ถ้าพูดถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เราก็ต้องคิดถึงความร้อนสูงมากที่ปล่อยออกมา เพราะฉะนั้นทำไมเราถึงไม่เอาความร้อนนี้มาทำน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคซะล่ะ?
นี่คือไอเดียใหม่ของ S.S. Verma และภาควิชาฟิสิกส์ของสถาบัน Sont Longowal ในประเทศอินเดีย พวกเขาคิดว่าถ้าหากสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในพื้นที่น้ำทะเลบริเวณที่ใกล้กับเมืองที่มีประชากรหนาแน่นแล้วนอกจากจะมีไฟฟ้าใช้ยังจะได้น้ำสะอาดใช้อีกด้วย
เนื่องจากประเทศที่มีประชากรหนาแน่นอย่างประเทศอินเดีย ประชาชนชาวบ้านทั่วไปต้องต่อคิวกันเพื่อที่จะรับน้ำสะอาดมาใช้ในการบริโภคอยู่แล้ว คาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้โลกเราจะเริ่มขาดน้ำสะอาดมากขึ้นกว่าเดิม การหาแหล่งที่มาของน้ำสะอาดใหม่นั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับประเทศอย่างอินเดีย ประเทศอย่างออสเตรเลียในปัจจุบันมีปัญหาขาดแคลนน้ำมากอยู่แล้วเช่นกัน
ความร้อนที่กลายเป็นสิ่ง "ปฏิกูล" จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ตั้งอยู่กลางทะเลนั้นสามารถใช้ที่จะแตกโมเลกุลของน้ำในรูปของเหลวให้กลายเป็นก๊าซ ซึ่งวิธีนี้สามารถแยกเกลือออกจากน้ำเพื่อให้ได้น้ำสะอาด ใช้ได้ในการอุปโภคและบริโภค
อีกไม่นานมนุษย์อาจจะต้องเริ่มดื่มน้ำที่มาจากการเปลี่ยนน้ำทะเลมาเป็นน้ำจืดที่สามารถดื่มได้ วิธีนี้ดูเหมือนจะเป็นวิธีที่ง่ายและราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ ในปัจจุบัน
ที่มา - CNET News
Comments
คุ้มค่าแน่นอน ที่จะของที่เสียเปล่ามาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่... เดี๋ยวก็จะมีพวกขวางโลก มาพูดเกี่ยวกับการปนเปื้อนของรังสี แน่นอน!!!
อ้าว นึกว่าปัจจุบันเค้าเอามาทำน้ำกลั่นขายกันซะอีก
PoomK
Mสร้าง Gเผา ทำลาย ต่อต้าน ขัดขวาง
กินแล้วจะกลายพันธุ์มั้ยเนี่ย
ถ้าเวียดนามสร้า้งแล้วรั่ว บ้านเราก็ไม่รอดเหมือนกันแหละ...
ได้เกลือเป็นของแถมด้วยมั้ง
แนวคิดเจ๋งมาก แต่ต้องมีคนไม่รู้เรื่องมาค้านแน่นอนว่ามีรังสี
เข้าใกล้นิยาย sci-fi ไปอีกหนึ่งก้าว :-)
Rerng®IT
ที่น่ากลัวคงอยู่ตรงที่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าโรงไฟฟ้ากลางทะเลเกิดอุบัติเหตุ
———————
คิดๆ ขีดๆ เขียนๆ
LinkedIn
เคยได้ยินมาว่าถ้าบริโภคน้ำกลั่นมากๆ ร่างการจะขาดพวกเกลือแร่นะ ไม่รู้เกี่ยวป่าว
น้ำกลั่นใช้ในวงการแพทย์เยอะครับ
แต่เค้าจะเอามาเติมเกลือแร่หรือแร่ธาตุก่อน
molecularck รบกวน confirm หน่อยครับ หุหุ
(เห็นรู้เรื่องทางการแพทย์ ไม่รู้ว่าเป็นแพทย์หรือป่าว)
http://last0ne.multiply.com
อันนี้ไม่รู้ครับ (แต่น้ำเกลือก็ทำมาจากน้ำกลั่นนะ) อิอิ แต่งานวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ขาดไม่ได้เลย
Please go to My site at molecularck.wordpress.com
http://www.digimolek.com
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ผมไม่กลัว เพราะรู้ดีว่ามีมาตรการป้องกันหลายขั้นมาก
ผมกลัวคนคุมโรงไฟฟ้ามากกว่าอีก
อย่าว่างั้นงี้เลย ขนาดโรงงานขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ยังมีลือว่าระเบิดรายวัน คนที่ทำงานได้ 2 ปี ออกมาปอดพัง บลาๆๆ ยังไม่เคยมีใครจัดการได้
แล้วโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะขนาดไหน ไม่อยากจะคิดเลย
เห็นว่าเรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นี่จะต้องมีองค์กรณ์นานาชาติมาควบคุมนะครับ
เพราะผลกระทบมันข้ามไปได้ไกลหลายประเทศ
นั่นสิ กลัวคนคุมจริงๆ เลยนะเนี่ย ถ้าจำไม่ผิด เชอร์โนบิลก็ระเบิดเพราะคนคุมนี่นะ
ยังจำเรื่องรถไฟใต้ดินบ้านเรา จอดแล้ว ไหล ได้มั้ยครับ นั่นล่ะ ตัวอย่างของการมีมาตรการป้องกันที่ดี แต่คนที่จะดูแล หรือทำตามมาตรการนั้นอย่างเข้มงวดตลอดเวลา เป็นเรื่องที่ทำลำบาก (โดยเฉพาะในบ้านเรา)
คนไทยยังดูถูกคนไทยด้วยกันว่าไม่มีความสามารถ มันก็คงยากที่บ้านเมืองจะพัฒนา
AnnoMundi's Weblog
จริง
@TonsTweetings
ครับ เลิกดูถูกกันเองเถอด มันเป็นนิสัยที่ไม่ดีแล้วส่งผลต่อความคิดการพัฒนาต่อๆไป
ไม่ได้ดูถูกความสามารถครับ
แต่ห่วงเรื่องความมีระเบียบ ความเคร่งครัด
ของมันไม่ต้องมองไปไกล เห็นๆกันอยู่ทั่วไป
ยัดเงินใต้ใบขับขี่, เด็กต่ำว่า 18 เที่ยวผับ, พ่อแม่ปล่อยให้ลูกวิ่งเล่นตามถนนในซอย
เด็กซื้อบุหรี่, เปลี่ยนเลนไม่เปิดไฟเลี้ยว, ขับรถทับเส้นทึบ, ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่สวมหมวกกันน็อค ฯลฯ
บางเรื่องมันเกี่ยวข้องกับสวัสดิภาพของตัวเองเต็มๆ แต่ก็ไม่กลัวถึงผลกระทบที่จะตามมา
โรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ หากมีปัญหาเกิดขึ้นมา ผลกระทบมันมหาศาล
คิดแล้วมันก็น่ากลัวนะครับ อย่างน้อยก็ขอติงไว้ก่อนก็ดี
เวลาจ้างคนดูแลจะได้ไม่หวงเงินเดือน ไม่ใช่เอาใครที่ไหนก็ได้ แค่นั่งเฝ้าแล้วทำตามตำรา
นักบินการบินไทย ขับเครื่องบินแบบไม่รับผิดชอบหรือเปล่าหละครับ
เครื่องบินที่ไหนตกบ่อยที่สุดด้วยสาเหตุของนักบิน ที่นั่นมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
หรือเปล่า
ผมไม่ค่อยเชื่อหรอกว่าคนไทยจะมีระเบียบวินัยน้อยกว่าคนอินเดียกับจีน
ทำไมดูถูกคนไทยอย่างนี้ล่ะ ที่เห็นไม่มีระเบียบนั่นเฉพาะกลุ่มในสังคมใกล้ตัวคุณรึเปล่า ถ้าพวกคุณไม่ดูแลกันเองแล้วจะมาดูถูกคนไทยทั้งหมดได้ยังไง มองไปไกลๆสิ ไม่ใช่มาบอกว่าไม่ต้องมองไกลหรือสายตาสั้น คนไทยส่วนมากโดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูที่ดี มีวินัยเคร่งครัดมาก สมดังคำขวัญ
เกียรติตำรวจของไทย เกียรติวินัยกล้าหาญมั่นคง ต่างซื่อตรงตราพิทักษ์สันติราษฎรนั้น ถึงตัวจะตายก็ช่างมัน มิเคยคำนึงถึงชีวัน เข้าประจันเหล่าร้ายเพื่อประชา
จริงๆมันก็จริง และตามที่ comment ข้างบนพูดถึงการบินไทยอีก
ถ้าเทียบอินเดียกับ จีน เราก็ยังดีกว่ามากจริงๆ
เอาเป็นว่าผมขอโทษละกัน ที่ไปมองในแง่ร้ายซะก่อน
แต่ก็ไม่อยากให้วางใจจนขาดการตรวจสอบด้วย
เรื่องการดูถูกคนไทยผมว่ามันก็ต้องมีบ้างนะครับ
แต่สิ่งที่สำคัญคือ ถ้าพวกท่านโดนพวกเดียวกันเองดูถูกแล้ว ท่านจะ "พัฒนา" ตัวเองหรือเปล่า
ถ้าถูกดูถูกแล้วก็ไม่พัฒนาตัวเอง ตอบโตเถียงกันช่วงเวลาหนึ่งแล้วก็ลืมๆกันไป(ตามประสาคนไทย)
ไม่แก้ปัญหากันอย่างต่อเนื่อง ไม่มองถึงอนาคตไกลๆ
ผมว่าเราก็คงสมควรต้องโดนดูถูกต่อไปล่ะครับ
กลับกันถ้าเราโดนดูถุกแล้ว กลับมามองตัวเองใหม่ คิดใหม่ และพัฒนาตัวเองใหม่
แล้วเอาสิ่งที่เขาดูถูกมาแก้ไขใหม่ แสดงให้พวกที่ดูถูกเราให้เขาเห็นว่าเราไม่ให้เป็นดังที่เขาดูถูกเรามา
ผมว่าชาติเราจะพัฒนาขึ้นเยอะเลยครับ
การดูถูกกับการวิจารณ์ในแง่ลบเพื่อปรับปรุงมันต่างกันนะครับ
การวิจารณ์ที่ดีย่อมต้องบอกถึงวิธีแก้ไขเสมอ ซึ่งผู้รับการวิจารณ์
จะรับฟังหรือไม่นั่นเองอีกเรื่อง
คนหลายคนรับฟังคำวิจารณ์ในแง่ลบไม่ได้ ก็ไม่มีทางปรับปรุงได้
สิ่งที่คนเหล่านั้นชอบทำคือกลับไปกลับมา ชั่วโมงนี่ว่าอย่างชั่วโมงต่อไป
ว่าอย่าง
วินัย เป็นสิ่งสำคัญ ขอให้ได้คนที่เหมาะสมไปคุมละกัน
คนที่ทำงานด้านนี้ต้องเป็นคนพิเศษจริงๆ นะ ต้องเสียสละชีวิตทั้งชีวิตอุทิศให้กับการรับสารกัมมันตภาพรังสี
ดังนั้นจะไปสั่วๆ เอานาย ก นาย ข ที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ารับผิดชอบเพียงพอมาทำงานไม่ได้ ก็ต้องให้หน่วยงานที่จะมาดูแลเขารับผิดชอบกับเรื่องการเลือกคนด้วย (แหมทีอย่างนี้คงไม่มีทั่นผู้หญ่ายยฝากลูกฝากหลานไปทำงานแล้วมั้ง)
ezybzy.info blog