By: mk 
on 19 January 2011 - 14:50
Tags:
Topics:
เทคนิคการถ่ายภาพแบบ High Dynamic Range (HDR) ช่วยให้เราเก็บภาพที่ใกล้เคียงกับสายตามนุษย์ได้มากขึ้น (รายละเอียดดูจาก Wikipedia) ตอนนี้ในตลาดเริ่มมีกล้องถ่ายภาพที่ถ่าย HDR ได้ในตัวออกวางขายบ้างแล้ว (iPhone ก็มีแล้ว)
ส่วนการถ่ายวิดีโอแบบ HDR ยังต้องใช้ความพยายามอยู่พอสมควร (ข่าวเก่า Soviet Montage สามารถทำการถ่ายวิดีโอแบบ HDR ได้สำเร็จ) วันนี้นักวิจัยจาก University of Warwick ในสหราชอาณาจักร สามารถสร้างระบบการบันทึกวิดีโอแบบ HDR ได้สำเร็จแล้ว
ระบบบันทึกวิดีโออันนี้จะบันทึกภาพความละเอียด 1080p ด้วยความถี่ 30 เฟรมต่อวินาที ที่น่าสนใจคือหนึ่งเฟรมจะถ่ายด้วย f-stop ที่ต่างกันถึง 20 ระดับ (ภาพ HDR ปัจจุบันใช้เพียง 3-4 ระดับ) เมื่อนำภาพเข้ากระบวนการประมวลผลให้ออกมาเป็น HDR ซอฟต์แวร์จะเลือกเพียงบาง f-stop เพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด
ปัญหาสำคัญของการเก็บภาพเยอะขนาดนี้คือเนื้อที่เก็บข้อมูล ตามข่าวบอกว่าหนึ่งเฟรมมีขนาด 24MB และต้องเก็บข้อมูลนาทีละ 42GB ซึ่งคณะนักวิจัยร่วมมือกับบริษัท goHDR พัฒนาเทคโนโลยีการบีบอัดภาพที่ช่วยลดขนาดลงได้ 100 เท่า
ชิ้นส่วนสุดท้ายในระบบถ่ายวิดีโอคือจอภาพ ซึ่งใช้จอ LED ฉายภาพลงไปบนแผง LCD ที่วางอยู่ข้างหน้าอีกที เทคนิคนี้ช่วยให้แสดงแสงได้ครบทุกสภาวะ
ทีมวิจัยให้สัมภาษณ์ว่า เทคนิคนี้จะช่วยพัฒนาการถ่ายทอดกีฬา (ซึ่งมีทั้งที่สว่างและมืดจากเงาขอบสนาม), ด้านการแพทย์ (กล้องผ่าตัด), กล้องรักษาความปลอดภัย และอาจรวมถึงการสร้างภาพยนตร์ด้วย
ที่มา - Gizmag
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Urgent Jobs
Cloudnone
- AWS มาไทย ย้ายเลยดีไหม อะไรยังมาไม่ครบบ้าง? | Cloudnone Ep. 23
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
Comments
อยากเห็นภาพที่ออกมาจริงๆเลย ขนาดใหญ่ซะ
เอิ่ม f-stop 20 ระดับ นี่มัน dynamic range ของตามนุษย์เลยนะ
คือตั้งแต่ คืนเดือนมืดท่ามกลางแสงดาวยันแสงอาิทิตย์
ตากล้องคงต้องแบก SSD Farm + Bat อีก เพราะส่งข้อมูลทางอากาศคงส่งกันไม่ทัน ต้องการความเร็วเก็บข้อมูล 700MB/s เชียว
HDD 1TB เก็บหนังได้ 23 นาที
เตรียมถอยกล้องใหม่ล่ะงานนี้
ผมดูแบบเดิมไปก่อน คงไม่มีตังซื้อ HDD ไว้เก็บหนังดูแน่เลย
ไฟล์ที่เอาไว้ดูยังไงก็มีขนาดเท่าเดิมนะ ผ่านกระบวนการ process แล้วก็ได้ Video แบบเดิม แค่สีสัน Dynamic rang เพิ่มมากกว่าปกติ เท่านั้นเอง HDD เท่าเดิมก็เก็บได้
นอกจากจะถ่าย เอง ตัดต่อต่อทำเอง HDD คงลูกโตน่าดู
อิอิ
มันเอาไว้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์แบบเฉพาะเจาะจงก่อน สำหรับตลาดทั่วๆ ไปคงต้องรอฮาร์ดแวร์ราคาเข้าที่ก่อน
นอกเรื่องหน่อย ไปลองเล่น iPhone มา ทำไม HDR มันถ่ายได้ช้าจัง?
เท่าที่ลองนะ กดแล้ว มันจะหน่วงนิดหนึง คือมัน process อยู่ อะครับ ไม่แน่ใจว่ามันถ่ายสองภาพติดๆ กันหรือเปล่านะ
ผมเข้าใจว่ามากกว่าสองนะครับ ที่มันช้าเพราะต้องถ่ายหลายภาพ จัดตำแหน่งแต่ละภาพให้ตรงกันและประมวลผลเลือกจุดที่แสงดีกว่าด้วยน่ะครับ ทำบนคอมยังช้าเลย
จริงๅครับ HDR บน iphone มัน ไม่ได้ถ่ายมากกว่า 2 ครั้งครับ
ใช้วิธีอ่านค่าบน CCD (?) sensor นานกว่าปรกติครับ (เหมือนกับเปิดหน้ากล้องทิ้งไว้)
แล้วเอาข้อมูลของแต่ละค่าแสงมาทำ HDR ครับ
ก็เหมือนกับการถ่าย 2 ครั้ง (หรือมากกว่า) นั่นแหละครับ
แต่เนื่องจากมันถูก limit ด้วยระยะเวลาที่ไม่ควรจะนานนัก เลยได้ค่าแสงมาไม่สวยเท่ากับเรามาถ่าย 2 ครั้ง แล้วมาทำ HDR เอง (หรือ ผ่านโปรแกรมครับ)
มันจะเหมือนเกมส์มากกว่าหนังอ่ะดิ
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
คือจะบอกว่าผมเคยเกือบหลวมตัวซื้อ
กล้อง Fuji ที่ใช้ Super CCD 2 ตัว ต่อ 1 pixel น่ะครับ (ตัวหนึ่งเล็ก อีกตัวใหญ่)
ออกมาประมาณ 2-3 ปี แล้ว
ซึ่งเคยบอกว่าถ่ายรูป HDR ได้ดี
ผลปรากฏว่า ขี้เหร่สุดๆๆๆ
HDR ภาพมันจะไม่ได้คอนทราส เท่าไหร่นะเธอว์
ดูหลอกๆตา เหมือนภาพ Render 3D ยังไงอย่างงั้น
ถ้าเราทำให้แต่ละ Pixel ใช้ค่า ISO ต่างกันได้แบบอัตโนมัติ จะได้ Dynamic Range ดีขึ้นมั้ยครับ?
อีกหน่อยถ้าจะให้มือถือถ่าย วิดีโอแบบ HDR สงสัยความจุจะเป็นเท่าไหร่ดีเนี่ย
ขอเฟรมเรทสูง ๆ ก่อนดีกว่ามั้ย :-)
HDR มันไม่ได้เกี่ยวกับ ISO หรือ Pixel นะครับ มันเป็นการแยกส่วนต่างระหว่าส่วนมืดและส่วนสว่างในการถ่ายภาพ เพื่อให้เห็นรายละเอียดของวัตถุส่วนได้รับแสงสว่างและในที่มืดครับ ถึงต้องใช้ค่า f-stop ที่ต่างกันในการถ่ายภาพเดิมเพื่อมาทำภาพ HDR ผมว่าเอามาใช้ในการถ่ายกีฬาท่าทางจะเหมาะ อิอิ
ก็ไม่ได้ทำ HDR อ่ะครับ แค่ทำให้ Dynamic Range มันสูงขึ้นโดยการปรับ pixel ที่รับแสงน้อยให้ ISO สูงขึ้น ส่วน pixel ที่สว่างมากก็ปรับ ISO ให้ต่ำลงเพื่อให้ได้ค่า Dynamic Range ที่มากกว่าปกติโดยไม่ต้องทำเป็น HDR
ก็ได้แต่คิด แต่ถ้าต้องทำให้แต่ละ Pixel ปรับ ISO ได้เองแบบอิงพื้นที่ข้างเคียงเพื่อให้ภาพออกมาเนียนจริงๆ คงลำบากแย่