Android Authority รายงานว่าทั้ง iOS (รวมถึง iPadOS 18, macOS 15) และ Android ได้รองรับ ISO 21496-1 ที่เป็นมาตรฐานกลางสำหรับการเข้ารหัส gain map metadata ของภาพ HDR ร่วมกัน ทำให้สามารถแสดงผลภาพกันข้ามแพลตฟอร์มได้แล้ว ซึ่งการใช้งานจริงขึ้นอยู่กับการเชื่อมต่อ API มาใช้ของแต่ละแอปอีกที

ปัจจุบัน Google Photos สามารถแสดงภาพ HDR จาก iPhone ได้ และเบราว์เซอร์โครเมียม เช่น Chrome และ Edge ก็รองรับมาตรฐาน ISO 21496-1 เช่นกัน โดยคุณสมบัติ HDR นี้มีชื่อเรียกในฝั่ง Android ว่า Ultra HDR ที่รองรับมาตั้งแต่ Android 14

กูเกิลออกอัพเดตฟีเจอร์ Pixel Feature Drop รอบเดือนมีนาคม 2024 (ช่วงนี้มารัวๆ) ให้กับสินค้าตระกูล Pixel หลายตัว

สมาร์ทโฟน Pixel

• หน้าจอ Call Screen ที่ให้ AI ช่วยคุยโทรศัพท์แทนเรา เพิ่มปุ่ม Hello เพื่อสั่งให้ AI ทักคู่สนทนาไปอีกรอบ ในกรณีที่คู่สนทนาเงียบไม่พูดอะไร เพื่อให้เราเข้าใจได้ว่าเป็นสแปม หรือเป็นคนจริงๆ กันแน่
• Pixel 7 และ 8 สามารถถ่ายคลิปวิดีโอเป็น 10-bit HDR แชร์ลง Instagram Reels ได้แล้ว (Galaxy S24 ทำได้ไปก่อนหน้านี้)
• Pixel 7 ได้ฟีเจอร์ Circle to Search ที่เริ่มใช้ใน Galaxy S24 และ Pixel 8 ไปก่อนแล้ว

NVIDIA เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ RTX Video HDR ให้การ์ดจอตระกูล RTX โดยใช้ Tensor Core ช่วยอัพเกรดวิดีโอจาก SDR เป็น HDR ให้อัตโนมัติ

ฟีเจอร์นี้ยังสามารถใช้ร่วมกับ NVIDIA Video Super Resolution ที่ใช้จีพียูช่วยอัพสเกลวิดีโอให้ความละเอียดสูงขึ้น แปลว่าเราสามารถแปลงวิดีโอความละเอียดต่ำ เป็นวิดีโอความละเอียดสูง + HDR ได้พร้อมกันในทีเดียว

การใช้งานจำเป็นต้องมีการ์ดจอตระกูล RTX และจอภาพที่รองรับ HDR10 จากนั้นอัพเดตไดรเวอร์รอบเดือนมกราคม 2024, เปิดใช้ฟีเจอร์ Windows HDR แล้วเข้าไปตั้งค่า RTX Video Enhancement ใน NVIDIA Control Panel

ที่มา - NVIDIA

Nexon บริษัทเกมจากเกาหลีใต้ เปิดตัวเกมใหม่ The First Descendant เป็นเกมยิงแนวไซไฟอวกาศแบบ 3rd person co-op เล่นออนไลน์แบบ free-to-play

เนื้อเรื่องของเกม The First Descendant เป็นการต่อสู้ระหว่างเผ่ามนุษย์ Descendant ที่ใส่ชุดเกราะ (คล้ายกับเกม Destiny) กับเผ่าเอเลี่ยน Vulgus ที่ข้ามมิติมารุกรานที่อยู่ของมนุษย์ จากเทรลเลอร์เราเห็นการต่อสู้กับบอสขนาดใหญ่ด้วย เกมพัฒนาโดยใช้เอนจิน Unreal 5.2

The First Descendant ยังเป็นเกมแรกที่รองรับเทคโนโลยี HDR10+ ของค่ายซัมซุงด้วย หากใช้จีพียู NVIDIA และมอนิเตอร์ซัมซุงรุ่นที่รองรับ HDR10+ ก็จะได้ภาพแบบ HDR10+ โดยอัตโนมัติ

ไมโครซอฟท์ออก Windows 11 Insider Preview Build 23516 ให้ผู้ทดสอบกลุ่ม Dev Channel มีของใหม่ที่น่าสนใจคือ

เว็บข่าว Protocol อ้างว่าได้เห็นเอกสารภายในของกูเกิล ชี้ว่ากูเกิลกำลังพัฒนาเทคโนโลยีด้านภาพ HDR video และเสียง 3D audio แบบไม่ต้องเสียค่าใช้งาน (royalty-free) เพื่อมาใช้แทน Dolby Vision และ Dolby Atmos ที่ต้องเสียค่าไลเซนส์ให้กับ Dolby

โครงการนี้มีโค้ดเนมว่า Project Caviar และกูเกิลได้แชร์เอกสารให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์บางรายรับทราบแล้ว เป้าหมายของ Project Caviar คือใช้งานกับ YouTube เป็นหลัก (ปัจจุบันยังไม่รองรับทั้ง Dolby Vision/Atmos) แต่กูเกิลก็พยายามชวนพันธมิตรรายอื่นๆ มาเข้าร่วมด้วย

ไมโครซอฟท์ประกาศปล่อยอัพเดตให้ Xbox Series X|S รองรับการแสดงผลภาพ HDR ฟอร์แมต Dolby Vision แล้ว หากเกมเมอร์มีทีวีที่รองรับ Dolby Vision ด้วยจะสามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้อัตโนมัติ

Xbox Series X|S ประกาศมาตั้งแต่แรกจะว่ารองรับ Dolby Vision แต่กว่าซอฟต์แวร์จะรองรับก็ต้องรอกันเกือบ 1 ปีหลังเครื่องวางขาย ไมโครซอฟท์ระบุว่ามีเกมที่รองรับ HDR มากกว่า 100 เกม และเกมในอนาคตอย่าง Halo Infinite ก็จะรองรับ Dolby Vision อย่างเต็มที่

การรองรับ Dolby Vision ทำให้ Xbox Series X|S ถือเป็นคอนโซลรุ่นแรกที่รองรับมาตรฐานของ Dolby สองตัวคือ Dolby Vision และระบบเสียง Dolby Atmos

LG Electronics เอาใจเกมเมอร์รุ่นใหม่ๆ ประกาศอัพเดตเฟิร์มแวร์ทีวีรุ่นปี 2020 และ 2021 ให้รองรับ Dolby Vision HDR โดยทีวีรุ่นสูงๆ จะสามารถเล่นได้ที่ 4K 120Hz ด้วย ส่วนทีวีรุ่นล่างหรือเก่าหน่อยอาจได้ที่ 60Hz

ทีวีกลุ่มแรกที่จะได้อัพเดตคือ LG OLED TV C1 และ G1 ที่เริ่มปล่อยอัพเดตแล้ววันนี้, จากนั้นจะเป็นคิวของ OLED Z1, QNED Mini LED QNED99 และ NanoCell Nano99 ตามมาในเดือนกรกฎาคม

นอกจากฟีเจอร์ Dolby Vision แล้ว เฟิร์มแวร์นี้ยังมีฟีเจอร์ Game Optimizer แสดงแดชบอร์ดบนหน้าจอ (HUD) ให้ตั้งค่าการแสดงผลตามประเภทของเกม Standard, FPS, RPG, RTS โดยไม่ต้องหยุดเกมด้วย

ในสงครามเกมคอนโซลเจนนี้ เราเห็นไมโครซอฟท์ออกมาโปรโมทฟีเจอร์ด้านภาพ HDR Dolby Vision และด้านเสียงสามมิติ Dolby Atmos ใน Xbox Series X|S อยู่เรื่อยๆ ในขณะที่ฝั่ง PlayStation 5 กลับเงียบสนิทในเรื่องนี้

ล่าสุดปริศนาเหมือนไขกระจ่างแล้ว เพราะบล็อก Xbox ภาคภาษาฝรั่งเศสได้โพสต์ข้อมูลนี้มาเองว่า Dolby เซ็นสัญญาเอ็กซ์คลูซีฟกับไมโครซอฟท์เป็นเวลา 2 ปี แต่พอเรื่องนี้เป็นข่าวขึ้นมา ไมโครซอฟท์กลับลบโพสต์นี้ทิ้งไป โดยไม่ให้สาเหตุชัดว่าเพราะอะไรถึงลบ

ฝั่ง PS5 เองมีระบบเสียง 3D Tempest Engine ของตัวเอง ทำให้ไม่ชัดเจนนักว่า แม้ไม่ติดเอ็กซ์คลูซีฟแล้วโซนี่จะสนใจอยากใช้ Dolby Atmos ด้วยหรือไม่

หากใครที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์หรือซีรีส์ผ่านทาง Netflix คงต้องตรวจสอบสมาร์ทโฟนที่ใช้อยู่กันเล็กน้อยแล้วว่าสามารถรองรับการแสดงบนแบบ HDR ด้วยหรือไม่

อัพเดตล่าสุดของ Netflix จะสนับสนุนการแสดงผลแบบ HDR บนสมาร์ทโฟนในรุ่นต่างๆ ได้แก่ Sony Xperia XZ2, Huawei Mate 10 Pro และ Huawei P20 ซึ่งเป็นรายชื่อรุ่นที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากของเดิมที่เคยประกาศก่อนหน้านี้ ประกอบไปด้วย LG V30, Razer Phone, Samsung Galaxy S8, Samsung Galaxy Tab S3, Samsung Galaxy S9, Sony Xperia XZ Premium และ Sony Xperia XZ1

ไมโครซอฟท์ยังเดินหน้าปล่อยฟีเจอร์ชุดใหญ่ให้ Windows 10 Insider เตรียมพร้อมสู่อัพเดตใหญ่ตัวต่อไป Redstone 4 ที่จะออกในช่วงเดือนมีนาคมนี้

ของใหม่ใน Build 17093 ตัวล่าสุดมีมากมาย ที่น่าสนใจได้แก่หน้าจอ Settings อันใหม่สำหรับเครื่องที่มีจีพียู 2 ตัว (การ์ดจอออนบอร์ด+การ์ดจอแยก) เราสามารถกำหนดได้ว่าจะให้แอพตัวไหนเรียกใช้การ์ดจอใด หรือจะเลือกเป็นค่าดีฟอลต์เพื่อให้ Windows ตัดสินใจแทนเราก็ได้

เมื่อปลายปีที่แล้ว Netflix ประกาศว่าได้เพิ่มความสามารถให้กับแอพบน Windows 10 และเว็บกรณีที่เปิดผ่านเบราว์เซอร์ Microsoft Edge ให้รองรับการเล่นวิดีโอ HDR (High Dynamic Range) เรียบร้อยแล้ว

โดยผู้ใช้บริการ Netflix ระดับ premium plan จะสามารถรับชมเนื้อหา HDR ได้ผ่านพีซีที่สามารถถอดรหัสวิดีโอมาตรฐาน HDR10 ซึ่งต้องใช้ซีพียู Intel รุ่นที่ 7 หรือใหม่กว่าร่วมกับจีพียูรุ่นใหม่ของ Intel หรือ Nvidia ที่สามารถให้สี RGB ที่มีช่วงกว้างได้ถึงระดับ 10 bit ต่อสี

(ในตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า Netflix จะรองรับซีพียูและจีพียูของค่าย AMD หรือไม่)

Lenovo อัพเกรดโน้ตบุ๊กเกรดพรีเมียมตระกูล ThinkPad X1 ตามรอบปี 2018 โดยเปลี่ยนซีพียูเป็น Intel Core 8th Gen และอัพเกรดหน้าจอสแดงผลให้รองรับมาตรฐาน Dolby Vision HDR เป็นยี่ห้อแรก

ฟีเจอร์ใหม่อย่างอื่นคือ ThinkShutter Camera ฝาปิดกล้องหน้าเพื่อการันตีว่าไม่ถูกแอบดักถ่าย, ไมโครโฟน Far-Field รับเสียงจากระยะไกล ใช้ร่วมกับ Alexa ได้, Windows 10 เวอร์ชัน "Lenovo Crystal Image" ไร้ซึ่ง bloatware ใดๆ, ช่องเสียบซิมรองรับ Global LTE-A

เมื่อประมาณต้นเดือนที่เพิ่งผ่านมา อินเทลได้ออกอัพเดตไดรเวอร์กราฟิกเวอร์ชัน 15.60 โดยได้เพิ่มการรองรับ Windows Mixed Reality และ HDR10 ให้กับจีพียู Intel HD Graphics 620 ซึ่งมาพร้อมกับซีพียู Core i5 รุ่นที่ 7 รวมถึงจีพียูรุ่นที่สูงกว่านั้นด้วย

การติดตั้งไดรเวอร์ดังกล่าวแน่นอนว่าจะทำให้เครื่องที่ผ่านสเปกสามารถใช้งานแว่น Mixed Reality ที่เริ่มทยอยวางขายแล้วได้ ส่วนการรองรับการแสดงผลภาพมาตรฐาน HDR10 นั้นจะช่วยให้สามารถเล่นเนื้อหาที่มีภาพแบบ HDR (High Dynamic Range) บนจอที่รองรับไม่ว่าจะเป็นเกม วิดีโอ ไปจนถึงบริการสตรีมมิ่งอย่าง Netflix และ Youtube ที่ให้บริการวิดีโอแบบ HDR มาซักพักแล้ว

Vimeo รองรับระบบวิดีโอ HDR แล้ว โดยตอนนี้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถอัพโหลดวิดีโอ HDR ขึ้นไปยังแพลตฟอร์มเพื่อเผยแพร่ได้ทันที

ระบบ HDR ของ Vimeo นั้น รองรับวิดีโอระดับ 10-bit ให้สีถึง 1 พันล้านสี, wide color gamut สามารถแสดงสีได้ถึง 75% ของสีทั้งหมดที่ตามนุษย์สามารถเห็นได้, รองรับวิดีโอสูงสุดถึงระดับ 8K

Netflix ได้อัพเดตแอพสำหรับ iOS โดยรองรับฟีเจอร์ HDR หลังจากที่รองรับฟีเจอร์นี้บนแอพฝั่ง Android สำหรับ Samsung Galaxy Note 8 และ LG G6 ไปแล้ว

สำหรับอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวในปี 2017 อย่าง iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X (ที่ยังไม่วางขาย) รวมทั้ง iPad Pro 12.9 และ 10.5 นิ้ว เมื่ออัพเดตแอพ Netflix แล้วสามารถดูวิดีโอ HDR ได้ทันที (ทั้งนี้ผู้ใช้ต้องสมัครแพคเกจ Netflix ที่รองรับการสตรีมคอนเทนต์แบบ HDR และ 4K ด้วย) โดยภาพยนตร์บน Netflix ที่รองรับฟีเจอร์นี้แล้ว เช่น DareDevil, House of Cards และ Marco Polo

Google ได้อัพเดตแอพ YouTube บนสมาร์ทโฟน Android ให้รองรับการดูวิดีโอ HDR อย่างเงียบ ๆ หลังจากที่เปิดรองรับวิดีโอ HDRมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่ในช่วงเปิดตัวยังไม่มีการรองรับสมาร์ทโฟนเครื่องใดเลย

สำหรับระบบ HDR ของ YouTube ตอนนี้สามารถใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนบางรุ่นเท่านั้น คือ Galaxy S8, Note 8, Google Pixel, LG V30, Sony Xperia XZ Premium ซึ่งสมาร์ทโฟนเหล่านี้มีฮาร์ดแวร์ที่รองรับ HDR โดยวิดีโอ HDR ตอนนี้จะสามารถใช้งานได้สูงสุดที่ความคมชัดระดับ Full HD 1080p ที่ 60 เฟรมต่อวินาทีเท่านั้น (ในกรณีที่กดเลือกความละเอียดเอง)

มาตรฐานการแสดงผลวิดีโอแบบ HDR (high-dynamic-range) แบ่งออกเป็น 2 ค่ายใหญ่ๆ คือ HDR10 และ Dolby Vision โดย HDR10 มีคุณสมบัติเป็นรองแต่ได้รับการยอมรับจากผู้ผลิตทีวีมากกว่า

ซัมซุงในฐานะผู้สนับสนุน HDR10 ก็ประกาศมาตรฐาน HDR10+ ที่เพิ่มฟีเจอร์ dynamic metadata เข้ามาอีกเมื่อต้นปีนี้ โดยมี Amazon Video ร่วมเป็นพันธมิตร ล่าสุดซัมซุงประกาศพันธมิตรเพิ่มเติมอีก 2 รายคือ Panasonic และสตูดิโอภาพยนตร์ 20th Century Fox

ซัมซุงระบุว่าจะเปิดตัวโลโก้ HDR10+ และเริ่มอนุมัติไลเซนส์เทคโนโลยีให้กับบริษัทอื่นๆ ในเดือนมกราคม 2018 ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมจะประกาศในงาน CES 2018 ช่วงเดียวกัน

Google Play Movies & TV ได้เริ่มเปิดใช้งานวิดีโอแบบ HDR ให้กับผู้ใช้ทั่วไปแล้ว โดยเทคโนโลยี HDR นี้จะปรับปรุงภาพเคลื่อนไหวของวิดีโอ ทำให้ภาพสีสดขึ้น มิติสีกว้างขึ้น และดูสมจริงมากขึ้น แต่ฮาร์ดแวร์จะต้องรองรับด้วย

สำหรับ Google Play Movies & TV นี้ จะเริ่มเปิดให้ใช้วิดีโอแบบ HDR เฉพาะในสหรัฐฯ และแคนาดาก่อนเท่านั้น โดยจะต้องใช้ Chromecast Ultra เพื่อการดูวิดีโอแบบ HDR โดยตอนนี้วิดีโอที่รองรับมาจากสองสตูดิโอใหญ่คือ Sony และ Warner Bros. โดยตอนนี้ Google ยังไม่ได้ให้รายละเอียดการเปิดตัววิดีโอแบบ HDR ในประเทศอื่นทั่วโลก บอกเพียงว่าจะมาในเดือนหน้าเท่านั้น

หลังจากที่ Netflix ประกาศเริ่มรองรับ HDR ไปตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ปีนี้บริการสตรีมแบบ HDR เตรียมจะขยายไปบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตแล้ว โดยจะเริ่มจากทวีปเอเชียเป็นที่แรก

สาเหตุที่เลือกเอเชียก่อนก็เพราะว่าทราฟฟิคบน Netflix ผ่านโมบายล์ในเอเชียนั้นสูงที่สุดในโลก นำมาโดยอินเดีย เกาหลีใต้และญี่ปุ่น ตามมาด้วยมาเลเซียและฮ่องกง ขณะที่ทราฟฟิคจากทวีปอื่นส่วนใหญ่นั้นดูผ่านไม่ทีวี ก็คอนโซลหรือ set-top-box

LG G6 มือถือเรือธงประจำปี 2017 เปิดตัวตามนัด จุดเด่นสำคัญคือหน้าจอ FullVision ขนาดใหญ่ 5.7" กินพื้นที่เกือบทั้งหมดของตัวเครื่องด้านหน้า เหลือขอบบางเพียงนิดเดียวเท่านั้น

บริษัทบอกว่าจากการสำรวจข้อมูลของผู้บริโภคพบว่าจอใหญ่เป็นประเด็นสำคัญที่สุด แต่ก็ยังต้องการตัวเครื่องขนาดเล็กพอที่ยังจับได้ถนัดมือ ส่งผลให้ออกแบบ G6 ให้นำหน้าจอขนาด 5.7" มาอยู่ในบอดี้ขนาด 5.2" นอกจากนี้ สัดส่วนของหน้าจอ LG G6 ยังเป็นสัดส่วนแบบ 2:1 (18:9 หรือ Univisium) ที่กว้างกว่า 16:9 เหมาะกับการแสดงผลภาพยนตร์มากขึ้น วัดขนาดแบบเป๊ะๆ คือ 2880x1440

ฟีเจอร์ด้านการแสดงผลอย่างอื่นยังเป็นการรองรับ HDR ทั้งมาตรฐาน HDR10 และ Dolby Vision โดยถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่รองรับ Dolby Vision อีกด้วย

Dolby Vision เป็นมาตรฐานการแสดงผลวิดีโอแบบ HDR ของบริษัท Dolby Laboratories ที่แข่งกับมาตรฐาน HDR10 อย่างไรก็ตาม ถ้าเทียบกันแล้ว Dolby Vision อาจไม่ได้รับความนิยมมากเท่ากับ HDR10

ล่าสุด Dolby เผยว่าจะออก Dolby Vision เวอร์ชันที่เป็นซอฟต์แวร์อย่างเดียวด้วย นั่นแปลว่าสมาร์ททีวีหรือกล่องทีวีต่างๆ สามารถอัพเดตความสามารถให้รองรับ Dolby Vision ได้ด้วย (ตัวอย่างที่ Dolby เคยนำมาโชว์คือ PS4 ที่รองรับ Vision)

ตอนนี้ Dolby ยังไม่ประกาศรายชื่ออุปกรณ์ทั้งหมดที่จะได้รับ Dolby Vision แต่ในเบื้องต้นก็มีทีวี Sony และเครื่องเล่น Blu-ray ของ Oppo

ที่มา - Engadget

AMD เปิดตัวเทคโนโลยี Radeon FreeSync 2 เวอร์ชันปรับปรุงของเทคโนโลยีช่วยแสดงผล FreeSync ที่ใช้ร่วมกับหน้าจอมอนิเตอร์ยี่ห้อต่างๆ

ของใหม่ใน FreeSync 2 เน้นไปที่การแสดงผลแบบ HDR (High Dynamic Range) ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วทั้งจากผู้ผลิตหน้าจอและผู้ผลิตคอนเทนต์ ปัจจุบันฟอร์แมต HDR ที่ได้รับความนิยมในท้องตลาดอย่าง HDR10 และ Dolby Vision ถูกออกแบบมาสำหรับภาพยนตร์ เน้นที่คุณภาพของภาพดีเยี่ยม แต่เกิดปัญหา latency เมื่อนำมาใช้แสดงผลกับเกม

เป้าหมายของ FreeSync 2 คือปรับปรุงการแสดงผล HDR กับเกมพีซี ให้กระบวนการเรนเดอร์ภาพ HDR รวดเร็ว มีอัตรา latency ต่ำ ไม่ดีเลย์จนเสียอรรถรสในการเล่นเกม

ล่าสุดเกม Deus Ex: Mankind Divided ได้อัปเดตให้สามารถใช้งานฟังก์ชัน HDR (High-dynamic-range) บนเครื่อง PlayStation 4 และ Xbox One S เรียบร้อยแล้ว

หลังจากที่เครื่อง PlayStation 4 ได้อัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชัน 4.00 ทำให้สามารถใช้งานฟังก์ชัน HDR ได้ ยังไม่เคยมีเกมไหนที่นำระบบดังกล่าวมาประยุกต์ใช้มาก่อน ซึ่งเกม Deus Ex เป็นเกมแรกที่นำระบบดังกล่าวมาใช้ ทำให้สามารถเล่นเกมในโหมด HDR ได้ทั้งบน PS4 และ Xbox One S

Sony ประกาศอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบของ PS4 เป็นเวอร์ชัน 4.00 (โค้ดเนม Shingen) เมื่อวานนี้ (13 กันยายน) ถือเป็นการอัพเดตครั้งใหญ่เพื่อรับฟีเจอร์ High Dynamic Range (HDR) Gaming ที่ประกาศพร้อม PS4 Pro และเครื่อง PS4 ทุกรุ่นย่อยจะได้ความสามารถนี้ด้วย หลังการอัพเดตแล้วจะพบตัวเลือก HDR ในหมวด Video Output Settings

ของใหม่อย่างอื่นในอัพเดตตัวนี้ได้แก่

• ปรับปรุง UI ของระบบ, ปรับดีไซน์ของหน้าจอ What's New และ Content Info
• เพิ่มความสามารถจัดเรียงโฟลเดอร์และไลบรารี แยกแท็บ Games/Applications ออกจากกัน
• ปรับหน้าตาของเมนูลัด Quick Menu และเมนูแชร์เนื้อหา Share Menu
• เพิ่มความสามารถย้ายข้อมูลข้ามเครื่อง PS4 (เช่น จาก PS4 ย้ายไป PS4 Pro) ผ่านสายแลน