เมื่อวันที่ 16 ที่ผ่านมา เครือร้านหนังสือใหญ่ที่ชือ Borders (NYSE: BGP) ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ล้มละลายตามมาตรา 11
อันที่จริง Borders ก็มีผลประกอบการไม่สู้ดีนักในช่วงหลังๆ ติดตัวแดงมาตั้งแต่ปี 2007 และมีข่าวลือหนาหูว่าจะถูกซื้อโดย Barnes & Noble ในปีที่ผ่านมา(ซึ่งก็ไม่เกิดขึ้น) ส่วนสาเหตุ นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งก็มองกันว่า สาเหตุหนึ่งที่ Borders ประสบปัญหาขาดทุน อาจจะมาจากส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถจับกระแสความต้องการตลาดที่เปลี่ยนแปลง และย้ายมาสู่โลกออนไลน์ได้ทัน รวมถึงการที่ไม่ลุยตลาด eBook อีกด้วย แม้จะมีการนำ Kobo eReader เข้ามาร่วมกันทำตลาดในช่วงท้าย แต่ Borders ก็ไม่ได้ประสานโมเดลธุรกิจกันจริงๆจังๆ
ตลาดหนังสือที่ต่างประเทศนี่แรงนะ แต่ตลาดหนังสือที่เมืองไทย ยังคงใช้ business model ได้เหมือนเดิม อย่างน้อยๆก็จนกว่าคนไทยจะคุ้นเคยกับการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์และยังไม่เห็นของจนกว่ามันจะมาถึงบ้านได้นะ
ที่มา: Blog Kindle และ Wikipedia
Comments
ตลาดหนังสือไทยผมว่าคงอยู่แบบไม่มี e-book ได้สบายๆ อีกราวๆ สิบปีกระมังครับ
+1
ไม่มีที่มาหรือครับ?
lewcpe.com, @wasonliw
ลืมสนิทเลย! แก้แล้วครับ
ไปรษณีย์ไทยต้องปรับปรุงก่อน คนไทยถึงกล้าซื้อของ
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
แฟนผม ผู้มีประสบการณ์บน eBay แกว่า
"...ไปรษณีย์ไทยน่ะมันโอเคจริงๆนะพี่ ใช้วิธีส่งลงทะเบียนซะหน่อยก็ดีขึ้น หลายครั้งส่งของไปต่างประเทศได้เร็วกว่า DHL ในราคาที่ถูกกว่ามาก ถ้าพี่เจอไปรษณีย์ อิตาลี,ฝรั่งเศส แล้วจะหนาวใจ ลงทะเบียนรับแล้วก็เถอะ หาคนรับผิดชอบไม่ได้ แต่เมืองไทย ปัญหาใหญ่อยู่ที่กรมศุลกากร มากกว่า..."
+1
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ไปรษณีย์ไทยผมก็เห็นด้วยว่าดีแล้วนะครับ แต่ควรปรับปรุงเรื่องตรวจสอบของ เพราะมีหลายเหตการที่สั่งของมาแล้ว โดนเกะตรวจ น่าจะหาเครื่องสแกนมาใช้ได้แล้ว
อ่อ แต่ต้องลงทะเบียนนะ ส่งธรรมดายังหายอยู่(เคยแนบเงินไปในจดหมาย 20 บาท ไม่ถึงปลายทาง ฮ่าๆ)
ชอบใจตรงอิตาลีนี่แหล่ะ เวลาซื้อของใน ebay มักจะมีคำเตือนให้ระวังไปรษณ๊ย์ของอิตาลีเฉพาะอีกต่างหาก
ช้ายิ่งกว่าเรือเกลือ ไปรษณีย์ไทยชนะไปเลย
เขาติดที่ศุลกากรครับ ชอบอมของไปเป็นเดือน
@TonsTweetings
ส่งเครื่องครัวไปให้เพื่อน เขียนในใบส่งว่า dry food แมร่งกักไว้เดือนหนึ่งเต็มๆ หาว่าส่งเนื้อแห้งเข้าไปรอพิสูจน์ว่าไปนั่น แล้วก็โดนปรับ ค่าอะไร? ไม่มีของห้ามส่งซะหน่อย
คือลงทะเบียนเนี่ย สามารถตามหาคนรับผิดชอบได้ หรือจะได้จำได้ว่า ไอ้ลูกค้ารายเนี่ยมันมั่วนิ่ม รับของไปแล้วทำมึน มาขอเงินคืน อ้างว่าไม่ได้ของ จะให้ดีต้องมีอ๊อปชั่น ให้เซ็นรับด้วย จะได้มีหลักฐานมัดแน่น เอามันขึ้นแบล็คลิสต์ (ของเรา T_T)
+1
ไปรษณีย์ไทยนี่ดีมากแล้วครับ แต่กรมศุลกากรค่อนข้างห่วยมากครับ ไม่รู้ว่าไม่มีเครื่องแสกนหรือว่ายังไง แกะทุกชิ้นบางที่แกะแล้วไม่ทำให้เหมือนเดิมอีก กล่องนี่ยุ่ยมาเลยครับ เรื่องของหายนี่แน่นอนครับ หายแน่นอนถ้าไม่มีรายการแนบมา ไม่รู้ว่าหายตอนแกะ หรือเพราะไม่ปิดให้ดีมันเลยตกระหว่างทาง
ขออธิบายเพิ่มเติม คืออิตาลี ของหายเป็นหลักแถมไม่มีหลักฐาน ส่วนฝรั่งเศส ถ้าต้องติดต่อ จะดำเนินเรื่องช้าอย่างแรง ตามเรื่องยาวนานชั่วกัปล์
จากสถิติการใช้บริการเดือนละประมาณ 40 ครั้งของผม ไปรษณีย์ไทย ดีแล้วจริงๆ ครับ ปัญหาอยู่ที่ศุลกากรที่เดียวจริงๆ อันนี้ผมเห็นด้วยเลย
ส่วนไปรษณีย์ประเทศที่ห่วยๆ ผมขอเพิ่มไปรษณีย์จีนขาส่งออกมาอีกที่ครับ ไปรษณีย์จังหวัดส่วนใหญ่กว่าจะปล่อยของออก กว่า 2 เดือนครับ
จังหวัดที่การพาณิชย์มากๆ เช่น Shenzhen, Guongdong, Shanghai จะเร็วครับ ส่วนจังหวัดอื่นๆ นั้น แทบจะคิดว่าของหายเสียแล้วเลยล่ะ ผมเดาเอาเองในแง่ดีว่า คงสะสมพัสดุให้ได้มากๆ ก่อน จึงบินทีเดียว
ผมขี้เกียจขนของครับ ไม่ว่าจากประเทศไหนไปไหน ผมจะส่งถึงตัวเองจากที่นั่น เวลาเดินทางไปแต่ละที่ ผม Prefer แค่กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์ Netbook/Notebook เสื้อผ้าที่ใส่อยู่ชุดเดียวเท่านั้น ไม่ชอบลาก หอบ หิ้ว หรือ Load อะไรเลย ก็เลยใช้บริการไปรษณีย์อยู่แทบทุกวันครับ (ที่จริง สังขารมันแบกไม่ไหวแล้วน่ะ) เดี๋ยวนี้เขามารับของถึงที่แล้ว จิ้มบน Browser แล้ว Pack ใส่กล่องไว้เท่านั้นครับ
อีกความเห็นคือ ทั้ง UPS DHL USPS 4PX EMS และ AUP ทั้งหมดนี่ EMS สู้ได้หมดแล้ว (EMS มีทุกประเทศนะครับ) และราคาก็ถูกที่สุด ปัญหาล่าช้าจุดใดๆ ก็เหมือนกันทุกจุด ยกเว้น EMS จีนที่เดียว ที่แพ้รายอื่นแทบทุกจังหวัด
ขอลงชื่อยืนยันความช้าของไปรษณีย์จีนด้วยคนครับ ส่งแค่จดหมาย รอไปสามเดือนกว่าจะถึง นึกว่าทำหายไปแล้ว
ไปรษณีย์ผมว่าดีนะ เดี๋ยวนี้
ยังไม่เคยเจอปัญหาของหาย หรือของไม่ได้เลย ของเสียหายจากการส่งก็ไม่เคยเจอ
แต่เรื่องสั่งของจากต่างประเทศนี่ ยังไม่เคยมีประสบการณ์แหะ
ส่วนตัวผมว่ามันไม่ได้อยู่ที่ปัญหาเรื่อง Logistics ของสินค้านะครับ ผมว่าปัญหาจริง ๆ มันอยู่ที่การจ่ายเงินมากกว่า ที่แทบจะไม่มีอะไรเป็นหลักประกัน การซื้อของออนไลน์ส่วนใหญ่ในไทยโดยเฉพาะกลุ่มคนต่อคนเนี่ย มักจะไม่ค่อยรับบัตรเครดิต แต่ชอบวิธีฝากเงินเข้าธนาคารมากกว่า ซึ่งทำให้การซื้อของมันมั่นใจยากกว่าเดิม (บัตรเครดิตถ้าไม่ได้ของส่วนใหญ่แล้วบริษัทบัตรมักจะช่วยตามเรื่อง/รับผิดชอบ)
จริง ๆ เมืองไทยควรจะมีบริษัทตัวกลางที่ทำเรื่องนี้นะครับ อาจจะเป็นช่องทางตลาดเพิ่มเติมของธนาคารต่าง ๆ กับไปรษณีย์ไทยก็ได้ (ทำแนว PayPal นั่นล่ะแต่อย่า Exclusive สไตล์ทรู ๆ อย่าง True Money นะ)
@TonsTweetings
หลายคนคงยังไม่รู้จัก PaySbuy.com เค้ามีนานแล้วแบบ ebay ของไทยแค่คนไม่ค่อยรู้จัก คนวงการนี้น่าจะรู้จักหมด
ผมก็ไม่ชอบระบบบัตรเครดิต มันควรจะหักเงินตรงจากธนาคารมากกว่า
หรือระบบอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่หักเงินในอนาคต เราต้องมีเงินในจริงๆในปัจจุบัน
ใช้บัตรเดบิทที่เป็น Visa ก็ได้ครับ
ผมก็ทำแบบนั้น ผมเคยใช้ K-Web Shopping Card ไปสั่งซื้อของจากวง MUSE ที่ Shop Warner UK แล้วก็ส่งตรงมาถึงบ้านครับ
(โดยก็เอาบัญชีของผมผูกเข้ากับ K-Web Shopping Card ก็จะสามารถซื้อได้ หากราคาสินค้าที่ซื้อไม่แพงกว่าเงินที่มีอยู่ในบัญชี ส่วนในระบบ Payment ในหน้าเว็บสินค้า ก็เลือกเป็น Visa Credit ตามปกติ)
Visa Debit คือคำตอบครับ :)
ถ้าจำไม่ผิดมีบัตรเครดิตที่เราสามารถเอาเงินเข้าบัญชีเพื่อชำระค่าบัตรได้ทันทีโดยไม่ต้องรอครบรอบด้วยนะครับ
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
ผมไม่เห็น Debit ที่มีเลขรหัสใช้สั่งของทางเว็บได้อะจิ(รู้สึกมีแค่กสิกรเจ้าเดียวที่ทำได้)
จริงๆอาจจะมีแต่ผมไม่รู้ อันนี้ผมอาจจะหลังเขาอะนะ แต่ไม่เคยเห็นเลย
โอ่ว ... ร้านประจำของผมเลยนะเนี่ย หวังว่าคงมีบริษัทอื่นเข้ามาอุ้มต่อนะครับ
My Blog
ผมเข้าไปแล้วพบว่าหนังสือแพงกว่า kino บ้านเรา เผ่นกลับมาซื้อเมืองไทยเลยครับ - -"
lewcpe.com, @wasonliw
วู้วว ได้ความรู้ เลยยย
ผมว่า หนังสือเนี่ย เป็นหนึ่งในสินค้าที่ซื้อออนไลน์ได้ง่ายที่สุดแล้วนะ คือมันไม่จำเป็นต้องเห็นตัวสินค้าจริงๆ ไม่ต้องลองใช้, อาจจะลองอ่านบ้าง แต่เว็บขายหนังสือดีๆ เค้าก็มีให้ลองอ่านเยอะแยะ
ส่วนร้านหนังสือไทย.. ผมว่า ถ้าจะเจ๊ง ก็เจ๊งเพราะงานหนังสือนี่แหละ ฮ่าๆๆ
ปล. เคยอ่านบทความของสนพ. แห่งหนึ่ง ที่ไม่เข้าร่วมงานหนังสือ โดยระบุว่า งานหนังสือ ทำให้กลไกของร้านหนังสือเสียหาย ทำนองว่า เปิดโรงงาน ให้ผู้บริโภคไปซื้อไม่ผ่านตัวกลาง นานๆ ที ผมก็ว่าไม่เท่าไหร่ แค่บางคนเล่นไม่ซื้อหนังสือเลย ปีนึง ซื้อเฉพาะในงาน แล้วงานหนังสือในไทยก็มีบ่อยอีก พอๆ กะงานคอม -- (ผมว่ามันคืองานขายแกดเจทมากกว่า -*-)
iPAtS
สำนักพิมพ์ผีเสือสินะ
ผมจะยินดีมากถ้าการ์ตูนกับนิยายขายเป็น e-book เพราะมันกินที่มาก
แต่ถ้าหนังสือ text ผมชอบเป็นเล่มมากกว่านะ
ผมชอบอะไรที่สัมผัสได้ แบบหนังสือมากกว่าe-book นะครับมันได้ สัมผัสในแต่ละหน้ากระดาษกลิ่นกระดาษการวางเรียงในชั้นหนังสือการได้มองมันเหมือนเป็นสิ่งที่เราสะสมไว้เมื่อเวลามันผ่านไปนานซัก20-30ปีมันจะได้รู้สึกถึงความมีคุณค่าของมัน ซึ่ง E-book มันทำแบบหนังสือไม่ได้
คนไทยคงอีก 10-20 ปีครับ เพราะไม่เชื่อในการจ่ายเงินออนไลน์ครับ ถึง Generation หน้าก็ยังไม่เชื่อน่ะสิครับ ต้องรอโต รอเลี้ยงกันใหม่ ปรับกันใหม่่อีกครับ
ส่วน Borders เองจริงเลยครับที่หนังสือแพง แต่มีหนังสือดีๆเยอะครับ ผมนี่ซื้อ Borders ประจำเลยครับ ร้านของเค้าเองก็จัดสวยงามน่าเข้าน่าเดินเลือกหนังสือครับ คงจะน่าเสียดายทีเดียวครับหากจบเห่ไปครับ
ปล.ตอนนี้เมืองนอกสำนักพิมพ์ - ร้านหนังสือ - หนังสือพิมพ์ที่ไม่ตามโลกดิจิตัลเริ่มร่วงกันเป็นใบไม้ละครับ อยากเห็นแบบนี้เกิดในไทยเสียจริงๆเชียวครับ : )
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ