Bob Brewin รองประธานฝ่ายซอฟต์แวร์ของซันประกาศในงาน AjaxWorld ถึงการที่ไม่มีเทคโนโลยีจาวาบนไอโฟนว่ามันคือความผิดพลาด !!
มือถือบนโลกกว่าสองล้านล้านเครื่องอาจจะใช้จาวาได้ แต่ไม่ใช่กับไอโฟนแน่นอน และดูเหมือนจะไม่มีวี่แววว่าทางแอปเปิลจะมีนโยบายนำจาวามาลงในไอโฟนแต่อย่างใด
ซันให้เหตุผลว่า มีโปรแกรมอีกมากมายที่พร้อมจะทำงานบนระบบมือถือ และสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดีบนไอโฟน อย่างเช่นเรื่องเกมส์บนมือถือส่วนใหญ่เป็นจาวาทั้งนั้น รวมทั้งตัว JavaFX ที่ซันโม้ว่าจะช่วยให้ระบบการแสดงผลบนไอโฟนนั้นดีเยี่ยมยิ่งขึ้นอีกด้วย แถมซันยังทิ้งท้ายด้วยคำกล่าวแรงๆ ที่ว่าแอปเปิ้ลคงไม่คิดจะเปิดระบบของตัวเองหรอก
ไม่มีคำตอบใดๆจากแอปเปิล และสตีฟ จ็อบส์เองก็ปฏิเสธนักข่าวที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้
ที่มา - Java World
Comments
Android มีจาวาแต่รัน J2ME ไม่ได้นี่จะผิดพลาดด้วยเปล่าหว่า?
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
คำถามคือ "ทำไม? .. ทำไม iPhone ถึงไม่ลง Java "
CE-Oh no he didn't!
ก็เฮีย Jobs แกพูดชัดแล้วนี่ว่า Nobody uses Java anymore. แกจะคืนคำเหรอ?
ezybzy.info blog
สมัยแรกๆ ด่า IBM ทุกวัน สุดท้าย PowerPC ก็ IBM แล้วก็ด่า Intel สุดท้ายก็ Intel
java นั้นช้าแทบขาดใจ
อันนี้ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
JavaME for Android : ME4Android
"ME4Android the porting should be done automatically."
ผู้ผลิตต้องเสียค่า license ให้ซันหรือเปล่าอ่ะครับ เครื่องที่รันจาวาได้อ่ะ? (แต่ถึงต้องเสีย ราคา iphone แพงขนาดนั้น.. คงไม่ใช่ประเด็น เหอๆ)
---------- iPAtS
iPAtS
สำหรับผม ไม่มี Flash player บน iPhone น่าจะผิดพลาดมากกว่าอีกนะ
+1 แต่คงต้องไปถาม adobe มากกว่ากว่าจะทำให้มั้ย
ปิดระบบตัวเองมากๆ ระวังจะได้ปิดฉากตัวเองสมใจ -_-
เสียดายว่าถ้าในวงการมือถือไม่ "กั๊ก" เทคโนโลยีกันเนี่ย ตอนนี้มือถือก็คงก้าวไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ผมล่ะเซ็งโนเกียพักนึงสมัยที่ "กั๊กอย่างโครต" จนตอนนั้นมือถือของคู่แข่งดูดีกว่ามากเลย (แต่มือถือโนเกียรุ่นใหม่ๆ ตอนนี้ถือว่าน่าใช้ละ)
ไอโฟนมีเทคโนโลยีดีๆ อยู่เยอะอย่าง multi-touch แต่กลับมีข้อจำกัดหลายๆ อย่างซึ่งข้อจำกัดเกือบหมดล้วนมาจากซอฟท์แวร์ทั้งนั้น ซึ่งถ้าไอโฟนมันทำอะไรได้อย่างที่มันควรจะทำได้ละก็ มันจะเป็นมือถือที่สุดยอดมากๆ เลย
แต่สำหรับนาทีนี้ ถ้าให้เลือกระหว่างไอโฟนกับโนเกียซิมเบียนรุ่นสูงๆ ซักรุ่น...ผมเลือกโนเกีย
ยกธงเชียร์ android~~~
เปิดมากก็ใช่ว่าจะดีเสมอไปนะครับผมว่า แต่พูดแบบนี้เดี่ยวชาว OpenSource เคืองตายเลย แต่ Apple ก็ปิดมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ผมว่าไม่แปลก
ส่วนที่ตอนนี้ยังไม่เปิดน่าจะมาจากมันยังเสถียรเท่าไหร่เลยครับ 1.0.2 เนี้ยห่วยเลยครับ กลัวใจมันมากเกิดเสียตอนอยู่นอกบ้าน Reset ไม่ได้เนี้ย ยุ่งๆแน่ๆ แต่พอเป็น 1.1.1 ก็พอได้ 1.1.2 ที่เพิ่งอัพไปเนี้ย OK ขึ้นเยอะเลยครับ
ผมว่า Apple มีไม่เหมือนใครคือ Innovation ในผลิตภัณฑ์ต่างๆครับ และ Mac Fan ทั้งหลาย ถึงจะปิดแต่ก็หอมหวานอยู่ดี
meddlesome.tech.blog
iphone เห็นทีข่าวจะเปิด ตัวพัฒนาโปรแกรมไม่ใช่หรอ SDK คงไม่ปิดระบบมากหรอก
Submitted by plynoi on 3 December, 2007 - 17:56.
สมัยแรกๆ ด่า IBM ทุกวัน สุดท้าย PowerPC ก็ IBM แล้วก็ด่า Intel สุดท้ายก็ Intel
ใช่ และไม่ใช่แค่นั้น เคยด่า MS Windows ด้วย สุดท้ายคอมของตัวเองก็ลง windows ได้ ด้วย BootCamp
ไม่แน่นะ
ยังจำอดีตที่ตัวเองปิดระบบได้มะ คุณ Apple ปิดตัวเองจน IBM ครองตลาด และ ...... Microsoft ได้รับผลของการปิดระบบด้วยการขาย DOS ได้อย่างถล่มทลายได้มะ และตามด้วย Windows ในคราวต่อมา ถึงแม้ DOS จะซื้อเค้ามาอีกที และ Windows จะลอกมาเช่นกัน แต่ถ้ามองในภาพของธุรกิจถือว่าฉลาดในการเดิมเกมส์มาก
ผมกำลังมองว่า Apple กำลังเดินเข้าอีหรอบเดิมเหมือนในตอนนั้น ของดีแต่คนใช้เข้าไม่ถึง (เช่นเดียวกับ Apple II) คนมีเงินซื้อมาตั้งมานั่งมึนว่ามันจะใช้ได้ไหม ใช้ยังไง สรุปซื้อโทรศัพท์มาแต่ไม่สามารถควบคุมอะไรได้เท่าที่ควร ภายในเต็มไปด้วยธุรกิจและพื้นที่ที่เหล่า Third-party ทุ่มทุนซื้อมาเพื่อให้ได้พื้นที่นั้นมา แต่ไม่สามารถให้คนที่ไม่มีเงิน หรือคลื่นลูกใหม่เข้าถึงและพัฒนามัน ....
งานนี้ iPhone มันธุรกิจล้วน ๆ ตั้งแต่สัญญาผูกกับผู้ให้บริการไปจนถึง App บนเครื่องที่จะลงได้ (แบบถูกต้อง) และคาดว่าอีกไม่นานจะมีบริษัทแบบ IBM และ Microsoft มาทะลายสิ่งเหล่านี้ลงแน่ ๆ นอกเสียจาก Apple จะลด ego ตัวเองลงซะ ไม่งั้นก็เหมือนเดิม
Ford AntiTrust’s Blog
ผมไม่ใช้องค์รักษ์พิทักษ์ Apple นะ แต่
ผมว่าโทรศัพท์เป็นพื้นที่ทำมาหากินอยู่แล้วครับ ทุกอย่างเสียเงินหมด และ Apple ก็หวังตรงนี้มากเหมือนกัน หวังแบบเดียวกับคนขาย Console ที่หวังจะได้กำไรจาก Game หรือ Operator หากินกับบริการเสริม แต่ก็ต้องรู้ด้วยว่า Apple ไม่ยอมทำการขายเพลงผ่านมือถือราคาเวอร์ๆอย่าง Nokia นะครับ แสดงว่า Apple เองคงไม่โง่มากมายหรือมี ego หรือโง่มากขนาดเมื่อ 20 ปีที่แล้ว...แล้วละครับ
ipod เองก็ปิดสนิทแต่ก็ยังโตเอาโตเอาเหมือนกัน ผมว่าคนที่ต้องการการ Customize มากๆนั้นไม่ได้มีมากอย่างที่ SuperUser ชอบคิดกันนะครับ เหมือนที่เซียนเกมด่า Wii ว่าเกมติ๊งต็อง แต่เกมแบบนี้มหาชนกว่า FF Crysis COD4 เยอะครับ จากประสบการณ์บน iPhone ก็พบว่า ยิ่งโหลด App ได้มากมันก็มีโอกาส Hang ได้มากเป็นเงาตามตัว พวก PPCPhone หรือ Symbian ก็เป็น โทรศัพท์นะครับ เดี้ยงไปตอนอยู่ข้างนอกไม่สนุกเลยถ้าถือเครื่องเดียว ไหนจะต้องติด AntiVirus ให้มันอีก ผมว่าเอาแค่พอประมาณหอมปากหอมคอกันก็พอแล้ว
IBM PC โตได้คงไม่ใช่เพราะ Apple ปิดหรอกครับ แต่ผมว่าเป็นเพราะ...Compaq กับฐานการผลิตที่ใต้หวั่นมากกว่า และในยุคนั้นตลาด Comp ยังอยู่ที่ภาคธุรกิจ ซึ่ง IBM มีความพร้อมมากกว่า Apple หลายช่วงตัวครับ แต่วันนี้ตลาดใหญ่กลายเป็น Comsumer ซึ่ง Apple Focus มาตั้งแต่ต้น ทำให้ตอนนี้ Jobs สามารถพา Apple จากบริษัททีเคยจะพร้อมจะไปทุกเมื่อ ขึ้นมายืนสู้กับ PC แสน-ล้านยี้ห้อได้อย่างเต็มภาคภูมิ อดีตที่ผิดพลาดก็ให้บทเรียนกับ Apple มาพอสมควรแหละครับ
เปิดแล้วยังไงหรอครับ ขอบ่นหน่อยเหอะครับ โดนสับก็โดนสับล่ะ ผมเปลี่ยนจากแนวจากเดิมที่เขียน Standalone App บน C# บน VS มาหัดเขียน Java บน OpenSource ได้พักหนึ่งสิ่งที่พบเลยคือ มันหลากหลายมาจนเวียนหัวไปหมด จะ IDE ตัวไหน Framework ไหนดี Server อะไรล่ะ ต่างกันไงเนี้ย แค่เลือกก็สนุกแล้วครับ แค่ใช้ CMS ก็ร้อยพ่อพันแม่เต็มไปหมด Community เองก็แห่กันเปลี่ยนไปเลย ไอ้นี้ดีมาใหม่เดี่ยวก็แห่กันตามไป เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา Document ยอมรับว่ามี Tutorial หรือ Source เยอะจริง แต่ส่วนมากจะเก่าเพราะมักจะเขียนตอนโปรโมทโปรเจกท์ (หรือบางทีกลับกันคือไม่มีเลยเอาเสียดื้อต้องไปหาอ่านตาม readme บางทีเก่าเหลือเกินเวลาใช้ก็ต้องนั่งเปิดไล่ดูว่า Lib ที่อ้างอิงเวอร์ชั่นไหนไม่งั้นแค่ตัวอย่างก็ Run ไม่ขึ้นแล้ว) ไม่ต้องติเรื่องคุณภาพก็ได้ แต่สิ่งที่ยอมรับอย่างหนึ่งคือ Community ของ OS แข็งมาก คนมีความสามารถสูง คือถ้าไม่เก่งจริง และอดทนสูง ผมว่าการพัฒนาบนฐานของ OS ได้ค่อนข้างยากครับ คนใน Comunity ส่วนมากก็จะดุนะครับ อย่างมีคนมา Post ถามว่า eclipse ใช้อย่างไรเริ่มจากที่ไหนดี ใน Blognone ยังไม่มีใครตอบเลยครับ ผมเองก็ไม่กล้าไปตอบหรอกครับกลัวโดนไปด้วยว่า ไปช่วยมันทำไม ทำไมไม่รู้จักหาเองก่อน ดังนั้นผมไม่ยอมรับหรอกครับว่า เปิดกว้างอย่าง OpenSource แล้วจะดีไปเสียทุกอย่าง มันก็มีจุดด้อยกับเขาเหมือนกัน
ด้วยความเครพครับ
+10 โดยเฉพาะตรงโอเพ่นซอร์ส (a.k.a. RTFM)
-1
กระทู้เรื่อง eclipse คำถามค่อนข้างจะกว้างไป จับประเด็นได้แค่ eclipse + android ก็ได้อารมณ์ว่าคนตอบก็ควรจะมีความอยาก และได้ลงมือทำอะไรกับ android บ้างแล้ว ซึ่งผมคาดว่าคนประเภทนั้นอาจจะยังมีจำนวนน้อยอยู่ (ถ้าถามว่า eclipse + pydev ใช้อย่างไร ผมก็จะฝอยได้เป็นคุ้งเป็นแคว)
Community ของ OS (เดาเอาว่าคุณคงจะหมายถึง Open Source ไม่ใช่ Operating System) เท่าที่เคยสัมผัสมาเป็นประมาณนั้นจริง หลักการสำหรับ dev หน้าใหม่คือ (ประสบการณ์ตรงจาก django-dev)
สำหรับบางภาษา (เช่น python) source ก็คือ document ในตัวอยู่แล้ว ใน project ใหญ่ๆ developer จะถูกบังคับให้เขียน unit testing ให้ครอบคลุม 100% ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้รับพิจารณาเข้า trunk ดังนั้นจะเป็นการรับประกันคุณภาพได้ระดับหนึ่ง บางครั้งที่เราอาจจะทำอะไรเกรียนๆ ไปแล้วโดนดุกลับมา ก็ทำให้ได้พัฒนาตัวเองด้วย อย่างไรก็ตามผมพูดจากพื้นฐานของคนที่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง มีเงินเดือน และใช้เวลาว่าง contribute ให้ open source (จริงๆ งานหลักก็ใช้ open source ด้วยเช่นกัน - python, django, etc.) ดังนั้นคนที่เป็น freelance อาจจะลำบากในการทำงานกับ open source ได้บ้าง เพราะต้องเร่งรีบทำมาหากิน จะให้อ่าน source ของ library ก็อาจจะไม่ทัน อันนี้ก็เข้าใจเหมือนกันครับ เพราะผมก็เคยทำ freelance มาก่อน แต่จากประสบการณ์ที่ทำงานโดยใช้ open source มานาน ขอบอกว่า ส่วนมาก เปิด ดีกว่า ปิด ครับ
+1
ผมคิดว่าหลายคนอยากตอบ แต่ไม่รู้จะตอบยังไง
+1
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "พยายาม search ใน google, mailing list, news group ก่อน ถ้าไม่เจอ หรือเจอแล้วไม่เข้าใจค่อยมาถาม" เจอแบบว่าให้สอนให้ตั้งแต่ต้น ผมก็อึ้งไปเหมือนกัน
BioLawCom.De
ไม่ค่อยประทับใจ Java ในโทรศัพท์สักเท่าไหร่อยู่ ทั้งช้าและไม่ native
คิดว่า iPhone ไม่มี Java ก็ไม่กระทบอะไร เพราะถึงมีผมก็ไม่ใช้อยู่ดี อย่าง JRE ใช้ปีละไม่ถึงสองครั้ง กลายว่าเป็นถ้าจะใช้ค่อยหามาลงไป
ผมคงไม่มีความเห็นว่า ถ้า iPhone ไม่เอา Java มาลงจะทำให้อนาคต iPhone เป็นอย่างไร เพราะไม่มีความรู้จริง และไม่อยากเดาตามความเห็นตัวเอง
ไม่มี java บน iPhone สำหรับผมไม่กระทบอะไรเลย เพราะไม่เคยคิดจะใช่ iPhone :P
+20
โทรออก+รับสาย+ตั้งปลุก+ดูเวลา T100 ของผมก็ยังเอาอยู่
เอ่อ..ผมว่าไม่เชิงผิดพลาดนะครับ ก็แค่ลำบากแก่ผู้ใช้เท่านั้นเอง แล้ว Apple จะเดือดร้อนทำไม ไม่มีจาวาเค้าก็ขายได้ แถมขายดีเสียด้วย . . . เรื่องนี้ถ้าเป็นผู้บริโภคออกมาโวยก็น่าฟังนะครับ แต่เท่าที่ได้ยินนี่ เค้าอยากให้มัี Flash ใน iPhone มากกว่านะครับ
อย่าว่าอะไรเลยครับ แค่นี้ก็ผลิตขายแทบไม่ทันแล้ว เค้าไม่ได้หวังว่าจะต้องเป็นเจ้าตลาด ถ้าดูจาก presentation เค้าบอกไว้เลย ขอแค่ Market Share 1% ก็พอแล้ว
อย่าลืมว่านี่เป็นเพียง ipod เครื่องนึงที่ออกมาเติมเต็มสำหรับคนที่ไม่อยากพกทั้งโทรศัพท์ทั้ง ipod ไม่ได้เน้นให้เป็นโทรศัพท์ที่ทำทุกอย่างได้ตั้งแต่แรก เพราะฉะนั้น android มันก็คนละตลาดกัน อย่าเอามาเทียบกันเลย
iphone เป็นแค่เครื่องมือเสริมให้ itunes เท่านั้น ยังไงๆรายได้ก็ยังอยู่ที่ itunes เพราะต้นทุนของการขายเพลงน้อยมากๆๆๆๆ สบาย ไม่ยุ่งยาก ได้กำไรมากกว่าการตั้งหน้าตั้งตาผลิตเครื่องขายเยอะ
หลายๆคนในนี้อาจจะเป็นเซียนด้านเทคนิค แต่อยากให้เซียนๆด้านเทคนิค ศึกษาด้านการตลาดไว้ด้วย
--
เพราะตอนนี้ "การตลาดไม่ใช่การหาวิธีขายของที่วิศวกรผลิตขึ้นมา แต่การตลาดคือผู้กำหนดว่า วิศวกรจะต้องทำอะไร ใส่ หรือ ไม่ใส่ อะไรลงไป"
ถ้าเข้าใจการตลาดแล้ว ก็จะหายสงสัยในหลายๆเรื่องที่เถียงกัน ผมเคยเป็นวิศวกร แต่ตอนนี้หันมาศึกษาด้านการตลาดเพิ่มแล้วล่ะ เตรียมหาอะไรทำของตัวเองดีกว่า
เพิ่มเติมอีกนิดครับ ที่ซันออกมาพูดๆนี่ก็เป็นการเมืองเท่านั้นแหละ อย่าไปคิดอะไรมากเลย
+1
+10
+1
+100
ลดความ nerd ลงบ้าง
สวัสดีครับ
จริงๆแล้วแอปเปิลเองก็มีความสัมพันธ์อันดีกับซันนะครับ โดยเฉพาะในเรื่องเทคโนโลยี อย่าง Leopard นี่มีการนำเอาความสามารถเด่นๆของ Solaris มาใช้ด้วยนะ
---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ZFS นี่ก็ทำ Jonathan Schwartz หน้าแตกอย่างแรงไปรอบแล้วนะครับ