สวนสนุกที่ว่านี้คือ Alton Towers ครับ โดยตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน จะทดลองการห้ามใช้สมาร์ทโฟน และพีดีเอในเขตสวนสนุก โดยจะขอให้บรรดาผู้ปกครองฝากไว้ที่จุดรับฝาก ทางสวนสนุกกล่าวว่า พวกเขาต้องการให้ครอบครัวมีเวลาให้กัน และสนุกด้วยกันให้ได้มากที่สุดในระหว่างที่อยู่ในสวนสนุก จึงได้ริเริ่มมาตรการนี้ขึ้นมา
the Sun และ BoingBoing ระบุไว้ว่า ระหว่างการทดลองนี้ ทางสวนสนุกจะมีเจ้าหน้าที่พิเศษที่คอยยึดสมาร์ทโฟน และพีดีเอ จากผู้ปกครอง ถ้าถูกพบเห็นในระหว่างการใช้งาน
ถ้าการทดลองนี้ประสบผลสำเร็จ มาตรการนี้จะได้รับการนำมาใช้อย่างถาวร
ที่มา - Alton Towers official website, the Sun, BoingBoing ผ่าน Slashdot
Comments
สงสัยสวนสนุกคงไม่ต้อนรับนักธุรกิจหลายท่านแน่เลย... แย่เลยหากนำเข้ามาไทย ข้าพเจ้าจะทำงานได้เยี่ยงไร? แต่ข่าวนี้น่าจะมีเหตุผลการห้ามนะครับ หาเหตุผลกันมา น่าจะดี.... ครั้งแรกที่ อเมริกามีตัวอย่างการกีดกัน
macXide กล้าคิดเพื่อโลกของความเป็นจริง - - - - -
เหตุผลของทางสวนสนุกก็คือว่า พวกเขาต้องการให้บรรดาผู้ปกครองมีเวลา และร่วมสนุกไปกับครอบครัวให้ได้มากที่สุดครับ โดยจุดประสงค์ของการห้ามใช้สมาร์ทโฟนก็คือ ไม่ต้องการให้ผู้ปกครองเอางานเข้ามายุ่งเกี่ยวในเวลาที่ควรจะมาร่วมสนุกกับลูกๆ น่ะครับ
ขอบคุณครับผม... Symbian ที่ไม่ใช่ UIQ คงเอาเข้าไปได้... เพราะมันทำงานไม่ได้เลย...
macXide กล้าคิดเพื่อโลกของความเป็นจริง - - - - -
สหราชอาณาจักรตะหากวุ้ย ไม่ใช่อเมริกา -*-
โอ๊ะ.. ขอบคุณครับที่ช่วยเตือนคุณ macxide ครั้งแรกผมไม่ทันสังเกตเห็นว่าเขาเข้าใจผิดว่าเป็น usa
ผมว่ามันก็ make sense นะครับ แหม่ะ
จะมาเที่ยวยังจะโทรศัพท์ มี Quality Time หน่อยสิ
คงต้องจัดขั้นตอนกรณีตอนพลัดหลงกันนิดหน่อย
อย่างนี้บางคนก็ twitter ไม่ได้อ่ะดิ ------- หมาไฟ
หมาไฟ
แหมะ กำลังจะมาบอกแบบนี้พอดี
:P
โทรศัพท์ผมไม่ i และไม่ smart รอดครับ
้ผมไม่ชอบแฮะ สิทธิของผมถ้าจะทำงานไปเลี้ยงลูกไปล่ะ
เกิดมีsmartphoneใช้กะเค้าเครื่องเดียวไม่มีเครื่องธรรมดา ก็ต้องฝากไว้หรือนี่
รู้สึกเหมือนกรณีรื้อกระเป๋าก่อนเข้าโรงหนังยังไงพิกล
Alton Towers มันใหญ่มาก ๆ นะครับ จากโซนหนึ่งไปยังอีกโซนหนึ่งมันไกลมาก บางจุดต้องนั่งรถกระเช้าไป
บางครั้งแม่กับลูกผู้หญิงอาจจะไปอีกโซน ในขณะที่พ่อกับลูกชายไปเล่นไอ้เจ้าเครื่องเล่นที่หวาดเสียวซึ่งอยู่
คนละโซนกัน เจ้าหน้าที่จะแยกได้อย่างไรว่าเป็นการใช้แบบโทรศัพท์ธรรมดาหรือเป็นการใช้งานธุรกิจ
iPhone ??
meddlesome.tech.blog
เข้าข่ายละเมิดสิทธิส่วนบุคคลมั้ยครับ ถ้าถึงขั้นยึดจริง?
ถ้าเป็นการรณรงค์ก็ว่าไปอย่าง
ไม่หรอกครับ ก่อนจะเข้าสวนสนุก เขาก็ถือว่าต้องยอมรับข้อตกลงของสวนสนุกอยู่ก่อนแล้ว ถ้าไม่ยอมรับก็ไม่ต้องเข้า มันเป็นสถานที่ของเขาน่ะครับ เราไปเรียกร้องอะไรไม่ได้
เรื่องสมาร์ทโฟนนี่ผมว่าก็โอเคเหมือนกัน เช่น พ่อแม่บางคน อุตส่าห์พาลูกมาเที่ยวสวนสนุก ยังจะมาเล่นแกดเจ็ทอีก แค่น่าจะเอาไว้รับธุระสำคัญๆก็พอแล้วมั้งครับ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเมืองนอกคนเล่นสมาร์ทโฟนกันในสวนสนุกเยอะถึงกับต้องแบนเลยเหรอเนี่ย
้แนวคิดแบบนั้นยิ่งคล้ายกับการยึดกล้องเลยครับ
(กล้องDSLRก็โดน ทั้งๆที่ถ่ายได้แต่ภาพนิ่ง เป็นจำเลยของสถานประกอบการเหมือนSmartPhone หลายคนต้องคืนตั๋วหนังเพราะไม่อยากฝากกล้องก็มี)
ผมไม่เห็นด้วยที่ว่า สถานที่เค้า เราเรียกร้องไมไ่ด้ เพราะในฐานะผู้ใช้บริการ กฏเกณฑ์บางอย่างที่ไม่เป็นธรรมกับเรา ผมว่าเรามีสิทธิผู้บริโภคที่จะเรียกร้องนะครับ
เริ่มตั้งแต่การตีความของสถานประกอบการว่า การมีSmartPhone ในสวนสนุก= ไม่ใส่ใจลูกๆเต็มที่
ซึ่งผมว่าแก้ปัญหาแบบกำปั้นทุบดิน ทื่อๆง่ายๆไปหน่อย เราพาลูกเรามา เราก็ควรจะได้รับสิทธิ"พกพา"ทรัพย์สินใดๆของเราที่ไม่ผิดกฏหมายมาด้วย
ไม่ใช่ว่ามาโดนริบ แถมมีจนท.คอยสอดส่อง-*- เพราะเรื่องความปลอดภัยของทรัพย์สินและข้อมูลภายในก็น่ากังวลเหมือนกัน
เค้าถึงอยู่ในช่วงทดลองไงครับ
จริงๆ แล้วผมว่าเค้าใส่ใจลูกค้าด้วยซ้ำไปนะ เพราะลองคิดดูแล้ว การทำแบบนี้เค้าไม่ใช่จะได้เงินเพิ่ม แถมมีภาระต้องจ้างพนักงานเพิ่มเพื่อดูแลเรื่องพวกนี้ กับมีโอกาสเสียรายได้จากลูกค้าที่ไม่เห็นด้วย
ผมว่าน่าปรบมือให้กับความกล้าเสีย(เสียอย่างเดียว เพราะยังไม่เห็นทางที่เค้าจะได้ประโยชน์) เพื่อลูกค้า
มันเป็นความกล้าที่น่าชมจริงๆแหละครับ แต่มันเป็นความบ้าบิ่นที่ไปโทษโทรศัทพ์และบังคับลูกค้าให้ทำตามตน
PoomK
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด รู้สึกว่าเขาจะไม่ได้ห้ามไม่ให้มี smartphone นี่ครับ เขาแค่ริบคนที่เอา smartphone ขึ้นมาเล่นเฉยๆ
ผมว่ากรณีนี้ คนที่ได้ประโยชน์โดยตรงก็คือเด็กนะครับ แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูเป็นกรณีๆไป เช่น คนเล่น smartphone บางคนอาจจะไม่มีลูกก็ได้ ก็ต้องดูกันต่อไปครับ
ผมมองว่าเด็กอาจจะไม่ได้รับผลประโยชน์ด้วยซ้ำ มันเป็นเพียงเหตุการณืที่ "เชื่อได้ว่า" มากกว่า "ความจริง" นะครับ
PoomK
จากเว็บไซต์ต้นสังกัดมันเป็นแค่การเข้ามาเตือนและขอความร่วมมือ (!?) ซึ่งถ้าไม่ให้อาจเกิดการยึดจริงๆจากที่เขียนใน The Sun
ถ้าเป็นการริบก็อาจเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุไปสักหน่อย ถ้าเอาจริงๆน่าจะเรียกร้องกันได้อย่างที่คุณบอก
ผมคิดว่าเป้าหมายคือออกกฏขำๆเพื่อความหวังดีเสียมากกว่า แต่เมื่อไหร่ที่กฏมันเริ่มไม่ขำมันก็จะไม่มีผลบังคับใช้ขึ้นมาทันที สรุปก็คือมันเป็นกฏที่ไม่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
PoomK
ไม่น่าจะประสบผลสำเร็จนะ มาตรการนี้
แล้วถ้าเกิดเด็กไปเดินทะเล่อทะล่าตกลงไปตายในอะไรซักอย่างที่ไม่ใช่เครื่องเล่น ตอนที่พ่อแม่กะลังยุ่งอยู่กับการเช็คเมลล์หรือจิ้มอะไรอยู่ก็ไม่รู้ แบบนี้ใครจะผิด มันก็จะลำบากเจ้าของสถานที่เค้าอีก
คือถ้าไม่ว่างขนาดต้องไปเดินจิ้ม ๆ ทั้ง ๆ ที่พาลูกไปเที่ยว็้อย่าไปเลยดีกว่าผมว่า
มันอาจจะทำให้เด็กรู้สึกไม่ดีเอาได้ เหมือนเราไปเที่ยวกะแฟนอ่ะ นี่เธอขึ้นไปเสียวคนเดียวนะ
เด๋วเช็คเมลล์แป๊บเดี๋ยวลงมาค่อยเจอกันอะไรแบบนี้มันเสียบรรยากาศนะผมว่า
เด็กไปเที่ยวก็คงอยากอยู่กับพ่อแม่จูงมือไปเล่นของเล่น ซื้อของกินอะไรแนว ๆ นี่แหละมั้ง
้ถ้าตรรกะแบบนี้ งั้นต้องห้ามเอาหนังสือพิมพ์,นิตยสาร,หนังสือ ฯลฯ เข้าไปด้วยครับ
ถ้ามองแบบนั้นผมว่าไม่ต้อง smart phone หรอกครับ โทรศัพท์ธรรมดา
เดี๋ยวนี้ก็เช็คเมลล์ได้มี organize เหมือนกัน
แล้วคุณจะไปสวนสนุกทั้งที่ไม่ได้พกมือถือเหรอครับ
อาจจะออกข่าวเพื่อให้สนใจ แล้วก็ออกมาบอกว่า "ทางสวนสนุกไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องดังกล่าวแม้แต่น้อย"
---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ฤดูร้อนคนเข้าสวนสนุกแห่งนี้ขนาดแถวต่อคิวรอเล่นเครื่องเล่นยาวเป็นร้อยเมตรอยู่แล้วครับ
สมัยนี้คิดแบบนี้กันหรือเนี่ย
สมัยผมเด็กเป็นคนใช่ SmartPhone ส่วนพ่อใช้โทรศัพท์ห่วยๆเสียมากกว่า
คุณลูกต้องถูกยึดเครื่องเล่นเกมต่างๆด้วยไหม เพื่อที่ครอบครัวจะได้ "สนุก" กันอย่างเต็มที่?
PoomK
สมัยนี้คิดแบบนี้กันหรือเนี่ย สมัยผมเด็กเป็นคนใช่ SmartPhone ส่วนพ่อใช้โทรศัพท์ห่วยๆเสียมากกว่า <<< เด็กคนนั้นโตเป็นผู้ใหญ่มีลูกแล้วไงครับ :)