By: Blltz 
on 24 March 2011 - 05:39
Tags:
ไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นบริษัทยักษ์ใหญ่นำระบบ Augmented Reality (AR) มาใช้ แต่เมื่อใดก็ตามที่มีการใช้งาน AR ขึ้นมาก็มักจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจทุกครั้งไป อย่างเช่นครั้งนี้ที่บริษัทผลิตเครื่องดื่มชูกำลังรายใหญ่ของโลก และเป็นเจ้าของทีมกีฬาหลายทีมอย่าง Red Bull ได้เดินแผนการตลาดที่น่าสนใจด้วยการทำเกมรถแข่งสูตรหนึ่ง ที่สามารถใช้ระบบ AR เพื่อสร้างสนามแข่งจากกระป๋องเครื่องดื่ม Red Bull ได้ด้วยตัวเอง โดยสามารถปรับแต่งสนามแข่งได้ตามใจชอบ เพียงแต่ต้องใช้กระป๋องไม่น้อยกว่า 12 ใบเท่านั้น
ยังไม่หมดแค่นั้น ผู้เล่นยังสามารถอัปโหลดสนามแข่งของตัวเองเพื่อแข่งขันกันว่าใครจะเป็นจ้าวสนามที่ทำเวลาได้เร็วที่สุดอีกด้วย โดยสามารถเช็คได้จากเว็บไซต์ Red Bull Augmented Racing สำหรับเกมดังกล่าวมีให้โหลดเฉพาะแพลตฟอร์ม iOS เท่านั้น สามารถดาวน์โหลดได้ที่ iTunes ซึ่งแน่นอนว่าฟรี
ส่วนใครที่ยังนึกภาพไม่ออกว่าจะทำสนามแข่งยังไง ดูได้ที่วิดีโอท้ายข่าวครับ
ที่มา - The Next Web
เห็นแบบนี้แล้วน่าลองเอาไปสแกนกระป๋องกระทิงแดงจริงๆ ไม่รู้ว่าจะใช้ได้ไหม :P
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
ดูแล้วไม่เข้าใจตรงถ่ายที่ละกระป๋องนี่แหล่ะคับ ว่ามันสร้างสนามได้ยังไง รู้ได้ยังไงว่าเราวางไว้แบบไหน
ถ้าถ่ายทีเดียว 12 กระป๋อง ยังพอนึกออกว่ามันจะแสกน แล้วสร้างเป้นสนาม
ประมวลผลตอนเคลื่อนไหวมั้งครับ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ตามทิศของ "ห่วง" บนฝากระป๋อง?
Jusci - Google Plus - Twitter
น่าจะคล้ายๆ กับโปรแกรมถ่ายภาพพาโนรามาครับ ดูภาพว่าเคลื่อนไปทางไหนแล้วคำนวณมาเป็นมุมและระยะห่างระหว่างจุดของแต่ละกระป๋อง อาจจะอาศัยเข็มทิศช่วยนิดหน่อยเพิ่มความแม่นยำ
แต่ผมยังสงสัยว่ามันรู้ได้ไงว่ากระป๋องกระทิงแดง
ที่จริง Red Bull แปลตรงตัวก็ได้เลยนะว่ามันคือ กระทิงแดง ฮา :P
มันก็มาจากกระทิงแดงนี่แหละ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
จงใจครับ เผื่อมีคนไม่รู้จัก ฮ่า
Red Bull เป็นบริษัทของออสเตรเลีย ที่ซื้อแฟรนชายจากกระทิงแดง
ของ ออสเตรีย (Austria) ประเทศในทวีปยุโรปครับ
2ประเทศนี่แหละ ผมจำชื่อสลับกันอยู่เรื่อย เหอๆ
ต้องเข้าไปดูกรุ๊ปนี้ครับ อย่างฮา http://www.facebook.com/group.php?gid=219787778113
We Don't have Kangaroos n Austria
iPAtS
ไม่ใช่ซื้อแฟรนชาย แต่เป็นซื้อลิขสิทธิ์แล้วตั้งยี้ห้อใหม่ และร่วมทุนโดยมีผู้ถือหุ้นข้างมากก็คือเจ้าของคนเดิม
เจ้าของเดิมที่เป็นคนไทยเราก็ติด 1 ใน 3 ของคนไทยที่ติด top billionaire ของโลกนะครับ (อีก 2 ก็คุณเจริญเบียร์ช้างกับเจ้าของ cp)
ผมจะพิมพ์ว่าซื้อลิขสิทธิ์แล้ว แต่ชอบคำว่าซื้อแฟรนชายมากกว่า มันให้ความรู้สึกว่ายังของต้นตำรับยังเป็นของไทย
ไม่ได้ซื้อแฟรนไชส์ ไม่ได้ซื้อลิขสิทธิ์ -*-
เขาร่วมทุนกันตั้งบริษัทใหม่ที่ออสเตรีย หุ้นส่วนใหญ่ยังเป็นคนไทยเจ้าของเดิม แต่คนบริหารเป็นออสเตรีย
ถูกต้องที่สุดครับ
VDO อันที่สองมี TOYOTA เข้าฉาก 2 คัน
NY.CAP ใช้ Prius
Nascar ใช้ Camry
:)
Red bull หรือ กระทิงแดง ทั่วโลกยังเป็นของคนไทยครับ
Red Bull ฝรั่งซื้อไปทำตลาดต่างประเทศครับ ส่วนกระทิงแดงบริษัทไทยทำตลาด
ตามข้อมูลด้านล่างนะครับ
หุ้นคุณเฉลียว 49 % ฝรั่ง 49 % ลูกชายคุณเฉลียวอีก 2% ถ้าจำไม่ผิดนะ
เป้าหมายมีไว้พุ่งชน
ชอบ ภาพที่อยู่บนผนังแฮะ
Jusci - Google Plus - Twitter
ก็เป็นการตลาดที่น่าสนใจนะครับ เครื่องดื่มเมืองไทยแบรนด์ใหญ่ๆเกือบทั้งหมดทุ่มทำการตลาดแบบ Music Marketing กัน ซึ่งผมคิดว่าค่อนข้างน่าเบื่อและซ้ำซากมากๆครับ ก็คงมีแต่กระทิงแดงละมั้งครับที่ทำการตลาดเพิ่มในส่วนอื่นเข้าไปด้วย
ดีมากครับ เป้าหมายมีไว้พุ่งชน
เอาเป็นว่า ฝรั่งส่วนใหญ่รู้จัก Red Bull กันหมดก็แล้วกัน
พอมาเมืองไทย อะไรเนี่ยะ เครื่องดื่มชูกำลังเต็มไปหมด สุดท้าย หันมามองหน้าคนขาย แล้วก็ can i have some redbull :p
รู้สึกว่าฝรั่งส่วนใหญ่จะซื้อไปเป็นมิ๊กเซอร์ผสมเหล้านะครับ ตอนแรกก็รู้สึกแปลกๆที่ฝรั่งจะกินเครื่องดื่มชูกำลังแบบนี้
red blue เป็นเครื่องดื่มที่ช่วยรักษาอาการ jet lag ได้ครับ
เมืองนอกกิน red bull แล้วคู่ควรกับรถสปอร์ต เมืองไทย....สิบล้อ - -'
อิอิ ดูจาก packet ก็ต่างกันแล้วครับ
ตัวผลิตภัณท์ น่าจะเหมาะกับประเทศเมืองหนาว
ไม่นะครับ เด็กสอบเค้าก็กินกัน ที่เยอรมันกระป๋องละยูโรกว่า ๆ กินกันทีเหม็นคลุ้งไปทั่วห้อง
ห้ามดื่มเกินวันละ 2 ขวด โปรดอ่านคำเตือนบนฉลากก่อนดื่มทุกครั้ง
กระป๋องนึงไม่เกิน 2 ขวดหรือนั่น
แล้วซัดไป 12 ป๋องรับรองไม่หลับไป 6 วัน ^^
ปกติกินก่อนแข่งจักรยาน
แบบว่าอดนอนมา 24 ชั่วโมง ก่อนแข่งก็ซดไปสักกระป๋อง ตื่นได้ยันแข่งจบ ^^
พึ่งรุ้ว่ากินกระทิงแดงทำไห้หายง่วงด้วย เดี๋ยวลองเอามากินแทนกาแฟ
คาเฟอีนเต็มๆ ครับ, ไม่แน่ใจว่าอันไหนเยอะกว่า แต่ผมเป็นพวกไม่กินกาแฟ ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ซดกระทิแดงนี่แหละ จัดหนักไปเลย
iPAtS
แปลกๆนะครับ AR แล้วเหรอ ?