หนึ่งในนโยบายสุดเจ๋งที่เรียกได้ว่าสร้างความตกตะลึงให้กับวงการ IT ของว่าที่รัฐบาลใหม่โดยพรรคเพื่อไทยนั้น ก็คือ Tablet เพื่อการศึกษา เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายต้องเอามานั่งคิดกันหัวแทบแตกเลยทีเดียว แต่เรื่องที่สำคัญกว่านั้นก็คือ "ใคร?" จะเป็นผู้ดำเนินการเรื่องนี้ให้กับรัฐบาล และความคืบหน้าก็อยู่ที่นี่ครับ
คุณนิธิพันธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดของ Acer ได้ออกแถลงภายในงานความร่วมมือระหว่าง TK Park กับ Acer ถึงเรื่องของนโยบายใหม่นี้ว่า Acer จะยังไม่มีแผนการ หรือเข้าร่วมโครงการในการออก Tablet ราคาถูกให้รัฐบาล เหตุเป็นเพราะว่าด้วยต้นทุนการผลิต และปัจจัยต่างๆ ที่ Acer คิดแล้วว่ายังไม่คุ้มทุนในการดำเนินการในตอนนี้ อีกทั้งจำนวนการสั่งซื้อน่าจะสั่งเป็นจำนวนมาก ถ้ารัฐบาลจะดำเนินการในเรื่องนี้จริงๆ ควรไปหา OEM มารับดำเนินการแทน เนื่องจากจะมีอำนาจในการต่อรองสูง ได้ต้นทุนราคาดี และบริการหลังการขายที่ดีกว่า
ที่มา - MXPhone
Comments
เรามาถกข้อดีข้อเสียของ "Tablet vs Ebook Reader" ในการนำมาใช้กับเด็ก ประถมกันดีกว่า
ถ้าหน่วยงานมีความสามารถในการพัฒนาสื่อการสอนให้ดีได้ ผมว่า tablet เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่านะ
Ebook ดูท่าจะพลิกแพลง และ มีข้อจำกัดเยอะไปหน่อย ถึงจะสบายตาอ่านง่ายก็เถอะ
เรื่องพลังงานผมว่าไม่ค่อยเป็นประเด็นเท่าไหร่ เอาให้พอเช้าไปเย็นกลับก็พอ ( หรือไม่กลัวแบตหมดกันนักก็ไม่ยาก ทำให้โต๊ะมีที่ชาร์ทไฟก็ได้ หรือชาร์ตตอนพักเที่ยงก็ดี คงไม่ยากเนอะ ) และอีกอย่างก็คง ต้องใช้ควบคู่กับ สมุด และ หนังสือ ไปในระยะแรก คงไม่สามารถ พัฒนาหลักสูตรให้ดีได้ในเริ่มแรกหรอก แต่ถือเป็นก้าวสำคัญ
เดินไปข้างหน้าถึงจะช้าบ้าง แต่ดีกว่ายืนอยู่เฉยๆอ่ะนะ ( สรุป เชียร์ tablet )
จากความน่าจะเป็นและประโยชน์ที่มากที่สุด ฟันธงที่ Tablet Android ไม่มีอื่นอีกแล้ว ทั้ง app ฟรี และ ระบบเปิดทำให้นักพัฒนาไทยหลายๆคนสามารถ ทำใด้เองตั่งแต่ออกแบบอุปกรณ์ ปรับแต่ง boot loader ,kernel ,rom , Home ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้ใด้อุปกรณ์ ที่รองรับความต้องการของเด็กไทยมากที่สุด
เห็นมีบริษัท ฟอส กำลังพัฒนาอยู่แต่ไม่รู้ว่าใช่ตัวนี้หรือปล่าว
มองว่าควรเป็นแอนดรอยแทปเล็ตเหมือนกันครับ เหตุผลคือ
1.สามารถลดต้นทุนโดยการจ้างผลิตแทปเล็ตราคาถูกจำนวนมากได้ ราคาน่าเหลือซัก 5-6 พัน
2.ไม่ต้องจ่ายค่า X-code/ อื่นๆ ในการเป็นนักพัฒนา
3.สร้าง Android ของประเทศเอง ซึ่งประกอบด้วย
UI ที่ซับซ้อนน้อยกว่า Android ปัจจุบัน (สำหรับเด็กทั่วไปใช้ UI มีชั้นเดียวแบบ iOS พอแล้วคับ)
มีโปรแกรมสำหรับการเรียนรู้มาตั้งแต่เปิดเครื่องครั้งแรก
ควบคุมเรื่องการติดตั้งเกมต่างๆได้ด้วย อาจจะบล็อกการลงโปรแกรมเอง(ไม่มี android market แต่มีmarketของตัวเอง) เวลาอยากได้โปรแกรมไหนเพิ่มจริงๆ ก็ไปฝากโหวตผ่านอาจารย์ที่ห้องคอมโรงเรียนเอาเอง
ซึ่่งถ้าไม่สามารถทำข้อ 3 ได้ ผมก็โหวตว่าไม่ควรเอาแทปเล็ตมาใช้ครับ เครื่องเกมพกพาชัดๆ
ลองคิดดูว่า Tablet แม่สายพอหาได้ราคาประมาณสองพันกว่า ถ้าสั่งทำสักสามสี่แสนเครื่องน่าจะได้สามพันกว่า แต่คุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดีได้เลย 64k color ก็พอไม่ต้อง 16 ล้านสี
ใช้เรียน CAI ได้, อ่าน PDF ได้, มี SD Card reader, เข้าเวปได้ ดู VDO ขนาด 1/4 จอ ไม่กระตุก ก็พอ
ระดับพอเพียง ไม่ต้องเกินพอดี USB ไม่ต้อง Bluetooth ไม่เอา และคงไม่ต้องพูดถึง Web Cam ด้วยงบขนาดนี้คงไม่มี
spec ระดับนี้ จัดเป็น Andriod น่าจะได้อยู่นะครับ
ไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้อย่างยิ่งดังที่ได้เคยแสดงความคิดเห็นไว้แล้วในข่าวก่อน ๆ
That is the way things are.
+100 เด็กประถมจะดูแลอุปกรณ์พวกนี้ได้ดีสักเท่าไหร่ครับถามจริงเหอะ(ผู้ใหญ่บางคนยังดูแลอุปกรณ์ก็เหมือนกัน) เสียงบเปล่าๆ(อาจจะมีคอรัปชั่นกันอีกหลายๆทอด) ถ้าจะแจกแจก ม.ปลายดีกว่า เมื่อจบการศึกษาค่อยคืน แบบนี้ดีกว่ามั้ย
แจกตอนประถม ถูกแล้วครับ ปัจจุบันมีโครงการเรียนฟรี หนังสือฟรี ของ ปชป อยู่ ถ้าเปลี่ยนเป็น tablet ราคาถูก (แต่ต้องทนหน่อยหนึ่ง) แล้วแจก ebook แทน ไช้สัก 2-3 ปีก็น่าจะถึงจุดที่คุ้มค่าแล้ว
ไม่ต้องพูดว่า tablet มันดัดแปลงทำ sound lab, lab แห้ง ไช้แทนสมุด ฯลฯ ใด้
... และอืนเดียทำแล้วใด้ราคา $35
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผมว่าคุณ penaree เค้าถามว่า "เด็กประถมจะดูแลอย่างไร" นะครับ
ออกแบบดีๆ ขอบสูง มีพลาสติกปิดจอ กรุยาง น่าจะไม่มีปัญหา
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ไม่เห็นด้วยเหมือนกัน แต่คนส่วนใหญ่เลือกมาแล้วมันก็ต้องนะ
ถ้าพูดถึงชาวไล่ชาวส่วน ใครบ้างละไม่อยากให้ลูกใด้อุปกรณ์ที่ทันสมัย ใด้กองทุนหมู่บ้าน บัตรเอทีเอม แต่ยังไงปัญหาก็ต้องเกิด
เด็กสายตามีปัญหา แทบโดนโขมย ทำแทบหาญ เด็กเอาแต่เล่นเกมส์ ไม่ออกไปข้างนอก อื่นๆ
แต่ยังไงก็ตามแก้กันไป
เจองี้อยากกรี๊ดให้สิ้นสติ...
คำว่า "ได้" ต้องไม้มลาย เสมอ! นะครับท่าน
รวมถึงในลายเซ็นท่านด้วย
ชาวไร่ชาวสวน ? = ="
นั่นสิครับ ถ้ามันหายซื้อให้ฟรีอีกหรือเปล่าผมว่าเอางบไปแจกหนังสือเรียนให้มีกันถ้วนหน้าจะดีกว่านะ
ในโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง ครูใหญ่อยากจะได้สนามฟุตบอลขนาด full size สนามนึง แกเลยประกาศออกเสาธงในเช้าวันนึงว่า โรงเรียนของเราจะส่งเสริมด้านการกีฬาให้มากขึ้น เพื่อให้เด็กๆ มีสุขภาพ พลานามัยแข็งแรง เพื่อการนี้เราจำเป็นต้องมีสนามฟุตบอล และต้องเป็นสนามหญ้าด้วยเพื่อเด็กๆ จะได้ไม่บาดเจ็บเวลาหกล้ม พวกอาจารย์และเด็กๆ ได้ฟังก็เคลิบเคลิ้มอยากจะมีไปตามนั้น ครูใหญ่ก็สั่งให้อาจารย์ขนเด็กเกือบทั้งโรงเรียนไปเดินตากแดดรอบตลาดเพื่อขอเรี่ยไร แถมยังให้เด็กๆ ถือซองกลับบ้านไปขอรับบริจาคจากผู้ปกครองทุกๆ บ้านด้วย เวลาผ่านไปสองสามเดือนที่โรงเรียนนั้นก็มีสนามหญ้าสำหรับเตะฟุตบอลสมดังใจของครูใหญ่ แต่เด็กๆ ไม่ค่อยจะได้มีโอกาสได้ลงไปเล่นเพราะครูใหญ่กลัวว่าหญ้ามันจะตาย กิจกรรมน้อยใหญ่ก็ยังจัดใต้อาคารเรียนเหมือนๆ เดิม แต่เนื่องจากโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนเดียวในย่านนั้นที่มีสนามฟุตบอลสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่นั้นมา ตกเย็นจะมีพวกกลุ่มวัยรุ่นพาพรรคพวกเข้ามาเตะบอลในโรงเรียนทุกวัน เวลาผ่านไปไม่นานสนามหญ้าเริ่มพัง หญ้าขาดกระจุย แห้งตายเป็นหย่อมๆ แล้วขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีเสียงจากครูใหญ่ ไม่มีคำพูดใดๆ จากครูประจำชั้น เวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งปี สนามหญ้าก็กลายเป็นสนามดินเหมือนเดิม โดยที่เด็กที่ไปเดินตากแดดแทบจะไม่เคยได้สัมผัสหญ้านั้นเลยด้วยซ้ำ.. ผมก็เป็นคนนึงที่เคยไปเดินตากแดดมาก่อน
เรื่องบางเรื่องผู้นำอยากจะทำ อยากจะให้มี ก็ผลักดันทุกวิถีทาง แต่ไม่ได้ดูความพร้อมของคนในปกครองเลย แถมพอทำสำเร็จแล้วไม่มีการติดตามผล ไม่มีการบำรุงรักษาก็ปล่อยให้สิ่งที่ทำนั้นทรุดโทรมอย่างรวดเร็ว สิ้นเปลืองทั้งงบประมาณ เวลา และเสียความรู้สึกจริงๆ
ปัญหา น่าจะเกิดจากตัวครูใหญ่เองนะครับ นั่น
ครูใหญ่ มี Idea ที่ดี แต่ไม่มี I do
อารมณ์ คล้าย นโยบาย รีไฟแนนหนี้นอกระบบ ของรัฐบาลชุดที่แล้ว
แต่วิธีการ กลับมีปัญหา คือ
1.ต้องเอาเจ้าหนี้นอกระบบ มาพบ เจ้าหน้าที่
2.ต้องการคนค้ำประกัน
ส่วนนี่ เราพึ่งเห็นแค่ Idea ยังไม่ได้เห็น I do รัฐบาล
การยกเรื่องครูใหญ่มา วิจารณ์ ดูจะไม่ถูกต้องนัก
ต้องเห็น I do รัฐบาล ก่อนถึงจะวิจารณ์ได้หรือไง
ประเทศนี้ประชาธิปไตย์เยอะ จนล้นทะลัก กลับวิจารณ์ ไม่ได้
ผมแค่เสนอความคิดเห็นว่า คุณกำลัง วิจารณ์ วิธีการ โดยที่คุณยังไม่ได้เห็น หรือ รับรู้วิธีการนั้นเลย มันไม่ยุติธรรม กับ รัฐบาล
ไม่ได้ห้ามแม้แต่น้อย จะวิจารณ์ หรือ ไม่ เป็น สิทธิของคุณครับ
ผมว่าคุณอ่านไม่ทันจบก็รีบวิจารณ์ ถ้าอ่านจนถึงย่อหน้าสุดท้ายก็ควรจะเข้าใจสิ่งที่ผมพยายามจะสื่อนะครับ ว่าปัญหามันเกิดจากผู้ปกครองไม่ได้ดูความพร้อมของคนในปกครอง
ครูใหญ่มีความริเร่ิมที่ดี แต่นั่นอยู่บนพื้นฐานของผมอยาก ไม่ใช่ความจำเป็น ที่จริงมีโครงการอื่นที่น่าจะผลักดันอีกมาก แต่การลงทุนในสิ่งของมันทำให้เห็นตัวผลงานได้ดีกว่า
ครูน้อยสนองนโยบายครูใหญ่ แต่นั่นเพียงแค่การสร้างไม่ใช่การติดตามผล สนามถึงได้เละเทะโดยไม่มีใครดูแล
เด็กๆ นั้นสนองนโยบายของครูใหญ่และครูน้อย แถมหลงใหลได้ปลื้มไปกับฝันที่ครูมอบให้ จึงไม่รู้เลยว่าโครงการที่สร้างขึ้นมานั้นผลประโยชน์ตกกับใคร และรายทางที่งบประมาณผ่านมือไป ตกหล่นระหว่างทางแค่ไหนก็ไม่รู้
อ้อ แล้วผมก็วิจารณ์นโยบายครับ ไม่ได้วิจารณ์วิธีการ สับสนอะไรหรือเปล่าครับ :)
ที่คุณยกมาก็ชัดเจนแล้วครับว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับความพร้อมอะไรของใครเลย แต่เป็นเพราะความกั๊กไม่เข้าท่า ไม่ใช่สมอง ไม่มีวิจารณญาณ ของตัวครูใหญ่เอง
คุณเปรียบกับประชาธิปไตยบ้านเราอยู่รึเปล่า? ที่มีชนชั้นสูงกั๊กอำนาจไว้ มีประชาธิปไตยไว้เท่ๆ แต่พยายามออกคำสั่งไม่ให้ใช้ประชาธิปไตยเต็มใบ
ปรากฏว่าคนที่ควรใช้กลับไม่ได้โอกาสใช้ แล้วก็โดนหาว่ามีไว้แล้วไม่เกิดประโยชน์อีกต่างหาก
ถ้าเด็กๆได้ใช้แต่แรก ถึงจะมีพวกวัยรุ่นมาใช้ตอนเลิกเรียน แต่เด็กๆก็ยังได้ประโยชน์ และเมื่อมันเกิดประโยชน์ มีคนเห็นค่า ก็จะมีระบบจัดการดูแลรักษาที่ดีตามมา
ความพร้อมของคุณคืออะไร?
ความจริงแล้วไม่มีอะไรที่พร้อมได้ ถ้าไม่ได้มีให้ลองใช้ เหมือนคนจะขี่จักรยาน มันก็ต้องฝึกกับจักรยาน
อย่างมากก็แค่มีล้อพยุงสองข้าง และมันไม่มีวันได้ใช้เป็นถ้าไม่ถอดล้อแล้วให้ผึก
ขนาดขี่แบบมีล้อช่วย ยังล้มลุกคลุกคลาน มีไม่กี่คนที่ถอดล้อช่วยแล้วไม่ล้ม
คุณไปเอาความคิดว่าคนใช้อุปกรณ์อะไรซักอย่าง ต้องมีความพร้อม มาจากไหน โดนใครเป่ามา?
ขนาดทหารเขายังสอนๆ แค่ส่วนนึง แล้วให้ฝึกกับปืนจริงเลย
ถึงจะอยู่ใต้การควบคุม ใช้ของที่ไม่สมบูรณ์ แต่มันก็คือการได้ใช้ของจริงที่ใช้ได้จริง
คิดว่าผมถูกเป่าหูมา?? คิดว่าคนอื่นนอกจากตัวเองคิดเองไม่เป็น??
ดูถูกคนใช่ย่อยเลยนะนี่ สะท้อนให้เห็นเลยว่ามิติทางความคิดของคุณคับแคบมาก
คนใจแคบ ไม่น่าคบ .. แต่ผมอโหสิ ละกัน :)
คนที่มี Bias ก่อนคือคุณ ที่บรรจงคิดขึ้นมาได้ยังไงไม่รู้ว่า "คนอื่นไม่พร้อม" หลักจากนั้นความคิดของคุณมันก็วางอยู่บนตรรกะแคบๆแค่นี้
ยกตัวอย่างมาก็มีช่องโหว่อีกต่างหาก
คุณต้องมีอะไรพร้อม ถึงคิดว่าตัวเองมีสิทธิ์มาวิจารณ์นโยบายของรัฐบาลล่ะ?
นี่วิจารณ์นโยบายรัฐบาล ไม่ได้เขียนข่าวออกหน้าแรกซะหน่อย แถมผมไม่ได้ตอบคุณด้วย อยู่ดีๆ คุณก็มาปาวๆ ใส่ผม นี่ผมงงจริงๆ นะนี่
เป็นเดือดเป็นแค้นขนาดนี้ มีวาระอะไรซ่อนเร้นหรือเปล่า??? คุณรู้อยู่แก่ใจตัวเอง
ถ้าไงเจอกันคราวหน้าก็ไม่ต้องพิมพ์ตอบก็ได้ ผมว่ามันดีกับตัวคุณมากกว่า :)
เดี๋ยวก็ชินครับ เดี๋ยวก็ชิน :)
ถ้าติดตาม blognone เรื่อยๆ คุณจะพบว่า บริษัทเล็ก สามารถ ล้มยักษ์ได้ ถ้ามี CEO เจ๋งๆ
และยักษ์ ก็สามารถตายได้ ถ้า CEO กาก
จะไม่ค่อยมีมุมมองว่า บริษัท นั้น พนักงานมีความพร้อมไหม ตัวองค์กรณ์มีความพร้อมไหม
ทำไม ถึงเป็นเช่นนั้น
มันเป็นหน้าที่ ของ ผู้อำนวยการ ที่จะทำให้ทุกอย่างมันพร้อม ไปพร้อมๆกับการสร้าง สนามฟุตบอล
หรือก็คือ ผู้อำนวยการ มี idea ที่ดีในการที่รู้ว่า สนามฟุตบอล เป็นเรื่องจำเป็นหรือเป็นเรื่องที่ช่วยเพิ่มศักยภาพ ของโรงเรียน
แต่ขาด i do ในการบริหารจัดการ สนามฟุตบอล
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด นี่เป็นเหตุผลที่โครงการ OLPC ระบุว่าทำไมต้องแจก "ทุกคน" ไม่ควรใช้ระบบห้องแลปแบบทุกวันนี้ครับ เพราะการยัดใส่มือเด็กทุกคนรับประกันว่าเด็กจะได้เล่นจริงๆ ไม่เหมือนห้องแลปที่หลายครั้งผู้ใหญ่กลัวพังจนกลายเป็นไม่ได้ใช้งาน
อีกแนวคิดหนึ่งคือถ้าเด็กๆ มีความเป็นเจ้าของแล้ว การดูแลรักษาจะดีขึ้นกว่าการไปใช้ของส่วนกลางเอง
ผมเคยดูวิดีโอเรื่องนี้เมื่อนานมาแล้ว ยังไงถ้ามีเวลาจะหาวิดีโอที่ว่ามาลิงก์ให้
lewcpe.com, @wasonliw
ชอบคำตอบของคุณ lew จิงๆ ครับ บางครั้งไม่เห็นด้วย แต่ก็ยอมรับว่าแน่นด้วยข้อมูล
อยากให้ทุกๆท่านดูตัวอย่างไว้นะครับ ว่าการแย้งที่ดีเป็นยังไง
สำหรับตัวผมมองว่า ถ้าทางโรงเรียนเปิดให้ใช้ห้องแล็บได้อย่างอิสระ(ไม่เหมือนในทุกวันนี้ที่ห้องแล็ปเิอาไว้โชว์)ก็ไม่ต่างจากการที่เด็กทุกคนต้องมีแท็บเล็ท ซึ่งไม่ต้องเสียงบประมาณมหาศาลในจุดนี้ รวมถึงจำกัดสื่อที่ไม่สร้างสรรค์เพื่อไม่ให้เด็กเข้าถึง
Android แต่จอ ePaper/eInk ดีไหมครับ?
มีบางโรงเรียนในประเทศไทยใช้ tablet ในการสอนมาก่อนหน้านี้แล้วครับ
http://www.youtube.com/watch?v=XDMlTZSgSqI&feature=player_embedded
แจกเด็กประถม อนุบาล ?
เห้อออ พรรคเพื่อใคร ?
เวลาดูสาวชอบดูสาวขาวๆ Sex Sex เวลาดู Notebook ชอบแบบ"ถึกๆดำๆ"
Twitter : @Zerntrino
G+ : Zerntrino Plus
แจกเด็กประถมแทนหนังสือฟรีของ ปชป ครับ
ไช้ 2-3 ปีบวกลบดูดีๆ ประหยัดนะครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
+1 ดูผลแล้วค่อยวิจารณ์ครับ
โถ.. ใช้ได้ถึงปีหรือเปล่ายังไม่รู้เลยพ่อคุณ หวังว่าจะใช้ได้นานถึงสามปีเลยเหรอครับ
หนังสือฟรีประชาธิปัตย์ แค่เด็กเรียนเทอมเดียวก็รุ่งริ่งแล้ว แต่สภาพเน่ามันก็ยังเปิดอ่านได้
tablet ถ้าจอเสีย แบตเสื่อม บอร์ดพัง มันจะเปิดได้หรือเปล่า????
ขึ้นอยู่กับกการออกแบบและการรับประกันครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผมมองว่าอยู่ที่ผู้บริโภคมากกว่าครับ ต่อให้วัสดุดีๆมาทำ ถ้าใช้อย่างไม่รักษา มันก็พังอยู่ดีครับ เพราะมันคืออุปกรณ์อีเล็คโทรนิคอันแสนบอบบาง
ถ้าอยู่ได้ไม่ถึงเวลาที่รัฐบาลให้สัญญาไว้ ก็ค่อยให้รัฐบาลและเจ้าของบริษัทที่ทำ/ที่สั่งซื้อ เป็นคนรับผิดชอบครับ
หา "คนรับผิดชอบ" ในประเทศนี่เนี้ยนะ ขำ!!!
Happiness only real when shared.
ก็เลยไม่ต้องดำเนินโครงการอะไรเลย และก็ไม่ต้องพยายามหาความรับผิดชอบอะไรเลย?
นั่นสิ ถ้าคิดแบบนั้นก็ไม่ต้องพัฒนากันพอดี
สิ่งที่ต้องคิดคือ จะทำยังไงให้มันโปร่งใส่ มีการทุจริตน้อยที่สุด และโครงการประสบผลมากที่สุด
ยากตรงนี้...
โดยอัตตาส่วนตัวแล้วคิดว่าเพื่อไทยจะทำได้ดีกว่าปชป.
ส่วนตัวคิดว่า พท เหมือนสตีฟจ็อบ อยากทำคือต้องได้ มันเลยเห็นผลงานเยอะ แต่คนตรงกลาง/ผู้ปฏิบัติ ลำบาก
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ถ้าการซื้อวัตถุชิ้นนี้แล้วมันพัฒนาก็น่าจะเรียกว่าโจทย์ที่น่าคิด
คิดได้แค่ช่วงหาเสียง ทำจริง...
กองทุนน้ำมันอีก
/me เผ่นนนน
^
^
that's just my two cents.
ตอนหาเสียงเห็นเค้าเอา iPad ไปให้เด็กลองเล่นกัน ชอบกันใหญ่
พอตอนนี้ไหงกลายเป็น Andriod ไปได้หว่า รุ่งละงานนี้
ตอนหาเสียง เขาเอา iPad ไปให้ลองเล่น
เขาก็ไมไ่ด้หมายความว่าจะแจก iPad นี่
อย่างไรก็ตาม Android มันก็เป็น Tablet PC เหมือนกัน
อ้าวเหรอ แล้วเอามาให้เล่นทำไม?
ตัวอย่างว่า นี่คือ Tablet หน้าตาประมาณนี้มีแต่จอ กดๆ เพราะตอนนั้น iPad 2 หาง่ายสุดละ
กะลาซีแท๊ป 10.1 ยังไม่มาอะเปล่าหว่า
เป็นใคร ก็ต้องโชว์ iPad ทั้งนั้นละจะโปรโมต ไม่เอายี่ห้ออื่นมามันไม่เท่
จะให้เค้าสั่งผลิตรอ แล้วเอาตัวต้นแบบมาให้ดูงั้นหรือครับ?
ก็เหมือนกับป้ายร้านอาหารใช่เปล่าติดรูปซะสวย กุ้งอวบๆ ตัวโต พอสั่งมาจริงเป็นลูกกุ้งตัวซะเลียบเชียว
ปล.ตั้งใจจะไปกินกุ้งตัวโต
ระวังภาษีท่านจะรั่วไหลไว้เถอะครับ โครงการกินเงินภาษีมาแล้ว โครงการคอมพิวเตอร์รร.ยังไม่ครบเลย สมัยคุณทักษิณ 1เครื่องต่อหลายคนยังมีให้เห็นเด็กเองก็ไม่ต้องดูแลรักษาเครื่องเองด้วย แถมแทปเลตได้ยังไม่เท่า pcในหลายๆด้าน
ทุกรัฐบาลมีโครงการกินเงินทั้งนั้นแหละครับ ขึ้นอยู่กับว่าเขาย่อยหมด เลยหรือว่าถ่ายกากอาหารออกมาให้เราได้ใช้มั่ง
แทปเล็ตยังไม่เท่า pc ในหลายๆด้านก็จริง แต่ในหลายๆอย่างแทปเล็ตก็เหนือกว่า pc นะครับ โดยเฉพาะสำหรับเด็กที่ไม่ได้พิมพ์งานยาวๆ เขียนโปรแกรม สร้างคอนเทนท์อะไรต่างๆ
เพราะถ้าเป็นเรื่องหาข้อมูล รับความรู้ อ่าน e-book ใบความรู้ หรืออะไรอื่นๆที่เป็นการรับคอนเทนท์ แทปเล็ตเหนือกว่าครับ
ผมจำได้ว่าช่วงรัดถะบานนนน พี่เหลี่ยม สรรพากรมีหน้าที่รีดภาษีผู้ประกอบการซะตัวแห้งเลย เพราะนโยบายประชานิยมนี่แหละตัวดีเลย
ตั้งแต่นั้นมา คนไทยก็เสพติดประชานิยมมาตลอด กลับมาเที่ยวนี้ สรรพากรคงต้องทำยอดให้เข้าเป้าอีกแล้ว ส่วนผู้ประกอบการก็ตัวใครตัวมัน เหมือนเคย :)
ครั้งนี้ผมก็ไม่เอา 2 พรรคใหญ่ก็เพราะแบบนี้แหละครับ แข่งกันชูประชานิยม -_-"
ผมเลือกชูวิทย์เพื่อเป็นฝ่ายค้านไม่ว่าใครเป้นตรวจสอบให้ได้อย่างที่คุยละกันงวดหน้าเลือกอีกถ้าผลงานตรวจสอบดี
การรีดภาษีจากผู้มีหน้าที่ต้องชำระภาษีถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่การแอบ ซุก หนี ลดภาษีให้พวกพ้องนี่ต้องประณาม
คิดแบบนี้แสดงว่าเป็นลูกจ้าง.. :)
คิดแบบนี้แสดงว่า "เป็นพลเมืองตัวอย่าง" ครับ ไม่ใช่ลูกจ้าง
ทั้งนายจ้างและลูกจ้างควรจะต้องจ่ายภาษีตามที่กม. กำหนด นอกจะจะใช้ช่องโหว่ กม. ในการหลบเลี่ยงครับ
ที่จริงก็อยากจะคิดอะไรที่มันเป็นเชิงอุดมคติเหมือนกัน ถ้าถามผมสมัยที่ยังเป็นลูกจ้างอยู่ก็คงคิดเหมือนท่านข้างบน
แต่พอดีสังคมไทยมันไม่ใช่อย่างที่เราอยากให้มันเป็น ถึงคุณทำถูกต้องแต่พอถึงเวลาเค้าเรียกคุณเข้าไปหา แล้วบอกว่าปีนี้ขอเพิ่มยอดหน่อยนะ นายสั่งมา คุณกล้าปฏิเสธ? ถ้าคุณกล้าก็ต้องรับได้กับผลที่มันจะตามมาด้วยนะครับ
ผมถึงบอกว่าคนที่คิดเชิงอุดมคติน่าจะเป็นลูกจ้าง เพราะลูกจ้างมีชีวิตเพื่อวันเงินเดือนออกเท่านั้น แต่ผู้ประกอบการมีชีวิตเพื่อให้พรุ่งนี้ธุรกิจยังคงอยู่
อันนั้นมันขึ้นอยู่คุณครับ
ผมไม่ปฏิเสธว่ามันมีอยู่จริง และไม่ปฏิเสธว่ามันยากที่จะต่อต้าน แต่มันจะวนอยู่กับที่ถ้าเราไม่พยายามเปลี่ยนแปลง
แก้เพิ่มนิดนึงครับ
ผมเข้าใจคุณนะ ถ้าไม่มีแบ็คดีๆ มันก็ยากที่จะไปงัด ผมพยายามขอใบอนุญาตซื้อปืนแบบ "ตรงไปตรงมา" มานานแล้ว ยากมาก นายอำเภอจะเอาเงินท่าเดียว
+1 อย่าอายที่จะทำสิ่งที่ถูกต้อง จงอายเมื่อทำผิดครับ
ผมกำลังจะลาออกครั้งสุดท้ายครับ อิอ
ระยะยาวผม ว่าดีเจริญ แต่ช่วงต้นคงสะดุดกันน่าดู
สิ่งที่ดี ที่ผมคิดว่าน่าจะเกิดคือ
- มันจะผลักดันให้เกิด content ภาษาไทย สำหรับ tablet อย่างก้าวกระโดดเลย ทั้งแบบมีคุณภาพและไร้คุณภาพจะประเดประดังผลิตกันขึ้นมาไม่ลืมหูลืมตา
- สร้างงานให้กับบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ IT และพวก Software House อีกมากมาย ( ถ้ามีสายสัมพันธ์กับนายหญิงด้วยจะดีมาก )
- สถาบันการศึกษาจะเร่งปั๊มสาขาไอทีกันอีกมากมาย มากยิ่งกว่าตอนนี้เป็นเท่าตัว นักศึกษาที่มีคุณภาพและไร้คุณภาพจะออกมาเดินเต็มถนน ( เพราะตกงาน เนื่องจากปั๊มเกินความต้องการ เหมือนที่สมัยหนึ่งแข่งกันปั๊มวิศวะ )
- งบประมาณ ประเทศจะสูญเสียไปทุกๆ ปี เพราะต้องซื้อ tablet ใหม่มาใช้แทนอันเก่าที่เสียหาย พัง จากการใช้งานอย่างเดียว แต่ไม่มีการดูแลรักษา ทำไงได้ เงินนายกทั้งนั้น ไม่ต้องห่วง
- บริษัทห้างร้านจะตัวลีบลงไปสองเท่า เท่าแรกเนื่องจากค่าแรง 300บาทต้นปีหน้า เห็นฟุ้งกันเหลือเกินว่ามีมาตรการลดภาษีสำหรับนิติบุคคลมาช่วยเหลือ ผมถามหน่อยเถอะ sme บ้านเรานี่มันเป็นนิติบุคคลกันหมดทั้งประเทศหรือเปล่า หรือต้องไล่คนไปจดนิติฯ กันให้หมดใช่ไหม ( จำนวนไม่น้อยนะครับ ที่เป็นบุคคลธรรมดา หรือคณะบุคคล ซึ่งมาตรการที่ว่ามันไม่ครอบคลุม ) เท่าที่สองเนื่องจากต้องหาเงินไปอุดประชานิยม ต้องเรียกใหม่ว่าโคตรอภิมหาประชานิยมอมตะนิรันดร์กาลนานเทอญ สาธุ..
ต่อไปจะไม่มีช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวย.. เพราะทุกคนจนหมด ( ยกเว้นใครที่คนก็รู้ว่าคุณ เอ๊ะ..?? )
ผมนึกถึงคอมพิวเตอร์เอื้ออาทร ที่ไปต่อคิวซื้อที่เมืองทองธานี ราคา 9900 บาท (จำไม่ได้ว่ารวมจอด้วยหรืเปล่า)
อย่างเดียวที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นคือ คอมประกอบราคาถูกลง
tablet ตัวนึงถูกสุดจะราคาเท่าไหร่อ่ะครับกรณี OEM จริงแล้วก็อายุการใช้งานจะเท่าไหร่อ่ะครับ
ถ้าตัวละ 10k ใช้ได้ 4 ปี ตกปีละ 2.5k ก็น่าจะคุ้มนะครับใช้แทนหนังสือเรียนคงได้ แต่คงต้องมี
สมุดจดต่างหาก แล้วก็ใช้อย่างอื่นได้ แต่เด็กๆเค้าปรกติต้องจ่ายค่าหนังสือปีละเท่าไหร่อ่ะครับ
ปีละ 2.5k ถือว่าเป็น cost ที่สูงมากนะครับ เพราะรู้อยู่แล้วว่าเด็กไม่สามารถใช้ประโยชน์มันได้เต็มที่แน่นอน เพราะเอกสารต่างๆ ยังเป็นกระดาษอยู่ และสื่อหลายๆ อย่างยังไม่ได้รับการพัฒนาให้เป็นระบบ CAI
ต้องให้อาจารย์เข้าใจระบบ Moodle ก่อนมั้ง เพราะน่าจะใช้ประโยชน์ได้มากกว่า ผมว่าไม่น่ามีเยอะนะที่ใช้ระบบ Moodle แล้ว ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียน Inter
คงต้องอีกนาน กว่าจะพัฒนาและ ปรับตัว ฟังแล้วเศร้าๆ จัง
เห็นของ i mobile 7" ขายอยู่ 9990 บาท โทรออกได้ 3g และมี tv
สังเยอะๆ ปรับ spect หน่อย ราคาอาจถูกกว่า 5000
oem เองถูกกว่านั้น แต่ต้อง ดูแลเอง
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
แบตล่ะครับ
เสปคโม้ไว้ว่า talk time 6 ช.ม. (เครื่องมันโทร์ใด้) standby 200 ช.ม. (แต่หมายถึงดับจอ)
... เอาจริงแบตมันจะอยู่ใด้น้อยลงเรื่อยๆ อาจต้องมีที่ชาจให้ตอนเที่ยงกันเหนียว
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เรื่องเรียนฟรี ผมไม่รู้ว่ามันมีจริงหรือไม่ จำได้ว่าตอนอยู่ปวช. รัฐบาลตอนนั้นประกาศเรียนฟรี แต่ที่เทคนิคสมุทรปราการก็ยังหาเรื่องมาดูดเงินนักศึกษาได้เรื่อยๆ เช่น บังคับซื้อ มัลติมิเตอร์ที่วัดอะไรไม่ได้เลย (เพี้ยนสูง, สายขาดใน) บังคับซื้อชุดหัวแร้ง, ตะกั่ว ซึ่งหัวแรงร้อนจนลายทองแดงหลุด ตะกั่วก็ไม่เกาะผิวทองแดง ฯลฯ แถมยังมีค่าบำรุงสถานภาพนักศึกษาอีก
ซึ่งทั้งหมดรวมแล้วประมาณ 700 บาท ซึ่งมันก็พอๆ กับตอนยังไม่ประกาศนโยบายเรียนฟรี
ปล.ส่วนตัวคิดว่ามันคือ "ความฉ้อฉล" ผมไม่ได้คุยเรื่องนี้กับคนอื่นว่าจริงๆ แล้วมันผิดระเบียบหรือไม่ หากใครรู้โปรดชี้แจงด้วย
** อันนี้พูดเฉยๆ ลอยๆ แบบคนบ้า > เด็กเอามือถือไปโรงเรียน:โดนริบ เอาของเล่นไป:โดนริบ แต่เอาแท็บเล็ตไป:ไม่โดนริบ **
พึ่งมีข่าวครับ ว่า นโยบายเรียนฟรี ปชป. มีนักวิชาการไปศึกษา แล้วก็บอกว่า ไม่ฟรีจริง (ข่าวออกช่วงเลือกตั้ง แต่ไม่รู้ว่าก่อนหรือหลัง)
สรุปคือนโยบายเรียนฟรี ไม่เคยมีรัฐบาลไหนทำได้จริง แต่ละโรงเรียนหาทางตอดค่าโน่นค่านี่เรื่อยๆ ได้ตลอดเวลา ผู้ปกครองก็จำยอม
พอพูดมาทำให้ผมนึกถึงเลยนะเนี่ย ว่าอาจจะต้องมีบัตรเครดิตผู้ปกครองแล้วมั้ง(แบบบัตรเครดิตชาวนา)
ให้รูดได้เฉพาะที่เกี่ยวกับการศึกษา แล้วก็ไปรูดกับโรงเรียนไปเลย โรงเรียนก็ไปเก็บกับรัฐบาลเอง
โรงเรียนไหนรูดไปเยอะก็ไปตีกันเองตามสบาย แล้วถ้าโรงเรียนไหนสั่งเก็บเงินสดก็แจ้งความได้เลย
อย่าให้รัฐบาลได้ยินนะ!
ไอ้บัตรเครดิตนี่แค่ฟังก็ผมก็นึกวิธีการใช้แบบผิดๆ ออกเยอะแยะ
ผมเจอคนไทยฉลาดและหัวหมอมาเยอะเกินไปหน่อย ก็เลยกลายเป็นพวกขี้ระแวง
ปล.ขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับ ทำให้ผมรู้ว่าผมคิดไม่ผิดจริงๆ บางทีก็แอบคิดว่า "สิ้นหวังแล้ว"
นโยบาย ปชป. "ให้เรียนฟรี" จริง แต่ที่ไม่จริงก็คือ "ให้เรียนฟรีอย่างหรูหรา" ครับ
ชาวบ้านที่ร้องเรียนว่าเรียนไม่ฟรี จะเป็นส่วนที่นอกเหนือจากหลักสูตรทั้งสิ้น เช่น ค่าเรียนคอมพิวเตอร์ ค่าเรียนภาษาจีน ค่าจ้างครู ตปท. ค่าเรียนว่ายน้ำ ฯลฯ
ซึ่งไม่ได้อยู่ในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นสิ่งที่ ทาง รร. ให้มาตอบสนองผู้ปกครองนักเรียนทั้งสิ้น... เมื่อ ผู้ปกครองร้องมาว่าอยากให้มี รร. ก็จัดให้ แต่ต้องจ่ายเพิ่มนะ คนมีตังค์ก็โอเคจ่ายได้... แต่คนที่มีตังค์น้อย ก็มาร้องเรียนว่าไม่ฟรีจริง...
ประมาณนี้ครับ
ปล.ลูกผมเรียน รร.อนุบาลของจังหวัด ก็เจอแบบนี้เหมือนกัน
บางครั้งมันไม่ใช่อะไรที่ผู้ปกครองเรียกร้องหรือเต็มใจจ่ายครับ
สำหรับบางโรงเรียน เรียกเอาไปใช้จริงในเรื่องที่ผู้ปกครองเรียกร้อง
สำหรับบางโรงเรียน เรียกเอาไปใช้จริงในเรื่องที่ แค่ผู้ปกครองบางคน เรียกร้อง
สำหรับบางโรงเรียน เรียกเอาไปใช้จริงในเรื่องที่ ผู้ปกครองไม่ได้เรียกร้อง แต่โรงเรียนบอกว่าอยากจะจัด
ปัญหานี้เป็นมาตลอดทุกรัฐบาลครับ ไม่ว่ารัฐบาลไหนจะมีนโยบายเรียนฟรีไม่ฟรีกี่ปีก็ตามแต่
มันไม่ได้เป็นทุกโรงเรียน แต่นั่นก็หมายถึงมีเด็กและผู้ปกครองจำนวนมากเป็นเหยื่อจากนโยบายที่รัฐแก้ปัญหาไม่ได้จริง
นอกจากเงินภาษีที่เอาไปใช้พัฒนาประเทศจะถูกตัดมาลงส่วนนี้แล้วก็ยังต้องเสียเงินเท่าเดิม ยุติธรรมรึเปล่า?
เอาจริงๆก็ผมก็ไม่รู้ว่า เคสของคุณ อยู่ในเคสที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่เรียกร้อง มีแค่ส่วนน้อยที่ไม่ต้องการจ่าย
หรืออยู่ในเคสที่ผู้ปกครองแค่บางคนเรียกร้อง แล้วมันก็ไปเดือดร้อนผู้ปกครองคนอื่นที่ไม่ได้เรียกร้อง
มันไม่จริงตรงที่ คุณปฏิเสธไม่ได้ไง
ไม่รู้คนประกาศนโยบาย และบอกว่าทำได้จริงจะได้ดูข่าวไหม ที่มีข่าวคนฆ่าตัวตายเพราะหาเงินไปจ่ายค่าเทอมลูกไม่ได้ เร็ว ๆ นี้เอง
@touchie
แล้วอย่างผมล่ะครับ หลักสูตรเหมือนเดิมทุกอย่าง เรื่องที่ผมเล่าคือตอนเรียนปวช. ที่ไม่มีเรียนอะไรหรูๆ แบบนั้นแน่นอน มีแต่บังคับซื้อมัลติมิเตอร์ห่วยๆ ชุดงานบัดกรีช่างอิเล็กฯ ห่วยๆ ฯลฯ ที่มันห่วยๆ
ผมว่านโยบายมันดีครับ แต่ทำให้เกิดขึ้นยากในประเทศไทย เพราะว่าการฉ้อฉลมันเยอะ มันไม่ใช่ทุจริตครับ เพราะทุจริตมันผิดกฏหมาย
แต่การฉ้อฉลนี่หลายๆ ครั้งไม่ผิดกฏหมายครับ แต่ศีลธรรม/จรรยา/มนุษยธรรมมันไม่มี
แบบที่คุณ nidku53 พูดไว้ด้านบน ในประเทศไทยมันยังมีเรื่องแบบนี้อยู่เยอะมาก
เด็กประถมความรับผิดชอบต่ำมากๆ
เด็กมีหน้าเล่น ส่วนเรียน เราไปบังคับเขา
เด็กเล่นอย่างเดียว ความรับผิดชอบ ไม่ใช่สิ่งที่เด็กวัยนี้มี
ดังนั้น ต้องออกแบบเครื่องให้ทนครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผมตั้งงบไม่น่าเกิน 4500 บาท อายุการใช้งาน 3 ปี ประกันเครื่อง 2 ปี ถ้าเกินกว่านี้ถือว่าแพง ทำยังไงก็ได้ให้ใช้ Wifi ได้ เล่นเวปได้ มี sd card reader จอสัมผัส
ถ้าค่าเครื่องปีละ 1500 ถือว่ายอมรับได้ ส่้วนบริการหลังการขายใช้การเหมาจ่ายเครื่องละประมาณ 250 บาท/ปี
3 ปี ก็ 5250 บาท รวมบริการหลังการขาย
ป1-ป3
ป4-ป6
ม1-ม3
ม4-ม6
อย่างละ 3 ปีพอดีๆ
ผมคิดว่าเป็น pc ดีกว่าแท๊บเล็ต นะครับสำหรับโรงเรียนประถม
อุปกรณ์พกพาที่เหมาะสำหรับเด็กป.1 ทนมือทนเท้าทนแดดทนน้ำทนฝุ่นทนกระแทก ใช้ง่าย ให้ความบันเทิงพร้อมความรู้
ตอนนี้ผมนึกออกตัวเดียว เกมบอยออริจินอลครับ ตัวแรกเครื่องอ้วนนะ
ถ้ามาตรฐานต่ำกว่านี้สำหรับผมถือว่าไม่ผ่าน
ลองคิดตามความเป็นจริงตามสภาพจริงดู ควรจะสร้างระบบพื้นฐานให้มันดีก่อนเถอะครับ มีแท๊บเล็ต แต่ว่าหนังสือสื่อการเรียนการสอนที่เป็นดิจิตอลยังไม่มีเลย ถ้าจะแจก ก็ทำสื่อการเรียนการสอนที่มีให้มันรองรับ ไม่ใช่สักแต่ว่าจะแจกอย่างเดียว ต่อให้เป็นแอนดรอยก็เหอะ ถ้าไม่มีหนังสือที่จะเรียน แจกมาก็ไม่มีประโยชน์
+1000
ผมว่าคนออกนโยบาย น่าจะไปสำรวจโรงเรียนในต่างจังหวัดก่อนดีกว่า โรงเรียนแถวๆบ้านผมอาคารเรียนแทบจะกันแดดกันฝนไม่ได้เลย
อย่างง่ายตอนนี้ก็คงต้องสแกนหนังสือ PDF ไปก่อนล่ะครับ
+11111
ใช้งบไม่เยอะด้วย แต่รัฐบาลจะทำเหรอ เพราะกินไม่ได้
Happiness only real when shared.
เรื่องความไม่ทนทาน มันแก้ปัญหากันได้นิ? ใช้เฟรมพลาสติก บุยาง ใช้จอพลาสติก ฯลฯ
ให้ออกมาคล้ายๆ OLPC มันก็น่าจะใช้ได้
ทำเครื่องให้หนากว่า GS Tab นิดนึง ไม่ต้องบางเวอร์แบบ ipad เน้นทนๆ แบตอึดๆ
คือของพวกนี้มันแก้ไขกันได้ ไม่รู้จะกลัวทำไม
ที่ผมกลัวมากกว่า คือจ่ายเครื่องไปแล้ว แต่ไม่มี content (ดีๆ) ใช้มากกว่า ตรงนี้ที่ห่วง
ไอ้ประเภท scan หนังสือลง tablet นี่ไม่ work อย่างแรง
ประเทศไทยเป็นประเทศแรกๆ ของโลก ที่ทำ คอมพิวเตอร์เอื้ออาทร
และในการทำทั้ง PC และโน๊ตบุคนั้น มีเยอะมาก หลักแสนเครื่อง
ตอนนั้นเล็งกันว่า ค่า OS และ Office แพงมาก รัฐบาลเลยจดการลง Linux TLE + Office TLE เพราะแค่ สองรายการแพงกว่าตัวเครื่องอีก
ทาง Microsoft Thailand เล็งว่าไม่ดีแน่ถ้ารัฐบาล ใช้ OS Linux
เพราะจะทำให้อนาคตคนไม่ใช้ คล้ายๆกับว่าเราเริ่มใช้ OS ตัวใหน เราก็จะใช้ OS ตัวนั้นตลอดไป ยอมแลกกับการให้ละเมิดตอนแรกแล้วไปเก็บตอนหลังจะดีกว่า สร้างสภาพล้อมให้คนมาใช้วินโดวให้ได้
จากนั้นเกิดการเจรจากันระหว่างรัฐบาลและ MS
ไม่นานนัก MS เลยออก Version ของ MS และ Office ที่เป็นแบบ Stater Edition ออกมา ซึ่งจะราคาถูกกว่า Standard หรือ PRO เพื่อยอมแลกกับการให้รัฐบาลนำไปใช้กับ คอมพิวเตอร์เอื้ออาทร (หวังกินยาว) รัฐบาลเลยได้อานิสงออกเสป็คมาโดยใช้ OS สองแบบ แต่วินโดวจะแพงกว่า ลีนุกส์เล็กน้อย...
โลกนี้เลยได้สัมผัสกับไลเซ่นแบบ starter edition (เพราะแม้วทีเดียว)
จบเรื่องเล่าในอดีต
ทีนี้ Tablet ของรัฐบาลผมมองว่า จะตกเคสเดียวกันแน่ๆถึงแม้ andrio จะฟรีและ MS ก็อาจจะมาแจมกับโปรเจ็คนี้แน่ๆ
สมัยนั้นเป็นข่าวครึกโครม เรียกว่าสร้างกระแสได้แรงทีเดียว
ที่จริงโครงการนี้ ทรท. ไปลอกไอเดียมาจากฝรั่งอีกที ตอนนั้นในต่างประเทศก็กำลังบูม internet กันมาก ทำให้ความต้องการเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มันสูงปรี๊ด แม้แต่ประเทศที่มีประชากรยากจนก็ยังอยากจะเป็นไอทีกับเขามั่ง ผมจำได้แค่ว่ามีประเทศนึงออกแบบ notebook ( ถ้าสมัยนี้ต้องเรียกว่า netbook ) ให้มีจอขนาดเล็ก แล้วสามารถปั่นไฟใช้เองได้ด้วยมือหมุน!!ผมจำไม่ได้ว่าเป็นประเทศอะไร แต่ไอเดียดีชะมัด
ส่วนโครงการของฝรั่งไปดูได้ที่นี่ครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/One_Laptop_per_Child
ไม่แปลกใจเลยที่ ทรท. จะซื้อใจรากหญ้าได้มากขนาดนี้ ก็โปรโมทนโยบายซะจนคนนึกว่า คิดเองได้เป็นคนแรกๆ ของโลกนี่เอง :)
เป็นคนเอาความคิดนี้เข้าประเทศไทยครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
นั่นแหละครับ โครงการเดียวกัน เราไปเข้าร่วมกับเขา
แต่สุดท้าย ด้วยการพัฒนา h/w ที่ล่าช้า จนกระทั่งมีการเปลี่ยนรัฐบาล ทำให้เราออกจากโครงการนี้
(แต่ช่วงรัฐบาล ทรท ก็ทำคอมพิวเตอร์ราคาถูกมาขายแทน)
เค้าโปรโมทว่า "เค้าเป็นคนคิดเอง มาจากสมองเค้าล้วน ๆ" เหรอครับ?
เคยได้ยินคำว่า "สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่าลงมือทำ" ไหมครับ? ถึงจะเป็นรากหญ้าหรือไม่ เค้าก็แยกแยะได้ว่า อะไรที่สิบปากว่า อะไรที่ตาเห็น และ อะไรที่ลงมือทำ ครับ
คนเรามันไม่มีใครดีไปหมดทุกอย่างหรอก
lewcpe.com, @wasonliw
ผมว่าเป็นวาระที่ดีในการส่งเสริมด้าน IT + การศึกษารูปแบบใหม่ ถ้าไม่กล้าที่จะทำสิ่งใหม่ๆดีๆก็จะไม่เกิดครับ
ช่วงเเรกอาจจะทุลักทุเล แต่ถ้าประสบความสำเร็จ ประเทศไทย จะถือว่า โดดเด่นมากๆในเรื่องการศึกษา ที่มีการนำเอาเทคโนโลยี
มาประยุคใช้ในเรื่องนี้
ถามว่าดีมั้ย ผมว่าดีนะ แต่ เอาจริงๆเถอะ เด็กจะได้ทุกคนรึเปล่า ขนาดเรียนฟรียังไม่ได้เลย นีชับอะไรกะ tablet แต่ถ้าได้จริงๆ น่าจะลดช่องว่างทางการศึกษาของแต่ละละโรงเรียนได้ เพราะจะได้มี CAI มาตรฐาน ให้เด็กได้เรียนรู้เองด้วย แต่วางบนพื้นฐานว่าเด็กเปิดใช้นะ เอาจริงๆ ไม่ต้องให้ access เข้า market ซื้อแอพได้ก็ได้ แต่ให้ซอฟแวร์มาให้ครบ แล้วก็ ออโต้อัพเดทแอพเมื่อต่อเนตน่าจะดีกว่า ตักปัญหาเด็กติดเกมไปพอสมควรนะ ผมว่า "ถ้ามันทำได้จริง" มันจะช่วยการศึกษาของประเทศได้มากทีเดียว
ผมว่าเป็นนโยบายที่ดี แต่ถ้าใช้กับคนไทยวันนี้ ผมว่าเสียของเปล่าๆ..
ค่านิยมคนไทยชอบของฟรี แต่ไม่รู้จักเคารพสิทธิ์คนอื่น ( ดูโครงการกู้เงินเรียนเป็นตัวอย่าง ) ดังนั้นถ้าคุณเอา tablet ไปแจก ไม่มีใครบอกไม่เอาหรอกครับ แต่เนื่องจากเค้าไม่สนใจว่าใครจะมารับช่วงต่อบ้าง ดังนั้นขอแค่ให้เครื่องนึงมันใช้ได้ครบปีก็ดีถมแล้ว
น่าจะวางแผนพัฒนาการศึกษาอย่างจริงจังได้แล้ว อีกสัก 5-10 ปีค่อยแจกของเถอะ
อย่างว่าคนไทยชอบสร้างวัตถุ เพราะมันเห็นเป็นผลงานได้ชัดกว่า สร้างการศึกษา 4 ปี ไม่ทันเห็นผล ไม่รู้จะได้กลับมาเป็นรัฐบาลหรือเปล่าก็ไม่รู้ แจก tablet นี่ล่ะวะ hi-so เห็นๆ
:)
เด็กนักเรียนแถวๆบ้านผม ไม่ได้ต้องการ Tablet ที่รัฐบาลจะทำแจกหรอกครับ พวกเขาต้องการแค่อาหารกลางวันกับอาคารเรียนที่แข็งแรงกันแดดกันฝนได้ก็เพียงพอแล้ว
ทุกวันนี้แค่อาคารเรียนยังต้องขอเรี่ยไรเงิน + แรงงานชาวบ้านมาสร้างเลยครับ
ถูกเลยครับเอาคนในเมืองเป็นคนออกกฎหมายแต่ชาวบ้านตามจังหวัดอื่นๆละไม่ได้ทันสมัยแบบในกทม.เนตไอสปีด ไวเลส ไวไฟ มีกันทุกบ้านทุกตรอกซอกซอยหรือยังแค่3Gก็ฟัดกันนัวอยู่
ครู อาจารย์ที่จะสอนเด็กๆใช้ละครับพร้อม? ครอบครัวพร้อม? เกินร้อยละ50 การบ้านเด็กไม่เกินประถมสมัยนี้บางทีให้หาในอินเตอร์เนตใครเป็นคนทำพ่อแม่หาให้ทั้งนั้น แล้วพ่อแม่ใช้เป็นหรือเปล่าแทปเลต ใช้แทปเลตมันไม่ได้แบบ PC ที่หาแผ่นมาลงได้บางอันก้ไม่ฟรีถ้าหาแบบแครกไม่เป็น สั่งปริ๊นงานจากtabletได้หรือยัง ยังไงผมก็ว่ายังพร้อม
มันเป็นการ "โยก" เงินค่าหนังสือกระดาษไปเป็นค่า tablet + e book ค่าไช้จ่ายรวมน่าจะคุมให้เท่าๆ เดิม แต่ในอนาคตค่า tablet จะถูกลงทุกปี แต่ หนังสือกระดาษแพงขึ้นทุกปี อ้อ tablet เดี่ยวนี้ไม่ต้องไช้คอมหรือ wifi ก็ใด้ ทำเป็น pdf กอปลงเม็มเอา
คิดว่าที่แจกเสื้อปีละ 2 ตัวก็คงทำต่อไป
ผมเห็นเด็กประถมไปเล่นเกมส์ที่ร้านเนตเยอะแยะ อุปกรณ์พวกนี้ learning curve ต่ำนะ อีกนิดคือมันแทรก video เวลาครูไม่อยู่ ก็สามารถอัดการสอนในคาบนั้นๆ แจกนักเรียนเอา หรือไช้เป็น sound lab ก็ใด้
ปัญหาที่ผมเห็นจริงๆมี 2 เรื่องคือความคงทนของเครื่องกับมือเด็ก และ การสร้างเนื้อหาแบบใหม่ที่ไช้ประโยชน์จาก tablet
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
กำลังคิดอยู่ว่า ถ้าห่วงว่าเด็กประถมจะทำเสีย
อืม........... ผมคิดเล่นๆหน่อยนะ
การที่ของพวกนี้จะเสีย มักเกิดจากการหล่นตกพื้นมากกว่าสาเหตุอื่น
ถ้าเราลองคิดว่าแท็บเลทแบบนี้ เป็นอุปกรณ์ที่ถือได้ในมือ และถ้าเป็นแท็บเล็ทที่ใช้ดินสอเขียนได้ ก็ใช้จดได้แทนสมุด
การมีโต๊ะก็เกะกะ
เราปรับให้เป็นการเรียนแบบนั่งพื้นมั้ยครับ เรียนแบบ เหมือนเด็กวัดสมัยก่อน ใช้กระดานชนวน
แล้วแต่ละห้องก็มีล็อคเกอร์เก็บแทปเลท เรียนเช้า เอาออกมาที เย็น ก็เอาไปไว้ในตู้ที
ถ้าให้ดีก็ทำตู้แบบมีสล็อตเสียบ เป็นตัวชาร์จไปในตัว จะได้ไม่ลืมชาร์จ
ส่วนเรื่องการบ้าน ผมไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่
ในเมื่อเรียนด้วยแท็บเล็ทมาทั้งวัน อย่างน้อยก็น่าจะให้ทำการบ้านแบบที่ไม่ต้องใช้แท็บเลทแล้ว
เด็ก ป.1 ป.2 ไม่น่าจะมีการบ้านอะไรมากด้วยซ้ำ หรืออาจจะให้เป็นแพทเทิร์นง่ายๆ ประมาณแจกกระดาษเปล่าแล้วให้ไปทำอะไรซักอย่าง
ก็จะได้ไม่ต้องพกกลับบ้านให้ไปเสียที่บ้าน
พอโตขึ้นมาหน่อย ป.5 ป.6 ก็ค่อยให้เริ่มเอากลับไปบ้านได้
โตะก็เ็ป็นของที่มีอยู่แล้ว เอา tablet วางบนโตะน่าจะทำให้โอกาศตกน้อยกว่า
และนอกจากการบ้าน นักเรียนบางคนก็อยากเอาหนังสือกลับไปอ่านที่บ้านนะครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เท่าที่ผมเคยเห็นอุปกรณ์มือถือพวกนี้มักจะเสียเพราะ ตกจากโต๊ะหรือจากมือ แล้วแตก มากกว่าอุบัติเหตุอื่นๆ น่ะครับ
ผมอาจจะเข้าใจผิด? แต่เห็นได้ชัดจาก iPhone ขนาดเราๆท่านๆ ผู้ใหญ้กันหมดแล้ว ไอโฟนตกพื้นร้าวกันเป็นว่าเล่น
ถ้าลดระยะทางแกน Y ระดับเด็กนั่งพื้น แล้วให้มียางหุ้ม ก็คงจะทนทานพอน่ะ
นั้งกับพื้น ตกในระยะสั้นๆ แต่บ่อยขึ้นอืม ... ผมว่าทำตัวลอค tablet ไว้กับโตะน่าจะดีกว่าให้ถือนั้งบนพื้น ... ยิ่งคิดยิ่งตลก
ปล. body ยางน่าจะเป็นวัสดุที่ดี เพราะถูกและลดแรงกระแทกใด้ดี แต่ tablet มีปัญหาตรงจอมากกว่า น่าจะมีอะไรมาปิดเพื่อถนอมหน้าจอ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
มันจะตกบ่อยขึ้นได้ไงล่ะครับ
ตามที่ว่าแหละอุปกรณ์มือถือพวกนี้มักจะเสียเพราะ ตกจากโต๊ะหรือหลุดจากมือ
tablet ไม่ไช้ notebook ที่มีจอตั้งขึ้นแล้วมีโอกาศปัดโดนง่าย ยิ่งไช้ body ยางเกาะโตะใด้ดี โอกาศปัดตกก็น้อยลง จะมีก็หล่นเพราะถูกดึงสายชาจ
แต่เวลามันอยู่ในมือ มันขยับไปตามมือ แล้วมือเด็กก็ไม่ใด้แขงแรงอะไร โดนผนัง โดนพื่อน หลุดมือ น่าจะทำให้เครื่องตกบ่อยขึ้นนะครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เรื่องบางเรื่องรู้ว่าไม่เหมาะสมแต่บางคนมันก็ยังจะอวยจะแถ บอกว่าไม่ลองไม่รู้เห็นแล้วหน่ายใจ
ผมเห็น android จีนราคา 3800 และคิดว่า tablet ถ้าจัดชื้อดีๆ มันถูกกว่าหนังสือกระดาษ และมันดีกว่าด้วย การดูหนัง ฟังเพลง สามารถกลายเป็น video สื่อการสอน และ sound lab ใด้ และประยุคไปใด้อีกเยอะ อย่างทดสอบ 4 ตัวเลือกท้ายคาบปิดด้วย leader board ให้นักเรียนแข่งกันเรียน
ในช่วง ป1-6 กับ ม1-ม6 ค่าหนังสือ สมุด ปากกา ถ่ายเอกสาร รวมกัน ชื้อ apple ipad ของแท้ ใด้ด้วยช้ำ ค่าหนังสือกระดาษขึ้นทุกปีตามราคาไม้ ราคาอุปกรณ์อีเล็กโทร์นิกเสปคเดิมลดลงทุกปีเพราะเทคโนโลยี้มันตกยุค
ช่วงมหาวิทยาลัยผมต้องชื้อเครื่องคิดเลขพลอตกราฟเครื่องละหลายพัน ถ้าทำระบบดีๆ บังคับให้ไช้โปรแกรมใด้เท่าที่กำหนด เอาเข้าห้องสอบใด้ประหยัดขึ้นไปอีก ทำไมถึงกลายเป็น อวย แถ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
-LCD ทำเด็กสายตาเสียอันนี้ชัวร์ ไม่ต้องรอเวลาทำนโยบายก่อนรู้กันทั้งนั้น
-Tablet เด็กป.1? เด็กมันจะดูแลไหวไหม? อันนี้รู้แก่ใจขนาดเกมกดยังพังกันบ่อยๆ....
-ครูอาจารย์พร้อมจะสอนเด็กใช้แล้วหรือยัง? รู้ๆกันแค่ PC ทุกวันนี้ยังไม่พร้อมเท่ากันทั่วประเทศเลย
-แจกป.1 เฉพาะบางพื้นที่? แล้วมันเท่าเทียมกระจายโอกาสตรงไหน?
-โอกาสโกงกินจ่ายเยอะแต่ได้เครื่องกากๆ สูงมากถึงขั้นนอนมารู้ๆกันอยู่ ขนาด PC ตามโรงเรียนรัฐยังกินเลย
ขนาด HK ไต้หวัน มีนำร่องแจกนำร่องใช้ยังไม่ให้แต่เด็กป.1 เลย
เอาแค่ PC กับ internet ให้ทั่วประเทศถึงทุกโรงเรียนก่อนเถอะ แค่นั้นยังไม่รอดอย่าริทำโครงการใหม่เลย
+1
ผมไม่เห็นด้วยกับนโยบาย Tablet อย่างแรงครับ
ถ้าลองปักธงไปแล้ว การถอนธงใช้เหตุผลอย่างเดียวคงไม่พอแน่ ๆ
ทุกคนต่างก็มีธง แต่วิญญูชนย่อมมีหลักการและเหตุผลสนับสนุน
ไม่ต้องถึงขั้น"วิญญูชน"หรอก แค่"คนธรรมดา"ที่ไม่เอา"ศรัทธา" มาครอบหัวก่อนคิดมันก็รู้แล้วว่าไม่รุ่ง
ผมว่าถ้าเราคิดอย่างมองโลกในแง่ดี จริงๆ แล้วมันก็ดีกว่า
ตอนแรก ผมก็เห็นค้านเหมือนคุณนี่แหละ ตอนนี้ก็ยังเห็นค้านอยู่
แต่คิดไปคิดมาผมเห็นด้วยกับท่านด้านบนๆ ที่บอกว่า "มันก็ยังดีที่รู้ว่าภาษีเราไปไหน" ทุกวันนี้ "ภาษีกูอยู่ไหน!!" (เลียนแบบจาพนม)
แต่ที่ผมเห็นด้วยมากที่สุดในตอนนี้ก็คือความเห็นของคุณ : มี PC กับ Internet ให้ครบทุกโรงเรียนก่อนเถอะ
คิดจะทำตึกสูง แต่โครงสร้างรากฐานไม่แน่น เดี๋ยวก็ต้องสร้างตึกใหม่บ่อยๆ เปลืองงบ
จะเห็นว่าผมไม่กลัวตึกถล่ม แต่ผมกลัวพวกที่รู้ว่าจะถล่ม แต่ก็ยังปล่อยให้ถล่ม หรือไม่ก็จงใจให้มันถล่ม
หลังจากที่ผมไปศึกษาแนวคิด OLPC แบบกระจายคร่าวๆ
ประเด็นคือการที่ ไม่ได้ติด PC ไว้เป็นพื้นฐาน แล้วโยกงบมาเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก สเปคต่ำ และ 1 คน ต่อ 1 เครื่อง มีข้อดีต่างกับการมี PC เป็นกองกลางครับ
เรื่อง WiFi อาจทดแทนได้ถ้ามี 3G 4G ครอบทั้งประเทศไปเลย (การวางสัญญาณ Wireless มันอาจจะง่ายดายกว่านะ) แล้วรัฐจ่ายเงินค่าบริการเน็ตส่วนนี้ให้แทน
ถ้าล็อคเครื่องไว้ ให้เปิดได้แต่บางเว็บ เด็กประถมก็คงเจลเบรคเองไม่เป็นหรอกล่ะครับ อย่างเก่งคืออาจารย์เจลเบรคให้
ญี่ปุ่นกับเกาหลีมีใช้ WiFi กันรึเปล่า? ผมมักจะเห็นคนญี่ปุ่นส่ง EMail ด้วยมือถือนะ
แล้ว OCPC (ขอใช้คำนี้แทน One Comp Per Child) มีข้อดี อย่างแรกคือมันทดแทนสมุดหนังสือไปในตัวได้ด้วย (แถมกระดาษวาดรูปด้วย) ซึ่งมันก็มีจุดคุ้มทุนอยู่ว่า กระดาษแพงขึ้นทุกวัน หนังสือต้องซื้อหลายเล่ม สมุดใช้แล้วทิ้ง รวมไปถึงห้องสมุดที่ต้องมีหนังสือจริง
ข้อดีที่ทดแทนสิ่งเหล่านี้ได้ และการที่สามารถใส่สื่อการสอนแบบภาพเคลื่อนไหว ให้เห็นภาพง่ายๆ ได้ดีขึ้น เขียนโปรแกรมสอบได้ และอื่นๆ
ไม่ต้องต่อเน็ตได้ก็ได้นะ แค่ครูหรือห้องสมุด มี PC รับ 3G ได้ซักตัว แล้วก็โหลดมากระจายให้เด็กๆ
ต่างกับ PC ที่เป็นกองกลาง ใช้ได้จำกัด และไม่ค่อยจะใช้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึง อาจารย์มักจะไม่ยอมให้เด็กใช้เพราะกลัวจะเสีย เหมือนที่มีคนพูดถึงข้างบนนั่น
คุณ MK แนะนำให้ดูนี่ครับ (ผมยังไม่ได้ดูหรอกนะ แต่กะว่าจะไปอ่านลิงค์ใน Wiki ที่เขาวางไว้)
http://www.isriya.com/node/3550/one-laptop-per-child
OLPC ไอเดียดีแต่ทำจริงยังไม่ได้ ณ ปัจจุบันซึ่งหากรัฐบาลใหม่จะทำ เขาคงไม่รอโครงการเครื่องที่เป็นวิมานในอากาศ ส่วนเรื่อง 3G 4G ยัดใส่มาให้เด็กเชื่อว่ายังอีกไกลมาก โอกาศเป็นไปได้ต้องใช้เวลาอีกหลายปีทีเดียวมิสู้ทำเป็นรุ่น WiFi ประหยัดงบไว้ให้เด็กเปิดที่โรงเรียนดีกว่า แล้วเอางบที่จะไปจ่ายค่า 3G 4G ให้เด้กทุกเดือนนับแสนเครื่องไปลงทุนทำ Ebook ภาษาไทยดีๆ ลงคลังจะดีกว่าเยอะเพราะหวังให้เด็กหา Ebook นอกมาอ่านคงยากมาก OCPC ในนโยบายชุดนี้ผมไม่เห็นมีรายละเอียดอะไรมาก ขนาดว่าจะวางโครงข่ายส่งข้อมูลอย่างไร จะสนับสนุนสื่อการเรียนการสอนแบบไหน มีแต่ประกาศแจก Tablet ให้เด็กใช้แค่นั้นเอง เรียกว่านโยบาย"หาเสียง"มากกว่า"พัฒนาเด็ก"ก็ไม่ผิดเลย
Tablet มันต่างอะไรกับ OLPC ครับ?
หรือต้องให้เรียกว่า OTPC One Tablet Per Child แทน?
จะให้ต่อเครือข่าย 4G ผมว่ามือถือเครื่องละสามร้อยก็ทำได้ มันแค่เปลี่ยนฮาร์ดแวร์นิดหน่อยเท่านั้นเอง
ผมว่ากลับกันเลยว่า WiFi น่ะ มัน Local เกินไป เปลืองงบดูแลรักษา
แต่ 3G มัน Infrastructure ครอบทั้งประเทศ และใช้เสาเดียวกับเสาที่พวกบริษัทมือถือจะลงทุนสร้าง
ดีลกันยังได้ ว่าบริษัทไหนทำตามสเปค ให้รองรับการเชื่อมต่อ Tablet เพื่อการศึกษาฟรีๆ ได้ ก็จะลดภาษีและค่าสัมปทานให้
ไม่ว่านโยบายมันจะพัฒนาเด็กจริงหรือไม่ มันก็ใช้หาเสียงอยู่ดีแหละครับ
ผมว่า 3G ครอบประเทศ ง่ายกว่าให้รัฐทำ WiFi มาก เพราะ WiFi รัฐทำ แต่ 3G เอกชนทำ
และที่ 3G 4G ไม่เกิดมาตลอดหลายปี เพราะอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะราชการถ่วงความเจริญ ทั้งที่โทรศัพท์ 3 เจ้าพร้อมลุยเต็มที่ ลงเสาได้ทั้งประเทศ
รัฐไม่ลงทุน กับ 3g หรอกครับ
สาเหตุ เพราะมันเป็น 1 ในเรื่องการเมืองที่ถูกนำมาใช้ เสมอมา หาก รัฐจะมีดีล กับ ais
รัฐบาล "ไม่ต้อง" ลงทุนกับ 3G ครับ การปล่อยใบอนุญาต 3G "ทำเงิน" ให้กับรัฐบาล เงินจำนวนหลายหมื่นล้านบาทจะเข้ากระทรวงการคลัง
รัฐบาลมีหน้าที่ "ปล่อย" ให้มีการให้ใบอนุญาตการใช้คลื่นความถี่ในย่าน 3G ซึ่งรัฐบาลปชป. ปัจจุบัน ปล่อยให้หน่วยงานในกำกับดูแลของตัวเองคือ CAT และ TOT ฟ้องเพื่อหยุดการประมูล
รัฐมนตรี ICT มีอำนาจในการสั่งการที่จะไม่ให้หน่วยงานในกำกับดูแลของตัวเองไม่ฟ้องได้ แต่ไม่ทำ
lewcpe.com, @wasonliw
พูดแล้วของขึ้นเลยรึเปล่าครับคุณ lew
Tablet มันต่างอะไรกับ OLPC นะเหรอผมว่า Tablet ราคาไม่หนีจาก OLPC มันจับต้องได้มากกว่าเพราะไปจีนก็เห็นมีขายแล้ว ไม่ต้องหาโรงงานยุ่งยากเท่าแค่หาที่ถูกใจเข้าไปคุยราคาจบ เดินสายผลิตได้เลยส่วนเรื่อง 3G ตราบที่ยังมี"เสือนอนกิน"คอยขวางผมว่าถึงเป็นชุดพท.ก็ดันให้เกิดยากไม่น้อยล่ะ
ตอนนี้ Tablet ราคาถูกกว่า OLPC ละครับ เพราะมันใกล้เคียงมือถือมากกว่า Notebook
มันมีเรื่องของ อัตราผู้ใช้งาน => ไลน์การผลิต => กดราคาได้ อยู่ด้วย
น่าจะทำการทดลอง เช่นแจกให้โรงเรียน 10 แห่งก่อน แล้วเอาผลนั้นมาประมวล แล้วค่อยเอาไปทำจริงดีกว่าไหม ?
ผมสนับสนุนให้ใช้ tablet ที่แสดงภาพสีได้ เพราะไม่อะไรมาก ขอให้มี browser ก็พอ เด๋วแอ้ปต่างๆจะออกมาเอง
ข่าวต่อไป เด็กมัธยม Root Tablet แจกฟรี แฮกเว็บกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการ ประท้วงการห้ามเด็กใช้ Tablet เปิด Wolfram Alpha คิดเลขในวิชาฟิสิกส์ #อยากเห็นข่าวนี้จริงๆนะ
เด็กหัวเมืองกำลังตั้งตารอ Tablet แต่เด็กในที่ห่างไกลขอแค่มีหนังสือเรียนก็พอแล้ว
พูดถูกเผงเลยครับ
หวังว่าจะไม่เป็นการ "ซื้อหวีแจกคนหัวล้าน"
เอ้า! แจก Tablet ฟรีนะ
แต่ Content หรือข้อมูลที่ต้องการ
ซื้อเอา -___-"
กตหมายลิขสิทธยกเว้น เพื่อการศึกษา เอาไว้ครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo