ไมโครซอฟท์ประกาศสนับสนุนฟอร์แมตเอกสารเพิ่มใน Office 2007 Service Pack 2 ดังนี้
ทั้งสามฟอร์แมตจะใช้ได้โดยไม่ต้องลงปลั๊กอินเพิ่ม และผู้ใช้สามารถตั้งให้ค่า default เป็น ODF ได้ ส่วนผู้ที่ใช้ Office XP และ Office 2003 จะต้องใช้ตัวแปลงไฟล์ Open XML-ODF translator ซึ่งดาวน์โหลดได้จาก SourceForge ก่อนหน้านี้ผู้ใช้ Microsoft Office ที่ต้องการ ODF จะต้องติดตั้งปลั๊กอินภายนอกเพิ่มเติมเอง
สำหรับ OOXML รุ่นที่ผ่านมาตรฐาน ISO นั้น (ข่าวเก่า: OpenXML ผ่านเป็นมาตรฐาน ISO/IEC 29500) ไมโครซอฟท์ประกาศว่าจะสนับสนุนใน Office รุ่นถัดไปคือ Office 14 นั่นแปลว่าถ้าเซฟเป็น .docx ตอนนี้ มีความเสี่ยงสูงที่อนาคตจะถูกทิ้งครับ
การประกาศสนับสนุนฟอร์แมตที่เป็นมาตรฐานเพิ่มขึ้น ช่วยให้ไมโครซอฟท์ลดคำครหาจากกรณีผูกขาด โดยเฉพาะในยุโรป ซึ่งตอนนี้โดนหนักพอสมควร
ที่มา - Ars Technica
Comments
ข่าวดีนะเนี่ย
แต่ต้องรอตั้งปีหน้าแน่ะ
- - - - -
suksit.com
suksit.com
คิดว่า ต่อไปคงมี tools ออกมาให้ convert ไฟล์กันอีกรอบ
ส่วนผมใช้ Google Docs (^_^)
arthuran.net :: a tools
ถ้าเป็นปัญหาแค่ schema คิดว่าน่าจะแก้ได้ไม่ยาก (มั้ง?)
ezybzy.info blog
ผมไม่แน่ใจว่าแค่แก้ xslt กับ schema อย่างเดียวหรือเปล่า เพราะว่าถ้าแก้แค่นั้น ก็ไม่น่ามีปัญหานะ การ convert ไม่น่าทำยากนะ ถึงตอนนั้นใน sp3 ของ office 2007 น่าจะได้เห็นกัน
Ford AntiTrust’s Blog | PHP Hoffman Framework
ผมคิดว่าเป็นปัญหาเรื่อง deployment มากกว่า schema นะครับ เอาเข้าจริงแล้ว เรา convert ไฟล์กันสักแค่ไหนในบรรดาไฟล์ทั้งหมดที่มี
ผมฝันไปหรือเปล่า
โอ้ย ฝันที่เป็นจริง ผมจะได้ไปใช้ openoffice เขียนรายงานซะที
ป.ล. มันจะเหมือน IE6 หรือเปล่า ทำตามมาตรฐานได้ไม่หมด ฮา
Lastest Science News @Jusci.net
Lastest Science News @Jusci.net
แต่หลายๆเครื่องก็ำไม่มี add-in ตัวนี้นะครับ
หรือเวลาส่งรายงานไป ต้องแนบ add-in ไปด้วย อิอิ
ล่าสุดมีเสียงสะท้อนมาจาก Free Software Foundation Europe ครับ "It's a step in the right direction but we are sceptical about how open Microsoft will be."
ซึ่งนักเคราะห์บางคนให้ความเห็นว่า เรื่องนี้ทำให้
ที่มา
BBC News
ล่าสุดมีเสียงสะท้อนมาจาก Free Software Foundation Europe ครับ "It's a step in the right direction but we are sceptical about how open Microsoft will be."
ซึ่งนักเคราะห์บางคนให้ความเห็นว่า เรื่องนี้ทำให้
ที่มา
BBC News