หลังจาก Tweetbot ออกเวอร์ชั่นของ iPhone มาปีกว่า แอพทวิตเตอร์ชั้นนำของ iOS ก็ออกเวอร์ชั่นสำหรับ iPad ที่ดึงเอาจุดเด่นจากเวอร์ชั่น iPhone มาครบถ้วน และพร้อมจำหน่ายแล้วใน App Store

จุดเด่นของ Tweetbot ที่เป็นเอกลักษณ์คือระบบ UI ของแอพได้รับการออกแบบมาเฉพาะ ทั้งโทนสีที่ใช้ในแอพ การเคลื่อนไหวเปลี่ยนฉากต่างๆ รวมถึงเสียงประกอบ ทุกอย่างพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นอัตลักษณ์ของ Tweetbot นอกจากนี้ยังมีการทำงานแบบ gesture ที่ช่วยให้ใช้งานทวิตเตอร์ได้ง่ายขึ้น เช่นปัดทวีตไปทางซ้ายเพื่อดูข้อความตอบโต้กัน หรือปัดไปทางขวาเพื่อดูข้อความตอบกลับทวีตนั้น และยังเป็นแอพที่ทำงานได้รวดเร็วในระดับเดียวกับ echofon อีกด้วย

โดย Tweetbot for iPhone 2 นั้นปรับปรุงหลักๆ ในเรื่อง

• แสดงตัวอย่างภาพในทวีตแบบ inline
• หน้าจอ DM แบบใหม่แสดงผลในลักษณะข้อความตอบโต้
• รองรับบริการ Readability
• ปรับปรุงประสิทธิภาพในการเลื่อนทวีตให้ดีขึ้น

ซึ่ง Tweetbot for iPad ใช้ฐานมาจากเวอร์ชั่นของ iPhone จึงมีความสามารถเทียบเท่ากัน แต่เวอร์ชั่น iPad นั้นปรับการใช้พื้นที่หน้าจอให้เหมาะสมกับ iPad (ก็แน่อยู่แล้ว) โดยแอพทั้ง 2 ตัวจำหน่ายแยกกันในราคาตัวละ 2.99 เหรียญ ใครที่เป็นแฟนเวอร์ชั่น iPhone อยู่ ก็ได้โอกาสใช้สำหรับ iPad แล้ว แต่ขอเตือนเอาไว้ว่า เวอร์ชั่น iPad ใช้คีย์บอร์ดทวิตเตอร์ของ iOS ที่ยังมีปัญหากับภาษาไทยอยู่ นักพัฒนาทราบปัญหานี้แล้ว คงจะแก้ไขให้ปิดการใช้คีย์บอร์ดทวิตเตอร์ได้ในเวอร์ชั่นถัดไป

Cute iOS bug, if you are using the Twitter keyboard type with an Arabic keyboard, hitting space switches the keyboard into number mode.

— Paul Haddad (@tapbot_paul) February 9, 2012

อัพเดทล่าสุดตามทวีตของ Paul Haddad ระบุว่าคีย์บอร์ดทวิตเตอร์ของ iPad นั้นมีปัญหาจริงๆ และจะส่งเวอร์ชั่นแก้ไขภายในสัปดาห์นี้

Heads up to iOS devs. The UIKeyboardTypeTwitter keyboard type is really buggy on iPad with non US/Euro keyboards.

— Paul Haddad (@tapbot_paul) February 9, 2012

@Applewd we're disabling the Twitter style keyboard until there's an iOS update that fixes it. Fix should be in store within a week.

— Paul Haddad (@tapbot_paul) February 9, 2012

ที่มา - Tweetbot for iPad Review

ป.ล. เสริมสัมภาษณ์ของ Paul Haddad นักพัฒนาของ Tweetbot เกี่ยวกับมุมมองของ App Store, Google และ Microsoft ที่ตอบตรงๆ ว่า "ผมเกลียด Java"