ต้องขอโทษอีกครั้งที่เขียนช้าไปหน่อย ด้วยเหตุผลเดิมๆ ว่างานยุ่งและสถานการณ์มันพลิกเร็วมาก เขียนตามไม่ทัน โดยเฉพาะเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญมากเกิดขึ้นสองอย่างคือ การซื้อ Motorola และการลงจากตำแหน่งซีอีโอของสตีฟ จ็อบส์
ไหนๆ ช่วงนี้พอมีเวลาก็ขอสรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในรอบ 2-3 เดือนนี้ ด้วยกรอบการวิเคราะห์แบบ "สามก๊กไอที" ว่าทั้งสามก๊กมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
ก๊กของกูเกิลมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมากมาก คือการเข้าซื้อกิจการโมโตโรลา ซึ่งมันอาจจะทำให้เกมของ Android เปลี่ยนโฉมไปอย่างสิ้นเชิง
เดิมทีกูเกิลวางตัวเองไว้เป็นคนทำซอฟต์แวร์ + ให้บริการออนไลน์ แล้วแจกซอฟต์แวร์ให้พันธมิตรฮาร์ดแวร์ไปทำของขาย จะมีบ้างก็คือการออกมือถือตระกูล Nexus ซึ่งอ้างได้ว่า
ถึงแม้กูเกิลจะมีความสัมพันธ์ที่ดีเป็นพิเศษกับพันธมิตรฮาร์ดแวร์บางราย (เช่น HTC หรือ Samsung) แต่รวมๆ แล้วสถานะก็ยังอยู่ในระดับที่ "รับได้" คือสร้างซอฟต์แวร์และบริการ ไม่ลงมาแข่งในตลาดฮาร์ดแวร์
แต่การซื้อโมโตโรลาทำให้สถานภาพของกูเกิลเปลี่ยนแปลงไปทันที กูเกิลกลายเป็นเจ้าของบริษัทฮาร์ดแวร์ ซึ่งแปลว่าเปลี่ยนจาก "พันธมิตรในอุตสาหกรรมอื่น" มาเป็น "คู่แข่งร่วมอุตสาหกรรมเดียวกัน" กับบริษัทฮาร์ดแวร์ทั้งหลาย
ถึงแม้กูเกิลจะออกมาบอกว่า การซื้อ Motorola ไม่มีผลต่อการเลือกผู้ผลิต Nexus และมีผลดีคือช่วยคุ้มครองสิทธิบัตรให้กับพันธมิตรของกูเกิลด้วย แต่ถ้าเราเป็นผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อย่าง HTC/LG/Samsung เราจะ "เชื่อว่า" กูเกิลจะไม่มาแข่งกับเราไหมล่ะครับ
เป็นผมก็ไม่เชื่อ
อย่างไรก็ตาม Android ตอนนี้ติดลมบนไปแล้ว (ถึงแม้สาวกแอปเปิลบางรายจะไม่ยอมรับก็ตาม) ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ไม่มีทางเลือกมากนัก นอกจากต้องยอมๆ ลู่ตามลมกูเกิลไปก่อน
คนที่ได้เปรียบทันทีหลังจากกูเกิลซื้อโมโตโรลาคือไมโครซอฟท์ เพราะกลายเป็นเจ้าของระบบปฏิบัติการมือถือเพียงรายเดียวที่ยังไม่ลงมาลุยในตลาดฮาร์ดแวร์ จะเห็นว่าตอนนี้ iOS, BlackBerry OS, webOS, Android ล้วนแต่มีธุรกิจฮาร์ดแวร์ในมือทั้งสิ้น
ดังนั้นไม่น่าแปลกใจว่าผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ที่ไม่มีระบบปฏิบัติการของตัวเอง เช่น HTC, LG, Sony Ericsson, Acer, Dell จะใช้ยุทธศาสตร์สองขาคือ Android ส่วนหนึ่ง และ Windows Phone อีกส่วนหนึ่ง เพื่อบาลานซ์ความสัมพันธ์กับกูเกิลนั่นเอง
ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือ Samsung เหตุเพราะ Samsung เป็นบริษัทที่ใหญ่มากๆ มียอดขายมือถือและแท็บเล็ตเยอะมาก (อันดับสองของโลก) จนอยู่ในฐานะที่คุ้มค่าในเชิงเศรษฐศาสตร์ (economy of scale) ที่จะลงมาทำระบบปฏิบัติการเอง เพื่อเป็นไทแก่ตัวไม่ต้องง้อใคร (เราจึงเห็นข่าวลือว่า Samsung จะซื้อ webOS หรือ MeeGo ด้วยเหตุผลนี้นั่นเอง)
Samsung เองก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี เราจึงเห็นผลลัพธ์ออกมาเป็น bada แต่การปลุกปั้นระบบปฏิบัติการ (และ ecosystem) ไม่ใช่เรื่องง่าย ตอนนี้ Samsung ก็คงต้องเกาะ Android ไปก่อน และแบ่งพลังมาดันๆ Windows Phone กับ bada บ้างส่วนหนึ่ง
ผมเชื่อว่า Samsung จะไม่ขยายระบบปฏิบัติการที่ต้องดูแลมากเกินกว่า 3 ตัว ดังนั้นถ้าเราถือว่า Android กับ Windows Phone มีขนาดใหญ่พอที่จะสร้างโมเมนตัมได้ จุดที่น่าสนใจจึงไปอยู่ที่ bada ว่าจะทำต่อไหมในระยะยาว ถ้า Samsung ยังมั่นใจกับ bada (ซึ่งตอนนี้ก็ยังดูเป็นเช่นนั้น) โอกาสจะไปซื้อ webOS/MeeGo คงต่ำมาก
ประเด็นสุดท้ายที่เกี่ยวข้องกับ Android คือการ fork ระบบปฏิบัติการออกไปทำเอง ช่วงหลังเราเริ่มเห็นข่าวการ fork เยอะขึ้น เช่น Amazon Android ที่จะมากับ Kindle Tablet และระบบปฏิบัติการจากฝั่งเมืองจีน ไม่ว่าจะเป็น OPhone ของ Lenovo, MIUI, Aliyun OS ของ Alibaba, Baidu Yi ของ Baidu และ QQService ของ Tencent
จุดนี้เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียของกูเกิล ข้อดีก็คือมีคนช่วยเผยแพร่ตัวระบบปฏิบัติการในวงกว้างมากขึ้น ส่วนข้อเสียที่ชัดๆ เลยคือ fragmentation แต่ประเด็นที่อาจมีผลมากกว่าในระยะยาว คือ คนที่ fork เหล่านี้อาจไม่พอใจในทิศทางของ Android (โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการซื้อโมโตโรลา) และอาจจะ "รวมหัว" กันสร้าง "ระบบปฏิบัติการตัวใหม่ที่อิงจาก Android" โดยไม่ง้อกูเกิลอีกเลยก็เป็นได้ (เช่น China Android Distro)
แต่สุดท้ายแล้ว ถึงแม้การซื้อโมโตโรลาจะมีข้อเสียมากมาย แต่ในมุมมองของผม มันเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่ดี เพราะสภาพ "สามก๊กไอที" ที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกก๊กจะต้องมีอาวุธครบมือที่พร้อมใช้งานได้ทันที การที่กูเกิลได้บริษัทฮาร์ดแวร์มีชื่อเสียง มีแบรนด์เข้มแข็งมาไว้ในมือ สั่งได้ดังใจ (หวังว่านะ) ย่อมดีกว่าไม่มีบริษัทฮาร์ดแวร์ของตัวเองอยู่มาก
ก๊กของแอปเปิลมีการเปลี่ยนแปลงเยอะที่สุดในบรรดา 3 ก๊กใหญ่ เพราะต้องเปลี่ยนตัวผู้นำจาก สตีฟ จ็อบส์ เป็นทิม คุก ซึ่งมีผลทางจิตใจไม่น้อย
ในแง่การทำงานคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักในระยะสั้น เพราะระบบของแอปเปิลวางไว้ค่อนข้างดีอยู่แล้ว และจ็อบส์ก็วางตัวคุกเอาไว้นานมาก จนไม่มีแรงกระเพื่อมภายในจากการแย่งอำนาจขึ้นเป็นซีอีโอคนใหม่
แต่ในระยะยาวก็ต้องมาดูกันนานๆ ว่าคุกจะสามารถนำพาแอปเปิลฝ่าตะลุยการแข่งขันอันเชี่ยวกรากได้หรือไม่ แอปเปิลในยุคใหม่จะใช้การบริหารเป็นองค์คณะ มากกว่าให้จ็อบส์เด่นคนเดียวแบบที่ผ่านมา
ผมคิดว่าการเปลี่ยนตัวซีอีโอรอบนี้ จะคล้ายๆ กับสถานการณ์ของ "ง่อก๊ก" ช่วงที่แม่ทัพใหญ่ "จิวยี่" ป่วยจนเสียชีวิต (ผมไม่ได้แช่งให้จ็อบส์ตายนะครับ!) และอำนาจถูกส่งผ่านมายัง "ซุนกวน" ซึ่งกระจายอำนาจไปยังแม่ทัพเสนาธิการต่างๆ ให้ทำงานร่วมกัน จนทำให้ง่อก๊กอยู่มาได้นานที่สุดในบรรดาก๊กทั้งสามในตอนหลัง
ยุทธศาสตร์ของแอปเปิลในอีก 3-5 ปีข้างหน้า น่าจะเริ่มตันในเรื่องฮาร์ดแวร์แล้ว (คือ iPod/iPhone/iPad มันพัฒนามามากในหลายปีที่ผ่านมา จนมีที่ว่างให้ไปต่อได้ยาก) สิ่งที่พอเป็นไปได้คือ การมาทำทีวีเพื่อยึดห้องนั่งเล่น โดยอาจใช้ฮาร์ดแวร์จาก Cinema Display ผนวกกับซอฟต์แวร์จาก Apple TV และบริการเนื้อหาออนไลน์ที่แอปเปิลมีอยู่แล้ว
ทิศทางที่แอปเปิลน่าจะมุ่งไปน่าจะเป็นบริการออนไลน์ ซึ่งเป็นจุดอ่อนของแอปเปิลมานาน (ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะรากเหง้าของบริษัทไม่ได้มาจากออนไลน์) และการที่ iOS จะต้องพึ่งพิงบริการแผนที่หรือการค้นหาจากกูเกิลที่เป็นคู่แข่งตัวฉกาจไปตลอด คงไม่ใช่เรื่องที่ดีต่อบริษัทนัก
แอปเปิลก็รู้เรื่องนี้ดีเช่นกัน แต่ยังทำอะไรไม่ได้มาก ช่วงหลังเราจึงเห็นการขยับตัวมาทำ iCloud ซึ่งก็เป็นพัฒนาการที่ดีแต่ยังไม่พอ เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างกูเกิลที่ทำออนไลน์มาตั้งแต่เริ่ม และไมโครซอฟท์ที่ลงทุนใน Bing/Windows Live ไปมาก (และยังไม่ได้ทุนคืน แต่ช่วยให้มีอาวุธต่อกรได้ทุกแนวรบ)
สิ่งที่เราน่าจะได้เห็นคือ แอปเปิลจะทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ออนไลน์ของตัวเองอย่างช้าๆ ทีละตัวสองตัว สำเร็จบ้างล้มเหลวบ้าง แต่ยุทธศาสตร์ในภาพรวมคือปลดแอกตัวเองออกจากกูเกิล
หรือไม่งั้น ก็ยังมีอีกทางที่ไปได้เร็วกว่า นั่นคือการซื้อ Yahoo! ครับ
ถึงแม้ Yahoo! จะอยู่ในช่วงขาลง แต่ยังมีความเข้มแข็งในโลกออนไลน์อยู่มาก Yahoo! Mail และ IM มีคนใช้เยอะมาก ส่วนเว็บพอร์ทัลและบริการอื่นๆ ก็มีฐานผู้ใช้เข้าขั้นแข็งแกร่ง ตอนนี้แอปเปิลมีเงินสดในมือมากมาย แถม Yahoo! ไม่ได้แพงเหมือนตอนไมโครซอฟท์อยากจะซื้อเมื่อ 2-3 ปีก่อนอีกแล้ว ถ้ามันจะเกิดขึ้น บอร์ดแอปเปิลจะเอาจริง ก็น่าจะเกิดภายใน 1 ปีจากนี้
แน่นอนว่าการซื้อ Yahoo! ไม่ได้มีแต่ข้อดีอย่างเดียว ถ้าซื้อแล้วคงมีปัญหาที่ต้องแก้อีกมาก แต่ลองคิดถึงว่า Yahoo! มีผลิตภัณฑ์-บริการออนไลน์ที่น่าสนใจหลายอย่าง แต่ขาดโมเมนตัมและแบรนด์ที่ดี ถ้าเราเอาแบรนด์แอปเปิลมาแปะเข้าไป อาจพลิกฟื้นโมเมนตัมได้ทันที แค่คิดก็น่าสนุกแล้ว
หลังจากเซ็นสัญญากับโนเกียช่วงต้นปี เรายังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรในไมโครซอฟท์มากนัก แต่ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงอีกครั้งเมื่อเปิดตัว Windows 8 ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ถึงแม้จะไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยน แต่ถ้ามาย้อนมองดีๆ สถานการณ์ของไมโครซอฟท์ตอนนี้ดีกว่าเมื่อ 3-4 ปีก่อนมาก
นอกจากนี้ยังซื้อ Skype และโนเกีย เข้ามาเสริมทัพ และมีพันธมิตรอย่างโนเกียกับ RIM ในโลกมือถือ และ Facebook/Twitter ในโลกออนไลน์
ตอนนี้สภาพการณ์แวดล้อมทุกอย่างพร้อมแล้ว เหลือแค่รอพระเอกคนใหม่เดินเข้าสู่เวที ว่าจะเวิร์คแค่ไหน (ไม่เวิร์คก็จบเหมือนกัน)
Comments
มาแล้วๆ ลงชื่อคนที่ 1 อิอิ
ฮาตรงจิวยี่ตาย, วิเคราะห์เรื่อง Apple ซื้อ Yahoo ได้น่าสนใจ (แต่ผมคิดไปเองว่ารูปร่างหน้าตา 2 บริษัทนี้มันไม่เข้ากันยังไงไม่รู้ครับ) คนสายงานด้านนี้น่าอ่านบทความนี้นะครับ ได้ทั้งข่าวทั้งการวิเคราะห์แนวโน้ม ...โอ้ว Windows 8 จะมาในไม่กี่วันนี้แล้วหรอเนี่ย
เยี่ยมคับ ปลาใหญ่กินปลาเล็กจิงๆ ได้แนวคิดความรู้เยอะมาก
ขอบคุณคับ
ยังไม่มีพื้นที่สำหรับดุลน้ำหนักของ Facebook? แต่ถ้าจะมี หวยก็คงมาออกที่ M$ แหงๆ ^^'
my blog
น่านสิคับเมื่อไหร่ facebook จะได้ขึ้นเป็นก๊กที่ 4 น้อ
ผมว่าในระยะใกล้ๆ FB จะยังคงเป็นพันธมิตรแบบหลวมๆกับ MS ครับ จนกว่าจะเริ่มรู้สึกว่าถูกคุกคาม (มองว่า G+ อาจจะเป็นผู้คุกคามได้) ค่อยจะเริ่มขยับตัว ซึ่งการขยับตัวจอง FB น่าจะไปในทาง MS และ Apple มากกว่า Google ที่เปิดหน้าเล่นแล้วว่า ขอ ปะ ฉะ ดะ กับทุกคน (ฮา)
Facebook ยังไม่มีอะไรอื่นนอกจากเว็บน่ะครับ ต้องสะสมพลังไปอีกอย่างน้อย 5 ปี เหมือนกับกูเกิลช่วงแรกๆ ก่อนที่จะมาทำ Chrome, Android
ต้องรอไอเท็มต่อๆ ไปครับ
ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็น facebook OS ไม่ก็ facebook browser ครับ (ถ้าพี่มาร์คเขาจะทำนะ)
อ่านแล้วก็เริ่มเข้าใจภาพรวมมากขึ้น
ขอบคุณครับ
ฮาภาพทิมคุกมีราชวังต้องห้ามเป็นฉากหลัง (ใช่ราชวังต้องห้ามมั้ย?)
เข้าใจหาภาพประกอบนะครับ
เอ่อ... แล้ว Chrome OS เนี่ย ไม่มีคนพูดถึงแล้วใช่ไหมครับ
สนุกดีครับ วิเคราะห์เก่งดีครับ
ผมว่า Sony นี่เรียกว่ารัฐอิสระ ไม่ได้ตีกับใครจริง ๆ จัง ๆ มากกว่ามั้งครับ
ชอบสามก๊กไอทีครับ อ่านแล้วสนุกดี ระหว่างสองก๊กที่กำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับ Microsoft ที่เหมือนจะมีครบทุกอย่างแต่ก็เกิดไม่ได้สักที
เป็นบทความ IT Kingdoms ที่เจ๋งเอามากๆ สุดยอดมากครับ >.<b
แล้วที่ Yahoo! เขามีดีลกับไมโครซอฟท์บางเรื่องอยู่ (แต่ผมก็ไม่ได้ตามข่าวนั้นต่อละ) จะมีผลต่อการตัดสินใจที่แอปเปิลจะซื้อรึเปล่านะ (เกี่ยวกันมั้ย? อิอิ)
Apple ซื้อ Yahoo! ประเด็นนี้ผมคิดว่าน่าสนใจมาก
SPICYDOG's Blog
ซื้อสไกป์และโนเกียนี่ตั้งใจหรือพิมพ์ผิดครับ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ตอนแรกผมอ่านก็เข้าใจผิดแบบนั้นเหมือนกันครับ แต่ผมคิดว่าน่าจะสื่อถึง "ซื้อสไกป์และมีโนเกียเข้ามาเสริมทัพ" มากกว่า
หรือผมคิดมากจนผิดซ้ำซ้อน อาจจะสื่อแค่ไม่ซื้อก็เหมือนซื้อ จ่ายเงินแลกความร่วมมือขั้นสุดก็ได้นะครับ
อันนี้ขอโทษที คือผมตั้งใจจะเขียนว่าโนเกีย แล้วขีดฆ่า
แต่ดันลืมเปลี่ยน input format มันเลยไม่ขึ้นขีดฆ่าให้ครับ ตอนนี้แก้แล้ว
เราลืม Oracle ไปหรือเปล่า
:)
onedd.net
ผมเข้าใจว่าคัดมาเฉพาะบริษัท(ก๊ก)ที่ลุยตลาด consumer มีกลุ่มลูกค้า(พลเมืองในความปกครอง)จำนวนมากๆ
(Oracle, IBM พลเมืองน้อยถึงจะเป็นพลเมืองที่ตัวโตกว่า)
จริงๆ มีแผนจะเขียน "สามก๊ก Enterprise" ด้วยครับ แต่ดูอัตราการเขียนตอนนี้แล้วคงทำไม่ไหวแหะ
ก๊กนี้ทหาร(Developer)ไม่ต้องเยอะ แต่นักกฏหมายจัดไปซัก 90%
{$user} was not an Imposter
แบบผม คงเป็นผลทหาร วิ่งไป เจอปืน เจอดาบ ตายก่อน Y_Y
ส่วนตัวคิดว่าไม่ว่าจะสงครามกี่ครั้ง โลกเปลี่ยนไปกี่ที่
amazon ก็จะยังอยู่รอด
เป็นบริษัทที่ปรับตัวได้เร็วมากๆ
กลัวจะไม่ใช่แบบตอนจิวยี่ตาย แต่เป็นแบบตอนขงเบ้งตายน่ะสิ
อุตส่าห์แบ่งงานให้ดิบดี สุดท้ายก็ตีกันเองจนตายหมู่ สิ้นก๊กในที่สุด
เออ นั่นสินะ นึกถึงขงเบ้งที่ไม่ยอมให้ใครรู้อะไรเลย ตัวเองรู้คนเดียวหมดทุกอย่าง
เวลาสั่งงานก็เขียนแผนเฉพาะส่วนในกระดาษใส่ถุง มอบให้เป็นคน เป็นคน ไป
มันช่างเหมือนกันจริงๆ
ผมแอบเชียโซนี่นะ เพราะเจ้านี้มีคอนเทนต์ตางๆ พร้อมบริการอยู่มากมาย ไม่น้อยไปกว่าแอบเปิ้ม (เผลอๆ เพลงมากกว่าด้วยซ้ำ)
อย่างไรก็ตาม Android ตอนนี้ติดลมบนไปแล้ว (ถึงแม้สาวกแอปเปิลบางรายจะไม่ยอมรับก็ตาม)
มีแอบกัด
เยี่ยมครับ
เรื่อง Fork ผมว่ายังไงก็หนีไม่พ้นต้องตาม Google อยู่ดีล่ะครับ
ดูได้จากตัวอย่าง Chromium Project ถึงจะ Fork ไปเป็น Flock (ปิดไปแล้ว) หรือ Rockmelt ก็ยังต้องอาศัยแกนหลักของ Chrome อยู่ดี
อยากให้ Apple ซื้อ Yahoo! แล้วเอามาปรับปรุงโครงสร้างอะไรใหม่หมดเลย Yahoo! คงไม่ตกต่ำอีกต่อไป... เพราะไม่มี Yahoo! อยู่อีกแล้ว :P
ป.ล. แล้วข้อถกเถียงเรื่องนั้นมันจะจบลงไหมนะ?
Jusci - Google Plus - Twitter
อ่านมันส์ + ได้ความรู้ดีครับ
อ่านเพลินดีจัง^^
ผมว่าอเมซอนตอนนี้ ไม่สนใจการเป็นผู้นำตลาดอุปกรณ์เคลื่อนที่ เพราะจุดแข็งของอเมซอนตอนนี้อยู่ที่ตลาดคอนเทนต์(หนังสือ,วารสาร)ที่ตัวเองแข็งแกร่ง, ระบบเว็บออนไลน์ที่ดี มีการคัดกรองและให้คะแนนเนื้อหาที่เยี่ยม รวมถึงมีแฟนรีวิวหนังสืออย่างเป็นล่ำเป็นสัน ซึ่งยังหาคู่เปรียบได้ยากยิ่ง
การที่ทำอุปกรณ์คินเดิล รวมถึงแอพคินเดิลบนเครื่องสารพัดรุ่น, รวมถึงสร้าง Android Market ของตัวเองนั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อเป็นสะพานให้ผู้ใช้เสพติดเนื้อหาที่ซื้อมาจากอเมซอน เพื่อที่ให้อเมซอนได้ค่าส่วนแบ่งในการขายแอพฯและสื่อของตัวเอง
ปล. Bada น่าจะขึ้นต้นดัวยตัวใหญ่รึเปล่าครับ
bada นี่เขา (ซัมซุง) จงใจสะกดด้วยตัวเล็กหมดนะครับ เราก็เชื่อตามนั้น
Facebook ส่อแวว ไปทาง m$
twitter ยังกลางๆดูไม่ออก แต่แน่ๆ no google แน่นอน
apple สมควรซื้อ yahoo มากกที่สุดครับ อาวุธครบมือขึ้น
แอบคิดว่าถ้า google ล้มไม่เป็นท่ามาใครจะยื่นมือช่วย google ล่ะเนี่ย !!! มาแนว hero concept ตลอด
แอบรู้สึกว่าเป็น Hero (with benefits) น่ะสิครับ
คนอื่นเห็นแล้วว่า with benefit หรือ evil ก็แสดงตัวตลอด
แต่กูเกิลนี่ ไม่รู้ว่า don't be evil จะ เป็นแค่คำพูดรึเปล่าก็ไม่รู้
onedd.net
และโนเกีย:)+1
เขียนทำนายอนาคตไว้เลยทีเดียว
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
สนุกมากเลย อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว
เยี่ยมเลยครับ กำลังคิดอยู่เหมือนกันว่าใครจะซื้อ Yahoo! แต่ก็ยังเห็นว่า Microsoft ยังมีภาษีที่น่าสนใจกว่าที่จะซื้อ
Oracle, IBM ไปอยู่ฝั่ง Enterprise สินะ ไม่มารบภาคปกติกัน :D
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ชอบสามก๊กไอทีครับ ถึงจะไม่เคยอ่านสามก๊กจริงๆเลยซักครั้ง
ส่วนตัวเชียร์โซนี่ครับ เพราะใช้กล้องเค้าอยู่ อิๆ
รักนะคะคนดีของฉัน
เท่าที่อ่านมาเห็นได้ว่า Microsoft พร้อมสู้ศึกในทุกด้านจริงๆ
อ่านสนุกมากๆเลย ชอบๆ
..: เรื่อยไป
ถึงโซนีจะมีอะไรในมือหลายอย่าง แต่อย่าลืมนะครับว่าเพิ่งโดนโจรโพกผ้าเหลืองทิ้งบอมบ์ไปไม่นาน
อ่านซะเพลินเลย
ผมมองว่า skype ที่ซื้อไป จะเข้าไปผนวกอยู่กับชุด lync เร็วๆ นี้ ครับ
หลังไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows 8 ไปเมื่อสักครู่ กิเลสเกิดมากๆครับ!
เป็น ความรู้ที่ดี มาก เลย ครับ