ปากีสถานเป็นอีกประเทศหนึ่งในโลกที่มีการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตอย่างเข้มข้น ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวแบน Facebook ไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา และบล็อก YouTube เมื่อปี 2008 โดยมีเหตุผลคือเรื่องการดูหมิ่นศาสดามูฮัมหมัด นอกจากนี้ในเดือนที่แล้วก็เพิ่งบล็อกเว็บไซต์ของนิตยสาร Rolling Stone เนื่องจากตีพิมพ์บทความเรื่องงบประมาณของกองทัพที่สูงเกินควร
ล่าสุดรัฐบาลปากีสถานสั่งการให้ผู้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศคอยสอดส่องดูการใช้งานของผู้ใช้ และให้แจ้งให้เจ้าหน้าที่รัฐทราบหากพบว่ามีผู้ใช้ "วิธีการสื่อสารใดๆ อันเป็นการปกปิดการสอดส่อง รวมถึง VPN ด้วย" (all such mechanisms including EVPNs [encrypted virtual private networks] which conceal communication to the extent that prohibits monitoring) ถ้าหากผู้ใดต้องการใช้งานซอฟต์แวร์เข้ารหัสลับจะต้องยื่นขออนุญาตเป็นรายๆ ไป
ทางการปากีสถานให้เหตุผลว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันการก่อการร้าย
เจ้าของบริษัทซอฟต์แวร์แห่งหนึ่งในปากีสถานให้สัมภาษณ์กับ The Guardian ว่า "เหมือนการห้ามคนใช้รถยนต์ เพราะกลัวคาร์บอมบ์"
ที่มา - The Guardian
Comments
ถ้าตีความ "all such mechanisms..." แบบนี้การใช้งานอย่าง HTTPS หรือ SSH ก็เป็นการผิดกฎหมายทั้งหมดเลย เลิกใช้เนตกันไปเลยมั้ยเนี่ย ไม่ต้องมีความเป็นส่วนตัวกัน
พี่ไทยสนใจไหม?
@TonsTweetings
รัฐบาลนี้อาจจะไม่ รัฐบาลก่อนหน้าล่ะไม่แน่
ยังเร็วเกินไปที่จะกล่าวเช่นนั้น
รัฐบาลก่อนคงไม่กล้า เพราะทำอะไรก็กลัวไม่มีอำนาจ ก็เลยไม่ทำอะไรสักอย่าง
รัฐบาลนี้สิน่ากลัว เพราะดูจากวิธีที่พี่ชายเคยทำแล้ว ถึงไม่มีอำนาจก็จะทำ (แล้วไปสู้กันในศาลอีกที)
ถ้าทำจริงผมตกงานทันทีเลยนะ
จะรอดูนะ :)
May the Force Close be with you. || @nuttyi
+256 ยิ่งตอนก่อนสั่งลุย รู้สึกจะบล็อกเกือบทุกช่องทางเลยนะ
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
เห็นด้วยว่าไม่ต้องทำหรอกครับเพราะพวกเราข้างนอกมีกันเยอะอยู่แล้ว ยกพวกกันไปล้อม IDC เลยดีกว่าได้ผลชะงักนัก
ถ้าทำจริงผมคงแย่เวลาหา full text ของ paper น่าดู
ไทยไม่กล้าทำหรอกครับ แต่ก่อนเคยมี พอจะมาจำกัดโดนประท้วงแน่ๆครับ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: HP Zbook, iPad Pro, iPhone 15PM, iPhone 16+, Nothing Phone 1
ทำตัวเป็น Underdeveloped country ไปได้
การป้องกันการก่อการร้ายคงแค่ข้ออ้าง แต่เพราะเรื่องความมั่นคงของผู้ปกครองที่มีฐานบนศาสนาล้วนๆ ผู้ใช้เน็ตก็รับกรรมไป แทนที่จะได้ใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตเต็มที่
ส่วนตัวยังเคืองบางประเทศที่บล็อก YouTube เมื่อ 4-5 ปีที่แล้วไม่หาย เป็นกรณีเฉพาะเรื่องแต่พี่แกเล่นบล็อกหมด (คนดันหน้ามืดเห็นดีเห็นชอบด้วย) หารู้ไม่ว่าประเทศนั้นเสียโอกาสในการรับรู้สื่อ ความรู้ และข้อมูลต่างๆ ในช่วงนั้นไปมากแค่ไหน คุ้มกันไหมกับ "ผลประโยชน์โดยภาพรวมของคนทั้งประเทศ"
ของไทยไม่น่าห้าม... เพราะผู้มีอำนาจไม่รู้จัก VPN...
อ๋อ ใช่ที่เอาไว้แชทกันหรือเปล่า
เฮ้อ Where's freedom?
ห้ามใช้รถนั่นประชดเกินไป
ถ้าตรงๆต้อง ห้ามใส่หมวกใส่แว่น