Tags:

รายงาน FOWA วันที่สอง (วันแรก) ไม่ต้องพูดอะไรกันมากแล้ว กดเข้าไปอ่านกันได้เลย

alt="Docking at ExCel"

แถวศูนย์ประชุมเป็นท่าเรือเก่า เรียกว่า Dockland ยังเห็นซากอารยธรรมอยู่บ้าง

วันที่สองตอนเช้าค่อนข้างหงอยเหงา คนเหลือแค่ 1 ใน 3 ซึ่งเหตุผลก็ง่ายมาก เพราะเมากันหมดนั่นเอง (เผอิญเราบ้านไกลต้องรีบกลับเดี๋ยวรถไฟหมด) คนดูทยอยมากันตอนสายๆ พอใกล้เที่ยงก็เต็มเหมือนเดิม

The Future of Web Startups

โดย Paul Graham จาก Y Combinator

alt="Paul Graham @ FOWA"

session นี้ว่าด้วยเรื่องของ startup หรือบริษัทเว็บหน้าใหม่ โดยพูดถึงแนวโน้มของอุตสาหกรรมในภาพรวม รูปข้างบนนี่หน้าตาคนพูด ชื่อว่า Paul Graham เป็นนักลงทุนพวก Venture Capital (ต่อจะไปย่อ VC) ประวัติก็ดูเอาเองตามลิงก์

Paul Graham ตั้งข้อสังเกต 10 ข้อเกี่ยวกับ startup ครับ

ข้อ 1 คือมี startup จำนวนมาก เพราะลงทุนต่ำ อันนี้สั้นๆ

alt="Paul Graham @ FOWA"

ข้อ 2 พอมีเยอะแล้วก็จะมั่ว ดังนั้นต้องมีการจัดระเบียบ (standardization) โดยมากเป็นระเบียบปฏิบัติด้านการขอทุนจาก VC แต่ Paul ก็บอกว่าอนาคตเราคงเห็นซอฟต์แวร์สำหรับจัดการ startup มากขึ้น

ข้อ 3 เกิดความคาดหวังแนวใหม่สำหรับการซื้อกิจการ เนื่องจากว่าการเข้าซื้อกิจการเว็บของยักษ์ใหญ่ในช่วงหลัง จึงเกิดธรรมเนียมว่าถ้าเจอบริษัทน่าสนใจก็ควรรีบซื้อไว้กันคู่แข่งชิงซื้อตัเหน้า ทั้งๆ ที่ตัวบริษัทเองนั้นก็มีศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบเดียวกันได้ Paul ยกตัวอย่างว่าพนักงานของ Google นั้นเรียกว่าแทบพัฒนาอะไรก็ได้ แต่กูเกิลมองว่าเป็นการลงทุน และนั่นเป็นโอกาสของเรา

ข้อ 4 เกิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้น และจะมากกว่าฟองสบู่ดอตคอมตอนปี 1999 อย่างไรก็ตาม high risk, high return สำหรับบรรดานักลงทุน (พวกเจ้าของกิจการจะระมัดระวังมากกว่านักลงทุน เพราะนั่นคือทั้งหมดที่มี)

alt="Younger, Nerdier Founders"

ข้อ 5 เจ้าของกิจการไม่ต้องเสนอแผนธุรกิจให้ VC ตั้งแต่แรกอีกแล้ว แต่กลายเป็นขอยืมเงินตั้งต้นจากญาติพี่น้องมาเริ่มธุรกิจได้เลย พอมียอดคนดูก็เอาอันดับใน Alexa เดินเข้าไปหานักลงทุน

alt="Still Need Silicon Valley?"

ข้อ 6 ในเมื่อเทคโนโลยีเอื้อให้ทำงานที่ไหนก็ได้ คำถามจึงเกิดขึ้นว่า Silicon Valley ยังจำเป็นหรือไม่ คำตอบก็คือทั้งจำเป็นและไม่จำเป็น ถึงแม้การทำงานจะทำที่ไหนก็ได้ แต่ก็ควรมีสถานที่กลางไว้เป็น startup hub อยู่

คำแนะนำของ Graham คือช่วงแรกให้เริ่มกิจการจากที่ไหนก็ได้ จากนั้นถ้าทำขึ้น ช่วงที่ยังมีคนไม่มากแค่ 2-3 คน ถือว่ามีความคล่องตัว (mobility) ในการย้ายงานสูง ให้ย้ายเข้าไป Silicon Valley เพื่อหวังความรู้ในการดำเนินธุรกิจและใกล้แหล่งทุน

ในมุมกลับกัน ฝั่งนักลงทุนเองก็มีความสามารถในการเคลื่อนย้ายเงินทุนมากขึ้นด้วย ทำให้ธุรกิจ VC ยกระดับจากธุรกิจท้องถิ่น (เฉพาะ Silicon Valley หรือบางเมืองในสหรัฐ) มาเป็นธุรกิจระดับชาติหรือข้ามชาติมากขึ้น ซึ่งเป้าหมายของนักลงทุนก็คือยุโรป จีน และอินเดีย

ข้อ 7 VC ต้องพัฒนากระบวนการคัดเลือก startup เพราะมีตัวเลือกมากขึ้น ปัจจุบันไม่มีขั้นตอนแน่ชัด แล้วแต่ว่า VC จะไปหากฎเกณฑ์มาตัดสินใจกันเอง ในอนาคตอาจจะมีตำแหน่ง Chief Acquisition Officer ทำหน้าที่เลือกบริษัทและทำดีลทั้งหมด

อนาคตบทบาทของ CIO จะเปลี่ยนไป กลายเป็นมองหาเทคโนโลยีจากข้างนอกเข้ามาในบริษัท ส่วนหน้าที่ด้านไอทีภายในจะไปอยู่กับ VP ฝ่ายเทคนิคแทน

ข้อ 8 อนาคตคนจะเลิกเรียนมหาวิทยาลัย (drop out) กันมากขึ้น เพราะการเปิด startup นั้นไม่ขึ้นกับปริญญา (แถมแอบเชียร์ให้คนในห้องสัมมนา drop out กันให้หมด)

ข้อ 9 ถึงคู่แข่งจะมาก แต่ไม่ได้แปลว่าโอกาสจะน้อยลง เพราะ startup ที่สำเร็จมีได้ไม่จำกัด แต่ตำแหน่งพนักงานกินเงินเดือนมีจำกัด (คมมาก)

ข้อ 10 เทคโนโลยีจะก้าวหน้าเร็ว เพราะการที่คนมีไอเดียได้ลองลงมือทำจริง ก็จะทำให้รู้ว่าอะไรใช้ได้ใช้ไม่ได้

ปิดท้าย Paul Graham บอกว่าปัญหาของบริษัทใหญ่ที่ควรแก้คือฝ่ายการตลาดมักจะเป็นห่วงภาพลักษณ์บริษัท และคอยสกรีนผลิตภัณฑ์ที่จะออกสู่ตลาด บริษัทอาจพัฒนาผลิตภัณฑ์สัก 10 อย่างแต่มีแค่อย่างเดียวได้ออกจำหน่ายจริง ถ้าเปลี่ยนเป็นออกมาเยอะๆ ก็จะดีไม่น้อย ไม่ต้องห่วงภาพลักษณ์มากเพราะว่าสุดท้ายคนจะจำแต่สิ่งที่สำเร็จได้อยู่ดี สู้ออกมาเยอะๆ เพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จดีกว่า

Get latest news from Blognone

Comments

By: mk
FounderAndroid
on 11 October 2007 - 05:31 #33183
mk's picture

Sponsor: Predicting The Future of Web Apps

โดย Edwin Aoki จาก AOL

alt="AOL Developer Network @ FOWA"

รายการสปอนเซอร์อีกแล้ว คนจาก AOL มาพูดแนวโน้มธุรกิจ มีแอบกัด Larry Ellison เรื่อง NC ว่ามันก็เกิดขึ้นจริงตามที่ Ellison ทำนายนั่นแหละ แค่เปลี่ยนจาก NC เป็นโทรศัพท์เท่านั้นเอง

alt="IMG_0015.JPG"

alt="IMG_0016.JPG"

iPhone ชิดซ้ายมาเจอมือถือเครื่องนี้

alt="IMG_0018.JPG"

คำแนะนำจาก AOL ก็คือ

  • ให้เริ่มต้นจากเล็กๆ
  • ใช้ของที่มีอยู่แล้ว และได้รับความเชื่อมั่นพอสมควร

alt="IMG_0020.JPG"

(สังเกตว่าหลายๆ คนจะพูดถึง S3 ครับ ผมคิดว่าได้เวลาหันมามองกันแล้วล่ะ)

  • พยายามเป็นแพลตฟอร์มเปิดเข้าไว้
  • อันสุดท้ายคือเทคโนโลยีไปเร็วกว่าสังคมเสมอ ดังนั้นใช้อย่างระมัดระวัง
By: mk
FounderAndroid
on 11 October 2007 - 05:36 #33184
mk's picture

Developer: Web app do's and don'ts - Practical lessons we learned

โดย Leah Culver จาก Pownce

เนื่องจากเสียงตอบรับของคนแถวนี้ดีมาก ผมเลยตัดสินใจไปจองที่ทำเลเหมาะๆ เพื่อถ่ายสไลด์ของ Leah Culver มาทุกหน้า จะโพสต์ทั้งหมดก็ใช่ที่ รบกวนเข้าไปที่สไลด์แรก แล้วอ่านตามลำดับได้เลย (อู้สุดๆ)

alt="Leah Culver at FOWA 2007"

Leah Culver

alt="Pownce Session @ FOWA"

กดเข้าไปอ่านสไลด์แรกได้เลยครับ

ข้อมูลนอกสไลด์: Pownce ใช้เวลาพัฒนา 3 เดือน และใช้เงินลงทุนหลักหมื่นดอลลาร์

By: sukita on 11 October 2007 - 13:41 #33206 Reply to:33184

มี slide online ของ Leah แล้วที่นี่นะครับ
http://www.leahculver.com/2007/10/08/pownce-lessons-learned-fowa-2007/

ปล. โทษทีครับ ไม่เห็นว่ามี link อยู่แล้วข้างล่าง

By: bow_der_kleine
WriterAndroidUbuntu
on 11 October 2007 - 06:17 #33185
bow_der_kleine's picture

ช่วงนี้ผมกำลังตามอ่านงานของ Paul Graham อยู่ เรื่อง The Future of Web Startups ผมก็เพิ่งอ่านไปเมื่อวานพอดี อะไรจะเหมาะเจาะขนาดนั้น

ผมว่า Paul Graham เป็น Hacker ที่มีแนวคิดที่น่าสนใจมากคนหนึ่ง ใน Essays ของลุง Paul ได้อธิบายอะไรหลาย ๆ อย่าง ที่ผมรู้สึก แต่อธิบายไม่ได้ ให้ผมได้เข้าใจ เลยไล่อ่านแทบทุกบทความ แนะนำให้อ่านกันครับ

BioLawCom.De

By: b39ppr on 12 October 2007 - 02:04 #33266 Reply to:33185

Paul Graham เป็นคนแรกๆที่แนะนำว่าปัญหา Spam น่าจะแก้ได้ด้วย Statistical Filter เช่น Bayesian
แนวคิดนี้มีมีคนเอามาประยุกต์ใช้ใน Spam Filter หลายตัวครับ

By: ixohoxi
WriteriPhoneAndroid
on 11 October 2007 - 08:20 #33188

ตื่นเช้ามาก็มีสาระดีดีให้อ่านทันทีเลยแฮะ

ไม่เคยรู้จัก Pownce มาก่อนเลย
ตอนนี้เริ่มติดใจซะและ (ติดใจ Pownce นะ)

..(ติดใจ Leah ด้วยก็ได้ @_@)

ติดตามอยู่เนืองๆครับ


ixohoxi's

By: pittaya
WriterAndroidUbuntuIn Love
on 11 October 2007 - 09:07 #33189
pittaya's picture

สไลด์ของ Leah Culver มีให้โหลดที่เวบเจ้าตัวด้วยนะครับ
Pownce Lessons Learned - FOWA 2007

Don't think, Just read


pittaya.com

By: audy
AndroidUbuntu
on 11 October 2007 - 09:32 #33190
audy's picture

S3, EC2 สนุกมากครับ ลองดู

By: rerngrit
Android
on 11 October 2007 - 10:07 #33192

เช้ามาก็ได้อ่านเรื่องดีๆ เยี่ยมเลย
ว่าแต่ ใครมี invite pownce ขอบ้างสิครับ หามาหลายวันแล้วเนี่ย

Rerng®IT

By: keng
WriteriPhoneAndroidIn Love
on 11 October 2007 - 16:10 #33213 Reply to:33192
keng's picture

เดี๋ยวจัดให้ครับ

By: molek
WriteriPhoneWindows Phone
on 11 October 2007 - 16:13 #33214 Reply to:33213
molek's picture

ขอมั้งครับ คุณ keng

Please go to My site at molecularck.wordpress.com


http://www.digimolek.com

By: keng
WriteriPhoneAndroidIn Love
on 11 October 2007 - 16:35 #33216 Reply to:33214
keng's picture

ทิ้งอีแมวมาที่ kengggg จีแมว จ้ะ

By: xce1 on 11 October 2007 - 19:45 #33243 Reply to:33216
xce1's picture

อยากได้มั่งอะครับ invite เนี่ย
ลองเอามาลงแล้วไม่ได้อะครับ มันบอกว่า AIR ของ pownce เก่าเกินไป

By: psp
AndroidWindows
on 11 October 2007 - 13:40 #33205

อ่านด้วยความสงสัย กว่าจะรู้ว่า FOWA ย่อมาจากอะไร

ช่วยเขียนบอกไว้ต้นๆ เรื่องหน่อยก็ดีนะครับ

เห็นรูปแรกแล้วนึกว่าเป็นการประชุมเกี่ยวกับอุตสาหกรรม

By: mk
FounderAndroid
on 11 October 2007 - 14:50 #33210 Reply to:33205
mk's picture

โพสต์ไว้ตั้งแต่สองข่าวก่อนหน้าแล้ว ช่วยย้อนกลับไปอ่านด้วยครับ

By: mk
FounderAndroid
on 11 October 2007 - 20:24 #33250
mk's picture

Developer: The Story Behind The Facebook Platform

โดย Dave Morin จาก Facebook

อีกหนึ่งเว็บไซต์ขาใหญ่ที่มางานนี้ เค้าทำสไลด์สวยมาก และกดเปลี่ยนสไลด์เร็วมาก ช่วงแรกเป็นข้อมูลทางสถิติของ Facebook

หน้าตาคนพูด

alt="Dave Morin @ FOWA"

อัตราการเติบโตของ Facebook

alt="Facebook Growth"

Active Users

alt="Facebook Users"

ส่วนแบ่งตามประเทศ ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่พูดภาษาอังกฤษ

alt="Facebook Users by Country"

ส่วนแบ่งตามอายุ ของสหรัฐก็เด็กเยอะหน่อย

alt="Facebook Users by Age"

Returning Users

alt="Facebook Return Users"

จำนวนหน้า

alt="Facebook Pages"

อันดับเว็บ

alt="Facebook Rank"

ช่วงหลังพูดถึงแพลตฟอร์มของ Facebook ซึ่งถ่ายไม่ทันเลยเปลี่ยนเป็นถ่ายวิดีโอแทน มี 5 คลิปนะครับ (เพื่อความสะดวกขอไม่ embed แต่ใส่เป็น permalink แทน)

By: xce1 on 12 October 2007 - 04:38 #33269
xce1's picture

แหม ถ้าเป็นไปได้อยากให้ไปงาน FOWD (Future Of Web Design) ด้วยอะครับ อิอิ อยากรู้ว่า Elliot Stocks จะด่า IE ยังงัยมั่ง

By: mk
FounderAndroid
on 12 October 2007 - 04:45 #33270
mk's picture

Developer: Short on Cycles, Long on Storage

โดย Simon Wardley

คนนี้คุณออยเคยดูวิดีโอของปีก่อนๆ บอกว่าพูดสนุกมาก ซึ่งฟังจบแล้วก็สนุกจริงดังว่า เค้าทำสไลด์เยอะมาก (300 กว่าหน้า!) และกดเปลี่ยนตามคำพูดทันที

alt="Simon Wardley @ FOWA"

ใจความหลักก็ว่าด้วยอุตสาหกรรมไอทีเริ่มหมดยุคตั้งต้นแล้ว ถ้าเทียบง่ายๆ ก็เหมือนไฟฟ้า สมัยแรกๆ เครื่องปั่นไฟเป็นของแพง แต่พอถึงระยะหนึ่งมันก็กลายเป็นบริการพื้นฐาน (commodity) จะใช้ไฟฟ้าก็ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องปั่นไฟเอง แต่ซื้อบริการจากผู้ผลิตพลังงานในท้องตลาดได้

ลำดับขั้นพัฒนาการ (เทียบกับบล็อก)

alt="IMG_0068.JPG"

มีการอ้างผู้เชี่ยวชาญมากมาย

alt="IMG_0070.JPG"

ชื่อทางการตลาดที่เราคุ้นหู เป็นตัวอย่างว่าถึงยุค commodity ของไอทีแล้ว

alt="IMG_0072.JPG"

ตัวอย่าง stack ของแพลตฟอร์มในอนาคต

alt="Salesforce, Ning, EC2"

อันบนสุดคือ SaaS ที่เราคุ้นเคย แต่ลำดับถัดมาคือ Framework as a Service

alt="IMG_0077.JPG"

ตัวอย่างของ FaaS

alt="IMG_0080.JPG"

ชั่นล่างสุดคือ Hardware as a Service

alt="IMG_0079.JPG"

ตัวอย่างของ HaaS

alt="IMG_0082.JPG"

พอมีผู้ให้บริการเยอะ ป้องกันการผูกติดกับผู้ให้บริการรายใดรายหนึ่งด้วยการ standardization ตัวอย่างเช่น มาตรฐานกลางของ virtual machine อย่าง OVF (ถ้าใครยังไม่เข้าใจความสำคัญของ open standard ก็ลองใคร่ครวญตรงนี้ดีๆ ครับ ผมเห็นจากคอมเมนต์เรื่อง ODF ก็ยังมีเยอะเหมือนกัน)

alt="Open Virtual Machine"

สรุปอีกที

alt="XaaS Stack"

By: mk
FounderAndroid
on 12 October 2007 - 23:08 #33309 Reply to:33270
mk's picture

คนพูดแจกสไลด์บน Slideshare ครับ เพื่อลดโหลดของหน้าก็ขอแปะแค่ลิงก์ละกัน

By: nong_oos on 12 October 2007 - 12:54 #33283

Mk สรุปได้เยี่ยมครับ เก็บได้ทุกเม็ดเลย

By: Nice
ContributorAndroidWindows
on 12 October 2007 - 17:32 #33295

ไอคอนในสไลด์ pownce น่าเอ็นดูเชียว

facebook ถ้าปรับแต่งหน้าตาได้เยอะๆ, ไม่ต้องล็อกอินไปซะทุกอย่าง, มี sub/short domain น่าจะฮิตในไทยมากกว่านี้ (hi5 ไม่ค่อยมีอะไร แต่ social base มันเยอะ ไปเรียบร้อยแล้ว) --- Nice - SE7ENize


@NiceThai

By: mk
FounderAndroid
on 12 October 2007 - 22:55 #33307
mk's picture

Developer: Practical Semantic Web

โดย John Aizen & Eran Shir จาก Dapper

session นี้เค้าพยายามเสนอแนวคิดของ Semantic Web หรือเว็บที่อธิบายตัวเองได้ ผมคงไม่พูดเรื่องนี้ซ้ำ ใครเพิ่งเคยได้ยินก็ตามไปอ่านใน Wikipedia กันเอง เผอิญช่วงนี้กล้องแบตหมด เลยไม่มีภาพครับ

  • RSS Feed เข้าสู่กระแสหลักไปเรียบร้อย นี่เป็นตัวอย่างที่ดีของ Semantic Web โดยส่วน metadata อยู่ใน header ของ Feed
  • บอกว่าสิ่งสำคัญอยู่ที่ความเรียบง่าย โดยเปรียบเทียบเทคโนโลยีด้านต่างๆ
    • API: SOAP (ดับ) REST (เกิด)
    • Interactive: Server-side (ดับ) AJAX (เกิด)
    • Standard: RDF+OWL (ดับ) Microformat (เกิด)
  • จากนั้นก็โชว์ความสามารถของ Dapper ซึ่งสองคนนี้ทำอยู่ โดยเป็น search engine ที่ค้นหาข้อมูลเจาะจงได้ เช่นว่า ต้องการหาสูตรช็อคโกแลตที่ใช้เวลาทำ 5-10 นาที โดยมีแคลลอรีไม่เกิน 500 มิลลิกรัม ก็หาดังนี้

    ingredient:chocolate cooktime:[5-10] callories:[500]

Entrepreneur: Next Generation Visualisations

โดย Eric Rodenbeck จาก Stamen Design

คนพูดมาจากบริษัท Stamen ซึ่งมีผลงานเป็นที่ปรึกษา+พัฒนาด้าน visualization ให้กับบริษัทดังๆ หลายเจ้า เค้าใช้วิธีเดโมผลงานเก่าให้ดู

อันแรกเป็นแผนที่เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2004 เรามักคุ้นกับการแบ่งสีตามมลรัฐ แต่อันนี้แบ่งตามเขตย่อยลงไปอีกชั้น

alt="IMG_0094.JPG"

ลงไปอีกชั้น

alt="IMG_0096.JPG"

ปรับอัตราส่วนขนาดของรัฐ ตามจำนวนประชากร

alt="IMG_0097.JPG"

อันนี้ขำมาก

alt="Pacman Chart"

อันถัดมา เค้าติด GPS ไว้ตามแท็กซี่ แล้วจับภาพการเคลื่อนไหว สีขาวแปลว่ามีรถวิ่งผ่านเยอะ แสดงว่าเส้นทางนั้นคนใช้มาก ก็สามารถนำไปปรับใช้กับแท็กซี่ให้วิ่งผ่านบ่อยๆ ได้ (รายละเอียด)

alt="IMG_0099.JPG"

สีแดงแปลว่าวิ่งเร็ว ตรงนั้นคือไฮเวย์ ในเมืองสีขาววิ่งช้าหน่อย

alt="IMG_0102.JPG"

แผนที่การเกิดอาชญากรรม? โดยแบ่งตามประเภทต่างๆ (รายละเอียด)

alt="IMG_0103.JPG"

แสดงอาชญากรรมทุกชนิด ตำรวจสามารถนำไปใช้วางแผนการจัดการอาชญากรรมได้ หาสาเหตุได้ว่าทำไมบางพื้นที่จึงเกิดอาชญากรรมชนิดนั้นเยอะ

alt="IMG_0105.JPG"

อันนี้ทำกับ Digg ครับ เจ๋งมาก แสดงตัวอย่างว่าข่าวใน Digg มีพัฒนาการอย่างไร มีคะแนนขุดเพิ่มจากไหนบ้าง ตัวอย่างนี้คือ iPhone ตอนข่าวออกใหม่ๆ (ดูของจริง)

alt="Digg Labs"

ผ่านไปซักระยะ

alt="IMG_0108.JPG"

HD DVD นี่ยักษ์เชียว

alt="Spread this number again"

ตัวอย่างอื่นๆ ของการ visualize ข่าวใน Digg (รายละเอียด)

alt="IMG_0110.JPG"

alt="IMG_0111.JPG"

อันนี้แยกหมวดหมู่ตามสี ดูวิดีโอประกอบ (รายละเอียด)

alt="IMG_0113.JPG"

visualization ของ Twitter

alt="Twitter Visualization"

alt="Twitter Visualization"

อันนี้ใช้กับการวางผังเมือง โดยแสดงการขยายของเมืองตามปี ส่วนที่สว่างแปลว่าบ้านเรือนถูกสร้างแล้วในปีนั้น (รายละเอียด)

alt="IMG_0118.JPG"

อันสุดท้ายเป็น visualization ว่าคนสหรัฐที่ค้นหาชื่อเมือง มาจากเมืองไหนกันบ้าง สีเข้มก็แปลว่าอยู่ที่นั่นเยอะ

alt="IMG_0120.JPG"

alt="IMG_0122.JPG"

สุดท้ายเค้าสรุปว่า visualization มีประโยชน์ตรงช่วยให้เราตั้งคำถามที่เจาะจงขึ้นได้ เพราะเห็นความสัมพันธ์ของข้อมูลมากกว่าเดิม

By: mk
FounderAndroid
on 12 October 2007 - 23:52 #33314
mk's picture

Developer: Comet: Making the Web a 2-Way Medium

โดย Joe Walker

ผมคิดว่าผู้อ่าน Blognone โดยมากคงรู้จัก AJAX กันอยู่แล้ว (ถ้าไม่รู้จักก็รบกวนหาความรู้เพิ่มเติมกันเอง) Comet เป็นแนวคิดใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาอีกขั้นจาก AJAX โดยถึงขั้นว่าส่งข้อมูลมายังเบราว์เซอร์โดยไม่ต้องร้องขอได้

alt="AJAX"

AJAX นั้นชื่อไปตรงกับน้ำยาล้างห้องน้ำ คนคิด Comet จึงตั้งชื่อเลียนแบบ โดยใช้ชื่อจากน้ำยาล้างห้องน้ำเหมือนกัน

alt="Comet"

ผมถ่ายสไลด์มาแต่มันอ่านยากมากเพราะตัวหนังสือจาง แต่โชคดีที่ค้นพบว่าคนพูดอัพโหลดสไลด์ไว้ที่ Slideshare อันนี้คงต้องไปอ่านกันเองเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม Comet ยังเป็นแค่การแฮก ยังต้องดูต่อไปในระยะยาว

By: mk
FounderAndroid
on 13 October 2007 - 15:04 #33334
mk's picture

Entrepreneur: Ambient Intimacy

โดย Leisa Reichelt

alt="Leisa Reichelt  @ FOWA"

คนนี้มาพูดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนใน social network โดยประดิษฐ์คำศัพท์ใหม่ว่า Ambient Intimacy ขึ้นมา ซึ่งผมก็สารภาพว่าฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไรเพราะว่าหลับ! ดังนั้นก็รบกวนไปดูสไลด์อีกแล้ว

By: mk
FounderAndroid
on 13 October 2007 - 15:06 #33335
mk's picture

Entrepreneur: Launch Late to Iterate Often

โดย Dick Costolo แห่ง FeedBurner

alt="Dick Costolo"

คนนี้คือ CEO ของ FeedBurner ซึ่งเรารู้กันดีว่าขายกิจการให้กูเกิลในราคาไม่เปิดเผย (แต่ข่าวลือว่า 100 ล้านเหรียญ) เค้าเปิดบริษัทมาแห่งก่อนจะมาลงเอยกับ FeedBurner เลยมาเล่าวิชาสร้างกิจการให้ฟัง ผมคิดว่า session นี้เป็นหนึ่งในอันที่ดีที่สุดในงานเลย

  • ความจำเป็นของ Venture Capital ลดลง เพราะว่า startup ต้องใช้เงินลงทุนตั้งต้นน้อย แต่ การเติบโตของ startup นั้นต้องใช้เงินเพื่อ scaleup
  • ปัญหาว่าจะแบ่งหุ้นระหว่างคนเริ่มต้น startup อย่างไร
    • ให้เลือกเอาว่าจะเอา 10% ของมูลค่า 100 หรือ 100% ของมูลค่า 5
    • สรุปว่าแบ่งตามความสามารถ ตรงนี้ต้องคุยให้ชัดแต่แรก
  • Business plan ไม่ใช่เรื่องจำเป็น ลุยก่อนแล้วค่อยว่ากัน
  • ช่วงชีวิตของ FeedBurner จะเห็นว่าใช้เวลาไม่ถึงปี
    • เริ่มคิด - เดือนตุลา
    • ลงมือ - กุมภา
    • มีเงินเข้า - มิถุนา
  • การเลือก VC เป็นเรื่องสำคัญ เลือกให้มีสไตล์เหมาะกับเรา มองว่าเค้าเป็นเพื่อน ไม่ใช่เจ้านาย
  • FeedBurner มีเงินจาก VC 5 ราย
  • เทคนิคของ Costolo คือขอเงินจาก VC มาเก็บไว้ก่อนทุกครั้งเมื่อมีโอกาส เพราะไม่รู้ว่าจะจำเป็นต้องใช้เงินเมื่อไร ดังนั้นก่อนเขาจะปิดการเจรจากับ VC รายแรก เค้าก็แอบคุยกับ VC อีกรายไว้แล้ว
  • การสร้างตลาดใหม่ ไม่มีใครรู้ว่าตลาดนั้นมีโอกาสมากน้อยแค่ไหนในตอนแรก
  • การจ้างลูกน้อง - จ้างคนเก่งในสายของตัวเอง และทำงานด้านอื่นได้ด้วย เผื่อขยับขยาย
  • ทำโครงสร้างองค์กรให้แบนราบเข้าไว้ (flat organization) เพื่อลดลำดับชั้นการบังคับบัญชา
  • ควรมี KPI คร่าวๆ ว่าจะทำอะไรบ้างภายในกี่เดือน แล้วมาวัดว่าทำได้จริงมั้ย ถือเป็นการวัดผล ไม่ต้องทำละเอียดมาก
  • ไม่ต้องรีบร้อนจ้างพนักงานฝ่ายขาย-การตลาดเร็วจนเกินไป เพราะวิธีคิดของเซลส์คือรอให้พร้อมก่อนค่อยเปิดตัวสินค้า แต่ในโลกของเว็บมันไม่ใช่ รีบออกเลย
  • วิธีการออกผลิตภัณฑ์ของเขาคือ ออกรุ่นแรกให้ช้าหน่อย แล้วออกรุ่นถัดมาให้บ่อยๆ
    • รุ่นแรกออกช้า เพราะควรวางรากฐานให้ดีก่อน เวลาต้องการขยายทีหลังจะได้ไม่ต้องมาแก้ทั้งหมด
    • จากนั้น iterate ให้บ่อยที่สุดที่เป็นไปได้
  • การเปิด API เป็นสิ่งสำคัญ เพราะ
    • เราจะได้เรียนรู้จากคนนอก
    • เป็นการตั้งกำแพงกันคู่แข่งไปในตัว
  • ไม่ต้องไปสนใจ exit strategy มีอย่างอื่นสำคัญกว่านั้นอีกมาก ไปคิดเรื่องอื่นดีกว่า
  • Be a big small company
By: mk
FounderAndroid
on 13 October 2007 - 15:07 #33336
mk's picture

Panel Discussion

สุดท้ายเป็น panel discussion ซึ่งช่วงนี้หมดแรงแล้วเลยเลิกจด

alt="FOWA Panel"

จากซ้ายไปขวา:

  • Ryan Carson - คนจัดงาน
  • คนจาก AOL Developer Network
  • คนจาก Satisfaction - เว็บรับฟังเสียงบ่นลูกค้า
  • Rashmi Sinha / Slideshare
  • Dick Costolo / FeedBurner
  • คนจาก Dogster
  • Simon Willison - chair ของ developer track - คนทำ Django และ OpenID
  • Brian Oberkirch - chair ของ entrepreneur track

จบเสียทีครับ ขอบคุณที่ติดตาม

By: burlight
AndroidUbuntu
on 13 October 2007 - 16:44 #33338 Reply to:33336

ขอบคุณที่แบ่งบันครับ :)

By: พี่ไท้ on 13 October 2007 - 21:38 #33345

ชอบมาก ชอบมาก ๆ เล่าได้ละเอียดมาก ๆ ^o^

Mr. PeeTai

By: Blue Rabbit
iPhone
on 14 October 2007 - 00:49 #33350

ตามอ่านตั้งแต่ต้นจนจบทั้ง 2 ตอน
เยี่ยมมากครับ ชอบมากๆๆ
ขอบคุณมากครับ

By: memtest on 14 October 2007 - 10:27 #33360

เรื่องราวที่คุณ mk ได้ถ่ายทอดจากงาน FOWA ทำให้ได้เห็นโลกในมุมที่กว้างขึ้นเยอะเลย
ได้รับรู้มุมมองไหม่ๆ ขอบคุณครับ

By: heha
Android
on 14 October 2007 - 17:03 #33375

ขอบคุณในสิ่งที่เผื่อแผ่จริงๆ ครับ เหมือนเป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมสังเกตการณ์งานใหญ่ระดับโลกเลย ^^

By: iWindows on 15 October 2007 - 13:35 #33456

อีกหนึ่งปีผมเรียนจบ คิดว่าต้องเข้าสายเว็บแน่ ๆ เลย มีอะไรให้คิดให้ทำอีกเยอะมาก
ขอบคุณครับ