เว็บไซต์เกมชื่อดัง Kotaku.com ได้เผยบทสัมภาษณ์ของคุณ Bruce Schneier ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านความปลอดภัยและเป็นนักถอดรหัสที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งในวงการ
คุณ Schneier กล่าวว่าการถูกโจมตีของ Sony ในครั้งนี้ ก็เป็นเพียงแค่การถูกเจาะระบบอีกครั้งหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว
เมื่อทาง Kotaku ถามไปว่าคิดเห็นอย่างไรกับการถูกเจาะระบบของ Sony มีความผิดพลาดในการระบบรักษาข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าตรงไหนหรือเปล่าถึงได้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้นั้น คุณ Bruce กลับตอบว่า
“ที่ถามนั่นหมายความว่ายังไงครับ? มีด้วยหรือครับ สถานที่ที่ปลอดภัยจริงๆน่ะ”
คุณ Schneier บอกว่า ไม่มีระบบใด ที่ปลอดภัยอย่างแท้จริงเลย และเราทุกๆคนก็ต้องระลึกถึงความเป็นจริงนี้ไว้เสมอ แม้ว่าบริษัทต่างๆ จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เรามีมาตรการรักษาข้อมูลของลูกค้าระดับดีเลิศที่สุด” หรือ “ข้อมูลของลูกค้าเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง” ก็ตามที
คุณ Schneier ได้กล่าวต่อ “โชคไม่ดีก็คือ สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่นี้นั่นก็เพราะคนเราให้ความไว้วางใจที่จะให้ข้อมูลส่วนตัวของเรากับบริษัทต่างๆอย่างไม่ลืมหูลืมตา (blindly trusting them) ทั้งธนาคารเอย บริษัทเครดิตเอย ผู้ให้บริการโทรศัพท์เอย Amazonเอย หรือ Sony คือเราไว้วางใจว่าบริษัทใหญ่ๆเหล่านี้จะใช้ข้อมูลของเราเหล่านั้นอย่างเหมาะสม และก็จะรักษาข้อมูลเหล่านั้นไว้อย่างแน่นหนาด้วย ซึ่งถ้าพูดกันจริงๆ แล้ว เราไม่รู้เลยว่าบริษัทเหล่านั้นทำ/หรือมีมาตรการอย่างไรกับข้อมูลของเรา แล้วพอถึงเวลาวันดีคืนดี เกิดบริษัทนั้นวิบัติขึ้นมา เราก็ทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ ” (เพราะเราเป็นคนเต็มใจให้ข้อมูลส่วนตัวกับเค้าไปเองแต่แรก : ผู้แปล)
แต่ถึงอย่างนั้น คุณ Schneier ก็ได้ตบท้ายว่า “แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น คนส่วนมากก็ปลอดภัยไม่มีปัญหาอะไรนะครับ คุณก็ยังโอเคอยู่ ผมก็ยังโอเค ผมเองก็ชอปปิ้งออนไลน์ตลอดเวลา ทำธุรกรรมออนไลน์ด้วย มันมีตัวเลือกอื่นด้วยรึไงล่ะ?”
ถ้าจะให้ผมสรุป ผมคิดว่าคุณ Schneier กำลังจะบอกว่า ธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ตในยุคนี้มันก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ไปแล้ว(ที่เราจะต้องมี จะต้องใช้ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน) ซึ่งโดยปกติแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เราก็ต้อง ”เตรียมใจ” ไว้เสมอ ว่าเหตุไม่คาดคิดนั้นเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ โดยไม่เลือกวัน เวลา และสถานที่
เพราะไม่มีระบบใดๆ ที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง อะไรๆ ที่ว่าแน่นอน มันก็อาจไม่แน่นอน
ที่มา : Kotaku
ภาพจาก : Wikipedia
เกร็ด : คุณ Schneier ยังเป็น Internet Meme อีกด้วย เนื่องมาจากความสามารถในการถอดรหัสของเขา โดยชาวอินเทอร์เน็ตได้เอาเขาไปเปรียบกับนักแสดงหนังบู๊ที่ถูกอินเทอร์เน็ตนำมาล้อเช่นกันอย่าง Chuck Norris ดังนั้นเราจะเห็นข้อความ "ชาบู" ตลกๆ อย่าง "Most people use passwords. Some people use passphrases. Bruce Schneier uses an epic passpoem, detailing the life and works of seven mythical Norse heroes." สนใจอ่านเพิ่มเติม ไปได้ที่ Schneierfacts ครับ
Comments
passpoem? โห ตัวพ่อเลยแฮะ
แต่ที่อ่านนี่เหมือน wake-up call เลยแหละ สงสัยเราเองอาจจะต้องระวังข้อมูลมากกว่านี้
นึกถึงตอนทำโปรเจกท์อยู่ พิมพ์ passphase ภาษาไทยบนแป้นอังกฤษยาวประมาณ 44 ตัวทุกครั้งที่ login windows ยังขี้เกียจเลยครับ แต่จะไม่ทำก็ไม่ได้ ดันอยู่ห้องวิจัยเรื่องความปลอดภัย hacker เกือบทั้งห้อง แถมบางคนนี่ล่อไปเกือบ 100 ตัว ต่อให้เห็นมันพิมพ์ก็จำไม่ได้ว่าพิมพ์อะไรไป
บทสวดมนต์รึเปล่าครับ
พิมพ์ผิดทีแทบจะตบหน้าผากตัวเองดังฉาดกันเลยทีเดียว
โอ้...แบบนี้ passpoem ก็อาจไม่ใช่แค่เรื่องขำๆแล้วสิ อิอิ
แต่กลัวจำ passphase ไม่ได้ เลยจดไว้แล้วแปะหน้าคอม :P
น่าเอาไปลง Computer Security Best Practices
อยากให้ปลอดภัยก็ต้องเก็บข้อมูลลงในกระดาษแล้วยัดใส่ตู้เซฟ
ระวังโดน inception นะครับ :P
ระบบคอมพิวเตอร์ที่ปลอดภัยคือระบบที่ไม่มีการเชื่อมต่อกับเครือข่าย ผ่าง !!!
... เข้ามาเสียบ usb linux แล้วดูดข้อมูลไปเงียบๆ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
มันยกไปทั้งเครื่องเลยครับ ที่รองเมาส์ รองเท้าแตะที่ถอดเอาไว้ใต้โต๊ะมันก็เอา
ฮาครับ
จริงๆ แล้วก็เหมือนข่าวบอกครับ มันไม่มีอะไรที่ปลอดภัยจริงๆ หรอก
การรักษาความปลอดภัยจริงๆ แล้วมันเหมือนกับมาตรการลดความเสี่ยงมากกว่า มันต้องมีแผน A แผน B แผน C ... N รองรับ ยิ่งซับซ้อนก็ (น่าจะ) ยิ่งปลอดภัย
เหมือนที่ผมแซวเล่นก็เพราะมันเป็นแบบนั้นจริงๆ PC หนึ่งเครื่องของผู้บริหารอยู่ในห้องล็อกประตูอย่างดี ระบบปฏิบัติการมี Password ยาว 256 ตัวอักษรป้องกันไว้ บลาๆๆๆๆๆ
พอถึงเวลาโจรมันทุบหน้าต่างมาจากด้านหลัง หิ้วคอมฯ ไปทั้งเครื่อง
จบข่าว
ปล.เหตุการณ์สมมติ
ฮ่าๆๆ
บ.ของ Kotaku ก็เคยโดนยกฐานข้อมูลไปปล่อยอ่าวโจรสลัดยกชุดเหมือนกัน..
ผมต้องมานั่งไล่เปลี่ยน password แทบตาย...
Sony เจ็บตรงที่รู้แล้วกักไว้ไม่บอกทั้งสัปดาห์ ...
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ถ้าอยากปลอดภัย ต้องร่ายมนต์ ป้องกันอีกที เทคโนโลยีต้องคู่กับ ไสยสาตร์
ขนาดเจ้าแห่งศาตร์มืดโวลเดอมอลล์ยัง ถูกทำลายฮอคลัก นับประสาอะไรกับมนุษย์เดินดิน
ยะ..ยะ..อย่าพูดชื่อนั้นให้ฉันได้ยิน !!!
เปลี่ยน มนุษย์ เป็น มักเกิ้ล ดีกว่านะครับ :P
สิ่งที่บริษัทควรทำคือ อย่าหาเรื่องกับ hacker และควรหา hacker มือดีมาเป็นพวกตะหาก นั่นล่ะ ปลอดภัย
We need to learn to forgive but not forget...
ช่าย ประเด็นคือดันไปแหยมกับ geohot จนถูกแฮ็คเกอร์ประกาศสงคราม เรียกว่าชักศึกเข้าบ้านโดยแท้ แทนที่จะทำแบบบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่งที่รับแฮ้คเกอร์เข้ามาทำงานซะเลย
กฎหมายไม่มีประโยชน์ อยากปลอดภัยก็ต้องจ่ายค่าคุ้มครอง ยังไงยังงั้น
My iOS apps
My blog
แค่ให้เกียรติกันบ้างก็พอ อย่าท้าทายให้เกิดความหมั่นไส้
กฏหมายคุ้มครองคนจากสัตว์ป่าได้รึเปล่าครับ
อย่างมากก็ได้แค่ให้ตำรวจมาช่วยยิงสัตว์ทิ้ง
คนต้องหาทางป้องกันตัวเอง สร้างบ้าน สร้างรั้ว
กฏหมายมันมีไว้จับกุม ลงโทษ ไม่ใช่มีไว้ป้องกันสิ่งที่ยังไม่เกิด
คุณเข้าใจอะไรผิดไปซักอย่างแน่ๆ
ผมนึกว่ากฎหมายมีไว้ลงโทษคนผิดซะอีก ? แบบนี้ทุกคนควรพกปืนหรือเปล่าครับ
My iOS apps
My blog
แล้วผมพูดอะไรผิดครับ
ผมก็พูดว่ากฏหมายมีไว้ลงโทษคนผิดเหมือนกัน
กรณีนี้ กฏหมายมีหน้าที่แค่จับแฮคเกอร์ที่ลงมือให้ได้
แต่ให้มาสะเออะป้องกันการแฮคก่อนที่จะเกิด มันทำไม่ได้หรอก
การพกปืนมันไม่ใช่การป้องกัน การป้องกันคือการสร้างบ้าน กุญแจ กับดักต่างๆ
กฏหมายก็เหมือนกัน มันคือปืนที่มีไว้ยิงคนที่ลงมือกระทำผิด ไม่ใช่กุญแจที่ป้องกันอะไรๆได้
การเลี้ยงโจรไว้ช่วยจับโจร ก็คือการป้องกันแบบหนึ่ง เปนอุปกรณ์อีกรูปแบบ
ตำรวจก็ใช้สาย นอกเหนือไปจากกฏหมายกับปืน
บริษัทหลายๆบริษัทก็ใช้แฮคเกอร์มาออกแบบระบบ หรือบางทีออกแบบระบบแล้ว ก็จ้างแฮคเกอร์มืออาชีพมาทดสอบแฮคระบบดู ถ้าโดนเจาะได้ก็ไปออกแบบใหม่
ผมถึงสงสัยว่าคุณเข้าใจอะไรผิด และดูเหมือนคุณจะเข้าใจอะไรซักอย่างผิดจริงๆ
สูดลมหายใจลึกๆแล้วทบทวนดูอีกทีนะครับ
ผมยังไม่ได้บอกว่าคุณผิดเลยนี่ครับ แต่ความคิดของผมผิดหรือเปล่านั้นผมไม่ทราบครับ
ผมแค่คิดว่า sony มีการป้องกันของเค้าอยู่แล้วดีหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่การที่มีคนมาทำผิด แล้วบอกว่าดันไปหาเรื่องกับ hacker เองสำหรับผมมันก็ดูแปลกๆเหมือน sony ผิดยังไงยังงั้น
ถ้าไม่มีกฎหมายผมว่ากำแพงจะดีแค่ไหนโจรก็เข้าได้ครับ กลับกันถ้ากฎหมายดีมีการบังคับใช้ไม่ต้องมีกำแพงยังได้เลยครับ
My iOS apps
My blog
ผมถึงเทียบกับสัตว์ป่าไงครับ
กฏหมายดีแค่ไหนมันก็ไม่ได้กันสัตว์ป่าได้
คนบางคนทำอะไรลงไปไม่ได้คิดถึงผลได้ผลเสีย
แถมบางทีกฏหมายมันงี่เง่า โดนคนท้าทายอีกต่างหาก
กรณีนี้ก็เช่นกัน โซนี่หวังใช้กฏหมายในทางงี่เง่า มาเล่นงาน Geohot แบบงี่เง่าๆ
พวกแฮคเกอร์ที่ต้องการล้างแค้น+สั่งสอน มันก็ไม่ได้คำนึงถึงกฏหมายอยู่แล้ว
ที่มันง่ายซะยิ่งกว่าคือ ต่อให้มีการบังคับใช้จริง กฏหมายดีจริง
แต่ถ้าจับไม่ได้ ก็เท่านั้น
"ถ้ากฎหมายดีมีการบังคับใช้ไม่ต้องมีกำแพง" ผมไม่ค่อยแน่ใจว่ามันมีอะไรพิสูจน์
ปรัชญาจีนเขาว่า ยิ่งมีกฏหมายมากเท่าไหร่ ยิ่งมีโจรมากเท่านั้น
Sony ป้องกันตัวเองจากการถูกละเมิดทำให้สูญเสียรายได้จากผลิตภัณฑ์ของตัวเองนี่เรียกว่างี่เง่าหรือครับ?
ผมว่าคุณดูถูกกฎหมายมากเกินไปโดยเฉพาะกฎหมายที่ผ่านการร่างผ่านระบอบประชาธิปไตย เพราะนั่นหมายถึงกฎหมายฉบับนี้ผ่านการกลั่นกรองโดยตัวแทนของประชาชนส่วนมากมาแล้ว จะมองว่าดีไม่ดีก็เป็นเรื่องส่วนบุคคลแต่นั่นคือสิ่งที่สังคมส่วนใหญ่ยอมรับและผู้กระทำผิดกฎหมายก็ต้องได้รับโทษตามที่ระบุ
คุณอาจจะมองว่า Geohot มีสิทธิ์ค้นคว้าและกระทำทุกอย่างกับของที่ตัวเองซื้อมาแต่ผมว่ามันไม่ใช่แบบนั้นในทุกกรณี
ถ้ามีคนทำ clip สอนการทำระเบิดจากวัสดุที่หาซื้อได้ทั่วไปในท้องตลาดบน youtube แล้วมีคนทำไปเลียนแบบใช้ก่อการร้ายมีคนเสียชีวิตมากมาย คุณว่าคนที่ post clip นั้นผิดหรือไม่
ถ้ามีคนซื้อระบบป้องกันขโมยติดตั้งตามบ้านมาใช้เอง นำมาวิเคราะห์จนค้นพบช่องโหว่ที่จะทำให้การป้องกันนั้นล้มเหลว จากนั้นก็เผยแพร่ข้อมูลนี้บน internet ให้หลายคนได้เรียนรู้จนทำให้บ้านอื่น ๆ อีกหลายหลังที่ซื้อระบบนี้ไปใช้ไม่มีความปลอดภัยจากระบบนี้และมีสิทธิ์ถูกขโมยขึ้นได้มากขึ้น (เพราะไม่มีมาตรการการป้องกันอื่น ๆ เมื่อเทียบกับบ้านที่ไม่มีระบบนี้ เช่น เหล็กดัด) คุณว่าคนนี้ผิดหรือไม่
การมีสิทธิ์ค้นคว้าในสิ่งที่ตัวเองซื้อมาผมว่ามันเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่การเผยแพร่ช่องโหว่ของทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นโดยเจตนานั้นเป็นการละเมิดสิทธิ์
ผมว่า Geohot สมควรแล้วที่จะถูกฟ้องตามกระบวนการกฎหมาย
hacker ก็มีทั้งคนที่มีวุฒิภาวะที่ดีและไม่ดี ผมว่ากรณีนี้ถ้า hacker ที่ hack Sony ทำไปเพราะความหมั่นไส้ในสิ่งที่ Sony ทำกับ Geohot ผมว่ามันก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กช่างกลที่ยกพวกไปรุมทำร้ายคน ๆ หนึ่งเพียงเพราะคนรู้จักของตัวเองนั้นไม่ชอบขี้หน้าคน ๆ นี้
การกระทำแบบนี้มันเป็นแค่การกระทำแบบเด็ก ๆ เอาแต่ใจที่ปกป้องพวกพ้องด้วยวิธีที่ผิด ๆ เท่านั้น
That is the way things are.
ในฐานะที่ผมเคารพศรัทธาระบอบประชาธิปไตย ก็ต้องขอพูดว่า ความคิดผม ประชาธิปไตย มันไม่ได้มีแค่กฏหมาย
หลักการประชาธิปไตย กฏหมายเปนแค่กลไก ส่วนประกอบ ปัจจัยหนึ่ง ก็เท่านั้น
กฏหมายไม่ใช่ทางแก้ทุกอย่าง มันก็มีขอบเขตของมัน และไม่ควรจะเอามาใช้มากไปกว่านั้น
ถ้าถามผม คนที่โพสท์คลิปนั้น ไม่มีความผิดใดๆทั้งสิ้น
ควรได้รับคำยกย่องด้วยซ้ำ ที่อุตส่าห์เอาอุปกรณ์บ้านๆ มาแสดงให้ดูว่ามันมีอันตรายแค่ไหน แทนที่จะเอาไปใช้เอง
มันก็แค่ปฏิกิริยาเคมี ไม่งั้นนักวิทยาศาสตร์ที่ตีพิมพ์วารสารเกี่ยวกับปฏิกิริยาระเบิดร้ายแรง หาได้ในห้องสมุดทั่วไป ต้องโดนปรับทุกคน เหรอครับ?
สัญญาณกันขโมยก็เหมือนกัน การที่มีคนนึงแฮคมันได้แล้วเผยแพร่ มันก็ชัดเจนว่า ดีไม่ดีจะมีโจรเปนร้อยร่วมมือกันแฮคมันได้ไปก่อนนานแล้ว
การที่คนๆนี้เอามาโชว์ให้คนอื่นดูมันคือการเตือนคนอื่นอย่างชัดเจนว่าให้เตรียมระวังป้องกัน
ถ้าคิดแบบตรรกะของคุณ การที่นักยูโดมาสาธิตท่าทุ่มคน แล้วเพิ่มท่าที่อันตราย บอกว่าต้องระวังไม่ให้เข้าท่านี้ เพราะคู่ต่อสู้อาจถึงตาย ก็ควรโดนจับทันทีเพราะคนที่ดูอาจเอาไปใช้ทุ่มคนตายได้ งั้นสิ?
การเผยแพร่สิ่งที่ค้นคว้าได้คือเรื่องดีหรือไม่ดี มันมองได้หลายมุม
ผมก็ขอพูดอีกครั้งว่า ผมไม่เคยเข้าข้างโซนี่ ถ้าโซนี่ไม่กำหนด EULA ก่อนซื้อ ว่าห้ามแฮค ห้ามเผยแพร่วิธีแฮค ไม่งั้นจะดำเนินคดี เพราะมั่นใจนักหนาว่าไม่มีใครแฮ็คได้แน่นอน
ก็สมควรแล้วที่จะเอาผิด GeoHotz ไม่ได้
และขอพูดอีกครั้งว่า ผมก็ไม่เคยคิดเลยว่าการกระทำของแฮคเกอร์ที่ทำครั้งนี้มันถูก
แต่ในเมื่อโซนี่เองที่ไม่มีวุฒิภาวะ ขี้โม้ อีโก้ อวดเก่ง เกรียนแตก ไปยั่วยุพวกนี้เอง ประมาทเอง
มันก็ไม่มีค่าจะเห็นใจ
ผมถึงได้เปรียบเทียบกับสัตว์ป่า ถ้าไม่ไปซ่าในถิ่นมัน ก็ไม่โดนมันขวิดตาย
ขาไปแบกปืนกระหยิ่มยิ้มย่อง กะไปล่าเต็มที่ แล้วยิงพลาดเลยโดนมันไล่กระทืบตอนหนีกลับ จะมาอ้อนวอนอะไรหรือ
ก่อกำแพงดินหนาแข็งกลางป่า แล้วขึ้นไปหัวเราะร่า เบ่งทับว่ากรูนี่ล่ะเจ้าป่า
โดนช้างตกมันวิ่งชนพังเรียบ ตัวเองโดนเหยียบตาย
ผม ก็สมน้ำหน้า สิครับ
สุดท้าย
ผมไม่เคยคิดว่า ต้องไม่ดำเนินคดีกับ GeoHotz
แต่ถามว่า ในทางกฏหมาย การกระทำนี้ผิดจริงหรือเปล่า?
ศาลก็ไม่ได้ตัดสิน ตัดสินกันเองทั้งนั้น
และสำหรับ Hacker ก็ควรดำเนินคดีไปให้ถูกต้องตามกฏหมาย
สัตว์ป่าไล่กระทืบคน เราก็ต้องเอาปืนยิงสู้
แต่ถามว่า มันคุ้มมั้ยล่ะ? ใครควรรับผิดชอบล่ะ?
ผมว่า SONY น่ะควรโดนด่าที่สุด
แล้วขอบเขตที่ควรนำมาใช้ของกฎหมายใครควรเป็นคนระบุครับ? คุณอย่างนั้นหรือ? ผมว่าการทำไปตามกลไกที่ตั้งขึ้นมาโดยคนส่วนใหญ่ของสังคมนั้นเป็นการกระทำที่ fair ที่สุดแล้วครับ
ที่ผมยกตัวอย่างเรื่องระเบิด ไม่ได้บอกว่าเป็นอุปกรณ์บ้าน ๆ นะครับแต่เป็นอุปกรณ์ที่หาซื้อได้ เช่น นำ nitrogen มาจากครีมแก้เคล็ดขัดยอกจำนวน 500 หลอด ซึ่งคงไม่ใช่วิถีการใช้งานทั่ว ๆ ไปนะครับ สำหรับนักวิทยาศาสตร์ก็เช่นเดียวกัน การเผยแพร่ผลงานทางวิทยาศาสตร์ทำออกมาในเชิงวิชาการ ใช้สัญลักษณ์ทางวิทยาศาสตร์ สูตรเคมี ไม่ได้บอกเป็นผลิตภัณฑ์ที่หาซื้อได้ว่าต้องไปซื้อที่ไหนอย่างไรจำนวนเท่าไรจึงจะให้ผลแรงอย่างที่ต้องการ เจตนามันคนละอย่างกันครับ
เรื่องสัญญาณกันขโมย ถ้าอยากจะช่วยประชาชนคนอื่นจริงก็ควรเผยแพร่คำเตือนแต่ไม่ต้องระบุวิธีการที่ชัดเจนก็ได้ครับ พร้อมทั้งแจ้งเตือนไปยังเจ้าของผลิตภัณฑ์ให้ปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่อง มันไม่จำเป็นต้องมาชี้โพรงให้กระรอกสอนกันเป็น step by step ออกสื่อแบบนั้น
ผมว่าการเผยแพร่ข้อมูลเพื่อส่งเสริมการละเมิดสิทธิ์หรือทำร้ายผู้อื่นทางอ้อมโดยเจตนานั้นเป็นการกระทำที่แย่และสมควรถูกเอาเรื่องตามกฎหมายอยู่แล้วครับ
That is the way things are.
แล้วขอบเขตที่ควรนำมาใช้ของกฎหมายใครควรเป็นคนระบุครับ? ไม่ใช่ผม แล้ว คุณอย่างนั้นหรือ?
ไม่ใช่สังคมด้วยครับ สิ่งที่ต้องระบุขอบเขตของกฏหมาย มันก็คือตัวกฏหมายเอง
เวลากฏหมายมีปัญหา มันก็มักเกิดจากกฏหมายไม่ชัดเจน ต้องตีความ แบบกฏหมายไทย
แล้วกะอีแค่ไนโตรเจนทำระเบิด หมักปุ๋ยคอกกับซากสัตว์ก็ได้มาแล้วครับ การที่มีคนเผยแพร่ข้อมูลนี้ยิ่งจะทำให้จับพิรุธได้ง่ายขึ้น อยู่ๆใครบ้ามาซื้อครีมแก้เคล็ดขัดยอกไปเปนลังๆ ทั้งที่ไม่เคยซื้อ ก็เก็บข้อมูลได้เลยว่าไอ้นี่น่าสงสัย
คุณจำได้มั้ยเรื่อง GT200 อ.เจษฎา ก็บอกว่า แอบเตือนกองทัพแบบลับๆไปก่อนแล้ว
แล้วเปนไง ดองเรื่องเงียบหาย เพราะทหารขี้เกียจจะใช้งบไปกับเรื่องนี้
พอ อ. แกเอามาเปิดโปงว่ามันแหกตาก็ดิ้นกันใหญ่ หาว่าจะทำให้โจรใต้รู้แกวว่าเราใช้ของปลอม
อ้างเปนกลยุทธ์บ้าบอไปโน่น น่าสมเพช
เรื่องนี้ก็ไม่ต่างกัน ดิ้นกันใหญ่ว่าจะทำให้ Hacker เจาะช่องโหว่นี้มากขึ้น
โถ แฮคเกอร์ที่เก่งกว่า GeoHotz ไม่มีแล้วรึไงโลกนี้ แล้วไอ้พวกนี้มันไม่แอบบอกต่อกันเลยรึไงไม่ทราบ
ผมมั่นใจว่าแผ่นปั๊ม PS3 ออกมาก่อนที่ GeoHotz จะเอามาแฉแน่ๆ
ก่อนอื่นผมต้องอธิบาย term ให้ชัดเจนเพื่อที่เวลา quote จะได้เข้าใจอย่างถูกต้องนะครับ
"กลไกที่ตั้งขึ้นมาโดยคนส่วนใหญ่ของสังคม" ในทีนี้ผมหมายถึงกระบวนการการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งมิได้มี scope เดียวกันกับคำว่า "สังคม" ที่คุณใช้ใน reply นี้แต่อย่างใดเพราะคำว่าสังคมนั้นตีความได้กว้างมากกว่ามากและอาจมีความหมายได้หลายแง่มุมขึ้นอยู่กับบริบท
กฎหมายนั้นออกโดยประชาชนในสังคมและทำมาเพื่อใช้กับประชาชนในสังคมครับ ตัวอักษรทุกตัวที่อยู่ในกฎหมายทุกมาตราในประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยนั้นล้วนแล้วแต่ถูกกำหนดโดยคนในสังคมครับ ไม่ใช่ทางตรงแต่เป็นทางอ้อมผ่านตัวแทนของประชาชน ดังนั้นในนัยหนึ่งไม่ว่าอย่างไรสังคมก็เป็นคนระบุขอบเขตของกฎหมาย และนั่นก็คือวัตถุประสงค์ของการสร้างกฎหมายขึ้นมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ส่วนการบังคับใช้นั้นก็แล้วแต่แนวทางของแต่ละประเทศ หากเป็นสหรัฐอเมริกาการตัดสินคดีความต้องใช้ประมวลกฎหมายควบคู่กับแนวทางการพิจารณาคดีในอดีตและตัวแทนประชาชนของสังคม (ลูกขุน) แต่ในประเทศไทยก็ใช้แค่การตีความตามตัวอักษรจากประมวลกฎหมายเท่านั้น แต่ในตัวอย่าง 2 ตัวอย่างนี้ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ล้วนแล้วแต่มีขอบเขตที่กำหนดโดยสังคมอยู่แล้วทั้งสิ้น เพราะสังคมเป็นคนเลือกแนวทางการบังคับใช้กฎหมายแบบนี้บทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ
การที่บอกว่าขอบเขตของกฎหมายนั้นไม่เกี่ยวกับประชาชนจึงเป็นเรื่องที่ลักลั่นย้อนแย้งครับ
ส่วนเรื่อง nitrogen กับ CT-200 ผมจะไม่พูดถึงมากแล้วกันนะครับ เพราะคุณไม่เข้าใจเลยว่าที่ผมพูดไปใน reply ก่อนหน้านั้นเป็นการสมมติตัวอย่าง สารเคมีอาจจะไม่ใช่ nitrogen อาจจะเป็นอย่างอื่นก็ได้เพียงแต่ผมไม่ค่อยเชียวชาญเคมีมากนักจึงได้ยกตัวอย่างแบบนั้น เรื่อง CT-200 ที่ออกมาแฉก็ไม่ใช่เพื่อต้องการให้โจรวางระเบิดมากขึ้นแต่ต้องการให้รู้ว่าอุปกรณ์นี้มันไม่ได้ผล มีปัญหาเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างในกองทัพ ผมว่าใน reply ก่อนผมก็เน้นคำว่า "เจตนา" เอาไว้พอสมควร
(ขอเสริมนิดนึงจากเพื่อนผมที่อยู่นราธิวาสบอกว่า ก่อนจะมีการแฉ CT-200 โจรใต้กลัวด่านกับเครื่องนี้กันมากแต่พอมีการแฉแล้วความหวาดเกรงก็ลดลงและจำนวนการก่อการร้ายก็เพิ่มขึ้น อันนี้ก็คิดกันเอาเองแล้วกันนะครับว่าผลได้ผลเสียเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร เป็นประเด็นเสริมที่มาจากข้อเท็จจริงครับ)
เรื่อง PS3 hack ผมว่าคุณควรไปทำการบ้านมาให้ดีกว่านี้ก่อนที่จะมั่นใจอะไรขนาดนั้นนะครับ โลกนี้มี hacker ที่เก่งกว่า Geohotz แต่ไม่ได้หมายความว่าคนเหล่านั้นจะต้องสนใจ PS3 เหมือน Geohotz หรือทำสำเร็จแล้วนำมาเผยแพร่แบบเขานะครับ
ดาวหางฮัลเล่ที่โด่งดังถูกค้นพบว่ามีรอบการเกิดที่ชัดเจนโดย Edmond Halley แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านายคนนี้เป็นนักดาราศาสตร์ที่เก่งที่สุดในยุคนั้นนะครับ นักดาราศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จในด้านอื่น ๆ ยังมีอีกมาก ดังนั้นผมว่าตรรกะแบบที่คุณว่ามันคงไม่ถูกต้องนักครับ
แม้ว่าจะมี hacker ที่เก่งกว่า Geohotz มากมายแค่ไหนแต่ hacker คนแรกที่ประสบความสำเร็จในการ jailbreak PS3 และนำไปสู่การเล่นแผ่น copy คือ Geohotz แน่นอนครับ อ้างอิงได้จาก
Geohotz เผยแพร่เทคนิคการ jailbreak PS3 ครั้งแรกในเดือนมกราคม 2010
PS3 jailbreak USB ตัวแรกโดย logic-sunrise เมื่อเดือนสิงหาคม 2010
ผมว่าผมก็ทำการบ้านมาพอสมควร แต่ถ้าคุณยังมั่นใจแบบเดิมอยู่ผมขอดูหลักฐานการโต้แย้งจากความมั่นใจของคุณด้วยครับ
That is the way things are.
ทำการบ้านอีกนิด ไปศึกษาคดี Bleem! vs SONY เพิ่มเติมด้วยครับ แล้วคุณจะรู้ว่า การทำ reverse engineering แล้วนำมาเผยแพร่ หรือแม้แต่ทำมาหาเงินไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมายเสมอไป
ตอนนี้ Geohotz ก็ยังอยู่ระหว่างการพิจาณคดีครับ ยังไม่มีใครบอกว่า Geohotz ทำผิดกฎหมายแต่ทุกคนกำลังคุยกันอยู่ว่า Sony ทำแบบนี้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ตัวเองตามกระบวนการกฎหมายนั้นดีหรือไม่ครับ
ผมว่าประเด็นชัดเจนนะครับ
That is the way things are.
ตอนนี้ก็เริ่มหลงประเด็นแล้วครับ ว่าตอนแรก คุณมาหาว่าผมดูถูกกฏหมาย แต่คุณก็พิสูจน์ไม่ได้ว่าผมดูถูกกฏหมายยังไงแบบไหน
ผมขอพูดอีกทีละกัน
การทำสิ่งที่ไม่ผิด มันไม่ได้หมายความว่ามันดี
วิธีการอะไรก็ตาม มีทั้งวิธีที่ถูก ผิด ดี ไม่ดี ได้ผล ไม่ได้ผล ฉลาด และโง่ ปนๆกันไป
โซนี่ ใช้วิธีที่ ไม่ได้ผล และจัดว่าโง่ นี่คือคำวิจารณ์
กฏหมายไม่ได้ทำได้ทุกอย่าง และมันไม่ควรทำได้ทุกอย่าง มันควรจำกัดอยู่แค่ทำถูกหรือทำผิด เท่านั้น
การทำสิ่งที่ถูกต้องตามกฏหมาย แต่จริงๆแล้วมันไม่ดี ก็มีถมไป
คุณบอกว่า Sony ใช้กฎหมายแบบงี่เง่า
คุณพิมพ์ไว้แบบนี้ผมต้องพิสูจน์ด้วยหรือครับว่าคุณดูถูกกฎหมายแบบไหน
โอย ... ผมละงงจริง ๆ ครับและชักจะเหนื่อยหน่ายแล้วด้วย เอาเป็นว่าคุณคิดแบบไหนก็แล้วแต่คุณแล้วกันครับ ผมเองก็พยายามจะอธิบายแง่มุมต่าง ๆ ที่ผมไม่เห็นด้วยอย่างเต็มที่แล้ว แต่คุณก็ยังไม่เข้าใจ หรืออาจจะเป็นผมเองที่ไม่เข้าใจคุณก็เป็นได้
สุดท้าย ผมเห็นคุณชอบใช้คำว่าดีไม่ดี ผมอยากใหัคุณกลับไปคิดว่าดีไม่ดีนี่ใครเป็นคนกำหนดครับ คุณอาจจะบอกว่าฆ่าคนตายไม่ดี แต่ถ้าเรือแตกกลางทะเลมีแค่คุณกับผมลอยอยู่ใกล้ ๆ ห่วงยางที่รับน้ำหนักได้แค่คนเดียว ผมรับรองครับว่าผมไม่ให้คุณใช้ห่วงยางอันนี้แน่ ๆ และคนในครอบครัวผมทุกคนก็คงไม่มีใครบอกว่าที่ผมทำเป็นสิ่งที่ไม่ดีแน่นอน เพราถ้าผมไม่ทำแบบนั้นผมก็คงมีโอกาสรอดน้อยมาก ๆ
That is the way things are.
คุณมั่วไปใหญ่แล้วครับ การที่คนเขียนกฏหมายได้อำนาจมาจากประชาชน ไม่ได้หมายความว่าแนวทางของกฏหมายจะมาจากประชาชนเสมอไป
และยิ่งไม่ได้หมายความว่าสังคมมีสิทธิ์จะให้เขียนกฏหมายที่ตีความให้กว้างยังไงก็ได้ด้วยครับ
กรณีนี้ SONY จะฟ้อง GeoHotz ยังไงก็ตามแต่ มันก็ไม่ถูกที่อ้างว่า โซนี่เสียหาย GeoHotz ต้องผิด
มันมีกฏหมายรองรับมั้ย ถึงได้ใส่ความกันจัง
หรือไอ้การที่คุณอ้างไประเบิดบ้าง สัญญาณกันขโมยบ้าง อะไรบ้าง
มีกฏหมายรองรับรึเปล่า แล้วกฏหมายตัวนั้นมันถูกต้องตามหลักการออกกฏหมายรึเปล่า
กฏหมายยังไงมันก็คือกฏหมาย มันต้องมีขอบเขตที่ชัดเจน ขอบเขตตัวนี้ไม่ใช่กำหนดด้วยสังคม แต่ต้องกำหนดด้วยหลักวิชาการ ไม่ว่าสังคมจะอยากได้แบบไหนกฏหมายก็ต้องไม่ทำเกินขอบเขตนี้
แล้ว การที่คุณอ้างไปถึง Nitrogen กับ GT-200
แล้วพอถึงเวลาเถียงไม่ได้แล้วก็หักออกว่าสมมุติเฉยๆ แค่ตัวอย่าง ไม่พูดถึงแล้ว
อย่างงี้ใช้ไม่ได้นะครับ ถึงแม้คุณจะยกมาแค่เฉยๆ เปนตัวอย่าง ก็ต้องพิสูจน์ให้ชัดว่ามันเอามาเทียบกันได้จริงๆ
พูดเรื่องเจตนาก็น่าขำ แล้วคุณไปรู้เจตนาของคนที่อัดคลิปทำระเบิดลงยูทุบได้ยังไง เขาอาจจะแค่อยากแสดงความสามารถทางเคมี อยากโชว์การค้นพบของเขา ก็ได้
คุณฟังมาจากเพื่อนที่นราธิวาส แล้วเคยฟังมารึเปล่าครับ ว่ามีการเอา GT200 ไปใช้แล้วพลาด ทหารตายไปแล้วเท่าไหร่ มีการเอา GT200 ไปจับรถคนบริสุทธิ์มาตรวจบ่อยแค่ไหน เอา GT200 ไปค้นบ้าน ยัดข้อหาคน อีกเท่าไหร่
ไม่นับนะว่า การใช้ GT200 ไปทำแบบนี้ ทำให้คนใต้เกลียดทหาร ไปเข้ากับโจรใต้อีกเท่าไหร่
การที่ "เพื่อนที่นราธิวาส" ของคุณ เลือกที่จะเล่าแค่นี้ คุณคิดว่าเชื่อถือได้แค่ไหน และมีนัยยะอะไรแอบแฝงบ้างหรือเปล่า
แต่ผมว่า ผมก็มีเพื่อนที่อยู่จังหวัดชายแดนใต้ เขาก็บอกว่า เห็นโจรใต้มันก็ซ่าเท่าเดิม ก่อเหตุเท่าเดิม
สุดท้าย
GeoHotz "แฮ็ค" เพลย์สาม ได้ ตอนปี 2010
แต่ผมเห็นข่าวว่า เกมเพลย์สาม "ก็อปปี้" ได้ก่อนหน้านั้นนานแล้ว
อันนี้ เปนต้นครับ
ผมยังไม่เห็นว่าถ้าแนวทางของกฎหมายไม่ได้มาจากประชาชนแล้วจะมาจากใคร แน่นอนว่าในความคิดของแต่ละคนย่อมมีทั้งกฎหมายที่เข้าท่าและไม่เข้าท่า แต่ทว่าเราก็เป็นคนเลือกตัวแทนเข้าไปจัดการออกกฎหมายเหล่านี้เองผ่านการเลือกตั้งมิใช่หรือ? ตามหลักประชาธิปไตยแล้วกฎหมายผ่านการร่างจากใครและอนุมัติจากใคร และคนที่ทำหน้าที่เหล่านั้นมาจากไหน? ผมว่าเรื่องนี้มันก็ชัดเจนนะครับ ไม่เข้าใจว่าทำไมยังวกวนเวียนว่ายอยู่ไม่จบสิ้น
สังคมที่คุณอ้างหมายถึงความชอบความเกลียดการเห็นด้วยไม่เห็นด้วยในสังคมหรือเปล่า? นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ผมกำลังพูดถึง ที่ผมกำลังจะบอกก็คือสังคมเป็นคนเลือกให้มีกฎหมายสำหรับกรณีนี้ ซึ่งแม้จะยังไม่ชัดเจน 100% แต่ศาลก็รับคำฟ้องและกำลังพิจารณาคดีอยู่ นั่นก็แปลว่ามันไม่ใช่สิ่งที่กฎหมายไม่รองรับเอาเสียเลย
มาถึงเรื่องตัวอย่างสมมติกันบ้าง ที่ผมจะพูดคืออยากให้ย้อนไปดู reply แรกก่อนที่ยกตัวอย่างให้คุณเข้าใจ เพราะคุณเข้าใจผิดตีความสิ่งที่ผมบอกว่า "หาซื้อได้" กลายเป็น "ของใช้บ้าน ๆ" ผมเลยต้องยกตัวอย่างว่าเป็น nitrogen คุณจะเปลี่ยนเป็นธาตุหรือสารประกอบอะไรก็ได้ครับ มันเป็นการยกตัวอย่าง ไม่ใช่ว่าต้องเป็น nitrogen แล้วคุณก็บอกว่า nitrogen มาจากปุ๋ยได้ไม่ต้องไปหามาจากครีมหรือยาอื่น ๆ คุณตีความตามตัวอักษรของตัวอย่างโดยมิได้เข้าใจนัยของการเปรียบเทียบให้เห็นภาพเพื่ออธิบายเลย ซึ่งมันเป็นการหลุดประเด็นอย่างไร้สาระ
ส่วนเรื่องระเบิดที่นราธิวาสผมฟังมาหมดแล้วครับ โลกนี้ไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ ที่สามารถตรวจจับระเบิดระยะไกลได้ การใช้ GT-200 แล้วพลาดก็เทียบเท่าได้กับการไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ เลยแล้วปล่อยให้ระเบิดชุดนี้ขนส่งผ่านไปได้ ดังนั้นถ้าจะไม่ให้มีการผ่านด่านแบบนี้เกิดขึ้นเลยเท่ากับว่าที่ด่านต้องตรวจยานพาหนะทุกคันอย่างละเอียด ซึ่งถ้าทำได้จริงในทางปฏิบัติก็ไม่จำเป็นต้องมี GT-200 แล้วครับเพราะมันจะไม่มีอะไรแตกต่าง เพื่อนผมอยู่นราธิวาสนั้นมีข่าวระเบิดอย่างละเอียดครับ รถถังวิ่งผ่านหน้าบ้านทุกวัน ไม่ใช่แค่อ่านหนังสือพิมพ์ online นั่งจิบชากาแฟไปพลางอยู่ที่กรุงเทพ ฯ อย่างเรา ๆ เรื่องความชัดเจนของข่าวรายละเอียดของเหตุการณ์หรือผลกระทบกับคนในพื้นที่หรือทหารนั้นมีความละเอียดมากกว่าที่คุณกล่าวอ้างมาเยอะครับ ผมไม่ได้เขียนเรื่องนี้ละเอียดเพราะเห็นว่าไม่เกี่ยวกับประเด็น แต่ขอพูดไว้อย่างว่าอย่าคิดว่าตัวเองนั่งอ่านข่าวอยู่หน้าคอมแล้วจะรู้ดึกว่าคนที่อยู่ในพื้นที่ "และ" สามารถรับรู้ข่าวสารในหลาย ๆ ช่องทางได้มากกว่าคุณครับ กระทั่งกับทหารที่ตั้งด่านตามจุดต่าง ๆ เพื่อนของผมก็คุยมาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้ว
สุดท้ายเรื่อง program GameBackupSystem ที่คุณยกตัวอย่าง link มานั้นคุณลองไปค้นดูเพิ่มเติมดูหน่อยได้มั๊ยครับว่ามี user คนไหนบ้างทีใช้ได้จริง ๆ กับ PS3 ผมเห็นมีแต่ affiliate กับ scam เต็มไปหมด ไม่เคยมีแม้แต่ review ไหนที่บอกว่า program นี้ work จริง ๆ เพราะทุก review ใน web ต่าง ๆ ที่เห็นก็ copy text ชุดเดียวกันไปแปะทำนองโฆษณาทั้งนั้น
หรือถ้าจะให้ใช้ใน link ที่คุณให้มานั้นด้านบนมี comment link อยู่ ลองกดแล้วไปอ่านดูว่าเขาว่าอย่างไรครับ ;)
That is the way things are.
ก็แล้วกฏหมายตอนนี้ มีข้อไหนบ้างที่มาจากประชาชนจริงๆมั่งครับ
ไม่ใช่ทุกข้อแน่ๆ กฏหมายที่ยังค้างคามาจากช่วงที่โดนยึดอำนาจ แก้ไขเปลี่ยนแปลง
พอจะมีนักการเมืองที่ประชาชนเลือก มาแก้ไข ก็โดนกดดัน
แม้แต่ในประเทศประชาธิปไตย แนวทางกฏหมาย บางทีไม่ได้มาจากประชาชน แต่เกิดจากการกดดันของผู้มีอำนาจ
อย่างกฏหมายเกี่ยวกับทหารบางข้อ
และยิ่งเปนกฏหมายเก่าๆ ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยสมบูรณาญาสิทธิราช คุณมีอะไรรองรับว่ามาจากประชาชน?
บางทีมีบ่อยไป ที่เราไม่เห็นด้วยกับอะไรบางอย่าง แค่เราไม่อยากจะไปใส่ใจ
ถ้าจะอาศัยกฏหมายปิดปาก ไม่พูดอะไรคือยอมรับ ผมก็ไม่มีอะไรจะพูดละ
คุณก็มั่วไปเองว่าผมเข้าใจผิด ของที่หาซื้อได้หรือของใช้บ้านๆ มันก็ไม่ต่างกัน
ไนโตรเจนใช้ทำระเบิด คนที่รู้มีเยอะแยะ ไนโตรเจนหาไม่ยาก ตั้งแต่หมักปุ๋ยเอาจนถึงครีมบ้าบอที่คุณพูดถึง
การที่มีคนทำวีดีโอเผยแพร่ลงยูทุบ ใช้อะไรมันก็ไม่ต่างกัน และเจตนาคนทำ ถ้าเขาไม่พูด คุณจะไป Assume เอาเองได้ยังไงว่าสนับสนุนการก่อการร้าย
ตรงข้าม มันสามารถเปนหลักฐานอย่างดี ว่าถ้ามีใครออกไปก่อการร้ายด้วยระเบิด ไม่ต้องไปสืบว่าระเบิดหายากมาจากที่ไหน มีวัตถุดิบอยู่ทั่วไป
เรื่องนราธิวาส คุณพูดผิดมาก การใช้ GT-200 มันมั่วยิ่งกว่าการที่ไม่ใช้
การไม่ใช้ GT-200 เจ้าหน้าที่มีวิธีการตรวจระเบิดตามธรรมดาครับ มันไม่ควรมีอะไรอย่าง GT-200 แต่แรกแล้ว
แต่พอใช้ GT-200 เชื่อว่าใช้ได้ เจ้าหน้าที่ก็จะยึด GT-200 มากกว่าวิธีตรวจระเบิดปกติ
พอมันชี้ก็โดนตรวจค้นละเอียด หาไม่เจอบางทีโดนยัดข้อหา
หรือถ้ามันไม่ชี้ก็ปล่อยผ่านไม่ตรวจอะไรเลย ทั้งที่จริงๆมีระเบิดก็ไม่รู้
คุณฟังมาผมก็ฟังมาเหมือนกัน หรือคุณคิดว่าผมไม่มีเพื่อนอยู่จังหวัดชายแดนใต้เลย?
มีระเบิดทีเขาก็มาบ่นใน IRC
ก็ เอาที่มันไม่ต้องฟังนะครับ
มีข่าวออกเมื่อปีก่อนโน้น เจ้าหน้าที่ ถือ GT-200 ไปตรวจระเบิด โดนกับระเบิดตาย
กองทัพก็ออกมาอ้างว่า เพราะเจ้าหน้าที่คนนั้นนอนไม่พอ
ถามว่าทำไมไม่ใช้หมา ทำไมไม่ใช้เครื่องตรวจกับระเบิด
ตอบ เพราะเราใช้ GT-200 ที่ประสิทธิภาพสูงกว่าและมีระยะไกล
ใช้เหมือนไม่ใช้? คิดอะไรตื้นๆครับ
ส่วนโปรแกรมเกมแบคอัพ คนเล่นแผ่นเพลย์สาม ก็อปบลูเรย์ได้ ถ้ามีเครื่องไรท์บลูเรย์จริงหรือเปล่า ไม่เชื่อก็แล้วแต่ครับ
แต่ผมคิดว่า ถ้าไม่จริง SONY คงไม่อัพเฟิร์มแวร์เพื่อ "แก้ปัญหาด้านความปลอดภัย" ตั้งแต่ก่อน GeoHotz จะบอกว่าแฮคได้
คุณ Thaina มี PS3 มั้ยครับ?
คำตอบของคำถามข้อนี้ใช้ประกอบการตัดสินใจในการถามคำถามถัดไปครับ
ไม่มีครับ
ขอบคุณครับ จบครับ
ไอ้การที่คุณพูดว่า Sony ป้องกันตัวเองจากการถูกละเมิดทำให้สูญเสียรายได้จากผลิตภัณฑ์ของตัวเอง
แค่นี้ มันคือสิ่งที่ถูกที่ควร
แต่วิธีการ คือตัวกำหนดว่ามันคือสิ่งที่งี่เง่าหรือไม่
เอาง่ายๆ ถ้าคุณบอกว่า คุณป้องกันตัวเองจากการโดนโจรรีดไถ มันก็ถูกแล้ว
แต่ถามว่า ทำอย่างไร
ถ้าตอบว่า ด้วยการยื่นหน้าไปให้โจรต่อย แล้วบอกว่า ให้ต่อยแลกกับเงิน
นี่แหละคือความงี่เง่า
การป้องกันตัวเอง มีวิธีเยอะแยะ มีทั้งวิธีที่ดี วิธีที่ไม่ดี วิธีที่ได้ผล วิธีที่ไม่ได้ผล วิธีที่ฉลาด และ วิธีที่งี่เง่า
ไม่ว่าจะวิธีไหน คนที่เลือกก็ต้องรับผลของมันเอง
SONY เลือกวิธีที่ผมเห็นว่างี่เง่า ไม่ได้ผล มันก็เท่านั้น
อ่านมันส์จัง ^^ ได้ความรู้ดีครับ
ชอบตรรกะแบบนี้ครับ
เปรียบเทียบ hacker เป็นสัตว์ กันเลยทีเดียว -__-a
สัตว์ไม่ดีตรงไหนอะครับ?
บางทีมันยังน่ารักกว่าคนอีก
จุดประสงค์คำว่าสัตว์ที่คุณยิงทิ้งต้องไม่ใช่ลูกหมาบีเกิลหรือแมวตัวกะจิ๋วหลิวแน่ๆ
เสือ หมาป่า ช้าง ฮิปโป น่ารักมั้ยครับ
ผมว่ามันน่ารักนะครับ
แต่ถ้ามันบุกมาถล่มไร่ เข้าเมืองมากัดคน มันก็อีกเรื่องนะ
ของชิ้นนึง มันน่ารักก็น่ารัก มันอันตรายก็คืออันตราย ไม่ได้เกี่ยวกันนะครับ
คำว่าสัตว์ ผมเอามาใช้ให้เห็นถึงสิ่งที่ อันตราย ควบคุมไม่ได้ มีแต่ป้องกันไม่ก็ยิงสู้
ทำไมคนเราถึงชอบมองสัตว์ในแง่ลบ เอาสัตว์มาด่ากัน?
ข้อมูลลุกค้าโดนแฮ็คเนี่ยนะ ไม่ต้องไปโทษ
ผมว่าไอ้เรื่องรับผิดชอบก็ต้องทำอยู่แล้วครับ แต่ผมคิดว่าลุงแกบอกว่าจะไปโทษบริษัทฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก เพราะลูกค้าก็เป็นฝ่ายให้ข้อมูลของตัวเองไปเองซึ่งลูกค้าเองก็ต้องรับรู้และก็ยอมรับถึงความเสี่ยงที่ตามมาด้วยน่ะครับ
(พูดอีกอย่างคือ ถ้าอยากจะใช้บริการของเค้า เราก็จำเป็นต้อง"ทำใจ"ยอมรับความเสี่ยงที่สามารถเกิดขึ้นได้โดยปริยาย)เพราะไม่มีระบบไหนที่ปลอดภัยไง100%ครับ
ไปโทษ = ไปด่าๆโดยที่ไม่เกิดประโยชน์
ต่างกับเรียกหาความรับผิดชอบมากนะครับ
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
คนนี้แหละครับสุดยอด ผู้คิดค้นวิธีการเข้ารหัสแบบต่างๆ มากมาย
ไม่ได้โทษเพราะโดนเจาะ แต่โทษเพราะไปโม้ว่าปลอดภัยสุดยอดจนคนเชื่อใจ ยอมให้เก็บข้อมูลไว้
การตลาดอยากโม้อะไรก็โม้ ขายได้ก็ได้หน้า
พอปัญหาขึ้นมา ไปซวยคนทำระบบ การตลาดไม่ต้องรับผิดชอบอะไร
ต่อไปออกกฎ ถ้ามีเรื่อง การตลาดต้องรับผิดชอบด้วย ...
We need to learn to forgive but not forget...
เห็นด้วยกับที่ว่ามาทุกกรณีที่ปลอดภัยจริงๆ มันมีด้วยหรือและเราก็เลี่ยงการใช้งานพวกนี้ไม่ได้
มันไม่ปลอดภัย แต่มันก็ไม่มีทางเลือก
แต่สากโซนี่ยังไงเขาก็ว่า geohot เหมือนเดิม
ในความคิดส่วนตัว ใครทำก็ไม่ต่างกัน อยู่ที่ว่าช้าหรือเร็ว แต่ที่ออกมาโจมตีแล้วสามารถแก้ไขให้มันดีขึ้นเป็นการกับลูกค้าเองด้วยที่บางทีก็โดนแฮกแต่จำนวนน้อย แต่โซนี่ไม่ออกมาบอก คราวนี้โดนเยอะต่อไปคงต้องมีระบบที่ดีกว่านี้ ถ้าไม่มีอุปสรรคก็ไม่มีการพัฒนา
ชอบปุ่ม toggle มากครับ :) อ่าน comment บางอันแล้วก็เฮ้อ.... toggle ดีกว่า --"
สำหรับผมปุ่ม Toggle ไม่มีความหมาย เพราะก่อนจะ Toggle ก็ต้องอ่านก่อนอยู่ดี
ไม่ใช่ว่าปุ่มมันไม่ดีนะครับ แต่ผมไม่ได้ใช้
แบบนี้มันต้องมี Auto-Toggle ครับ :P
เอาแบบว่าตั้งเป็น Banned List Per User ไปเลยดีมั้ยครับ
orz
ซ้ำครับ
อ่านแล้วซ่อนได้ ยังให้ความรู้สึกที่ดีกับตัวเองครับ เมื่อก่อนผมเห็นแล้วมองผ่านไปเลย
เห็นแล้วปวดตับ ตับ ตับ ตับ ตับ :)
เอ๊ะ! หมายถึงคนข้างบนน่ะเหรอครับ ^_^
จริง ๆ ก็ไม่ได้กล่าวถึงใครหรอกคับ
เพียงแต่ผมเบื่อที่จะอ่านความคิดเห็นแบบ ถ้ากุถูก มืงต้องผิด อะไรแบบนี้ครับ ทั้ง ๆ ที่ในโลกนี้ ความเห็นบางอย่าง มันแล้วแต่สถานการณ์ สามารถยืดหยุ่นได้ ไม่มีอะไรที่แน่นอน บางทีมันอาจจะถูกทั้ง 2 อย่าง หรือผิดทั้ง 2 อย่าง หรืออันนึงอาจจะดีกว่าอีกอันนึงในช่วงเวลานึง แบบนี้ก็เป็นได้ การไม่ยอมรับความคิดเห็นคนอื่น+ความคิดเห็นคนอื่นผิดไปหมด มันดูจะโลกแคบไปนิด
อีกอย่างผมไม่เห็นว่าเถียงชนะแล้วจะได้อะไรด้วยครับ นอกจากคิดว่าข้าเก่ง(อยู่คนเดียว) เพิ่มสกิลความแถในอนาคต
ปล. ขออภัยที่ใช้คำหยาบในตัวอย่างครับ
หยุดได้ตั้งแต่ส่อเค้าก็ยังดีกว่าบานปลาย หยุดไม่ได้แล้วนะครับ :P
ป.ล. ผมเลื่อนข้ามเอา : )
Jusci - Google Plus - Twitter
กลัวโดนแฮกก็ไม่ต้องใช้ดิครับ ฮ่าๆๆ
ตัวอย่างคอมเม้นที่น่า toggle
สิ้งที่ปลอดภัยที่สุดคือ สิ่งที่ไม่มีอยู่จริงๆ
"ลูกค้า" หรือเปล่าครับ
แก้เรียบร้อย ขอบคุณครับ
ผมว่าควรประเมินคนไทยใหม่นะครับที่ว่าปีนึงอ่านหนังสือแค่7บรรทัด
สรุปความจากที่เขาถกกันยาวๆด้านบน
ฝ่ายนึงพยายามจะบอกว่าโซนี่ปกป้องสิทธิด้วยวิธีปัจจุบันก็ดีแล้ว (ดีกว่าไม่ทำ?)
ฝ่ายนึงพยายามจะบอกว่าโซนี่ปกป้องสิทธิด้วยวิธีนี้มันไม่ดี (ใช้วิธีอื่นน่าจะได้ผลดีกว่า?)
ยังกับแฟนทีมฟุตบอลมาถกกันหลังจบเกมที่แพ้ยับ - -'
โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับความคิดที่ว่า
"การแก้ปัญหาที่ดีที่สุดอาจจะไม่ต้องใช้วิธีทางกฎหมายแบบที่โซนี่กำลังทำ"
แต่เรื่องที่ว่าวิธีการของโซนี่ "งี่เง่า" รึเปล่า คงต้องให้เวลาพิสูจน์มากกว่านี้
ผมชอบนะที่โซนี่เลือกวิธีการที่ดู "ตรงๆเชยๆ" แบบที่กำลังทำอยู่
เพราะตอนนี้ดูเหมือนมันจะยังไม่จบ...
แล้วใครๆก็อยากรู้ว่าสุดท้ายมันจะจบลงแบบไหน?
จะเกิดบรรทัดฐานอะไรใหม่ๆรึเปล่า?
หรือจะเป็นแค่บทเรียนโง่ๆบทหนึ่ง?
สุดสัปดาห์นี้อย่าลืมรอดูนะครับ หลังเกมส์เราจะได้พบกับแฟนผีที่จะต้องรับมือปะทะฝีปากกับอีกสาม Big 3 ครับ ^^
สรุปได้ดีและตรงประเด็นครับ
That is the way things are.
ผมสงสัยอยู่อย่างนึง...คุณอ่านหมดจนจบเลยป่าวครับเนี่ย
ถ้าจบ ผมนับถือในความพยายามของคุณจริงๆ 555
ครับผมอ่านหมดจนจบเลยครับ อ่านข่าวเดียว ไปครึ่งชั่วโมง 55555
นับถือๆ 555
ปุ่ม Toggle ไม่มีผลต่อชีวิตชายคนนี้ครับ :)
สงสัยอีกหน่อยต้องทำปุ่ม Toggle เอาไว้ Toggle ปุ่ม Toggle อีกที
งงมั้ย?
สรุปได้ว่า เม้นในข่าวนี้มีสองชั้น
5555
ปล. ข่าวนี้แอบยอมรับว่าอ่านข้ามเม้นๆ ด้านบนเหมือนกัน ทั้งๆ ที่ปกติก็อ่านหมดนะ
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.