หลังจากอยู่ในกระบวนการทดสอบมานานพอควร ซันก็ตัดสินใจปล่อย Java SE 6 ออกมาเสียที เรื่องฟีเจอร์ต่างๆคงมีการพูดกันไปบ่อยแล้ว โดยส่วนปรับปรุงหลักๆ ในเวอร์ชันนี้จะเป็นการปรับปรุงการจัดการส่วนเดสก์ท็อป โดยมี API เพิ่มตรงจุดนี้หลายส่วน และมีการปรับปรุงประสิทธิภาพ ที่ซันการันตีว่าเร็วกว่าเดิม
ของใหม่ที่น่าสนใจที่เพิ่มเข้ามาอีกอันคือ ในเวอร์ชันนี้เราสามารถพัฒนาโค้ดบางส่วนด้วย Scripting Language ซึ่งจะทำให้พัฒนางานบางอย่างได้รวดเร็วกว่าเดิม โดยภาษาที่สนับสนุนตอนเริ่มแรกนี้จะเป็น JavaScript ส่วนภาษาอื่นๆอย่าง Python, Perl ซํนแอบเพิกเฉย แล้วบอกว่าให้ไปทำปลั๊กอินเพิ่มกันเอาเอง ใครสนใจพัฒนาไปดูได้ืที่ Scripting Project
ไปดูของใหม่ที่มาในเวอร์ชันนี้ที่ Java SE 6 Key Features จากนั้นสามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่ เลือกเอาเฉพาะตัว JDK 6 ก็จะดาวน์โหลดได้เร็วกว่านะ :P
Comments
เข้าใจว่าโค้ดของ JDK6 ยังไม่เป็น GPL ใช่ไหมครับ?
สำหรับคนใช้ Linux ครับ รีวิวฟีเจอร์ใหม่ เน้นเรื่อง subpixel rendering กับ native GTK+ theme
รอ repository มันช้า สร้าง .deb เองดีกว่า
mk : น่าจะยังนะ
ตัว Java 6 implementation ของซันยังไ่ม่เป็น GPL ณ เวลานี้ เนื่องจากระยะเวลาไม่เอื้ออำนวย Java 7 จะเป็นรุ่นแรกที่โอเพนซอร์สเต็มตัว หลังจากนั้นเมื่อทุกอย่างลงตัวคาดว่าอนิสงค์ผลบุญจะได้กลับมายัง Java 6 ด้วยเช่นกัน
ส่วน Scripting API เป็น API กลางสำหรับให้ Scripting Engine ของภาษาต่างๆ นำไป implement ทำให้เกิดข้อดี - ผู้ใช้เรียนรู้ Scripting API เพียงตัวเดียวก็สามารถใช้ภาษา Script ได้ทั้งหมด ไม่ต้องไปเสียเวลาศึกษา Scripting Engine แต่ละตัวที่แตกต่างกันออกไปเอง -ตัว core ของ Scripting Engine ก็ไม่จำเป็นต้องเขียนด้วย Java ก็ได้ ขอแค่มีส่วนที่ implement Scripting API ไว้ก็พอ
Scripting API ไม่ใช่เรื่องใหม่ ก่อนหน้านี้ Apache BSF ก็ได้ทำหน้าที่ในลักษณะเดียวกันแต่ไม่เป็นมาตรฐาน JSR-233 เลยออกมาเพื่อที่จะได้ยัดความสามารถนี้ลง VM ได้
เกาะกระแส AJAX ทำให้ Scripting Engine เดียวที่ติดมากับ Java 6 คือ Mozilla Rhino เป็น JavaScript Engine สำหรับคุยกับ Java
เมื่อวานผมทำนายเล่นๆ กับ mk ว่าวันนี้มันต้องออก ถ้าเดาใจหญิงได้เก่งเท่านี้ก็น่าจะดีนะ : P
น่าจะถือได้ว่าเป็น JDK เวอร์ชั่นที่เสถียรที่สุดเท่าที่เคยมีมาสืบเนื่องมาจากฟีดแบ๊คอย่างต่อเนื่องจาก community
ทีนี้จะได้เปลี่ยนมาใช้ JDK 6 ในการทำ assignment SCJD ได้ซักที :-)
ที่เป็นโอเพนซอรส์ตอนนี้ มีคอมไพเลอร์ (javac อยู่ใน jdk), vm (hotspot vm อยู่ใน jre, jdk) ยังไม่ใช่ทุกตัวใน jdk
https://openjdk.dev.java.net/
>> หลังจากค้างอยู่ beta 2 นานพอควร
มี RC มาคั่นกลางด้วยนะครับ
deans4j: ผลบุญนี่คือยังไงครับ?
bact': ทั้งหมดมีอะไรบ้างครับ?
เข้าใจนิดนึงว่าใน java library ไม่ใช่ทั้งหมดที่ซันเป็นเจ้าของทั้งหมด มี library บางส่วนมาจาก 3rd party ที่ซันไปจ้างมาก็มี ยกตัวอย่าง ถ้าจำไม่ผิด java2D หลายๆ ส่วนมาจาก Adobe (มั้ง)
การจะเปิดโอเพนซอร์สก็ต้องไปแก้ไลเซนส์เดิมๆ ให้เป็น GPL ที่เป็นของซันเองก็ง่ายหน่อย ที่เป็นของ 3rd party ก็ต้องใช้วิธีต่างๆ ตกลงกันตั้งแต่ เขียนใหม่เอง ขอตรงๆ ไปซื้อมา หรือไม่ก็หาโอเพ่นซอร์ส library ตัวอื่นมาใช้ทดแทน
จากระยะเวลาที่มีมากพอ Java SE 7 จึงเป็นกิ่งหลักที่คาดว่าจะเป็น GPL ได้เต็มตัว ส่วน Java SE 6 ตอนประกาศโอเพนซอร์สจาวามันใกล้จะออกเต็มที
ถ้า ณ เวลาหนึ่งที่ส่วน 3rd party library พวกนั้นสามารถจัดการได้ลงตัว อนิสงค์ก็จะตกกลับมาที่ Java SE 6 ด้วยก็เป็นไป ต้องรอดูกลางปีหน้า
ที่โอเพนซอร์สแล้วตอนนี้มีส่วน compiler javac ตัว Hotspot VM, JavaHelp, JavaME, JavaEE รวมทั้ง Duke ด้วย
deans4j: ที่ผมไม่เข้าใจเนี่ยคือว่า Sun จะ relicense Java6 อีกรอบงั้นรึ?
ตัวหลักสำคัญที่ยังไม่โอเพนซอร์ส คือ Java standard library อย่างที่ deans4j ว่า ถ้าเทียบกับโครงการโอเพนซอร์สในขณะนี้ ก็คือโครงการ Classpath
mk - ถึงเวลานั้นก็คงจะต้องอย่างนั้นแหละ