่า "กล้าปฏิเสธผู้บริโภคที่ไม่ได้เรื่องบางกลุ่ม" เป็น "ผู้บริโภคที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย" หรืออย่างอื่น คงดูดีกว่านี้นะครับ
มันทำให้คิดว่า ผู้อ่านที่เห็นไม่เหมือนคุณ คิดไม่เหมือนคุณ เห็นแย้งคุณ กลายเป็นคน "ไม่ได้เรื่อง" ไปเลย
คุณ mk เคยเชื่ออะไรอย่างจริงจัง แล้ววันนึงมีสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่าความเชื่อของเรานั้นผิดมั้ยครับ ? เรื่องบางอย่างบางครั้งไม่จำเป็นต้องพูดผูกมัดตัวเองก็ได้ครับ คิดเผื่อความเปลี่ยนแปลงในวันข้างหน้าไว้บ้างก็ดีครับ
คนสมัยก่อนยังเคยเชื่อว่าโลกแบนเลยครับ แล้วคนที่เห็นต่างเป็นยังไงบ้างคงรู้นะครับ..
ผมไม่คิดว่ามันเป็นการผูกมัดตัวเองนะครับ ผมคิดว่ามันเป็นการแสดงความแน่วแน่ในคำพูดและการตัดสินใจ
หากพูดแบบครึ่งๆกลางๆ กล้าๆกลัวที่จะผิด ก็อย่าพูดอะไรออกไปเลยดีกว่า
มาม่า ... อร่อย ;P
ผมว่า comment ที่ตั้งใจเขียนตั้งใจวิจารณ์ชี้แจงเสนอแนะข้อบกพร่องต่าง ๆ นั้นก็มีคุณค่าเหมือนกันนะครับ คุณค่าของงานไม่ได้อยู่ที่ประเภทของงานว่าจะเป็นข่าวหรือ comment ผมว่ามันอยู่ที่ความตั้งใจและประโยชน์ที่ได้จากงานนั้น ๆ มากกว่า ข่าวที่ไม่มีเนื้อหา (ผมไม่ได้หมายถึงข่าวนี้นะครับ สำหรับข่าวนี้ผมไม่มี comment) บางครั้งก็มีคุณค่าน้อยกว่า comment ที่ชี้แจงอภิปรายด้วยเหตุผล และในทางกลับกันข่าวที่มีเนื้อหาน่าสนใจย่อมดีกว่าอย่างเปรียบเทียบมิได้กับ comment ไร้สาระไปวัน ๆ เช่น มา comment ว่าเป็นที่ 1 เป็นต้น
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละบุคคลแล้วว่าอันไหนอย่างไรจัดเป็นมีสาระมีเหตุผลหรือไม่มีคุณค่าอะไรเลย ซึ่งแต่ละคนก็แตกต่างกันไปอีก สำหรับผมผมเห็นด้วยกับคุณ Tinuviel แต่ละคนต่างก็มีบทบาทหน้าที่ต่างกันไป จะให้นักวิจารณ์หนังไปเป็นผู้กำกับหรือผู้อำนวยการสร้างหนังก็คงจะไม่ไหว หนังที่สร้างมารายได้อาจจะไม่มี ขาดทุน เจ๊ง ขายไม่ออกได้แต่เอาไว้ดูเองคนเดียวที่บ้านก็เป็นได้
ผมว่าหลายคนที่เข้ามาที่นี่มาเพื่ออ่านข่าวนะครับ ไม่ได้มาเพื่อเขียนข่าว ถ้าต้องใช้ Resource ของตัวเองในการเขียนข่าวให้ได้อย่างที่ตัวเองต้องการเพื่อที่ตัวเองจะได้อ่านข่าวนั้นอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ ผมว่าคน ๆ นั้นควรเอา Resource ไปหาข่าวเดียวกันนี้อ่านที่อื่นหรือไปอ่านข่าวอื่นไปเลยน่าจะคุ้มค่ากว่า
That is the way things are.
ผมว่าวิธีคิดคุณแปลกๆ ไม่เข้ากับที่นี่นะครับ อ่านมาหลายคอมเมนต์แล้ว น่าจะใช้ Resource ไปหาข่าวเดียวกันนี้อ่านที่อื่นหรือไปอ่านข่าวอื่นไปเลยน่าจะคุ้มค่ากว่า
+1 ความเห็นหรือฟีดแบค user เป็นสิ่งที่พึงฟัง
บางทีความเงียบหรือหยุดตอบโต้ไม่ได้หมายความว่าแพ้
เมื่อมันกลายเป็นการต่อล้อต่อเถียง ต่างฝ่ายต่างจะหาเหตุผลหรือคำพูดนานามาสนับสนุนความเห็นตนเอง..
เห็นคำว่า "เปิดใจ" เพราะอ่านเพียงผ่านๆ อยากรู้ว่าต่าง "เปิดใจ" กันจริงๆหรือเปล่า "เปิดใจ" คือการลองคิดทบทวนในมุมที่ฝ่ายตรงข้ามให้เหตุผลหรือกล่าวมาโดยปราศจากอคติหรือทิฐิกำแพงที่สร้างขึ้นมา
มาดูว่าเราได้อะไรจากการถกเกี่ยวกับการวิพากษ์ข่าวนี้กันคับ
ปล.ถึงอย่างไรท้ายที่สุด admin ก็เป็นผู้มีสิทธิอำนาจเด็ดขาดในการจะชี้เห็นถูกผิดบนเวบนั้นๆอยู่ดี แม้ใครจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม
มองในแง่ดี ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าสังคมในนี้เริ่มจะค่อยๆ พัฒนาขึ้นนะ มีประเด็นใหม่ๆ หลายประเด็นในนี้
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
การเป็นฟอรั่มสาธารณะที่โด่งดังย่อมเลี่ยงไม่ได้กับการถูกคาดหวังเป็นธรรมดา
ประเด็นของผมคือ
1)บางคนคิดว่า Stick เรื่องนี้ เพราะ RIM จ่ายตังค์ ???
คุณ lew กับ คุณ mk ก็ได้ปฎิเสธไปแล้ว ถือว่าจบ
2) บทบาทของคนวิจารณ์
- ไม่เคยเขียนข่าววิจารณ์ได้มั้ย ??? คุณค่าต่ำกว่านักเขียน ???
- วิจารณ์อย่างเดียวไม่ได้ ??? จำเป็นต้องเสนอแนะด้วย ??? อยากได้ยังไงก็ทำเอง ???
ผมคิดว่า
"คนวิจารณ์มีสิทธิ์บอกในสิ่งที่คิด คนที่ถูกวิจารณ์จะเห็นด้วยหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์"
"ผมเห็นชอบในแนวทางการปะทะกันด้วยความคิด แต่ปฏิเสธแนวทางโจมตีบุคคลเจ้าของความคิด"
อันนี้เป็นเรื่องที่จะต้องเจอโจมตีอยู่แล้วเป็นปกติ ตามมารยาทแล้ว ข่าวไหนที่เป็น advertorial เราจะระบุไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ
วิจารณ์ได้, ใช่ครับ ต่ำกว่านักเขียน
ถ้าไม่อยากให้คำวิจารณ์เป็นแค่เศษคอมเมนต์ในจักรวาลอินเทอร์เน็ต ก็ต้องโชว์ให้เห็นล่ะครับว่าไอ้ที่ว่าเขาแย่น่ะ ที่ดีกว่าเป็นยังไง
ผมคิดว่าที่การที่คนวิจารณ์ในส่วนที่ตัวเองคิดว่า "ไม่ดี"
ไม่จำเป็นต้องบอกว่าสิ่งที่ "ดี" ต้องเป็นอย่างไร
เช่น ผมวิจารณ์ว่า SSGS ไม่ควรทำธีม ทำรูปทรง ทำปุ่มเลียนแบบ iphone เลย มันไม่สร้างสรร มันดูเป็นของก็อปปี้
แต่ผมก็ไม่จำเป็นต้องไปคิดให้ samsung ว่าควรออกแบบอย่างไร
ผมมองว่ามันเป็นคนละเรื่องกันนะครับ Product(SSGS) ต้องการขายแก่ลูกค้า ลูกค้าหรือว่าที่ลูกค้าก็ควรมีสิทธิ์วิจารณ์ได้ถูกต้องอยู่แล้ว แต่กรณี Blognone ต่างออกไป ผมเองก็ไม่อยากให้ Blognone เป็นเหมือนเว็บข่าวไอทีทั่วๆไป อยากให้เป็นเว็บทางเลือกมากกว่าครับ Blognone เน้นการมีส่วนร่วมหากข่าวมีความผิดพลาด"ทุกคน"สามารถทักท้วงได้ แต่การทักท้วงนั้นควรอยู่บนมารยาทครับ เพื่อไม่ให้ผู้เขียนข่าวรู้สึกเสียกำลังใจ ผมอ่านๆ ดูจุดเปลี่ยนบรรยากาศในข่าวนี้อยู่ตรง reply #234153 ซึ่งผมเองก็มองว่าคุณ intendr ตั้งแง่แรงไปหน่อยนะ
เรื่อง Sticky ผมไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วมีเกณฑ์ยังไงนะ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยเกี่ยวกับความสำคัญหรือความน่าสนใจของข่าว เท่าที่ผมเห็นข่าวที่เป็น Review หรือพาดูบรรยากาศงาน Event จะได้ Sticky เป็นปกติอยู่แล้ว มีข่าวประชาสัมพันธ์บ้างเป็นครั้งคราว
ต่างกันยังไงครับ ทั้งๆที่ใน Blognone ก็เสนอข่าว SSGS มากมาย ดู Link
และในข่าวนั้นๆก็มีคนวิจารณ์แบบที่ผมยกมาอ้างอยู่เนืองๆ
การอ้างแบบนี้ผมถือว่าเป็นเหตุผลวิบัติ คือการสร้างความชอบธรรมแบบ Double standard – สองมาตรฐาน ครับ
และผมคิดว่าในสังคมที่ให้ความสำคัญกับความรู้ ความคิด หรือ ทฤษฎีที่เปลี่ยนแปลงโลกนั้น ต้องผ่านการตั้งคำถาม ถูกทดสอบ ถูกเคี่ยวกรำ ถูกการดูหมิ่นดูแคลน ก่อนได้รับการยอมรับมาทั้งนั้นครับ
ผมเข้าใจว่าคุณเปรียบเทียบ Blognone กับ SSGS อันนี้ผมเข้าใจผิดรึครับ (ไม่ได้ชวนทะเลาะนะ ผมไม่แน่ใจจริงๆ)
ถ้าผมเข้าใจถูกแล้ว Blognone กับ SSGS ถ้ามองเป็น Product มันก็เป็น Product คนละประเภทกัน มีโมเดลด้านการตลาดต่างกัน Blognone ขายความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเว็บ และไม่ได้รับเงินจากผู้อ่านโดยตรง ซึ่งตรงนี้ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ง้อผู้อ่านก็ได้ แต่หมายถึงเขาต้องการคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของตัวเอง ส่วน SSGS ขายของโดยตรง มันไม่แปลกที่เขาจำเป็นต้องเอาใจลูกค้าเป็นหลัก และควรฟังเสียงวิจารณ์ ซึ่ง Samsung คงไม่สามารถพูดว่าให้ลูกค้าไปผลิตเองได้(ลูกค้าคงหายหมด) มันไม่เหมือนกันตรงนี้
ถ้า Blognone ไม่มีคนอ่านก็แย่ แต่ถ้าไม่มีคนเขียนข่าวยิ่งแย่กว่า ดังนั้นมันเปรียบเทียบกันโดยตรงกับ SSGS ไม่ได้อยู่แล้วครับ ยิ่งคุณพูดถึงเรื่อง Blognone เสนอข่าว SSGS มากมาย มันก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเปรียบเทียบกันโดยตรงได้ทุกอย่าง ตรงนี้ถ้าจะให้พูดจริงๆ ก็เหตุผลวิบัติเหมือนกันนะ
เจตนาของผมคือ คนเขียนข่าวน่ะวิจารณ์ได้ครับ แต่ควรนึกถึงใจเขาใจเราบ้าง บางอย่างแรงไปก็เบาๆ ลงหน่อย
ผมยกตัวอย่างเพื่ออธิบายเหตุผลที่ว่า
การวิจารณ์สิ่งที่คิดว่า "ไม่ดี"
คนวิจารณ์ไม่จำเป็นต้องเสนอหรือทำ สิ่งที่คิดว่า "ดี" เสมอไป
ผมมิได้เปรียบเทียบ"อัตลักษณ์" แต่ผมยกตัวอย่าง "แนวคิด"
มาอ่านอีกที รู้สึกว่าผมอาจจะหลงประเด็นไปจริงๆแฮะ ขออภัยด้วยครับ แต่ในคำตอบด้านบนน่าจะมีสิ่งที่ยังอยู่ในประเด็นอยู่นะครับ อย่างเรื่องที่ว่าผู้อ่านสำคัญ แต่ผู้เขียนก็สำคัญเหมือนกันและเขายังเป็นผู้อ่านในเวลาเดียวกันอีกด้วย อัตราส่วนผู้เขียนข่าวก็น้อยกว่าผู้อ่านมาก ผมมองว่าไม่ผิดนักที่จะออกมาปกป้องผู้เขียนบ้าง เพราะถ้าขาดผู้เขียนเว็บก็คงลำบากอยู่เหมือนกัน
ส่วนเรื่องที่ว่าไม่จำเป็นต้องบอกว่าสิ่งที่ถูกคืออะไรเนี้ย ถึงผมจะยังเขียนข่าวไม่เยอะ แต่การเขียนแล้วเจอคนมาติโดยไม่บอกว่าที่ถูกมันควรเป็นยังไงเนี้ย มันทำให้รู้สึกหลงทางแบบสุดๆ ครับ ต้องเขียนยังไงถึงจะถูกใจเหรอ แล้วถ้าผมแก้ใหม่ผมจะโดนอีกมั้ย หรือผมจะแก้ให้ถูกใจคุณ แล้วผมโดนคนอื่นติแทน แก้ไปแก้มาไม่มีวันจบ แต่ถ้าผู้ติเสนอแนวทางว่า "แบบนี้ดีกว่ามั้ย" เนี้ยมันจบง่ายมากเลยครับ เราสามารถคุยกันด้วยเหตุผลได้ว่าจริงๆแล้วมันดีกว่ามั้ย หรือแบบเดิมดีกว่า หรือไม่ดีทั้ง 2 แบบ
ปล. ผมเชื่อว่าถ้าไม่เหน็บกันเนี้ย เรื่องมันจบตั้งแต่ช่วงกลางๆแล้วครับ
เขาเรียกว่าน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า แต่ blognone ไม่ใช้ทั้งน้ำและก็ป่า เจ้าของ blognone ไม่ใช่ทั้งคนเขียนและคนอ่าน ไม่ใช้เว็บสาธารณะ แต่เป็นของคุณ lew และคุณ mk สิทธิขาดอยู่ที่คุณสองคนนี้ คนอื่นอาจจะเข้าใจผิดว่าที่นี่ผู้อ่านคือพระเจ้าแต่ไม่ใช่ครับ คนอ่านและคนเขียนคือผู้อาศัย คืออาศัยอ่านและอาศัยเขียนเขียนดีเจ้าบ้านก็ยินดี อ่านไม่ดีแล้ววิจารณ์ไม่เข้าตาเดี๋ยวเค้าก็จะไม่ให้ไล่ให้ไปอ่านที่อื่นหรือเขียนที่อื่น แต่ใช่ว่าผู้เขียนและผู้อ่านจะไม่สำคัญนะครับ เห็นด้วยที่คุณ mk บอกว่าผู้เขียนสำคัญกว่าผู้อ่านเพราะถ้าไม่มีผู้เขียนเว็บนี้ก็จะว่าเปล่า แต่ถ้ามีผู้เขียนถึงไม่มีคนเข้าเว็บแต่เว็บก็ยังมีบทความ ใช่หรือเปล่าครับคุณ mk :) ส่วนผมเข้ามาอ่านและวิจารณ์คนวิจารณ์อีกที :)
เป็นวิธีคิดที่ถูกต้องครับ วิจารณ์ได้เสมอ แต่คุณก็อาจจะไม่ได้เห็นมือถือของซัมซุง ในแบบที่คุณอยากให้เห็น (แถมที่แย่กว่าคือ ซัมซุงอาจไม่เคยอ่านคำวิจารณ์ของคุณเลยด้วยซ้ำ)
ในทางกลับกัน ถ้าคุณวิจารณ์ แล้วแสดงให้เห็นว่ามือถือที่ดีควรเป็นอย่างไร ออกมาเป็นชิ้นงานที่จับต้องได้ ก็มีโอกาสมากขึ้นที่จะเห็นมือถือของซัมซุงไปในทิศทางที่เราต้องการ
เอาล่ะครับ... ในเมื่อพ่อมาร์ค อยากจะดั้นเมฆ ยืนยันความคิดที่ว่า post นี้มันเป็น post ที่มี "คุณภาพ" จริงๆ
และ comment ผมมันไร้ค่า ผมขอจบแต่เพียงเท่านี้
อ่อ.. ลดการใช้มุกที่ให้คนอื่นไปดูตัวเองได้แล้วนะครับ เห็นเอะอะอะไรก็ใช้
อ่อ.. ในระดับนโยบาย("อาจจะ"ไม่เกี่ยวกับงานนนี้) รอดูสิ่งที่ RIM จะทำนะครับ ผมรับประกันว่าเข็นไม่ขึ้น และจะกระทบคนที่ร่วมด้วย
ทีเรื่องอย่างนี้ user ปากดีที่ๆเจอบ่อยๆหายไปหมดเลยนะครับ เหลือคุยกันอยู่ไม่กี่หน่อ พร้อมสาวกผู้พิทักษ์
พวกคุณเข้ามาอ่าน ก็จำ post นี้ไว้นิดละกันครับ(ถ้าไม่คิดว่ามันรกสมอง) ผมว่ามันจะเป็นจุดเล็กๆที่น่าจะสำคัญในระดับหนึ่ง
สวัสดี
ผมอ่าน "ทุกคอมเมนต์" ใน Blognone นะครับ
แต่อันไหนที่มันดูไร้สาระผมก็ปล่อยๆ ไปบ้าง
ขี้เกียจเถียงแทนคู่กรณี
May the Force Close be with you. || @nuttyi
อยากจะบอกว่า ผมเห็นด้วยกับคุณนะครับ และเชื่อว่ามีอีกหลายคนที่คิดเหมือนกัน
"ในความคิดของผม" เว็บนี้ก็มีทั้งศาสดาและแฟนบอย ไม่ต่างจากแอปเปิ้ล
ผมแนะนำให้ไปทำเว็บใหม่ อันนี้ไม่ได้ไล่นะครับ แต่จะบอกว่า Blognone เกิดขึ้นจากที่ผมไม่พอใจเว็บอื่น หาที่ถูกใจไม่ได้ เลยสร้างมันขึ้นมาเอง จึงเป็นที่มาของแนวคิดว่า "อยากได้ต้องทำเอง" และ "ลงมือทำให้เห็น ไม่ใช่เอาแต่วิจารณ์"
ถ้าเว็บที่คุณสร้างขึ้นมาดีกว่า และแนวทางของ Blognone ผิดพลาด คนก็ไม่เข้า Blognone เองครับ ซึ่งอันนี้ผมจะยินดีมากเลยนะ
ผมเพียงอยากแสดงความเห็นเท่านั้นครับ แค่คิดต่างบ้างนี่จะให้ไปเปิดเว็บใหม่เลยเหรอครับ
ไม่เอาหรอกผมชอบเว็บนี้จะตาย แล้วก็เขียนข่าวเองไม่เป็นด้วยครับ (เขียนไม่เป็นแต่ขอเสนอหน้าแสดงความคิดเห็นนิดนึงนะ แหะๆ)
คือไม่ได้จะให้ไปเปิดเว็บน่ะครับ แค่จะบอกว่าสุดท้ายแล้ว ถ้าอยากได้ทุกอย่างที่ต้องการ ไม่มีทางอื่นนอกจากทำเองทั้งหมดครับ
ปัญหาของเราคือ มีคนอยากให้เว็บนี้มีทิศทางไปอย่างที่ตัวเองต้องการ แต่ก็ไม่ลงมือทำอะไร วิจารณ์อย่างเดียว พอไม่ได้อย่างใจแล้วจะโวยวายครับ ซึ่งในอดีตก็มีมาให้เห็นเรื่อยๆ ประมาณครึ่งปีครั้ง
ฟังแล้วคุ้นๆเหมือนดาราช่องเจ็ดสีทีวีเพื่อคุณคนหนึ่งพูดเลยอ่ะครับ ไม่ไล่ก็เหมือนไล่ถ้าคนคิดเล็กคิดน้อยนี่เค้าจะคิดว่าคุณไล่เค้านะครับ
อ้าว ก่อนจะวิพากษ์คนอื่น ตัวเองไม่ทำเป็นเยี่ยงอย่าง มันจะมีค่าอะไรครับ?
อันนั้นเป็นปัญหาของ RIM ครับ ไม่ใช่เรื่องของ Blognone
ผมก็ยังเห็นว่าคุณติดนิสัยเรียกร้องคนอื่น ทั้งที่ไม่มีใครมีหน้าที่ต้องมาตอบคุณนะครับ วิธีคิดออกจะแปลกๆ ไม่เหมาะกับเว็บนี้เท่าไร
ในอดีต Blognone มีการถกเถียงมากมายที่แรงกว่านี้มาก โพสต์นี้เป็นเรื่องเล็กๆ ครับ
+1
........... ได้แต่อ่าน ก็ไม่รู้จะว่าไงดี
ของคุณ intendr ผมก็เห็นด้วยนะ
ของคุณ mk+lew+ คนอื่นพูดก็ถูก
สำหรับผมก็เรื่อยๆ อ่านไปเรื่อย
ผมมองว่ามันเป็นปัญหาน้ำผึ้งหยดเดียวนะครับ ถ้าทุกท่านหรี่ๆ ความแรงลงหน่อยมันน่าจะไม่มีอะไรเลย = ="
+100
ชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง มีสาระก็เก็บไป ไม่ก็อ้อไร้สาระนี่ กดปิดจบ
ถ้ามองจากมุมคนนอก
เว็บเค้า เรื่องของเค้า ถ้าเค้าทำตัวก่อดราม่า หาเรื่อง สุดท้ายไม่มีคนเข้า เว็บตาย ไร้ traffic ปราศจากคนจ่าย Ad ก็จบ
ไม่พอใจก็บอก เค้าไม่ทำก็เรื่องของเค้า บ้านเค้า ถ้าเค้าทำบ้านให้ไม่น่าอยู่ community ก็จะพังลงไปเอง ฟังดูโอเครึยังครับ?
ใช่ครับ อันนี้คือประเด็นหนึ่งที่ผมจะสื่อนะ ตลาดควรจะมีตัวเลือกเยอะๆ จะได้รู้ว่าแนวทางไหนเหมาะกับตลาดมากที่สุด เผอิญว่าไอเดียมีเยอะแต่คนทำมีน้อย
กระทู้แพตตี้ไม่ยักกะมีคนบ่น ฮ่าๆ
ทำลิงก์ให้ที่นี่ (สงสัยเพราะภาพชัด?)
lewcpe.com, @wasonliw
งั้นผม เล็งประเด็นใหม่ ว่า
ถ้าข่าวนี้ เพิ่มรูปสาวๆ ในงาน หน้างาน เจอกันในห้องน้ำคนหละงานจับถ่ายมาเอาเฉยๆ
ไปสักชุดจะไม่มีปัญหา อะไรยาวๆ แบบนี้เลย
:P
Ton-Or
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ผมจะด่าด้วยตัวเองเลยครับ
ผมไม่เคยมีปัญหาเวลาผู้ชายในเว็บนี้เฮฮากับภาพสาวๆ ที่เอามาแชร์กันนะ ด้วย contribution ระดับเดียวกันถ้ามีผู้หญิงสนใจเรื่องอื่นๆ ที่อยู่ในโดเมนเดียวกัน (ภาพงานเปิดตัว, ภาพ meeting แบรนด์ไอที ฯลฯ) ก็ควรจะได้ลงเหมือนกัน
แต่พอลงแล้วไม่ถูกใจผู้ชายในเว็บนี้ไปต่อว่าบทความว่าไม่มีเนื้อหา (ทั้งที่บทความอื่นเนื้อหาน้อยพอกัน แค่ถูกจริตตัวเอง) อันนี้น่ารังเกียจแล้วครับ
lewcpe.com, @wasonliw
ผมไม่ได้ซีเรียสท่าน แซวเอาขำๆ น่า
แต่เปรียบเทียบกับข่าว ก่อนหน้านี้ ที่รีวิวประมาณนี้ผมไม่เห็นมีเรื่อง อะไรเลยน่ะสิ
จะว่าไปมันก็มีเค้าโครงความจริง อยู่บ้างนะ
หึหึ
ส่วนตัวผมไม่ได้ติดใจอะไร นอกจากที่ทักไว้ข้างบนนั่นหล่ะ แต่เห็นอธิบาย แล้วว่าใช้กันแพร่หลายก็ ok น่ะครับ มร. น่ะ
Ton-Or
แบบนี้เราต้องกล่าวหาว่าคนบ่น "2 มาตรฐาน" ด้วยหรือเปล่า
มีสิทธิ์กล่าวหาครับ
+1 คุณ lew (สงสัยเพราะภาพชัด?)
ถ้าแบบนั้นก็ต้องด่าคนวิจารณ์แล้วล่ะครับ ว่าวิจารณ์ไม่ตรงจุดเอง สื่อสารกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง
ก็มีสิทธิฺที่จะไปวิจารณ์คนที่มาวิจารณ์นะครับ แต่ก็เป็นสิทธิ์ของคนที่มาวิจารณ์เช่นกันว่าจะยอมรับคำวิจารณ์หรือไม่
เขาว่ามาแบบนี้อะครับ
ควรทำยังไงดีครับ?
แล้วแต่พิจารณาครับ
เจอแล้ว !! คุณภาพที่ผู้อ่านหวังมันอยู่ที่แพตตี้นี่เอง !!
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
+555
กลายเป็นว่าช่วงหลังๆที่เข้า blognone
ผมชอบนั่งอ่านคอมเม้นท์แฮะ
เป็นอะไรที่...มีสีสันเอามากๆ
เอ้า เข้าข่าวหน่อยนึง
โดยส่วนตัวครับ ผมในฐานะคนที่ใช้BBอยู่ อ่านแล้วค้นพบว่า RIM อาจจะต้องทำการตลาดมากกว่านี้สักหน่อย ถ้าจะทำให้กลุ่มเป้าหมายหันมาสนใจแล้วรู้สึกว่ามันมีอะไรใหม่เพียงพอที่จะทำให้อยากเป็นเจ้าของ ผมรู้สึกว่าไม่ต่างจากเดิมเท่าไรนัก
+100
ดริฟ ดริฟ ดริฟ
เจี๊ยก.. ตกใจทำไมเรื่องยาวอย่างนี้
ถ้าเราพูดอะไรผิดพลาดให้ใครขุ่นข้องหมองใจ ก็ขอโทษไว้ตรงนี้แล้วกันนะคะ
ปล. กระทู้แพตตี้ ภาพสวย หัวข้อชัดเจน เป็นกระทู้เปรียบเทียบที่ดีค่ะ
ลงดราม่าละเฟ้ย
เหอะๆ ตามมาจากดราม่า เพิ่งรู้ว่าคนดูแลเป็นคนยังไง นอกจากไม่รับฟังคนอื่น ยังเกรียนกลับไปอีก เป็นผู้ใหญ่ หัวใจเกรียนสินะ ดังสมใจแน่ นิสัยผู้ดูแลออกซะขนาดนี้ ...
555+
คุณรู้จักที่นี่ รู้จักคุณ mk และรู้จักกฎเกณฑ์ของที่นี่แค่ไหนครับ ?
twitter.com/exfictz
ถ้าอยากเสพดราม่ามาก ที่นี่มีเยอะครับ ค้นๆ ดู
ไม่ต้องรอจ่ามาเขียน แล้วค่อยตามน้ำกันมาก็ได้
เรื่องของเรื่องคือ ไม่ได้ดั่่งใจ หรือ ไม่ได้อย่างที่ตั้งใจใว้ว่า เว็บนี้ควรจะเป็นอย่างนี้ เว็บนั้นควรจะเป็นอย่างนี้ ก็เลยวิจารณ์กลับมา(จะเรียกว่าแรงหรือเปล่า สำหรับผม* ว่าไม่นะ)
เรื่องนี้คล้ายๆกับ เพื่อนอยากให้เพื่อนทำตัวดีๆ ก็เลยวิจารณ์หรือแนะนำหรือ... แต่หากฝ่ายเพื่อนหวังดีไม่ยอมหยุดจนกว่าเพื่อนที่ทำตัวไม่ดี**จะปรับปรุงตัวมันก็จะเกิดเรื่องแบบนี้ ก็ขึ้นกับว่าทั้งเพื่อนทั้ง2คนจะหยุดที่จุดใหน พูด-ถกกับบ้างก็ปกติ จะเอาอะไรจากเพื่อนนักหนา ลูกเราได้อย่างใจหรือเปล่า สั่งตัวเราเองได้หรือเปล่า
ส่วนตัวนะครับ เห็นว่าหากเว็บใหนเนื้อหา-เนื้อข่าว "ไม่น่าสนใจสำหรับผม" เยอะหรือทุกเนื้อหา ต่อให้ขนเอาศาสดามาปักหมุด ก็ไม่สนครับ เราก็ไปอ่านเว็บอื่น ถ้าเห็นว่าเป็นเพื่อนก็วิจารณ์-บอกบ้าง ก็เท่านั้น
เนื้อความเป็นยังงัยไม่ขอวิจารณ์ เพราะค่อนข้างเฉยๆ ที่เมนต์เพราะประเด็นวิวาทะมากกว่า
*คนอื่นก็มีสิทธิ์คิดว่าแรง
**เปรียบเท่านั้น
อ่านๆดูแล้ว คุณ mk นี่สุดๆเลยนะครับ ผมทนไม่ไหว ถึงกับต้องสมัครมาโพสเลยนะครับเนี่ย
ถามหน่อยครับว่า ถ้าไม่รับฟังคอมเมนต์แบบนี้แล้ว จะเปิดให้คนคอมเมนต์ทำ...อะไรครับ -.-?
บางคอมเมนต์เขาก็พูดดีๆ พูดแบบใจเย็นแล้วนะครับ แต่คุณก็ไปเหวี่ยงใส่ซะจนเจ้าตัวรู้สึกงงๆว่าตูทำไรผิด(ถึงกับต้องไปเปิดเว็บใหม่เลยหรอครับ = =?)
อ่ะ เอาเป็นว่าผมจะขอเสนอแนะซักนิดหนึ่งละกันนะครับ
ลดความเป็นใหญ่ของตนเองบ้างก็ดีนะครับ แค่มีอำนาจในสถานะประมาณ WM ก็ใหญ่เกินพอแล้วครับ เหลือแค่ปรับความคิด ทัศนคติ ลดตนเองให้ต่ำลงมานิดนึง มองเห็นทุกคอมเมนต์นั้นมีคุณค่าเท่ากัน จะก่นด่า จะสาปแช่ง จะอวย จะชม หรืออะไรก็แล้วแต่ก็เถอะ
ถ้าคุณยอมก้มหน้าก้มตารับฟัง หรือกระทั่งพูด ตกลงครับ จะปรับปรุงให้( แต่ตูไม่ทำ เอ็งจะทำไม = =?) มันก็ยังดีกว่าไปโชว์เกรียนของตัวเองแบบนี้ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชนเป็นไหนๆ
ถ้าข้อแรกทำไม่ได้ ข้อ 2 ก็ยังมีครับ
ปิดระบบคอมเม้นไปเลยครับ [เพราะตัวคุณก็บอกเองว่าคนเขียนมีคุณค่ามากกว่าคนคอมเมนต์] รับรองว่าจะไม่มีคอมเม้นห่วยแตกไร้สาระ ไม่ต้องมารับรู้ว่าเขียนข่าวห่วยมั้ย ไม่ถูกใจรึปล่าว นั่นก็ทำให้คุณไม่ต้องมาพิมต่อล้อต่อเถียงให้เมี่อยมือยังไงล่ะครับ -
ป.ล. ผมว่า ไอประโยค "ไม่ชอบ ไม่ถูกใจ ก็ทำเองซะ" มันดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นะครับ อย่างที่หลายๆคอมเมนต์บอกไป
มันก็เหมือนกับผู้ชมหลายๆคนที่วิจารณ์หนังว่าห่วย แล้วคนทำหนังก็เดินมาตบเกรียนแล้วบอกว่า "มาสร้างหนังเองบ้างมั้ย? ไม่ถูกใจก็ไปสร้างเอง กำกับเอง จะได้รู้ว่ามันยากลำบากขนาดไหน?"
มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องไปกำกับหนังเองเพื่อให้ถูกใจตัวเราเองใช่มั้ยล่ะ แล้วใครที่ได้ยินได้ฟังแบบนี้ ก็ต้องโกรธขึ้นมาเป็นธรรมดาล่ะ
ป.ล.2 ไอที่คุณบอกว่าคุณมาจากเว็บอื่นแล้วมาเปิดเวปเอง ผมว่าโดนเฉดหัวมามากกว่ามั้งครับ
ก็ด้วยนิสัยที่ไม่ฟังใคร ตัวเองเป็นใหญ่ที่สุดในสามโลกแบบนี้ นั่นแลฯ...
lewcpe.com, @wasonliw
ผมว่าน่าจะเป็น "ไม่ชอบ ไม่ถูกใจ ถ้าอยากให้ชอบ ให้ถูกใจ ก็ทำเองซะ" มากกว่านะครับ อย่างเช่น OS ที่ดัดแปลงมาจาก Linux ไม่ได้มีส่วนที่เราชอบไปทุกอย่างหรอก ถ้าอยากให้ได้ตามต้องการ ต้องทำเองครับ ซึ่งเราสามารถกำหนดทิศทางของตัวเองได้
ซึ่งผมคิดว่าที่เว็บ blognone เกิดขึ้นมาเพราะคุณ mk กับคุณ lew ไม่ชอบแนวทางเว็บไอทีในประเทศไทยนะครับ ซึ่ง blognone ก็มีกฏเกณฑ์เฉพาะในตัวเอง ถ้ายอมรับกฏไม่ได้ก็ลองไปอ่านเว็บอื่นครับ เว็บไอทีมีเยอะแยะ
เหมือนผมถูกเชิญออกอย่างสุภาพนะครับเนี่ย แค่เห็นต่างก็ถูกเชิญออกแล้ว
ถึงมันจะมีกฎ แต่ก็ต้องนึกถึงสภาพความเป็นจริงกันบ้างนะครับ
อย่างที่คุณ exboy ที่แสดงความคิดเห็นปุ๊ป ก็โดนคุณ mk ตอกกลับปั๊ป ถึงจะพิมพ์ว่าไม่ได้ไล่ แต่ใครๆืี่อ่านแล้วมันก็เหมือนการเชิญออกจากเว็บอย่างสุภาพนั่นเอง ซึ่งผมว่าคุณ mk ไม่สมควรที่จะพิมพ์ข้อความเช่นนั้นเลยนะครับ
ผมจะอิงจากชีวิตจริงของผมก็ได้ครับ
กำหนดให้คุณเป็นสามัญชนธรรมดา ไม่มีความรู้ หรือทักษะด้านศิลปะและวาดรูปแม้แต่นิดเดียว
ถ้าคุณไปงาน meeting เพื่อนเก่าที่ใดซักที่หนึ่ง พอไปถึง คนอื่นเขาก็คุยๆกันปกติ
-แต่จู่ๆ เมื่อคุณเจอเพื่อนวาดรูปการ์ตูนอยู่ซึ่งเป็นอะไรที่แตกต่างจากคนอื่น มีคนมุงดูเยอะพอสมควร : >>[เห็นหัวข้อข่าวที่น่าสนใจ]
-คุณสนใจและเดินเข้าไปดู ปรากฏว่าคุณรู้สึกว่าตัวละครมันเพี้ยนๆ : >>[อ่านข่าวแล้วรู้สึกทำไม เพราะอะไรดังคอมเมนต์ข้างต้น]
-คุณก็บอกเพื่อนคุณว่า "เฮ้ย คอเหมือนยีราฟไปป่าว? ตรงนี้ก็แปลกๆ เบี้ยวเยอะว่ะ": >>[เสนอแนะแรง แต่ไม่ได้ด่า]
-แต่เพื่อนคุณกลับตอบมาว่า "มุมมองตรงนี้เขาเรียกตีบ หน้าตัวละครจึงเป็นแบบนี้" >>[ชี้แจงแบบดุดันเล็กน้อย] (แต่เอาเข้าจริงๆ รูปมันก็เพี้ยนอยู่ดี)
-และเพื่อนก็พูดต่อว่า "อธิบายแล้วนะ มันไม่ได้เบี้ยวแบบที่นายบอก ในทางกลับกัน นายวาดรูปก็ไม่เป็น ตีบก็ไม่รู้จัก ยังจะมาวิจารณ์ ในเมื่อเห็นว่ามันเบี้ยวแบบนี้ แบบนั้น ทำไมไม่ไปวาดขึ้นมาซะเองล่ะ อ๊ะๆ ไม่ได้ไล่นะ แต่ถ้านายวาดได้ดีกว่า เจ๋งกว่า คนแห่ไปดูของนายหมด เราก็ยินดีกับนายด้วย" >>[ไล่แบบสุภาพ]
เพื่อนในที่นี้ ก็คือเพื่อนของผมเองล่ะครับ(แต่บทพูดผมจะอิงจากคอมเมนต์นะครับ ซึ่งมีความใกล้เคียงกัน) ซึ่งขนาดผมกับมันเป็นเพื่อนกัน ผมยังมองหน้ามันไม่ติดไปนานเลยครับ มันก็ยอมรับว่ามันรู้สึกผิดที่พูดแบบนั้นออกไปด้วย
แล้วถ้าจะให้ผมไปวาดการ์ตูนที่ผมพอใจเองก็คงเป็นไปไม่ได้ (ฝึกวาดการ์ตูนก็ฝึกเป็นปีๆนี่หว่า = =" เขียนข่าวก็เหมือนกัน การจับประเด็น จับใจความ ย่อความ บลาๆ ก็ต้องฝึกเหมือนกันนา)
ถึงมันจะเป็นกฎของเว็บก็เถอะ แต่ถามหน่อยครับว่าเจอคนพูดแบบนี้จะรู้สึกยังไงครับ?
การก้มหน้าก้มตารับฟังคอมเมนต์ แล้วกลับไปพิจารณา(และอาจจะปรับปรุง)ในสิ่งที่เขาคอมเมนต์มาก็ยังดีกว่าเถียงกลับให้ไปทำเอง หากไม่พอใจ เพราะนี่คือกฎของเว็บ รับไม่ได้ก็ไสหัวไปซะ เว็บอื่นมีตั้งเยอะ...นะครับ
-----------------------------------------------------------------------------
ป.ล. ผมขอลิ้งที่ประกาศกฎของเว็บนี้หน่อยได้มั้ยครับ ผมลองหาแล้วหาไม่เจอแหะ = = (ไม่ได้กวนนะครับ อยากรู้จริงๆ)
ป.ล.2 ดูไปๆมาๆ ผมก็คล้ายๆกับคุณ exboy เลยแหะ -.-
ผมเห็นด้วยในเรื่อง comment ครับ WM ดุดันไปหน่อย
บางอย่างเก็บเอาไว้จะดีกว่า
lewcpe.com, @wasonliw
ผมว่าในกรณีนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องของความเหมาะสมเท่าไรครับ เพราะเป็นแนวคิดหลักของที่นี่ครับ
พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เว็บมาสเตอร์เป็นคนกำหนด อยู่นอกเหนือการตีกรอบด้วยคำว่า 'เหมาะสม' หรือ 'ไม่เหมาะสม' ครับ
กฎเกณฑ์เหล่านั้น คุณฟังแล้วอาจจะรู้สึกว่ามันไม่เมคเซนส์ใด ๆ เลยก็ได้ แต่ถึงอย่างไรมันก็ยังคงเป็นกฎของสังคมนี้อยู่ดี และก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่เมคเซนส์ในสายตาคนอื่นด้วยครับ
อิสรภาพในการเสพสื่อเป็นของคนทุกคน หากยอมรับกับกฎเกณฑ์ที่เขายึดถือกันในสังคมใดสังคมหนึ่งไม่ได้
ก็แค่กดปิดครับ (:
twitter.com/exfictz
เอ่อ ลงดราม่าจนได้ ผมก็รับไม่่่ค่อยได้กับบาง comment ในที่นี้เหมือนกัน แต่อย่างว่ายังไงข่าวในที่นี่ ก็ยังดูมีคุณภาพ แค่ comment ไม่ดีบาง comment คงไล่ผมไปอ่านเว็บอื่นไม่ได้ ยกเว้นจะมีเว็บอื่นที่ดีกว่านี้ให้ผมอ่าน
แต่ผมขอละครับ(คงห้ามไม่ไ่ด้) ถ้าคุณไม่ได้เป็นทั้งผู้เขียนหรือผู้อ่านของเว็บนี้หรือตามมาจากเว็บดราม่า อย่าสมัครเข้ามาโพสต์ด่าเลยครับ มีอะไรก็ไปคุยกันในเว็บดราม่า แล้วปล่อยใหทางนี้เค้าจัดการกันเองดีกว่า
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
ผมโพสผิดที่ครับ ขออภัย ตั้งใจจะ reply ล่างสุด - -"
ลงดราม่าแล้วล่ะ
http://drama-addict.com/?p=22597
ถ้าผมจำไม่ผิดเว็บดราม่าเองก็ไม่แนะนำให้เข้าไปสร้างดราม่าซะเองนี่ครับ เป็นแค่ผู้สังเกตุการณ์ ถ้าอ่านจนเข้าใจสถานการณ์จริงๆ น่าจะรู้ครับว่าที่นี่เป็นยังไง ถ้ามีเว็บที่เปิดมาเพื่อล้ม Blognone ผมเองก็อยากเห็นครับ แต่เท่าที่เห็นผมเห็นแต่คนวิจารณ์ แต่ไม่ทำ จริงๆแล้ววิจารณ์ได้ครับ แต่เป็นสิทธิ์ของผู้ถูกวิจารณ์ว่าจะทำตามรึเปล่า ถ้าเขาไม่ทำตามแล้วคุณจะทำไงครับ ตามด่าตามแช่งงั้นหรือ? มันได้อะไรเหรอครับ ก็เปิดเว็บมาแข่งกันเลยดีกว่า ผู้บริโภคได้ประโยชน์เห็นๆ
เจ้าของเว็บดราม่าเก่งนะเราว่า แม้บางทีอาจจะเขียนไม่ค่อยเป็นกลาง แต่ก็สนุกดี
เราว่าก็ถูกต้องในความคิดของแอดมินดราม่านะที่ว่าจะอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างสงบสุขต้องรู็จักรับฟังความคิดเห็นคนอื่นบ้าง
ตามเข้ามาจากเว็บดราม่าครับ
(อ่านเว็บ blognone ประจำอยู่แล้วครับ เพียงแต่ข้ามข่าวนี้ไป เพราะเห็นหัวข้อธรรมดาๆ ไม่นึกว่าข้างในจะแซ่บขนาดนี้)
บอกก่อนว่า ที่จะเขียนนี้ มองด้วยสายตาเป็นกลางนะครับ ไม่ได้จะประชดประชันใครแต่อย่างใด
เรียน ท่านผู้อ่านที่พยายามจะงัดกับเว็บมาสเตอร์นะครับ
คุณไม่มีทางทำให้เขาคล้อยตามหรอก
เพราะ blognone อยู่ในฐานะที่ "ไม่ต้องง้อคนอ่านก็ได้" ในตอนนี้
(ขออนุญาตชี้ชัดครับ จะได้เข้าใจสถานการณ์กันมากขึ้น จะได้ไม่ต้องเหนื่อยกันทุกฝ่าย)
เพราะลองนับนิ้วดูครับ ว่ามีเว็บข่าว IT ของไทย ที่ข่าวเร็ว + หลากหลาย + มีสีสัน แบบเว็บนี้กี่เว็บ
แทบไม่มีเลยนะครับ
ดังนั้น เว็บมาสเตอร์ของที่นี่จึงสามารถ "ไม่เห็นหัว" คนอ่านได้ต่อไป ตราบใดที่ยังไม่มีคู่แข่ง
("ถ้ามรึงไม่อ่านเว็บกรู มรึงก็ไปทำเอง ถ้ามรึงทำเองไม่ได้ และถ้ามรึงอดใจไม่ไหว มรึงก็ต้องอ่านเว็บกรูอยู่ดี")
ดังนั้น สิ่งที่คุณผุ้อ่านจะทำได้คือ ภาวนาให้มีคู่แข่งของ blognone เกิดขึ้นเร็วๆ นะครับ
(ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่า ต่อให้มีคู่แข่งจริงๆ แล้วคนอ่านส่วนใหญ่ไหลไปที่คู่แข่ง
เว็บมาสเตอร์ของที่นี่จะแคร์พอที่จะรับฟังเสียงของผู้อ่านมากขึ้นหรือเปล่า ... ถ้าเขายังยึดอุดมการณ์ของเขาอยู่
แต่ถึงตอนนั้น คุณผู้อ่านที่ไม่พอใจ คงไม่สนแล้วหละ ก็คุณเปลี่ยนไปอ่านเว็บคู่แข่งแล้วไง
ถ้าอย่างนั้นน่ะ ก็ win win ทั้งคู่)
ดังนั้น
ฝากถึงผุ้อ่าน blognone ที่ไม่พอใจ -> ทำใจเถอะครับ หรือจะโวยวายเอามันก็ได้ แต่อย่าคาดหวัง
ฝากถึงเว็บมาสเตอร์ blognone -> ก็รักษาจุดยืนต่อไปเถอะครับ ถ้ามันเป็นตัวพวกคุณจริงๆ (ไม่ได้ประชดนะ) และกับการไม่แคร์คนอ่าน (ที่ไม่ได้เขียนข่าว) ผมก็ไม่ว่าอะไร เพราะเป็นข้อได้เปรียบของการเป็น monopoly อยู่แล้ว
แต่ให้ข้อคิดแค่ประเด็นเดียวคือ การไล่ให้คนไปทำเว็บเองนั้น ถ้ามันเป็นกุศโลบายให้เกิดเว็บข่าว IT มากขึ้น แข่งขันกัน วงการ IT ไทยเจริญๆ ฯลฯ ผมว่าไม่ work นะ เพราะผมพนันได้เลยว่า ชาตินี้ไม่มีใครไปทำเองหรอก (ถ้าคุณเอาตัวเองวัดว่า "ทำไมคนอื่นจะทำไม่ได้ คุณเองยังทำได้เลย" ผมว่าคุณกำลังเข้าใจผิด) / แต่ถ้าไม่ใช่กุศโลบาย แต่เป็นเหตุผลที่พูดปัดๆ ไปแค่นั้น (ออกแนวผู้กำกับหนังท้านักวิจารณ์มาทำหนัง เพราะรำคาญที่แมร่งวิจารณ์เหลือเกิน) มันก็ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ (รังแต่จะทำให้เกิดความไม่พอใจโดยไม่มีประโยชน์)
สรุปคือ มันไม่มีประโยชน์ทั้งขึ้นทั้งล่อง กับการไล่ให้คนไปทำเว็บเอง ... แต่ถ้าผมชี้ให้เห็นอย่างนี้แล้ว คุณยังคงอยากจะพูด ก็ไม่ว่ากันอยู่แล้วครับ (คีย์บอร์ดคุณ ไม่ใช่คีย์บอร์ดผม)
อันนี้สงสัยนิดนึงว่า blognone มีสภาพเป็น monopoly??? เพราะตอนที่เรายังใช้ทรูฮิตอยู่นี่ เราตามหลังเว็บจำนวนมาก เช่น Overclockzone, ARIP อยู่เยอะเลยครับ ก่อนผมเลิกใช้ทรูฮิตก็เพิ่งเห็น notebookspec "แซง" blognone ในแง่ของจำนวนคนอ่านไป
lewcpe.com, @wasonliw
คนที่มันเคือง ต่อให้ยกข้อเท็จจริงหรือเหตุผลร้อยแปดมาทุ่มใส่หัว เค้าก็ไม่สนใจหรอกครับ ก็เคืองไปอยู่นั่นแหละ อันนั้นชั่งเค้า แต่มีอาการพยายามใช้คำพูดเพื่อโน้มน้าวคนอื่นๆ ให้มาเข้าร่วมด้วยแฮะ
monopoly ไม่ได้หมายความว่า "ใหญ่ที่สุด" หรือแม้แต่ "ใหญ่มาก" นะครับ
ยกตัวอย่าง
blognone เปรียบเหมือนร้านขายน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ร้านเดียวในรัศมี 1 กิโลเมตรแถวบ้านผม (หรือบ้านใครๆ ก็ตาม)
ซึ่งบังเอิญทำอร่อยและรสชาติไม่เหมือนใคร นั่นแหละ
ร้านน้ำเต้าหู้เป็น monopoly เพราะทำอร่อย??? อันนี้ไม่เรียก monopoly ครับ อันนี้เรียกแข่งขันได้ดี
monopoly จะเกิดได้ต้องมีสภาพ "เหนือ" ตลาดครับ เช่นว่าถ้า blognone บล็อคคุณจากเว็บแล้วคุณจะไม่มีข่าวไอทีอ่านเลย อย่างนั้นก็เรียกเป็น monopoly
ในพื้นที่เดียวกัน (อินเทอร์เน็ต???) เรามีคนผลิตเนื้อหา ในหมวดหมู่เดียวกันมากมาย ระยะห่างไม่มีอะไรมากไปกว่าการเปลี่ยน URL ตอนพิมพ์ มัน monopoly ตรงไหนหรือครับ
lewcpe.com, @wasonliw
เอาเป็นว่า ผมใช้คำผิดไปละกัน
ความหมายของผมคือ "คนอ่านไม่มีตัวเลือก" ที่เป็นแบบ "blognone" ณ ตอนนี้นะครับ
(ผมนึกไม่ออกจริงๆ ว่า มีเว็บข่าวไอที ภาษาไทย ที่ลงข่าวเร็ว, มีคนเขียนข่าวหลากหลาย และหน้าตาเว็บดูดี แบบ blognone ที่ไหนอีก)
หรือคุณเว็บมาสเตอร์จะพอแนะนำได้มั้ย
ว่าถ้าคนอ่านที่ไม่พอใจ อยากจะเปลี่ยนไปอ่านเว็บที่ใกล้เคียง blognone
ควรจะเปลี่ยนไปอ่านเว็บไหน ? (นอกเหนือจากการ "ทำเว็บเอง")
http://www.geeknone.com/
อยากได้แบบ blognone ก็อ่าน blognone ก็ดีแล้วนี่ครับ แล้วปัญหาคืออะไร???
lewcpe.com, @wasonliw
ที่ว่า blognone "ไม่เห็นหัว" คนอ่านนี่ผมไม่คิดงั้นนะ ผมว่าเค้า "ไม่เห็นหัว" คนอ่านปัญญาอ่อนมากกว่า
เท่าที่มอง ปัญหาจะเกิดจากคอมเม้นแรก(ที่เกิดปัญหา) เสนอแนะบางอย่าง โดยมีภาพว่าตัวเองเป็นผู้บริโภค(ลูกค้านั่นเอง) ดังนั้น เว็บนี้ที่คนคอมเม้นคนนั้นมองว่าเป็นผู้ให้บริการต้องรับฟัง แต่เว็บมาสเตอร์ดันไม่เป็นไปตามความคิดของคนที่คอมเม้นนั้นๆ (และคนอื่น ๆ) ก็จะมองง่าย ๆ ว่า ร้านค้าต้องรับฟังลูกค้านั่นล่ะ (ตามแนวคิดลูกค้าคือพระเจ้า)
ที่นี้ก็ต้องมีการตอบโต้กันบางอย่างนั่นหละ ตามสไตล์(ของคนที่รู้สึกเสียหน้าหรือเปล่า อันนี้ไม่รู้)
ส่วนเว็บมาสเตอร์ก็ตอบโตกลับบ้าง
กอร์ปกับผู้ที่มาจากเว็บอื่นด้วย
วุ่นวายกันนักแล แต่ก็ดีครับ ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนกัน
อ่านข่าวนี้ตั้งแต่แรก ตอนยังไม่มีใครชงน้ำร้อน
กว่าจะรู้ว่ามีมาม่า ก็ตอนไปเห็นในบอร์ดจ่าฯ นั่นแหละ (พลาดมากกก)
-__-"
Happiness only real when shared.
บางคนยึดคตินี้ "คุณจบเราไม่จบ"
เหอๆ มีในหัวเยอะ แต่ไม่เขียนดีกว่า
RIM เจ๊งแล้วนะครับ