เมื่อปีที่แล้วกระแสแท็บเล็ตโทรได้ของ Galaxy Tab รุ่นแรกที่ถูกปรามาสว่าเป็น Galaxy S เวอร์ชันขยายร่าง แต่กลับได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น ได้ใจสาวๆ ที่ชอบพกมือถือไว้ในกระเป๋าจนถึงตอนนี้ก็ยังมีให้เห็นอยู่ทั่วไป
วันนี้ Galaxy Tab กลับมาอีกครั้งในมาดใหม่ของ Samsung ยุคนี้ที่บางลง เบาลง และเสริมจุดเด่นด้วยการเพิ่มลำโพงสนทนามาให้เลย ไม่ต้องต่อสมอลทอล์ค หรือเปิดลำโพงกันอีกต่อไป
จากสเปคเปรียบเทียบกับ Galaxy Tab รุ่นอื่นๆ ที่เปิดตัวกันมาในปีนี้ (ดูสเปคเปรียบเทียบได้ที่บล็อก poakpong.com) Galaxy Tab 7 Plus วางตัวเป็นแท็บเล็ตรุ่นล่างสุดของ Samsung แต่รองรับ 3G (ตัวที่ทดสอบรองรับ 900/2100 ได้ข่าวว่าตัวที่รองรับ 850 จะตามมาในภายหลัง) และเป็นแท็บเล็ตเครื่องแรกที่ใช้ชิป SoC ของ Samsung เองอย่าง Exynos ในราคาเปิดตัวต่ำสุดในไลน์ที่ 15,900 บาท
เกริ่นกันไปพอสมควรแล้ว มาดูหน้าตาที่เปลี่ยนไปของเจ้า Galaxy Tab 7 Plus กันเลยดีกว่า
การออกแบบของ Galaxy Tab 7 Plus จะเหมือนกับแท็บเล็ตรุ่นพี่อย่าง Galaxy Tab 10.1 ที่เน้นความบางเบา และโค้งมนเป็นหลัก วัสดุโดยรวมเป็นพลาสติกเพื่อให้ได้น้ำหนักที่เบาเพียง 345 กรัม แต่ยังไม่เบาที่สุด เพราะตัวที่เบาที่สุดคือ Galaxy Tab 7.7 ชนะกันไปหลักสิบกรัมเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องการประกอบแน่นหนาดีครับ
ด้านหน้าของตัวเครื่องถูกจูนมาให้เข้ากับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ Honeycomb ที่ใช้การสั่งงานจากหน้าจอทั้งหมด จึงไม่มีปุ่มที่ด้านหน้าเลย
ด้านหลังเครื่องเป็นพลาสติกมันสีขาวทั้งชิ้นแกะออกถอดแบตไม่ได้ เปื้อนได้ง่าย และเป็นรอยง่ายเช่นกัน (เห็นว่ามีแบบฝาหลังสีดำด้วย)
วกกลับมาด้านหน้าเครื่องส่วนบนจากที่เคยว่างเปล่าในรุ่นเก่า มีลำโพงสำหรับสนทนามาให้ด้วย แต่เวลาใช้งานจริงอาจต้องปรับพฤติกรรมกันหน่อย เพราะว่าตัวเครื่องใหญ่กว่าใบหูคนทั่วไปมาก หลายครั้งที่เล็งไม่ตรงหู ก็จะได้ยินไม่ชัด มีอาการเสียงก้องบ้าง แต่ไม่บ่อยนัก ข้างๆ เป็นเซนเซอร์วัดแสง วัดระยะห่าง และกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
ด้านล่างของเครื่องที่เคยมีแผงปุ่มเมนูอยู่ มารุ่นนี้อันตรธานหายเกลี้ยง เหลือเพียงโลโก้ Samsung ที่ย้ายจากด้านบน มาด้านล่างแทน
ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะมีช่องสำหรับเสียบซิม และเมมโมรี่การ์ด ซึ่งรู้สึกว่ามันเสียบซิมยากกว่าเครื่องอื่นๆ ที่เคยใช้มาพอสมควร แต่ฝาปิดแน่นหนาดีไม่หลุดออกเองแน่ๆ
เหมือนเดิมตามประเพณีของ Samsung ที่จะวางปุ่มเปิด/ปิดเครื่องไว้ที่ด้านขวาบน ล่างลงมานิดเป็นปุ่มเพิ่มลดเสียงหน้าตาเรียบๆ
ต่ำลงมาจากปุ่มเพิ่มลดเสียงจะเป็นสิ่งที่คนใช้มือถือในยุคแรกๆ รู้จักกันดี นั่นก็คือตัวส่งสัญญาณอินฟราเรด ที่ Samsung หวังจะให้ใช้งานแท็บเล็ตตัวนี้เป็น Smart Remote ระยะทำการของเจ้าอินฟราเรดนี้อยู่ที่ 8 ฟุต (ราว 2.4 เมตร) ซึ่ง Galaxy Tab 7 Plus เป็นรุ่นแรกที่รวมเอาอินฟราเรดมาด้วย ส่วนแบรนด์คู่แข่งที่พอทราบว่ามีอินฟราเรดก็คือ Sony Tablet S ที่เพิ่งขายไปไล่ๆ กัน (แต่ตัวขายจริงไม่มีนะ)
ด้านบนของตัวเครื่องมีเพียงพอร์ต 3.5 มม. และที่เห็นรูเล็กๆ นั่นคือไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับกรองเสียงรบกวน ซึ่งใช้อัดเสียงระหว่างถ่ายวิดีโอได้ด้วย
ด้านล่างของตัวเครื่องซ้ายขวาเป็นลำโพงคู่ Stereo ไมโครโฟนสนทนา และพอร์ตมาตรฐานสำหรับ Galaxy Tab (ที่หลายคนบอกว่ามันหน้าตาเหมือน 30-pins connector ของแอปเปิล แต่ใช้ร่วมกันไม่ได้นะ)
ด้านหลังตัวเครื่องมีกล้องความละเอียด 3 ล้านพิกเซลเท่ารุ่นเก่า มีแฟลช LED เหมือนเดิม
เผอิญได้ไปลองเทียบกับ Galaxy Tab รุ่นเก่ามา แต่ดันไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วย ต้องบอกว่าแม้จะตัดแผงปุ่มเมนูด้านล่างออกไปหมดแล้ว แต่ขนาดกลับไม่ได้ต่างกับรุ่นเดิมเลย ที่เปลี่ยนไปเห็นชัดที่สุดเป็นส่วนหนาของเครื่องจาก 12 มม. เหลือ 9.9 มม.
จอของ Galaxy Tab 7 Plus ตามสเปคเป็น PLS LCD ที่ปั้นขึ้นมาแข่งกับจอ IPS เคลมว่าให้มุมรับภาพที่กว้างกว่าจอ LCD ปกติ ลองใช้จริงแล้วก็เป็นไปตามคุณสมบัติที่ระบุไว้ แม้ว่าจะมองจากด้านข้างมากๆ ก็ยังไม่เกิดอาการสีเพี้ยน ส่วนสีสันของจอนับว่าสดมาก เมื่อเทียบกับ LCD ทั่วไป
ที่แย่สุดของจอนี้คือมันหยาบไปเมื่อเทียบกับแท็บเล็ตตัวอื่นในค่ายเดียวกัน เนื่องจากความละเอียดยังเป็น 1,024x600 พิกเซลอยู่นั่นเอง
ด้วยขนาดของหน้าจอ 7 นิ้ว ลืมไปเลยว่าจะใช้มือเดียวอย่างสะดวก (เว้นแต่ว่าจะนิ้วโป้งยาวพอ) และด้วยตัวเครื่องที่บางลงทำให้เวลาใช้เป็นโทรศัพท์จะมีลักษณะเหมือนเอานิ้วหนีบไว้โดยอุ้งมือจะไม่ได้สัมผัสด้านหลังเครื่อง คุยนานๆ แล้วปวดข้อมือ - -"
Galaxy Tab 7 Plus เป็นเหมือนกับแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ ในค่ายคือใช้แอนดรอยด์ Honeycomb เวอร์ชัน 3.2 พร้อมอินเทอร์เฟซ TouchWiz สำหรับแท็บเล็ตที่ชื่อว่า TouchWiz UX
หน้าล็อกสกรีนเป็นเหมือนกับแอนดรอยด์ คือลากจากตรงกลางออกนอกวงกลมเพื่อปลดล็อก โดย Samsung จะใช้การลากจากจุดศูนย์กลางแบบนี้กับการรับสายโทรเข้าด้วย
หน้าโฮมสกรีนของ Galaxy Tab 7 Plus ถูกปรับไอคอนให้เป็นแบบ TocuhWiz และเพิ่มปุ่มแคปภาพหน้าจอเข้ามา (ไม่รู้ว่าพออัพเป็น ICS ที่แคปหน้าจอได้เองแล้วจะยังอยู่ไหม) ที่น่าสนใจคงเป็น mini app ที่เรียกใช้ได้จากสัญลักษณ์ ^ ตรงกลางของแถบ Action bar ซึ่งพอกดแล้วจะโผล่เป็นรายการแอพขนาดย่อส่วนเป็นหน้าต่างลอยขึ้นมา (เรียกใช้ได้ทีละแอพ)
ในหน้า mini app ของแต่ละแอพจะมีปุ่มอยู่สองปุ่มด้านบน ทางขวาไว้สำหรับปิดแอพ ส่วนทางด้านซ้ายไว้สำหรับขยายเป็นแอพขนาดปกติ ไม่แน่ใจว่าส่วนนี้ Samsung จะเปิดให้นักพัฒนาได้ใช้กับแอพอื่นที่ไม่ใช่ของ Samsung ด้วยหรือไม่
และก็มาถึงของที่เพิ่งมีในเครื่องนี้เครื่องแรกอย่างการใช้งานเป็น Smart Remote ควบคู่กับแอพ Peel Smart Remote & TV Listing ที่พรีโหลดมาในเครื่อง และสามารถอัพเดทจาก Android Market ได้
ตอนเปิดแอพครั้งแรกจะต้องตั้งค่าว่าใช้ภายในสหรัฐฯ หรือว่านอกสหรัฐฯ ซึ่งต่างกันตรงที่ในสหรัฐฯ จะใช้ฟีเจอร์ได้มากกว่า แต่ถ้าใช้นอกสหรัฐฯ จะเป็นแค่รีโมตทีวี กับเครื่องเล่นเท่านั้น
พอเลือกเสร็จก็จะมีสอนใช้งานเล็กน้อย และเข้าสู่หน้าตั้งค่าที่จะมี preset ไว้สำหรับบางแบรนด์แล้ว (ในที่นี้ทดสอบกับ LG ต้องเข้าไปหาข้างใน Other Brand อีกที - -")
นอกจากทีวีแล้วยังใช้คุมเครื่องเล่นอื่นๆ ได้ด้วย (แต่ไม่ได้ลองมาเลยอ้ะ)
หน้าตาการควบคุมก็จะแบ่งเป็นสามพาเนล พาเนลแรกไว้เลือกอุปกรณ์ พาเนลที่สองไว้สำหรับปุ่มลัดที่เพิ่มได้เอง พาเนลสุดท้ายหน้าตาเหมือนกับรีโมตปกติ สามารถสลับจากปุ่มตัวเลขเป็นปุ่มทิศทางได้โดยกดที่แถบตรงกลาง (ที่เป็นรูป > สีเหลือง)
คราวก่อนเคยเล่น Samsung Apps บน Galaxy Note ไปแล้ว คราวนี้มาลองเล่นบนแท็บเล็ตก็มีหน้าตาเปลี่ยนไปเป็นแบบสองพาเนล แสดงราคาแอพเป็นภาษาไทย แต่เสียดายที่ยังต้องจ่ายผ่านบัตรเครดิตอยู่ดี (ต้องสมัคร Samsung Account ก่อนด้วย)
การใช้งานโทรออกมีหน้าตาคล้ายกับ Galaxy Tab รุ่นเก่า ซึ่งมีฟีเจอร์ Smart Dial (ที่ Google ไม่ยอมทำมาเป็นฟีเจอร์มาตรฐานเสียที) หน้า Logs แบ่งเป็นสองพาเนล แสดงข้อมูลเยอะมาก แต่จะสังเกตได้ว่าฝั่งซ้ายจะถูกบีบจนเล็ก เมื่อใช้ในแนวตั้งเสมอๆ
อีกจุดหนึ่งที่ไม่เหมือนแบรนด์อื่นคือเวลาที่มีสายไม่ได้รับ แล้วกดจาก Action bar จะไม่ขึ้นเป็นแอพขนาดปกติ แต่จะขึ้นเป็น mini app แทน
ชิป Exynos นั้นขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องการใช้งานเบราว์เซอร์ที่ลื่นมาก เป็นรุ่นที่ทัดเทียมกับฝั่ง iOS ได้สบายๆ ทดสอบเปิดเว็บ Blognone ดู ก็สามารถแสดงผลได้ถูกต้อง ยกเว้นฟอนต์ที่มากับทุกเครื่องของ Samsung ที่เบียดกันไปหน่อย ใครไม่ชอบคงต้องรูทเครื่องแล้วเปลี่ยนกันเอาเองครับ
ลองกับเว็บนี้อย่างเดียวจะหาว่าโกง ต้องมาลองกับเว็บที่ใช้แฟลชระดับพระกาฬอย่าง SS ... ผลคือ ยัง "เอาอยู่" ครับ
ต่อมาก็เบนช์มาร์กกันพอเป็นพิธีกับสองแอพยอดนิยมอย่าง Quadrant Standard และ Multitouch Test
สำหรับผลของ Quadrant Standard ต้องบอกว่าชิปที่รุ่นนี้ใช้อย่าง Exynos มีชื่อลือชามาตั้งแต่สมัย Galaxy S II แล้วว่าได้คะแนนสูงมาก ลองกดไปสองสามครั้ง ผลได้มาเบาะๆ ที่ 3200-3500 แต้มครับ ส่วน Multitouch Test รองรับการใช้นิ้วสูงสุดที่สิบนิ้ว แต่ว่าใช้แบบเสถียรที่แปดนิ้วครับ
การพกพาเจ้า Galaxy Tab 7 Plus ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ระหว่างแท็บเล็ต 10 นิ้วที่ต้องใส่กระเป๋าถือเท่านั้น หรือแบบสมาร์ทโฟนทั่วไป ถ้าไม่ใช่กางเกงฟิตเปรี๊ยะ ก็พอจะยัดใส่กระเป๋ากางเกงได้ ส่วนกระเป๋าหลังนี่ใส่ได้สบายๆ
ปัญหาที่พบบ่อยของเครื่องนี้คือ... หาปุ่มเปิดเครื่องไม่เจอ - -" เพราะทุกมุมมันเหมือนกันหมดเลย เวลาหยิบเครื่องมาที ก็คลำหาปุ่มเปิดจอกันทีนึง
การใช้งาน GPS อยู่ในระดับปกติ ไม่เร็วปรู๊ดปร๊าดเหมือนที่เคยเจอใน Optimus One แต่ไม่ได้ห่วยลงเหวเหมือนกับ Galaxy S ในที่โล่งเปิดสามจีแล้วใช้เวลาไม่ถึงนาทีก็สามารถจับตำแหน่งได้แล้ว
การใช้งานเป็น Smart Remote ยังบอกไม่ได้ว่าเวิร์คพอรึยัง สำหรับคนใช้ทีวีเครื่องเดียวคงไม่น่าสนใจนัก แต่ถ้ามีหลายๆ เครื่องน่าจะใช้งานได้ดี ปุ่มลัดทำงานได้จริง แต่ตอนทดสอบกับทีวี LG ผลปรากฏว่าใช้ได้บ้าง ไม่ได้บ้างแฮะ
ความลื่นในการใช้งานถือว่าลื่นไหลแล้ว แต่ยังมีกระตุกเป็นบางจังหวะ จากที่เคยจับ Galaxy Tab 8.9 ที่ใช้ Tegra 2 แล้วรู้สึกว่าตัว 8.9 ลื่นกว่า
แบตเตอรี่สแตนบายด์ได้นานมาก เปิดทิ้งไว้เฉยๆ เป็นสัปดาห์แบตแทบไม่ลด แต่พอใช้งานปกติ เปิด 3G ตลอดเวลา (3G ของ TOT) อยู่ได้ราว 8 ชั่วโมงเศษๆ สงสัยว่า Exynos จะกินแบตน่าดู
กล้องหลักของ Galaxy Tab 7 Plus มีความละเอียด 3 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED โฟกัสได้ไม่เร็วนัก แต่คุณภาพจัดอยู่ในขั้นดีพอตัวเมื่อเทียบกับแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ
ฟีเจอร์ของกล้องในรุ่นแท็บเล็ตจะน้อยกว่าบนสมาร์ทโฟนพอสมควร (ไม่มี Beauty Mode ด้วย) และมีตัวเลือก Self Portrait ที่จะปรับมาใช้กล้องหน้าในทันทีด้วย สงสัยทำมาเผื่อสาวๆ ที่ไม่รู้ว่าปรับเป็นกล้องหน้ายังไงล่ะมั้ง
พรีวิวภาพบนหน้าจอระหว่างถ่ายจะดูแย่หน่อย แต่พอถ่ายจริงแล้วก็ออกมาปกติดีนะ ว่าแล้วก็ไปดูภาพตัวอย่างที่ถ่ายมาได้เลย (ดูทั้งหมดกดตรงนี้) ดูกล้องหน้า
เอาไปถ่ายในห้องมีไฟฟลูออเรสเซนต์สลัวๆ แบบไม่ได้เปิด และเปิดแฟลชได้อย่างนี้ครับ
อันนี้ถ่ายในห้องมืดเปิดแฟลชครับ แบบปิดแฟลชนี่กลายเป็นดำสนิทไปเลย - -"
เนื่องจากรุ่นนี้ไม่มีโปรไฟล์การถ่ายแบบมาโคร ผมเลยเลือกอันที่มันผลลัพท์ใกล้เคียงกันคือแบบ Text แทน ผลออกมาเป็นแบบนี้ครับ
การถ่ายวิดีโอของ Galaxy Tab 7 Plus ความละเอียดสูงสุดที่ 720p รองรับเสียงแบบ Stereo สามารถกดที่หน้าจอเพื่อโฟกัสภาพระหว่างถ่ายได้ (แต่ถ่ายภาพนิ่งระหว่างถ่ายวิดีโอไม่ได้) คุณภาพพอใช้ได้ถูไถๆ กล้องหน้าก็ถ่ายวิดีโอได้เช่นกันที่ความละเอียด 480p
เจ้า Galaxy Tab 7 Plus เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก สำหรับคนที่กำลังมองหาอุปกรณ์ที่จอใหญ่ และใช้โทรออกได้ด้วย ในราคาที่ต่ำกว่าทุกตัวในค่ายเดียวกันแต่รองรับ 3G ซึ่งมีคู่แข่งชัดๆ คือ MediaPad ของ Huawei นั่นเอง
ใครที่กังวลว่ารุ่นนี้จะได้อัพเกรด ICS ไหมก็หมดห่วงได้เลย เพราะว่า Samsung ประกาศมาแล้วว่าอัพได้ แต่คงไม่มีการเปลี่ยนแปลงอินเทอร์เฟซมากนัก จากที่ได้เห็นในรอมที่หลุดมาของ Galaxy S II แต่ประสิทธิภาพน่าจะดีขึ้นเป็นกองแน่นอน
เห็นมีหลายคนเปรียบเทียบเจ้ารุ่นนี้กับ Galaxy Note ความเห็นผมคือถ้าไม่แคร์จอ Super AMOLED และไม่ได้อยากจะใช้ปากกาล่ะก็ Galaxy Tab 7 Plus เป็นตัวเลือกที่ดีครับ :)
Comments
ตัวเครื่องยังไม่ได้คืนนะฮะ ใครที่อยากให้ลองอะไรเพิ่มเติมบอกมาในคอมเมนท์เลยน่อ
... แบบลองโยนลงจากชั้นสองนี่ไม่เอานะ ;____;
ขอดำน้ำลึกกี่เมตรครับ ^_^
อยากเห็นรูปตอนนายแบบเอาหูแนบลำโพงสนทนา อยากรู้ว่ามันจะพิลึกขนาดไหน
อยากเห็นตอนปั่น
Will it blend !?!
Gallery นี่เข้าขั้นเร็วมากแล้วครับ ไม่มีอาการรอโหลดเหมือนที่เจอใน Galaxy S แล้ว
Edit: เพิ่มให้แล้วฮะ
การใช้งานโทรศัพท์เป็นอย่างไรครับ, เสียง สัญญาณ จากทั้งทางแท็ปเอง และคู่สายสนทนาชัดเจนไหม แกว่งไหม
จำไม่ได้ว่าจากที่ไหน แต่เหมือนจะเคยอ่านเจอว่าแอ๊ปโทรศัพท์มักจะค้าง หรือปิดตัวเองไปเฉยๆ เคยเจอปัญหานี้บ้างหรือไม่
เสียงที่ได้ยิน ถ้าแนบหูตรงช่องพอดีไม่มีปัญหาครับ แต่เคยมีเพื่อนบอกว่าได้ยินเสียงจากฝั่งผมก้องๆ เหมือนกัน ไว้เดี๋ยวลองให้อีกทีครับ
แอพค้างนี่เจอเหมือนกันช่วงแรกครับ ใช้ไปพักนึงก็มีอัพเดท OTA มา (ขนาดประมาณ 8MB) อาการที่ว่าก็หายไปเลยครับ
ถ้าแนบหูตรงช่องลำโพงพอดี ได้ยินเสียงชัดเจนไม่มีปัญหาครับ
แต่ปัญหาคือไม่ค่อยอยากยกมันมาคุยในที่สาธารณะครับ (ถึงคนอื่นจะชิน แต่ผมใช้แล้วก็ไม่ชินอยู่ดี)
My Twitter
อันตธาน => อันตรธาน
ประเพนี => ประเพณี
อินฟราเรต => อินฟราเรด
ถ่ายภาพนิ่งระหว่างถ่ายวิดีโอ ?
ป.ล. ข้าวไข่เจียวน่ากินจัง ^^
แก้หมดแล้วฮะ ละเอียดมากๆ ;___;
... ที่ว่าถ่ายรูประหว่างถ่ายวิดีโอนี่เจอมากับ Galaxy Nexus ครับ เวลาที่ถ่ายวิดีโออยู่ แล้วจิ้มจอจะเป็นการถ่ายภาพนิ่งเอาไว้ครับ
ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ ^^
ป.ล. ดูจากสเปก + ผลคะแนนทดสอบแล้ว Exynos ชนะขาดลอย
แต่พอเทียบความลื่นในการใช้งานจริง
Galaxy Tab 8.9 (Tegra 2) กลับลื่นกว่า Galaxy Tab 7 Plus (Exynos)
ซะงั้น =[]="
ผมลองแล้ว ตรงกันข้ามนะครับ
ไปลองที่ร้าน เทียบกันเลยสองตัว
ตอนแรกว่าจะเอา 8.9 แล้ว พอเจอ 7 Plus เนี่ย 8.9 หน่วงกว่าอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกระตุกอีกต่างหาก โดยที่ 7 plus ไม่เป็น
คุยกับพนักงาน ก็เห็นเหมือนกัน นี่เป็นเครื่องโชว์ในร้านนะครับ ลองเทียบต่อกันทั้งสองตัวเลย
อีกเรื่อง เรื่องจอหยาย ผมเห็นในรีวิว คิดว่าจอจะหยาบเหมือนโทรศัพท์ซัมซุงรุ่นล่าง ๆ
แ่ต่มันไม่ใช่อย่างนั้น ถ้าไม่ได้อ่านรีวิว ก็คงจะไม่สังเกตอะไรได้เลย
แต่ถ้าเทียบกับ 8.9 อันนั้นสวยกว่าจริง
แต่ 7 plus ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรครับ ถ้าใช้งานปกติ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ ^^
แบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนไม่ได้ ถ้าแบตฯ เสียต้องทำยังไงครับ
ก็เปลี่ยนไงครับ -..-
เทียบกับ Huawei MediaPad ตัวไหนลื่นกว่ากันครับ?
pittaya.com
ผมไม่เคยจับ MediaPad ฮะ แต่ถ้าเทียบกับแท็บเล็ต Tegra 2 ที่เป็น 3.2 แล้วก็ใกล้เคียงกันครับ
ถ้าเทียบกับ Asus Transformer แล้ว Transformer ลื่นกว่าครับ
อ่านไปเรื่อยๆ มาสะดุ้งตรง Men's Health! คราวหน้าขอเป็น Test กล้องกับ FHM ได้ไหม ^^'
my blog
ไม่มี FHM ... เอา Zoo ไปก่อนละกัน >___<)
เยี่ยม! >_<
my blog
+1 สะดุ้ง Men's health เหมือนกันครับ 555
วางปุ่มเปิด/ปิดเครื่องไว้ที่ด้านซ้ายบน => น่าจะเป็นขวาบนรึเปล่าครับ
ชอบ Smart Dial อ่ะ คิดถึง Windows Mobile ขึ้นมาทันทีเลย ผมว่ามันเป็นฟีเจอร์ของ "โทรศัพท์" ที่เยี่ยมที่สุดแล้ว
Jusci - Google Plus - Twitter
เครื่อง tab 7 plus ที่ผมซื้อ (ซื้อในประเทศไทย) ไม่มี infrared port ครับ ใช้งาน smart remote ไม่ได้ ตกลงเครื่ีองที่ขายในไทยเป็นรุ่นที่มี infrared port หรือครับ ผมอ่านหลายที่ (เดือนกว่า ๆ แล้ว) เห็นบอกว่า ซัมซุงตัดสินใจ เอารุ่นที่ไม่มี infrared port มาขาย
ถ้าสุดท้ายเอามาขายจริง ผมจะได้เอาไปขอเปลี่ยนเครื่องครับ หรือ ขอเงินคืน
ถ้ายัุงไง ตอนที่จะเอาเครื่องคืนทางซัมซุง ฝากถามประเด็นนี้ด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
ไปถามมาให้แล้ว ไม่มีพอร์ตอินฟราเรดจริงๆ ด้วย
งั้นแอพ Smart Remote กับ Peel Smart Remote & TV Listing ก็ไม่มีที่ใช้สิคะ T^T
Tab 7 plus ทีผมซื้อนี่ เรื่องแบต ผมสังเกตุว่า ทิ้ง idle ไว้เฉย ๆ โดยปิด wifi ปิด 3G และปิดการทำงาน cellular ด้วย (คือ airplane mode ไปเลย) แบตมันลงเร็วมาก (ไม่ได้เปิด app อะไรเพิ่มอีกเลย แค่เปิดหน้าจอดูระดับแบต 3 -4 ชั่วโมงทีนึง) เฉลียแล้วชั่วโมงละ 1% ทิ้งไว้ 1 วันก็หายไปประมาณ 24-25% ดังนั้นอยู่ได้แค่ 4 วันเท่านั้น ไม่ได้ idle ได้เป็นสัปดาห์แบบเครือ่งทดสอบตัวนี้น่ะครับ
เคยเอาไปเข้าศูนย์ เค้าบอกว่า เค้าไม่มีข้อมูลว่ามันจะอยู่ได้นานกี่ชั่วโมง และ check ไม่ได้ว่า แบตเสื่อมหรือเปล่า ถ้าเอาเครือ่งไปคืนแล้ว ยังไงฝากถามประเด็นนี้ด้วยครับ ผมอาจจะลองเปลี่ยนศูนย์ถามดู
เปิด cellular นี่ถึงกับร้องเลยครับ = =
ผมกำลังจะพิมพ์พอดีเลยว่า แบตมันไม่อึด (แต่ก็พอเล่นได้อยู่)
สงสัยเครื่องมันโกรธผมที่เอามันมาประจานว่ากินแบต วันนี้มันเลยแกล้งผม
idle ไว้ 7 ชั่วโมง แบตลดจาก 100% เหลือ 65%
ชอบตรงเทสกับ soccersuck เนี่ยแหละ
My Blog
กล้อง น้อยไปหน่อย
รีวิวกล้องแบบนี้พาลจะให้เข้าใจผิดได้ว่าเป็นเก้งกวางนะครับ :P
ใช่ๆ แก้ตัวทีหลังไม่ทันแล้ว :)
ตัวที่ขายไม่มีอินฟราเรดหนิครับ
รู้สึกว่า samsung ออกมาแต่ละรุ่นมันคล้ายๆกันหมดเลยนะ แค่เปลี่ยนขนาด - -
ถ้าไม่ติดว่ารอ iPad3 คงมีอันต้องหน้ามืดแน่ๆ