บางท่านอาจเคยได้ยินเรื่องแปลกๆ ของนักวิจัยที่พยายามให้แบคทีเรียเล่นเกม Sudoku หรือองค์การนาซ่าที่ค้นพบแบคทีเรียที่บริโภคสารหนูเป็นอาหารมาแล้ว แต่คราวนี้นักวิจัยของ University of Hongkong สามารถทดลองนำข้อมูล 90 GB ไปบรรจุอยู่ในดีเอ็นเอของแบคทีเรีย E.Coli จำนวน 18 ตัวเป็นผลสำเร็จ แถมยังเข้ารหัสลับข้อมูลในนั้นผ่านกระบวนการ genetic recombination ของแบคทีเรียที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอีกด้วย
ประมาณกันว่าแบคทีเรียมวล 1 กรัมจะมีเซลล์อยู่ประมาณ 10 ล้านเซลล์ แต่ละเซลล์สามารถเก็บข้อมูลได้ราวๆ 5 GB ลองคิดดูว่าแบคทีเรียทั้งฝูงจะเก็บข้อมูลได้มหาศาลขนาดไหน แถมเซลล์ของแบคทีเรียสายพันธุ์ต่างๆ ยังทนทานต่อการแผ่รังสี ซึ่งหมายความว่าเซลล์ของแบคทีเรีย (รวมถึงข้อมูลในนั้น) จะรอดพ้นจากระเบิดนิวเคลียร์ได้อีกต่างหาก
อย่างไรก็ตาม การทดลองนี้ยังต้องดำเนินต่อไปเพื่อให้กระบวนการเก็บข้อมูลทำได้ง่าย และเป็นไปได้ในเชิงพาณิชย์ และต้องตามแก้ปัญหาที่สำคัญประการหนึ่ง คือเซลล์ดีเอ็นเอมีสิทธิ์ที่จะผ่าเหล่าได้ อันจะทำให้ข้อมูลในนั้นสูญเสียไป ดังนั้น หากท่านอยากจะล้างพื้นฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่บ้าน ก็ทำไปเถิดครับยังไม่ต้องรู้สึกผิดอะไร :)
Comments
Bacteria Drive โดนความร้อนจากระเบิดนิวเคลียร์จะรอดเหรอครับ
เค้าอาจจะหมายถึงเฉพาะการทนต่อการแผ่รังสี (ไม่ใช่รังสีความร้อน)โดยไม่ได้รวมกับพลังงานความร้อนครับ
เก็บหนังชมพูไว้มาก มีแต่เด็ดๆ กลัวความร้อนจากระเบิดนิวเคลียร์เหมือนกันครับ ถ้าทำออกมาขาย ผมจะซื้อคนแรกเลย !
แบคทีเรีย ยิ่งผ่านไปหลาย Gen ตัว DNA ยิ่งผ่าเหล่าครับ
จาก 01010101 เปลงเป็น ATCG ได้ โอกาสที่จะเข้ารหัสก็มีสูง แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่าตรงส่วนนั้นไม่ใช้หรือไปซ้ำกับ expression ของยีนหรือ นอกจากนั้นเราอาจได้โปรตีนประหลาดออกมา
แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะถ้านี่คือก้าวแรก ปัญหาที่ต้องเยอะยังมีอีกเยอะ
เป็นการประยุกต์ที่น่าทึงดีครับ
ไม่แน่นะครับ พอเราเพิ่มข้อมูลเข้าไปใน DNA ของมันแล้ว
อาจจะได้แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคร้ายโผล่ออกมาก็ได้ ใครจะรู้
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ เพราะไม่รู้ว่าข้อมูลที่ใส่เข้าไปใน DNA จะทำให้แบคทีเรีย ทนทานต่อการดื้อยารึเปล่า
ไม่งั้นในอนาคต HDD อาจการเป็นวัตถุ Biohazard เป็นแน่แท้
นึกถึง SQL Injection
{$user} was not an Imposter
หนังสือหลายปีแล้ว ผมจำชื่อหนังสือไม่ได้
เค้าบอกประมาณว่า "แอปเปิ้ล กล้วย ซีดี คือ สิ่งเดียวกัน"
เพิ่มเติม: หนังสือ เมื่ออนาคตไล่ล่าคุณ(As The Future Catches You)
http://www.se-ed.com/eShop/Book/BookDetail.aspx?no=9789749589007&TypeMCode=BK
ขึ้นอยู่กับการเข้ารหัสครับ ผมไม่คิดว่าจะมีโอกาสสูงนะ นอกจากนั้นก็สามารถใช้การ checksum แก้ปัญหาได้
ข้อมูลราว 5GB ต่อเซลล์ นั่นหมายถึงข้อมูลที่มากกว่าก็ต้องแตกต่างกันไปในแต่ละเซลล์ นอกจากนั้นยังมีปัญหาเรื่องเครื่องอ่านและเขียนที่ต้องพัฒนาอีก
As the future catches you ^^
นี้เราเข้าสู่ยุคของ Bio-Technology + IT แล้วเหอรเนี่ย เร็วกว่าที่คิดไว้เยอะเลยนะ
Pawoot.com
ถ้าดูในงานวิจัยในมหาวิทยาลัยต่างประเทศ รวมถึงแล็ปของ Vendor ค่ายต่างๆ ก็จะเริ่มมีพวกนี้มากขึ้น เพราะเป็นวิธีที่ช่วยลดขนาด ลดต้นทุน ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล และเก็บข้อมูลมากขึ้นในอนาคตครับ
ต่อไปก็จะเป็นที่เราเห็นกันในเกม Parasite Eve
อ้าว แต่นั่นมัน Mitochondria นี่นา 555
เล่นยังไม่จบเลยครับ เกมส์ยาวมาก
ผมว่าใช้ mitochondria เก็บข้อมูลก็ดีเหมือนกันนะครับ เพราะ mitochondria เองก็มี DNA เป็นของตัวเองแถมไม่เกิดการผ่าเหล่าผ่ากออีกด้วย แต่ติดอยู่อย่างเดียวจะเปลี่ยนมันได้อย่างไร?
ขึ้นชื่อว่าเป็น DNA ก็ผ่าเหล่าได้ทั้งนั้นหละครับ
twitter.com/exfictz
ต่อไปก็จะมีไวรัสคอมพิวเตอร์ตัวเป็นๆแล้ว...
@zumokik
+1
เรียกแบคทีเรียคอมพิวเตอร์หรือเชื้อโรคคอมพิวเตอร์ดีกว่า เพราะแบคทีเรีย = สิ่งมีชีวิต ^^
ตัวเล็กไม่เท่าไหร่ กลัวจะตัวใหญ่ๆหนะสิครับ
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
HDD แบคทีเรีย กับ HDD หมอกอิเล็กตรอน (IBM)
อันไหนเราจะได้ใช้ก่อนกัน = ="
(ปล.ยังไม่มี SSD เป็นของตัวเองเลย..)
อ่านแล้วนึกภาพตาม
แบคทีเรีย ตัวละ 5 GB
สมมติให้แบคทีเรียแบ่งเซลล์ทุกๆ 1 ชั่วโมง
ซื้อแบคทีเรียมาเก็บไว้บ้าน 1 ตัว
ตื่นมาวันรุ่งขึ้น เราจะได้พื้นที่เก็บข้อมูลราวๆ 83 ล้าน 8 แสนกว่า GB
คิดเป็นประมาณ 84 เพทาไบต์
ยิ่งถ้าเก็บไว้เป็นเดือนๆ ไม่ต้องพูดกัน
ป.ล.ล้างข้อมูลได้ด้วยเดทตอล...
Dream high, work hard.
+84 เพตะ ให้กับ ป.ล.
+1 Dettol Total Shredder
อีกหน่อยก็มีวิธีการขนย้ายข้อมูลด้วยการฉีดเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย
นี่ดีว่าเป็นแบคทีเรีย ถ้าใช้เชื้อราได้ปิดคอมทิ้งไว้นาน ๆ มีหวังฮาร์ดดิสก์กลายเป็นเห็ดแหงม ๆ
เห็นแล้วสงสัยมนุษย์เรามีข้อมูลไหลผ่านสมองกี่ GB ต่อวันกันครับใครพอรู้บ้าง <ไม่เกี่ยวแต่สงสัย อิอิ>
อยากให้เก็บข้อมูลลงต้นไม้ จะได้ไม่ต้องมีปัญหาเรื่องความร้อน
อ่านแล้วขนลุก เราจะอ่านและเก็บหนังสือได้ด้วยการกินใกล้เข้ามาแล้ว
เกิดมาแล้ว อัดข้อมูล เข้าร่างกาย
ติด hard ware ให้ decode ได้
หรืออาจฝังเข้าร่างกาย อ่านผ่านม่านตา
มากกว่านั้นผ่านแกนสมอง....
ถ้าบอกว่าทำไม่ได้
ผมบ้า
ไอ่ข่าวด้านบนแม่งก็บ้า
ผมนึกถึงหนังเรื่อง The Matrix
โหลดนั่นดหลดนี่เข้าสมองเลย ไม่ต้องเรียนรู้
จริงๆเรานอนหลับอยู่ คุณไม่รู้หรอ? ฮ่าๆๆ
เออ ใช่ๆ เราต้องไปนอนให้รถไฟทับ แล้วเราจะได้ตื่นขึ้นในโลกแห่งความจริงกัน
ต้องรอ the one มาปลดปล่อยครับ แล้วอย่าลืมเลือกยาเม็ดสีแดงล่ะ
คนหนึ่งพูดเรื่อง Matrix คนหนึ่งพูดเรื่อง Inception
สรุปจะเอาหนังเรื่องไหนดีครับ?
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
DNA นี่ เป็นแค่ พิมพ์เขียว ไม่จัดเป็นสิ่งมีชีวิต ใช่ไหมครับ?
เข้าใจว่า DNA อย่างเดียวไม่น่าจะจัดเป็นสิ่งมีชีวืตนะครับ, ขนาด Virus ที่มี DNA/RNA และอื่นๆ อีกนิดหน่อย ยังเป็นที่โต้เถียงกันเลยว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตไหม
iPAtS
Tron มากๆ
แล้วเวลาฟอแมท ทำไงละ?
เดทตอล
พื้นที่เก็บก็หายไปด้วยสิครับ -_-"
เท่าที่อ่านดูเหมือนจะเป็นพื้นที่เก็บแบบเขียนได้ครั้งเดียวอยู่แล้วมั้งครับ อยากลบก็เดตตอลเท่านั้น
เป็น ROM สินะ
ถ้าเป็น ROM ราคาถูกและงอกได้เอง ผมสนมากมาย จะได้แบ็กอัพได้อย่างสบายใจ
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
เวลาสอบก็ไม่ต้องอ่านหนังสือละ ฉีดความรู้ให้ E. Coli แล้วก็ให้มันไปกระตุ้นลงความจำระยะยาวในซีรีบรัม แจ่ม!
ถ้าทำได้ขนาดนั้นผมว่า ไม่ต้องเรียนหนังสือแล้วครับ ! ! !
เกิดมาอยากเป็นอะไรก็ฉีดใส่เข้าไปเลย เป็น CO-Ordinator แบบท่านเทพคิระไปซะ
ถ้าเป็นอย่างนั้น ก่อนนำสู่ร่างการต้องวัดอะไรหลายๆอย่าง เช่นสมอง ว่ารับได้มากน้อยแค่ไหน รับมากไปอาจเป็นเอ๋อได้
ฉีดปีละครั้ง 24ปีจบ ป.ตรี พอดี
โนบิตะ: โดเรม่อน ช่วยด้วยยย
โดเรม่อน: นี่เลย ขนมปังช่วยจำข้อสอบบบ
เวลาสอบผมคิดถึงขนมปังช่วยจำทุกที ฮ่าๆ
+1 ผมด้วย
ถ้าทำแบบนั้นคนฉลาดจะเยอะขึ้น คนโง่แทบไม่มี โลกจะอยู่อย่างไรเนี้ย
มีความรู้เยอะ กับ ใช้ความรู้เป็น ผมว่าต่างกันนะ ไม่น่ามีผลกระทบ
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
เรื่องแบคทีเรียกลายพันธุ์ผมแน่ใจว่าไม่มีปัญหา เพราะสามารถใช้ channel coding ช่วยได้ เหมือนที่ CD สามารถอ่านได้แม้จะมีรอยขีดข่วน
รอวันผ่าสมองคนออกมาต่อๆ กันทำ super computer
นึกถึงเรื่อง The Matrix เอาคนมาเป็นแบตเตอร์รี่ให้เครื่องจักร
Gunnm ใช่มั้ยครับน่ะ
คนเขียนโดนลอยแพจากสนพ.แล้ว ภาค 2 อ่ะ
ไหงงั้น กำลังสนุกเลย Last Order
ตอนที่ 100 ออกมาจะครบปีล่ะยังไม่มีตอนใหม่ สาเหตุเพราะภาค 1 ฉบับพิมพ์ใหม่ในญี่ปุ่น บกบ้าอำนาจสั่งคนเขียนแก้คำว่าวิปริตเป็นคำว่าบ้า คนเขียนโกรธจัดแแก้ให้แต่ก็เลิกเขียนภาคใหม่ต่อเลย เห็นมีข่าวย้ายไปสนพ.อื่นแล้ว
งั้นก็ยังเขียนต่ออยู่สินะ เพียงแค่กำลังหาจังหวะลง... ก็ยังดีๆ
ถ้าเป็นแบบ Skyline ไม่เอานะครับ \O.O/
ฮัดเช่ยใส่คนข้างๆ ครับ
พอติดแบคทีเรียกันทั้งห้องเรียนก็ได้ Mainframe ย่อมๆ
ในเรื่อง と ある かがく の Railgun มีการปล่อยไวรัสใส่สมองให้สามารถใช้พลังจิตเชื่อมต่อกันเป็นเมนเฟรมด้วยนะครับ ^^
แปลให้ข้างบน To Aru Kagaku no Railgun สำหรับคนอยากหามาดู
อ่าขอบคุณครับ ผมก็อบชื่อ folder ในเครื่องมาแล้วก็ลืมแปล
นี่มันภาค "แฟนอวยบิริบิริ" นี่ครับ !!
Level Upper หรือ Misaka Network ครับ
จำไม่ได้
I need healing.
อ้อ ใช่ครับ ลืมไป พอสมองรับภาระมากๆ ก็จะพักผ่อนยาว หลับไม่ตื่นไปเลย
Level Upper ฮะ
ก่อนตายจะได้ใช้ไหม
ถ้าเก็บความรู้ความทรงจำในสมองตอนนี้ได้ซะก่อน ก็อมตะละ...
แต่กลัวจะตายซะก่อนถึงตอนนั้น...
นึกถึง hacker เขียนไวรัสคอมพิวเตอร์ พอข้อมูลวางลงไป เซลล์ก็กลายพันธุ์ กลายเป็นเชื้อโรคพันธุ์ใหม่
เหมือนภาค3 the ring เปล่าหว่า "loop"
อีกหน่อยก็จะมี
-Microsoft Visual Backteria
-OpenBacteria
Hacker ที่อยากเก่งก็ต้องเรียนชีววิทยาด้วย
กลายเป็น Residence Evil - -"
แล้วถ้าเราเก็บข้อมูลลงไป แล้วแบคทีเรียตาย
ข้อมูลมันไม่หายไปหมดเหรอครับ
หรือมันจะโอนข้อมูลตัวมันเองไปอีกตัว
มันเก็บในรูป DNA แบคทีเรียตายข้อมูลก็ยังอยู่
คิดหาที่เก็บดีกว่านี้ดีกว่า
แบคทีเรียติดไวรัสขึ้นมายุ่งแน่
bac. E.coli อยู่ในลำใส้คน งั้นต่อไปก่อคงเอาคนเป็นๆ แทนได้
มันมีการวิจัยไม่ต่ำกว่า 5 ปีได้ละ
ต่อไปไม่ลองเก็บข้อมูลลงในเซลล์มนุษย์ดูล่ะ เดินไปไหนเหมือนมีข้อมูลติดไปด้วยตลอด หมดสิทธิ์อ้างว่าผมไม่ได้เอา flash drive มา
นึกถึงเวลา "ดูดข้อมูล" จะดูดกันยังไงหว่า
ดูดปากเลยครับ 555+
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
น่าคิดว่า ถ้าเซลแบคทีเรียเก้บได้ ทำไมไม่ประยุกใส่ในเซลสมองไปเลยหละ ?
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ