บ้านเราอาจจะถกเถียงกันมากในเรื่องของการใช้แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา แต่ในสหราชอาณาจักรก็เริ่มมีข้อเสนอให้ราชการใช้งาน iPad หรือแท็บเล็ตอื่นๆ แทนกระดาษทั้งระบบแล้ว เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์นอกจากนี้ยังใช้แทนพีซีเพื่อลดการใช้พลังงานได้พร้อมๆ กัน
Mark O'Neill หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรมของ Government Digital Service ระบุว่าเขาเชื่อว่าการเปลี่ยนจากกระดาษไปใช้แท็บเล็ตทั้งหมดจะคืนทุนให้รัฐบาลภายใน 18 เดือนเท่านั้น โดยแท็บเล็ตนั้นใช้พลังงานเพียงหนึ่งในร้อยของพีซีเท่านั้น และหากใช้แทนกระดาษ มันจะเป็นการตัดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ที่รัฐบาลกลางต้องจ่ายอยู่ปีละ 104 ล้านปอนด์ลงไปได้
พนักงานรัฐบาลกลางของสหราชอาณาจักรในตอนนี้มีทั้งสิ้น 1.16 ล้านคน หากรัฐบาลซื้อ iPad ในราคาปลีกสำหรับทุกคนจะมีค่าใช้จ่าย 440 ล้านปอนด์ รวมระยะเวลาคืนทุนประมาณ 4 ปี ของ O'Neill เชื่อว่าเวลาซื้อจริงอาจจะไม่ต้องซื้อครบทุกคนเช่นนี้ และเมื่อซื้อนับแสนนับล้านเครื่อง ราคาที่ซื้อได้จะลดลงไปมากกว่านี้มาก
ในข้อโต้แย้งว่าแท็บเล็ตเป็นความฟุ่มเฟือยของรัฐบาล O'Neill ระบุว่าเขาทำงานมานานพอที่จะเห็นยุคที่ผู้คนวิจารณ์อย่างเดียวกันกับโทรศัพท์ โดยคนจำนวนหนึ่งถามกันว่ามีความจำเป็นอะไรที่เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องมีโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะทำงาน และตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องถามคำถามแล้วว่าเครื่องมืออะไรที่จำเป็นต่อการทำงาน [ในทุกวันนี้] บ้าง
ข้อเสนอนี้ยังคงเป็นข้อเสนอของคนทำงานเท่านั้น แม้ที่ผ่านมารัฐสภาของสหราชอาณาจักรจะให้สมาชิกสภาใช้แท็บเล็ตในการพกเอกสารเข้าสภาได้แล้ว แต่กว่าข้อเสนอนี้จะผ่านกระบวนการก็คงอีกนานพอสมควร
ที่มา - Silicon.com
Comments
ท่านผู้ทรงความรู้คงไม่ได้คิดถึงวงจรชีวิตของแท็บเล็ตเลยมั้งว่ามันอยู่ได้ประมาณ 2 ปี ก็หลุดวงโคจรแล้ว ถ้าไม่ได้ทำ OS เอง Support เอง ก็เลิกคิดใช้งานได้เลย 2 ปีก็หมดอายุแล้ว
ผมใช้ notebook มันก็เกินสองปีทุกตัวนะครับ อาจจะมีซ่อมระหว่างทางบ้าง แต่อายุการใช้งานรวมๆ เฉลี่ยๆ ก็ 4-5 ปี
มันมีเหตุอะไรให้แท็บเล็ตอายุการใช้งานมันแย่อย่างนั้นหรือครับ
lewcpe.com, @wasonliw
จากตามข่าวของท่านบอกว่าเป็นพวก iPad นี่ครับ ซึ่งอุปกรณ์สาย iOS/Andriod ระยะเวลา Support ของอุปกรณ์มันสั้นแค่ประมาณ 2 ปีเท่านั้นเอง มันไม่เหมือนสาย Notebook ที่ใช้พวก Windows/Linux การ Support ทั่วไปมันนานได้ถึง 3 ปี และทางด้าน OS เองก็ 10+ ปี
ผมมืโทรศัพท์ที่บ้านก็ใช้ Android 1.6 นะครับ ใช้มีความสุขดี เครื่องที่ใช้หลักนี่ก็ 2.1
เครื่องราชการไทย Windows 95 ก็ยังไม่หาไม่ยากเกินไป
บริษัทเลิกซัพพอร์ตแล้วเราต้องหยุดใช้เลยหรือครับ?????
lewcpe.com, @wasonliw
ขนาดคุณเองยังคิดเลยว่า Andriod 1.6 ก็คือเก่าแล้ว ทั้งที่ความจริง มันพึ่งออกมาครบ 2 ปี เอง แล้วสำหรับผมน่ะ ถ้า OS หยุด Support ก็ควรเลิกใช้ได้แล้ว เพราะมันเท่ากับว่าจะไม่มี Patch มาแก้ปัญหาด้านความปลอดภัย ซึ่งเครื่องของราชการไทยนี่ก็เป็นตัวอย่างที่ดีว่าทั้งไม่มีการอัพเดตโปรแกรมและไม่มีโปรแกรม Antivirus มันก็จะไม่มีความปลอดภัยในการใช้งานข้อมูล เสียบ Flashdrive แล้วไฟล์หายเนี๊ยะ คงไม่มีใครมีความสุขหรอกครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Android_version_history#1.6_Donut
ในเมื่อมันยังใช้ได้ และตอบโจทย์ในการทำงานก้ไม่มีใครอยากเปลี่ยนหรอกครับ
ไม่ใช่เฉพาะราชการนะครับที่ยังใช้เครื่องเก่า software เก่า เอกชนก็เช่นกัน ผมก็เห็นหลายๆที่ยัง run fox dos อยู่เลย
ส่วนเรื่องความปลอดภัยผมมองว่าเป็นเรื่องของ policy ภายในองค์กรมากกว่า
จุดประสงค์หลักของโครงการนี้คือ เอาไว้ใช้แทนการพิมพ์เอกสารออกมาใช้ตามปรกติครับ ไม่ได้เอามารองรับโปรแกรมใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องรองรับกับ os ใหม่ๆหรอกครับ จาก wiki ที่ให้มาผมก็ไม่เห็นว่าเวอร์ชันใหม่ๆมันจะมีการอัพเดทเรื่องความปลอดภัยเลยนะครับส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการใช้งานมากกว่าครับ
โดยส่วนตัวผมชอบอ่านหนังสือบน tablet นะครับมันสะดวกดีแต่ขัดใจบ้างเวลาเปิดหาหน้าที่ต้องการ
เหตุผลใช้ได้ครับ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยโดยเฉพาะหน่วยงานราชการ อาจถูกแฮคส์แล้วเกิดความสูญเสียมากมายได้ อย่าลืมนึกถึงวิกิลีคส์
"ขนาดคุณเองยังคิดเลยว่า Andriod 1.6 ก็คือเก่าแล้ว" ผมไม่เห็นคุณ lew พูดแบบนั้นซักคำ
สำหรับผม บริษัทเลิกซัพพอร์ทไม่เห็นต้องเลิกใช้เลยนี่ครับ tablet อันนึงซื้อมา ใช้งานดีๆก็อยู่ได้นานกว่า 2 ปีแน่ๆ ถ้ามันไม่พังจนซ่อมไม่ได้ และมันยังตอบโจทย์การใช้งานอยู่ จะใช้ไป 4-5 ปี ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร
ตอนแรกพูดถึง mobile แล้วก็เอามาเปรียบเทียบกับ virus flashdrive ผมว่ามันเปรียบกันไม่ได้หรอกคับ อีกอย่าง ต่อให้มีการอัพเดท patch ก็ไม่ได้ช่วยป้องกันได้ขัวร์ๆ ถ้าคนใช้งานจะไปทำให้ติดไวรัส ต่อให้อัพเดทล่าสุดมันก็ติดได้
ผมก็ว่ามันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับการ support ของผู้ผลิต ที่ support เพียง 2 ปี เพราะ app ที่ใช้ทำงานมันก็ app เดิม พนักงานที่อำเภอ ยังใช้ office97 อยู่เลย ทั้งที่ทางอำเภอมี office เวอร์ชันใหม่กว่านั้นให้ แต่เค้าก็ยังพอใจที่จะใช้ของเก่าอยู่และยังบอกอีกว่าไม่มีเวลามานั่งหาวิธีใช้เวอร์ชันใหม่ๆ หรอกเพราะที่มีก็พอสำหรับงานที่ทำอยู่แล้ว
เห็นด้วยอย่างแรง (ทั้งที่เป็นผู้ชอบอัพเดท) นโยบายมีให้ใช้ถ้าเดือดร้อนก็ซื้อเองใหม่สิครับ มันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร แล้ววัตถุประสงค์ก็ลดกระดาษ(ลดได้เยอะมากๆ) จะถามหาเรื่องอัพเดทก็คงจะเรื่องอายุของแบต แต่ถ้าความปลอดภัย กระดาษก็ยังห่วยกว่าเลยครับถ่ายเอกสารก็ได้ สแกนก็ได้ ถ่ายรูปไว้ยังได้เลย ขึ้นเน็ตง่ายกว่าเยอะ(ที่เอกสารมันหลุดๆกันมาก็เพราะกระดาษหรือมิใช่?) แล้วเอกสารลับใครจะมาให้ข้าราชการชั้นล่างรับรู้ครับ ขี้ปากเปล่าๆ
4 ปีนั่นคำนวณจาก iPad ราคาเต็มด้วยนะครับ ของจริงถูกกว่านั้นแน่ๆ
ผมก็ว่าอย่างงั้นแหละครับลองนึกดูว่าเทคโนโลยีมันไปไวขนาดไหน ขนาดเดี๋ยวนี้มือถือที่ออกมาเกิน 2 ปีนี่ไม่อยากจะอัพเดทให้แล้วคนเรา :(
ในมุมมองของผู้ใช้ชอบอัพเดทให้ตามทันครับ
แต่ในมุมมองของคนทำงานมันไม่ใช่สาระสำคัญครับ ตราบใดที่ content สำหรับใช้ทำงานยังคง feed มาเรื่อยๆ
มันก็เหมือนกับระบบงานบางแห่งยังคงใช้ DOS นะหล่ะครับ ก็ในเมื่อมันก็ยังตอบสนองการใช้งานได้อยู่ แล้วจะอัพเดทตามไปทำไมให้เปลืองสะตุ้งสตางค์และเวลา
ไม่ได้ทำ OS เอง ก็ support ได้นะครับ
การอัพเกรดเครื่อง เปลี่ยนเครื่องใหม่ ส่วนใหญ่คนที่ตาม Hardware ใน 1-2 ปี คือคนที่เล่นเกมครับ ที่ต้องการเครื่องที่ประมวลผลไวๆ มารองรับเกมใหม่ๆได้
ส่วน app งานราชการ มันไม่ได้กินทรัพยากรด้านกราฟฟิคหนัก ส่วนมากก็งานเอกสาร งานติดต่อระหว่างแผนก ขออนุมัติ เชครายงาน เชคข้อมูล กรอกฟอร์ม ส่งรายงาน ติดต่อลูกค้า คงไม่ได้จำเป็นต้องอัพเครื่องบ่อยๆหรอกครับ
ถ้าใช้ทำงานผมว่า work นะครับ
That is the way things are.
ทุนของต่างๆบ้านเค้าแพง บ้านเราใช้กระดาษต่อไปคุ้มกว่า
กิเลศของเรานี่แหบะครับเป็นตัวกำหนดว่าจะใช้ต่อไปหรือจะใช้ัวใหม่
อัปเกรดเครื่องพีซีกับระบบที่ลดการใช้กระดาษลงน่าจะดีกว่ามั้งครับ แล้วที่เอามาแทนกระดาษนี้คงไม่ไหวมั้งเพราะกระบวนการผลิตและกระบวนการทำลายต้องแลกมาด้วยอะไรบ้างไม่คุ้มหรอก
ไม่แน่ ถ้าใช้ iPad จริง Apple อาจจะมีบริการ Extended Support สำหรับองค์กรโดยเฉพาะก็ได้ แม้ว่าจะเกิน 2 ปีแล้ว แล้วก็เก็บค่าบริการซะหน่อย ได้เงินอีกสบายยย
Apple น่าจะมีแผนการสำหรับองค์กร และรัฐบาลไว้แล้วนะครับ
ระบบลดการใช้กระดาษ ไม่ต้องมีแทปเลตก็ทำได้นะ
ส่วนตัวผมชอบกระดาษมากกว่าแห่ะ มีหลายอย่างที่เป็นเอกสารในคอมฯ ผมก็ปริ๊นท์ออกมาอ่านข้างนอกอยู่ดี เพราะมันขีดเขียนอะไรๆ ลงไปง่ายดี
^
^
that's just my two cents.
ใช้แท็บแล็ตแทนกระดาษนี่ยังพอโอเค
แต่จะให้ใช้แทน PC ผมว่าไม่ work
เอาแค่เรื่องการพิมพ์งานนี่ช้ากว่าพีซีแน่ๆ
ถ้าเมืองไทยเลือกทำแบบนี้สงสัยโดนด่าแหลกตามฉบับ
@TonsTweetings
ผมว่าไม่โดนด่านะครับ ถ้ามีบอกเหตุผลแบบเขาน่ะ
+1 ผมว่าฟังมีเหตุผลกว่าแจก Tablet เด็กนะครับ
+1024
ลองคิดในมุมกลับ
บ้านเราเป็นประเทศริเริ่มแจกให้เด็กก่อน
แล้วต่างชาติค่อยทำตามเราบ้าง
เอ๊ะ เหมือนเคยเห็นว่าเกาหลีใต้ ก็มีโครงการแบบนี้เหมือนกันนะ
แต่ผมไม่ชัวร์ว่าอ่านเจอจากไหนนะครับ
ในองค์กรเอกชนใหญ่ๆ ใช้ ePaper หรือ paperless กันมานานแล้วครับ อุปกรณ์ mobile ก็ใช้กันตั้งแต่สมัย Windows CE 2003 กันมานานแล้ว เขาทำระบบปิดเฉพาะทางไว้ใช้ในองค์กร ไม่เห็นจะต้องสนใจวิ่งไล่การ update hardware เลย ใครที่บอกใช้สองปี เขาไม่ได้ใช้มาเก็บผักเล่น Facebook หรือไว้อวดกันนะครับ
อย่างว่าแหละ ขนาดเหตุผลของเขาคือการลดการใช้กระดา่ษ ที่ก็เหมือนๆกับที่จะแจกเด็กว่าลดการใช้หนังสือบางอย่างลง เพื่อให้อ่านหนังสือ ebookได้ง่ายขึ้นและยังส่งเสริมการเรียนรู้ แต่ระดับการด่าัดันแตกต่างกัน เหอๆ
ผมเคยคิดทำมานนานแล้วเพราะว่า เอกสารกระดาษ เนี่ยทำให้การสื่อสารพลาดมาเยอะโดยเฉพาะใน โรงพยาบาล เพราะลายมือหมอยังกะไก่เขี่ยแทบทุกคน ยิ่งเห็นหน้าตาหล่อๆ น่ารักๆ ละก็ ลายมือนี่ดูไม่จืดเลย อ่านก็ยาก ทำตามก็ยาก
บางองค์กร ค่ากระดาษปีนึงเป็นร้อยล้านบาทนะครับ ซื้อปีเดียว + ระบบด้วย ก็ยังคุ้มทุนเลย อันนี้ Confirm ลูกค้าบอกมาเอง ฟังตอนแรกเล่นเอางง แต่ที่เจอ คือ มี Tablet แล้วก็ยังจะใช้กระดาษอีก มันก็เลยเปลืองหนักกว่าเดิม
ระยะยาว ยังไง paperless environment มาแน่ครับ
อย่ามองแค่ราคากระดาษครับ อันนั้นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง ข้างใต้ยังมีก้อนใหญ่อีก
ผมไม่ชัวร์เรื่อง ค่าที่แน่นอนนะครับ แต่ผมเข้าใจว่า carbon footprint ของกระบวนการผลิตกระดาษ เยอะกว่า อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ มาก
ถ้าพูดถึง paperless ส่วนใหญ่มองกัน 2 มิติใหญ่ๆ คือ ความรวดเร็ว กับ สิ่งแวดล้อม 2 อันนี้คือ ใต้ภูเขาน้ำแข็งที่ซ่อนอยู่
ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการ ถ้ามี roadmap ในการลดปริมาณกระดาษ + พัฒนา content ที่เหมาะสม ผมว่ายังไงก็เวิร์คอยู่ดี
Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ