เว็บ Quora ได้รวบรวมไอเดียหรือโมเดลทางธุรกิจออนไลน์สำหรับบริษัทหน้าใหม่ ที่ไม่ควรจะทำอีกต่อไปหรือยากที่จะประสบความสำเร็จในปัจจุบัน (หมายเหตุ: ทั้งหมดเป็นไอเดียจากมุมมองบริษัท Start Up ในสหรัฐ)
- เว็บหาคู่ : หาความแตกต่างจากคู่แข่งได้ยาก, เป็นแหล่งรวมการโกหกรูปร่างหน้าตา การศึกษาและความผิดหวัง
- แนะนำบริการจากที่เพื่อนๆ ของคุณชอบ (Social recommendations) : คนส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสำคัญ สร้างความรำคาญกับผู้ใช้
- ค้นหาเพื่อนหรือบริการที่อยู่รอบตัว ผ่านมือถือ : บริการประเภทนี้ยังไม่มีประโยชน์มากพอสำหรับผู้ใช้
- อะไรที่ทำให้การเขียนโปรแกรมง่ายสำหรับคนทั่วไป : เหมือนเราขายรถยนต์ที่ซ่อมง่ายโดยไม่ต้องใช้ช่าง แล้วหวังว่าผู้ซื้อจะซ่อมรถได้เอง ซึ่งมันไม่เป็นอย่างนั้นหรอก
- RSS Reader, เบราว์เซอร์ที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก : คนส่วนใหญ่ไม่สนใจที่จะเรียนรู้หรือใช้งาน
- ทุกอย่างที่เกี่ยวกับดนตรี : ค่ายเพลงส่วนใหญ่อยากทำตามโมเดลธุรกิจของตัวเอง
- ประชุมทางไกลผ่าน Video Conference : ค่าใช้จ่ายสูงมาก และความต้องการยังไม่แน่ชัดพอ
- เว็บขายเสื้อ : คู่แข่งมหาศาล และมีรายใหญ่จำนวนมากอยู่แล้ว
ที่มา - Quora
Comments
เป็นประโยชน์มากขอบคุณมากครับ
Social Network หละ
เป็นประโยชน์สุดๆเลย
ผมว่าหลายอย่างเป็นจริงในแง่ว่าเราต้องการ "ใหญ่" ในวงการนะครับ อย่างเว็บขายเสื้อ ผมพบว่าคนจำนวนมาก "อยู่ได้สบายๆ" แม้จะเปิดแบบ me too แต่ถ้ามีความต่างระดับหนึ่ง มีฐานลูกค้าพอสมควร มันก็ไปได้ ทำกำไรเลี้ยงตัวได้
lewcpe.com, @wasonliw
+1
ถ้ามีฐานลูกค้ามาก่อนก็ช่วยได้มาก
Jusci - Google Plus - Twitter
ถูกเลยครับ
ถ้าเว็บเหมือนๆ กันมีสินค้าเหมือนๆ กันก็วัดกันที่คุณภาพของการบริการ ราคา และความรวดเร็วในการจัดส่งครับ
พวกเวป DIY โดนด้วยไหมเนี่ย
ผมว่าคนที่สำเร็จก็คือต้องทำไอ้ของที่เหมือนจะมีอยู่แล้วให้ดีกว่านี่แหละครับ ใครจะไปนึกว่า facebook จะโตได้ขนาดนี้ทั้ง ๆ ที่มี myspace, hi5, ... อยู่แล้ว
แล้วหลาย ๆ อย่าง เช่น "อะไรที่ทำให้การเขียนโปรแกรมง่ายสำหรับคนทั่วไป" ยังเป็นงานวิจัยทาง HCI อยู่มากครับ คงต้องรอซักพัก
+1
บางทีไอเดียที่ดูเหมือนจะ "ไม่ work" ในวันนี้ อาจจะไปได้ดีในอนาคตก็ได้
ถ้าสิ่งที่ทำนั้น "โดนใจผู้บริโภค" มันก็ work ขึ้นมาได้ครับ
(แต่ก็ต้องทำให้มันดีพอด้วยนะครับ facebook ถือเป็นตัวอย่างที่ดีเลยทีเดียว)
ขอเสริมนิดนึง ใครสนใจจะทำ online product น่าจะอ่านบทความนี้ด้วยนะครับ ผมว่ามุมมองของผู้เขียนมีประโยชน์มาก
http://thumbsup.in.th/2011/05/5-reasons-why-thai-online-product-never-been-success/
ขอบคุณครับ :)
+1 ไอเดียบางอย่าขึ้นอยู่กับการเวลาจริงๆ นั้นล่ะครับ เห็นมาหลายอย่างแล้ว
ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่จริงนะ
+100 ขอบคุณสำหรับข่าวครับ
รอวันที่ธุรกิจเพลงจะกลับมาคึกคักแบบยุค เทป และ cd แต่มันจะคึกคักในรูปแบบใหม่แบบไหน ผมยังมองไม่ออกเลย
ผมว่า cd dvd ที่ขาย
คงเป็นแบบไม่ขายแค่เพียง cd dvd เพลงเพียงอย่างเดียว
เพราะมัน copy ได้ง่าย แต่ต้องรวมไปถึงของแถมประกอบอื่น ๆ
ที่ลอกเลียนได้ยากรวมไปด้วย เหมือน dvd หนัง boxset
ที่ทำเป็นชุด ๆ จำนวนจำกัดอะไรแบบนั้น
คือผลิตมาเท่านี้ เท่านั้น หมดแล้วหมดเลย
รอบต่อไปจะเป็นอีกแบบ น่าจะช่วยให้คนซื้อไปสะสมได้
กำลังจะพัฒนาด้าน Video Conference มาเจอข่าวนี้มีชะงักนิดนึง
ดีแล้วครับที่ชะงักแค่นิดเดียว
เพราะข่าวก็แค่บอกว่า อะไรคือสิ่งที่ไม่เวิร์ค ถ้าเรามีไำอเดีย รู้จักพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส เราก็เอาสิ่งที่ไม่เวิร์คเหล่านั้นมาศึกษาเลยครับ ว่าอะไรทำให้มันไม่เวิร์ค แล้วจะทำยังไงให้เวิร์ค
ทำไม Whatsapp มันทำตลาด IM ได้ทั้งๆ ที่บนมือถือก็ใช้ MSN ได้ นอกนั้นยังมี Pingchat ฯลฯ
ทำไม Ebuddy ถึงได้รับความนิยมสูง ทั้งๆ ที่มี Meebo
บลาๆๆๆ
ปล.ทำไมโรตีบังถึงเจ๊ง ... ผมไม่รู้ แต่ผมดีใจ ... ผมแพ้กลิ่นโรตีบัง
+1 เลยครับ
Learn from other people's mistakes ครับ
สู้ๆครับคุณ WattZ :)
หมายถึงโรตีบอยใช่ป่ะว่า เค้าไม่ได้เจ๊งนะ มิสเตอร์บันก็ไม่ได้ก็อบสูตร แต่เค้าฝากขาย ประมาณนั้น(ไม่ก็ซื้อเลยหรือไงซักอย่าง แต่รู้ว่ามันคืออันเดียวกัน)
May the Force Close be with you. || @nuttyi
สรุป มันคือ อันเดียวกัน? ผมก็ว่าอยู่ รสชาติมาคือๆกัน
รู้แต่ถ้าเข้าเว็บ http://www.rotiboy.com/ กดที่ประเทศไทย จะเป็นเว็บ mr bun หน่ะครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ซ้ำครับ
ไม่ถึงกับเจ๊งหรอกครับ แต่คนไม่ฮิตเหมือนก่อนหน้านี้ที่คนต่อแถวซื้อกันยาวเป็นครึ่งกิโลเมตร ผมไปนั่งดูเล่นๆ หน้าร้าน (จริงๆ ไปแอบส่องคนขาย) คนเข้าประมาณ 10 นาที 1 คน
ไม่รู้ว่าตอนนี้คริสปี้ครีมยังแถวยาวอยู่รึเปล่า
ผมก็แพ้กลิ่นโรตีคับ ฮ่าๆ มีช่วงนึงไม่อยากไปห้างเลย --"
+1
ผมโคตรเกลียดเลย ถึงกับหายใจไม่ออก
ปกติผมเป็นคนแพ้พวกกลิ่นน้ำหอมเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ยิ่งแป้งเด็กนี่สั่งแฟนห้ามใช้เด็ดขาดเลย
ทำไม Whatsapp มันทำตลาด IM ได้ทั้งๆ ที่บนมือถือก็ใช้ MSN ได้ น
msn ต่อช้า ไม่ได้ sync contact จากเบอร์
ส่งรูปส่งเสียงข้ามกันไม่ได้
emo น่ารักก็ไม่มี
whatsapp มันมีหมดที่กล่าวมาครับ...
Ebuddy มีมานาน คนรู้ว่า ถ้า on m ในที่ทำงานตรง ๆ ไม่ได้ให้ใช้ Ebuddy
พอมาจับ mobile คนก็คุ้นเคยครับ โหลดเร็วกว่า app ของ M เองซะอีก
Msn for mobile เลยไม่เกิดในบ้านเราครับ
ผมไม่แน่ใจว่าคุณ tomazzu กำลังตอบคำถามของผมหรือเปล่า
ถ้าใช่ ... ผมอยากบอกว่าที่ผมพิมพ์ไว้มันไม่ใช่คำถาม แต่เป็นการบ้านสำหรับคนที่อยากเปิดบริการทับไลน์ผู้ประกอบการรายเก่าให้กลับไปคิดเล่นๆ ว่าผู้ประกอบการรายใหม่ๆ ดังกล่าวเค้ามีอะไรดีจึงสามารถแย่งตลาดไปจากผู้ประกอบการที่อยู่ในไลน์เดียวกันไปได้ครับ
ส่วนตัวผมมีคำตอบในใจอยู่แล้วล่ะ :P
หลายอันนี้คงทำให้หลายคนสะอึก เพราะมันจริง - -*
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ช่วยให้คิดได้เร็วขึ้นว่าจะทำดีหรือเปล่า ขอบคุณครับ
ถ้าของไทยนี่รวมถึงพวก "หาเงินง่ายๆ แค่เล่นเน็ตวันละ 4 - 5 ชั่วโมงก็ได้เงิน, แท็กรูปผู้หญิงน่ารักๆ, ฯลฯ"
เอ๊ะ! หรือว่ามันเวิร์ค
มันเวิร์คนะครับ
ถ้าหมายถึงการทำให้ผมอารมณ์เสียอ่ะนะ เห็นปุ๊บ หงุดหงิดปั๊บ
Hosting ด้วยอีกอัน
ตามความคิดของผมนะ สำหรับบ้านเรา
เวบ fail.in.th นี่ไม่สำเร็จเหรอครับ ยังไงอ่ะ?
ผมว่าเค้ากำลังไปได้ดีเลยนะ (ความรู้สึกส่วนตัว)
เค้าหมายถึงเว็บที่ลอก fail ไปอีกทีรึเปล่าครับ?
fail นี่ทุกคนคงรู้สึกเหมือนกันว่า WIN ไปแล้วครับ
กด save ครั้งเดียว ทำไมมันขึ้น 2 อันหว่า
ช่วงนี้เห็นมีเว็บนอนหงาย นอนคว่ำ มีเยอะไปหมด คล้ายๆ Fail เลย
ผมเริ่มต้นตอบโจทย์ปัญหาที่อยู่ใกล้ตัวให้ได้ก่อน และใช้งานได้ง่าย
เช่น Facebook อยากเพื่อนรู้ว่าเพื่อนทำอะไรอยู่ คิดเห็นอย่างไร << สรุปมาจากหนัง
สรุปเว็บข่าวยังไม่เข้าค่าย เย้ ฉะนั้น เว็บผมก็ยังคงอยู่ 555
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ฟังแล้วก็พิจารณาตามสมควร ตามข้อมูลที่ตัวเองมี อย่าเชื่อหมดจนกลายเป็นกับดักทางความคิด
"อย่าเชื่อหมดจนกลายเป็นกับดักทางความคิด" ผมชอบจังเลยครับ
พิมพ์สั้นๆ แต่อ่านแล้วเข้าใจง่าย ผมอธิบายยาวเป็นหางว่าวเพราะต้องการสื่อสารความหมายเดียวกับคุณนี่แหละ
สงสัยต้องหาหนังสือมาอ่านให้เยอะขึ้น -..-
ขายเครื่องสำอางค์ กระเป๋าแบรนด์เนม ในไทยชนะเลิศค่ะ รายได้เป็นหมื่นๆต่อเดือน บางรายเป็นแสนเลยค่ะ platform ก็ง่ายๆ ใช้เว็บสำเร็จรูป กับติดต่อโรงงานเพื่อผลิตเครื่องสำอางค์สูตรตัวเอง
ถึงมันจะซ้ำ แต่ถ้าได้เงินดี ใครจะไม่ทำละครับ เนาะ.... :D
มันก็จริงน่ะครับ ว่ากันว่านี่แหละสไตล์คนไทยเลย
คนไทยชอบ me too ใครทำอะไรแล้วรุ่ง & รวย ก็จะแห่กันไปทำจนตลาดเฟ้อและวายอย่างรวดเร็ว
สักพักก็จะเหลือเจ้าที่อดทนหรือจริงจังอยู่ไม่กี่ราย
(คงเห็นกันมาเยอะแล้ว ทุกยุคทุกสมัย พวกตู้สติ๊กเกอร์, ร้านกาแฟสด, โรตีบอย, เว็บ portal, เว็บฝากรูป, ฯลฯ ..และล่าสุดก็คือ social commerce)
ผลที่พบก็คือ ตลาดไม่ค่อยมีความหลากหลายครับ ไม่ค่อยมีใครคิดอะไรใหม่กันเท่าไหร่
รอแค่ว่า trend อะไรมาก็เกาะกันไป
ปล.ไม่รู้ประเทศอื่นเค้าเป็นกันรึเปล่านะครับ ผมไม่ค่อยได้ไปต่างประเทศ
ว๊ายยย ถูกใจให้ give +1 +1 +1
ต่างประเทศไม่แน่ใจ เพื่อนที่อยู่อเมริกาส่วนใหญ่บอกว่าซื้อขายผ่านทาง ebay ค่ะ
น่าจะมีเวปไว้ระบายอารมณ์ที่มันสิงสู่ในใจมั่งน่ะ แบบว่ามันเครียดอ่ะ
ทำบล็อกตัวเอง?
จริงๆ แล้วผมว่า Blognone ก็เป็นเว็บที่หลายๆ คนเข้ามาระบาย "ความใคร่" ในแบบฉบับของแต่ละคนนะครับ
รวมผมด้วยคนนึง