บริษัท Cycle Computing ได้เปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ภายใต้ชื่อ Tanuki ซึ่งมีจำนวนโปรเซสเซอร์รวมทั้งหมด 10,014 คอร์ มีหน่วยความจำชั่วคราวรวมทั้งหมด 8.6 เทราไบต์ และฮาร์ดดิสก์รวม 2 เพตาไบต์ ทั้งนี้ สมรรถนะโดยประมาณของ Tanuki นั้นใกล้เคียงกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์อันดับที่ 114 ของโลก ด้วยสมรรถนะการประมวลผลสูงสุดที่ 127.33 เทราฟลอป
เบื้องหลังการสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Tanuki นั้นมาจากบริการ CycleCloud ที่ตั้งอยู่บนบริการกลุ่มเมฆ Amazon EC2 อีกทอดหนึ่ง โดย Cycle Computing ใช้เวลาติดตั้ง Tanuki ภายใน 45 นาที เพื่อประมวลผลงานทางด้านวิทยาศาสตร์ของลูกค้าเจ้าหนึ่ง และใช้เวลาประมวลผลงานดังกล่าวทั้งสิ้น 8 ชั่วโมงก่อนที่จะปิดระบบ Tanuki โดยบริษัทคิดค่าเช่าระบบ Tanuki เป็นเงิน 1,060 เหรียญต่อชั่วโมง
ที่มา - Cycle Computing Blog ผ่านทางทวีตของ @Werner CTO ของอเมซอน
Comments
เป็นเงิน 1,060 เหรียญต่อชั่งโมง -> ชั่วโมง
คือตั้ง Server มาเพื่อรับเงิน 1,060 เหรียญต่อชั่วโมง x 8 ชั่วโมง แล้วก็ปิดระบบเหรอครับ? ถ้าใช่จริงๆ ก็นับว่ากล้าลงทุนมาก
แก้ไขแล้วครับ ขอบคุณครับ
ใช่ครับผม 1,060 เหรียญต่อชั่วโมง อย่างไรก็ดี สำหรับงานวิจัยบางงานที่มีการกำหนดเวลาเส้นตายมาบังคับและมีค่าปรับหรือต้นทุนเสียโอกาสที่แสนเจ็บปวด ลูกค้าเช่นนี้ก็กล้าจ่ายเงินก้อนนั้นอยู่ครับ บางบริษัทเขาก็ทำ cost-benefit analysis
หากวิเคราะห์ความได้เปรียบแล้ว ลูกค้าบางเจ้าเขาอาจต้องการซูเปอร์คอมเช่นนี้ในเวลาสั้นๆ (เช่น 8 ชั่วโมง จนถึงสัปดาห์กว่า หรือสองสามเดือน) หากเขาต้องลงทุนกับการซื้อซูเปอร์คอมเช่นนี้ อาจใช้เวลาติดตั้งนานหลายสัปดาห์และงบประมาณที่สูงกว่า 8 x 1,060 เหรียญ อีกทั้งต้องบำรุงดูแลรักษาระบบนี้อีกยาวนาน ซูเปอร์คอมใหญ่ระดับนี้มีค่าไฟมากใช่เล่นครับ โดยทั่วไปแล้วศูนย์ข้อมูลสำหรับซูเปอร์คอมเช่นนี้ มีค่าไฟที่เพิ่มมานอกเหนือจากการรันอุปกรณ์คอมมากกว่า 2 เท่า (ดูได้จากค่า PUE) ศูนย์ข้อมูลที่เยี่ยมจริงๆก็ทำได้ 1.3 เท่าครับ
My Blog
ผมเข้าใจว่าน่าจะถามว่า 1060 x 8 นี่รวมๆแล้วได้แค่ 8480 เหรียญเอง แล้วทาง Cycle เค้าอุตส่าห์ทำระบบขนาด 10000 คอร์แล้วได้ผลตอบแทนแค่ 8480 เหรียญ บ้าพลังเกิน :P
เท่าที่อ่านลวกๆ (อู้งาน) Cycle น่าจะเช่าระบบจาก Amazon อีกทีแล้วอาจจะแค่เซ็ตระบบให้รวมกันเป็น cluster ขนาด 10000 คอร์ล่ะมั้ง เพราะเห็นบอกติดตั้งแค่ 45 นาที หลักๆแล้ว Cycle น่าจะแค่ schedule-run-monitor job มากกว่า
ใช่ครับ CycleCloud ใช้ Amazon EC2 อีกทอดหนึ่งครับ ใช้ script ของ python หรือโค้ด java ไม่ถึงร้อยบรรทัดก็สร้างเซิร์ฟเวอร์ขนาดนี้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ถ้าไปติดตั้งเซิร์ฟเวอร์จริงๆก็หลายวันอยู่ครับ
ส่วนผลตอบแทน 8,480 ก็ไม่น่าจะเป็นกำไร 8,480 เหรียญ หากแต่ต้องหักรายได้ส่วนหนึ่งให้กับการเช่า EC2 ครับ แต่ Cycle Computing เขาอาจจะเหมาซื้อ Reserved Instance ที่ให้กำไรได้มากขึ้น มากกว่า 1.5 เท่าต่อเครื่อง (สำหรับค่าเช่า Reserved Instance หนึ่งปี) เมื่อเทียบกับ On-demand Instance แล้วก็ขนมาขายปลีกอีกทีครับ จากนั้น Cycle Computing เขาก็คิดค่าบริการเพิ่มจากบริการ CycleCloud ที่แนบ scheduler + monitor ครับผม
My Blog
ผมอาจเข้าใจคำถามผิด ... ตอบคุณ PaPasek อีกนิด คือ เขาสร้างมา 8 ชั่วโมงแล้วก็ปิดครับ แต่เขาไม่ได้เปิดเผยว่าทำลาย (terminate) หรือเปล่า? ตอนปิดเครื่อง (shutdown) จะไม่มีค่า CPU-hour มีแต่ค่า storage สำหรับเก็บ image และข้อมูลครับ ถ้าไม่มีลูกค้ามาใช้บริการจนถึงระดับที่ Cycle ดูแลไม่ไหว เขาก็คงปิดครับ แต่อาจจะเป็นฝ่ายลูกค้ายอมจ่ายค่าบำรุงระบบเองในระหว่าง shutdown ก็ได้ครับ (ในข่าวไม่ได้ระบุ)
My Blog
ผมสงสัยว่าเค้าคำนวนอะไรที่ต้องใช้เครื่องเสปกบ้าพลังขนาดนั้นตั้ง 8 ชม. ใครมีความรู้ด้านนี้ช่วยบอกผมหน่อยครับ ^ ^
จากแหล่งข่าว เขาบอกว่าเป็นโปรแกรมประเภท life science งานหนึ่ง ซึ่งผมก็ไม่มีความรู้ทางด้าน life science แต่ผมอ่านสรุปมาได้ว่า ผลที่ได้จะนำไปสู่การค้นหาวิธีรักษาโรค ซึ่งจากแหล่งข่าวเขาไม่ได้เปิดเผยว่าโรคอะไร
สำหรับคำถามที่ว่า "การคำนวณดังกล่าวทำไมต้องใช้ระบบสเปคเทพเช่นนี้" ก็เนื่องมาจาก ความเป็นไปได้ของการหาวิธีรักษาโรคมีเยอะมาก อีกครั้งว่าผมไม่ได้ชำนาญด้าน life science แต่เอาเป็นว่า ถ้าจำนวนข้อมูลเข้า (input) มีเยอะมากมหาศาล ยกตัวอย่างแบบหยาบๆ เช่น จำนวนชนิดตัวยา x จำนวนโครงสร้างของตัวนำโรค x จำนวนโครงสร้างสูตรยา x จำนวนวิธีรักษา เป็นต้น และสมมติ input หนึ่ง input ใช้เวลาประมวลผล 10 นาทีด้วยโปรเซสเซอร์ 1 หน่วย ดังนั้น ถ้ามีล้าน input ก็ใช้เวลา 10 ล้านนาที หรือมากกว่า 166,000 ชั่วโมง ถ้าหากโรคดังกล่าวต้องการได้รับการรักษาโดยเร่งด่วนหรือเพื่อยืดชีวิตอีกหลายปี การลงทุนกับ 8 ชั่วโมงก็คุ้มค่าอยู่ครับ
My Blog
+1 สุดยอด เลย คับ !!!
+1 อ่านแล้วเข้าใจง่ายดี
ขอบคุณครับเห็นภาพขึ้นเยอะเลยครับ
อยากเอามาเล่น footbal manager แบบเปิดทุกลีคจัง - -
เพื่อ?
สนุก มัน สะใจ รายละเอียดเด็ม ๆ
ลายเซ็นยาวเกินไปครับ
เห็นพาดหัวแล้วเดาได้เลยว่าใครเขียน แหะๆ
+1 แค่อ่านแว็บเดียวก็รู้เลยว่าใคร ห้าๆๆ
ดูได้ เงินน้อยจัง
เอาzip file น่าจะเร็วดี น่ะ
ขอสงสัยนอกเรื่องนิดนึงนะครับว่าบริการของ Amazon EC2 เขาเตรียมความพร้อมไว้ขนาดไหนครับเนี่ย รองรับลูกค้าเจ้าใหญ่ๆ แบบนี้ได้มากขนาดไหน
ผมไม่ทราบแน่ชัดครับ เพราะเป็นความลับของอเมซอนด้วย จริงๆผมก็อยากทราบคำตอบเหมือนกัน ผมเองเคยถามตัวแทนของ AWS ที่สิงคโปร์ว่ามีเซิร์ฟเวอร์กี่เครื่อง (เพราะผมจะเอาตัวเลขนี้ไปใช้ในงานวิจัย) แต่เขาก็ไม่ตอบ แต่เขาบอกผมว่า เขามีวิธีบริหารจัดการส่วนนี้ ซึ่งคงจะเหมือนกับ capacity expansion planning ที่ทำกันในโรงงานไฟฟ้าครับ
อย่างไรก็ดี ตามค่าปริยายของการสร้าง EC2 Instance (หรือเซิร์ฟเวอร์ใน Amazon EC2) เขาระบุไว้ในเว็บว่า แต่ละ account สามารถสร้าง instance ได้เพียง 20 On-demand Instance หรือ Reserved Instance หรือ 100 Spot Instance ครับ หากต้องการสร้าง Instance ที่มากกว่าจำนวนนี้ก็ทำได้ แต่ต้องกรอกแบบฟอร์มร้องขอส่งไปที่อเมซอน [อ้างอิง] ซึ่งผมคาดเดาว่า การกำหนดเพดานดังกล่าว จะช่วยให้การทำ capacity expansion planning ทำได้มีประสิทธิภาพขึ้นนั่นเองครับ อย่างน้อยก็ดูการแกว่งของความต้องการจากลูกค้าได้ระดับนึงเพื่อจัดเตรียมทรัพยากรให้พอกับความต้องการ
แต่หากกล่าวถึงความพร้อมในแง่คุณภาพการให้บริการ ถ้าเป็น EC2 ก็อยู่ในระดับ 99.95% ครับ แต่ Amazon S3 ให้ได้สูงสุดคือ 9 ทั้งหมด 11 ตัวครับ
My Blog
Thank you สำหรับความรู้ดีๆครับ
ช้าหรือเปล่าเนี้ย
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เอามาเล่น Counter strike
คิดได้แค่นี้หรือครับ ระบบเป็นล้านๆ ค่าเช่าคิดเป็นชม.จะเอามาเล่นเกมส์ที่มีแต่เกรียนเล่นแบบนั้นเหรอครับ
นี่เลยครับ Solitare กร๊ากกกกกก
...เอามาเล่น pong
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
ผมยกเกมนี้ให้
May the Force Close be with you. || @nuttyi
"The requested URL /full-4069/Tetris-HD was not found on this server."
?