BSA และ Economist Intelligence Unit (EIU) ออกรายงานการจัดอันดับอุตสาหกรรมไอทีของประเทศต่างๆ ในโลก (IT industry competitiveness index) จำนวน 66 ประเทศ ผลคือประเทศไทยอยู่อันดับ 42 ตกลงมาจากปีที่แล้วหนึ่งอันดับ
สหรัฐอเมริกายังเป็นแชมป์ด้วยคะแนนรวม 74.6 ส่วนคะแนนของไทยคือ 31.5
10 อันดับแรก
- สหรัฐอเมริกา
- ไต้หวัน
- สหราชอาณาจักร
- สวีเดน
- เดนมาร์ก
- แคนาดา
- ออสเตรเลีย
- เกาหลีใต้
- สิงคโปร์
- เนเธอร์แลนด์
ที่น่าสนใจคือญี่ปุ่นตกจากอันดับ 2 เมื่อปีก่อนลงไปอยู่อันดับ 12 ภายในปีเดียว ส่วนไต้หวันไต่จากอันดับ 6 ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ได้เช่นกัน
อันดับของประเทศเพื่อนบ้านในเอเชีย
- ไต้หวัน - 2
- เกาหลีใต้ - 8
- สิงคโปร์ - 9
- ญี่ปุ่น - 12
- ฮ่องกง - 21
- มาเลเซีย - 36
- ไทย - 42
- ฟิลิปปินส์ - 47
- จีน - 50
- อินโดนีเซีย - 58
- เวียดนาม - 61
วิธีการคิดคะแนนของ EIU ใช้เกณฑ์ 6 ชนิดโดยมีน้ำหนักแตกต่างกันไป ในเกณฑ์แต่ละอันมีตัวชี้วัดย่อยอีกหลายอย่าง ถ้าสนใจก็ดูในรายงานฉบับเต็มกันเอง คะแนนของประเทศไทยมีดังนี้ (คะแนนเต็ม 100 ทุกข้อ)
- สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจ - 78
- โครงสร้างพื้นฐานด้านไอที - 6
- ทรัพยากรมนุษย์ - 43.4
- สภาพแวดล้อมด้านกฎหมาย - 43.5
- สภาพแวดล้อมด้านการวิจัยและพัฒนา - 0.2
- ปัจจัยสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมไอที - 62.7
เห็นตัวเลขอันที่น้อยเวอร์ๆ มันน้อยจริงนะครับไม่ใช่พิมพ์ผิด ยกตัวเลขของประเทศอื่นมาเทียบ โครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีของสวิตเซอร์แลนด์ได้ 93.3 แต้ม ส่วนไต้หวันเป็นแชมป์ด้านการวิจัยและพัฒนาที่ 74.3 แต้ม
นิตยสาร BusinessWeek สรุปสถานะของประเทศไทยแบบสั้นๆ ว่า
Thailand scores high for its overall business environment but lags in the development of its IT infrastructure.
การวัดคะแนนโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที เค้าใช้ตัวชี้วัดย่อย 4 ตัวประกอบกันคือ
- มูลค่าการใช้จ่ายซื้อฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการด้านไอที ต่อประชากร 100 คน
- จำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ต่อประชากร 100 คน
- จำนวนผู้ใช้บรอดแบนด์ต่อประชากร 100 คน
- จำนวนเซิร์ฟเวอร์บนอินเทอร์เน็ตต่อประชากร 100,000 คน
ส่วนการวัดคะแนนด้านการวิจัย ใช้ตัวชี้วัดย่อย 4 ตัว
- งบประมาณด้านการวิจัยของรัฐบาลต่อประชากร 100 คน
- งบประมาณด้านการวิจัยของเอกชนต่อประชากร 100 คน
- จำนวนสิทธิบัตรด้านไอทีที่จดใหม่ในปีนั้น ต่อประชากร 100 คน
- รายได้จากทรัพย์สินทางปัญญา (royalty and license fee) ต่อประชากร 100 คน
ที่ต้องสังเกตคือ EIU ให้น้ำหนักกับจำนวนสิทธิบัตรถึง 65% ของคะแนนด้านการวิจัย จึงไม่น่าแปลกใจที่คะแนนด้านนี้ของประเทศไทย (และอีกหลายๆ ประเทศ) จึงต่ำเรี่ยดินแบบที่เห็น
ตัวรายงานฉบับเต็มมีให้โหลดฟรี (เพราะ BSA สปอนเซอร์ให้) ดาวน์โหลดได้จาก How technology sectors grow: Benchmarking IT industry competitiveness 2008
ที่มา - Economist Intelligence Unit, BusinessWeek
(No subject)
wiennat Wed, 09/17/2008 - 14:58
เจออันนี้เข้าไปก็กระอักเลือดแล้ว เล่นแผ่นละ 190 ตลอดงาน
XP ของผม
shikima Wed, 09/17/2008 - 15:49
In reply to (No subject) by wiennat
XP ของผม ของแท้นะ แต่แผ่นเดียวใช้กันทั้งบ้าน หุหุ
ก็มันแพงจริงๆ นี่นา
CMDEVHUB
เขียนเอามันส์ ลองเข้าไปดูความมันส์ได้ครับ
เป็นผม
Ford AntiTrust Wed, 09/17/2008 - 15:51
In reply to XP ของผม by shikima
เป็นผม ผมจะไม่รู้สึกภูมิใจเท่าไหร่ ในการออกมาผู้แบบนี้ -_-'
Ford AntiTrust’s Blog | PHP Hoffman Framework
ผมก็ไม่ได
shikima Wed, 09/17/2008 - 15:59
In reply to เป็นผม by Ford AntiTrust
ผมก็ไม่ได้ภูมิใจอะไรหรอกครับ
แต่ผมไม่มีเงินที่จะซื้อให้ครบทุกเครื่องหรอกครับ
ถึงแม้ OS ทางเลือกจะมีมากมาย
ลำพังผมพอใช้งานได้แหละ แต่ พ่อ+แม่ เขาใช้งานไม่ได้
เข้าใจคนแก่หน่อยเหอะครับ
ยังไงซะ ถ้าหากราคามันพอจะจับจองได้แบบไม่ลำบากนัก ผมยินดีที่จะซื้อของแท้ให้ครบทุกเครื่องแน่นอน
CMDEVHUB
เขียนเอามันส์ ลองเข้าไปดูความมันส์ได้ครับ
ประเด็นคุ
p-joy Wed, 09/17/2008 - 16:13
In reply to ผมก็ไม่ได by shikima
ประเด็นคุณ Ford เขาไม่ได้หมายถึงความจำเป็นในการใช้นี่ครับ ประเด็นคือการเขียนแบบนี้มันจะเป็นการสนับสนุนให้คนคิดในแง่
บวกหรือเปล่า
เรื่องอย่
Kerberos Wed, 09/17/2008 - 18:49
In reply to XP ของผม by shikima
เรื่องอย่างนี้ไม่ต้องเอามาพูดก็ได้ เงียบๆ ไว้ จริงๆ กำลังทำผิดอยู่นะ ไม่ใช่เรื่องเอามาพูดแล้วขำ
ไม่ตายไม่เลิก
นี่ไทยยัง
mossila Wed, 09/17/2008 - 14:58
นี่ไทยยังนำเวียดนามอยู่หรือเนี่ย
อย่าเข้าไปอ่านนะ บทความของ Rookie
วันนี้ยัง
scalopus Wed, 09/17/2008 - 15:02
In reply to นี่ไทยยัง by mossila
วันนี้ยังนำอยู่ พรุ่งนี้ไม่รู้
เห็นพูดกั
p-joy Wed, 09/17/2008 - 16:20
In reply to วันนี้ยัง by scalopus
เห็นพูดกันแบบนี้มาตั้งแต่ผมเป็นเด็ก ๆ นั่นแหละ ได้ยินตั้งแต่เรียน ป. 5 ก็ 26 ปีมาแล้ว เหมือนเรื่องเปลี่ยนสีเสื้อครุยของ
สามพระจอมเกล้าเลย พูดกันทุกปี รู้สึกจะพูดกันมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ปี ตอนนี้ก็ยังเป็นข่าวลือที่ลูกพูดให้พ่อฟัง พ่ออาจจะตอบว่า
"อืม สมัยพ่อก็มีข่าวนี้เหมือนกัน"
สภาพแวดล้
ploysics Wed, 09/17/2008 - 15:02
อ่า อืม - - น้อยดีจริงๆ
จะบอกว่า R&D
gab Wed, 09/17/2008 - 15:20
In reply to สภาพแวดล้ by ploysics
จะบอกว่า R&D C&D ไทยไม่ค่อยมีตรงนี้เหรอ รึจะแปลได้ว่าขยันนำเข้า เพราะคนไทยไม่ค่อยใช้ของไทย เลยไม่ค่อยมีใครคิดอะไรออกมา
ผมว่าทุกค
shikima Wed, 09/17/2008 - 15:55
In reply to จะบอกว่า R&D by gab
ผมว่าทุกคนเขาอยากคิด อยากสร้างแหละ แต่เขาไม่ได้อิ่มทิพย์ จะคิดจะสร้างอะไร เคยมีใครสนับสนุนไหมเนี่ย เอาแบบที่พร้อมที่จะสนับสนุน และรับทุกๆ โครงการไปพิจารณา บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ผมว่า ที่สำคัญที่สุด คนรับงานส่วนใหญ่ เขามองผลลัพธ์มากกว่ามองวิธีการ เอาแค่ face detect ผลลัพธ์เหมือนกันเลย แต่วิธีการไม่เหมือนกัน เขาก็ไม่รับแล้ว...
บ่นไปงั้นแหละครับ "เขา" สนใจแต่คนที่คิด 1+1=2 ได้ แต่ไม่สนใจคนที่ "เอา" 1+1=2 ไปพัฒนาต่อ
"เขา" หมายถึงใครไม่รู้ แต่ผมมีอยู่ในใจ
CMDEVHUB
เขียนเอามันส์ ลองเข้าไปดูความมันส์ได้ครับ
บทความเป็
p-joy Wed, 09/17/2008 - 16:36
บทความเป็นการเมืองชัวร์ ค่อนข้างไม่เชื่อว่า บราซิล เม็กซิโก จีน อินเดีย จะได้อันดับต่ำขนาดนั้น
มาเลเซียที่ลงทุนเยอะมาก ๆ อันดับไม่ขึ้นเลย ส่วนไทยซึ่งเข้าใจว่าแทบไม่ได้ทำอะไรเลยในช่วงปีที่ผ่านมาอันดับไม่ลด
คงมีคำถามในใจใครหลายคนว่าการวิเคราะห์เชิงปริมาณแบบนี้เชื่อถือได้แค่ไหนกัน
มาแนวไม่ต
Kerberos Wed, 09/17/2008 - 19:13
In reply to บทความเป็ by p-joy
มาแนวไม่ตรงกับที่ตัวเองคิด แล้วสรุปไปว่าการวัดเชิงปริมาณไม่ดีอีกแล้ว
ความเชื่อๆ ครับ ความเชื่อเท่านั้นที่ทำให้เราพอใจเนอะ
ถ้าไม่มั่นใจต้องทำวิจัยมาแย้ง แล้วตีพิมพ์ลงในวารสารวิชาการที่มี impact factor ให้ได้ แล้วจะได้รับการยอมรับครับ
ไม่ตายไม่เลิก
ไม่ได้มีต
p-joy Wed, 09/17/2008 - 20:08
In reply to มาแนวไม่ต by Kerberos
ไม่ได้มีตรงไหนบอกว่าไม่ดีนะ บอกว่าน่าเชื่อถือได้แค่ไหนกันอาจจะน่าเชื่อถือมากก็ได้ ไม่ได้ฟันธง e-เจิมไงบอกว่าแบบสอบถามทำเกิน 3 เดือนเชื่อไม่
ได้แล้ว
วารสารที่มี IF ก็ใช่ว่าจะดีกว่า โอเคดีกว่าอันที่ไม่มี แต่สรุปได้ยากว่า IF ที่สูงกว่าจะดีกว่า IF ที่ต่ำกว่า ถ้าเกิดวารสารที่ IF สูง แต่การอ้างอิงไปอยู่บทนำ
ซะเกือบหมด การอ้างอิงนั้นก็จะเป็นการอ้างถึง ไม่ได้มีผลกระทบใด ๆ เลย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น
ประเด็นคือเมื่อเราได้รับเอกสารวิจัย เราจำเป็นต้องวิเคราะห์ผลการวิจัย ถ้าผลการวิจัยแบบนี้มีผลกระทบต่อเรา ก็แย้งไปได้ผ่านกระทรวงไหนหล่ะ
รัฐบาลที่แล้วแล้ว ก็แย้งไปเยอะแยะ คงเกินหน้าที่ที่ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบระดับเราจะไปทำอะไรแข่งกับเขา หรือไปแย้งเขา ทำได้ก็แค่เพียงคุยสนุก ๆ เท่านั้น
โดยเหตุผลที่ผมยกความไม่น่าเชื่อถือการรายงานฉบับนี้ก็คือเรื่องของ บราซิล เม็กซิโก จีน อินเดีย รวมถึง มาเลเซีย
ไว้เป็นรัฐมนตรีมาเลเซียก่อนจะทำเรื่องแย้งไป ว่าฉันทำอะไรตั้งเยอะแยะ ทำไมอันดับฉันไม่ดีขึ้นเลย
ถ้าอ่านตั
mk Wed, 09/17/2008 - 19:19
In reply to บทความเป็ by p-joy
ถ้าอ่านตัวรายงานฉบับเต็ม เค้ามี methodology ไว้ละเอียดนะครับ ถ้าไม่เห็นด้วยก็ลองแจ้งไปทาง Economist ดูครับ
ตัวเลขหลายๆ ตัวในรายงานเค้าไม่ได้หาเอง แต่ว่าเอามาจากแหล่งอื่นๆ อย่าง IDC หรือ WorldBank
ชอบคำนี้ ..
khajochi Wed, 09/17/2008 - 18:01
ชอบคำนี้ .. "Thailand scores high for its overall business environment but lags in the development of its IT infrastructure."
---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature
ชอบเช่นกั
mokin Fri, 09/19/2008 - 00:19
In reply to ชอบคำนี้ .. by khajochi
ชอบเช่นกันครับ แต่ทำอย่างไหรเราจะตามมาเลเซียได้ท่านน่า
ผมว่าคนไทยเก่ง แต่ทำงานตามคำสั่ง ขอแค่เสร็จ กับ มีนายที่ไม่มีวิสัยทัศน์ด้านไอที
มาช่วยกันใช้ซอฟแวร์ถูกลิขสิทธิ์หรือฟรีแวร์กันครับ อันดับจะได้ไล่ทัน มาเลเซีย
อย่าท้อแท้ที่จะเรียนรู้ และจงเป็นครูสอนผู้อื่นต่อ
+10 “Thailand scores high
LawrenceX Wed, 09/17/2008 - 23:43
+10 "Thailand scores high for its overall business environment but lags in the development of its IT infrastructure."
เอาน่ายัง
javaboom Thu, 09/18/2008 - 00:44
เอาน่ายังไงอาหารไทยก็อร่อยครับ และหญิงไทยก็สวยกว่าชาติอื่นๆ คนไทยใจดี ขัดแย้งกันบ้างในบางเรื่อง แต่เดี๋ยวก็ดีกันครับ โกรธง่ายหายเร็ว ไม่หายโกรธวันนี้ก็ต้องมีสักวันน่ะครับ ... แล้วมันเกี่ยวอะไรกับไอทีเนี่ย :)
มองแบบเข้าข้างตัวเองและปลอบใจตัวเองก็พูดได้ว่า ไทยเดินช้าแต่ก็เดินไปเรื่อยๆ
Sivadon Chaisiri (JavaBoom)
http://javaboom.wordpress.com
ผมว่าก็ตร
adamy Thu, 09/18/2008 - 01:07
ผมว่าก็ตรงดีนะครับ ... คิดว่าเป็นสภาพความเป็นจริงของภาคอุตสาหกรรม IT ณ ปัจจุบันครับ ประเทศไทยนั้นส่วนใหญ่ไม่ได้มีปัจจัยพื้นฐานทางด้านนี้ (ถึงแม้สินค้าส่งออกด้าน IT จะเยอะระดับโลกก็ตาม ซึ่งทั้งหมดนั่นเป็นของต่างชาติทั้งสิ้น แต่จ้างคนไทยทำงานให้ในรูปแบบของ Craftman มากกว่าคนวิจัยและผลิตครับ) แต่อย่างน้อยประเทศไทยก็ยังพัฒนาทางด้านนี้ไปได้เรื่อยๆซึ่งนั่นทำให้ปัจจัยต่างๆทางด้านการวิจัยสามารถที่จะโตขึ้นมาได้ในอนาคต (คือแบบว่าเห็นฝรั่งขี้ ก็ขี้ตามฝรั่ง ... ซักพักเดี๋ยวก็จะขี้เองได้เป็นน่ะครับ)
แต่ส่วนที่น่ารันทดคือปัจจัยพื้นฐานครับ
จากที่เห็นๆแล้ว ... มูลค่าการซื้อขายเราสู้ชาวบ้านได้ยาก ... อาจจะด้วยเราซื้อของเถื่อนกันมาก ในส่วน ซอฟต์แวร์ แถมด้วย Hardware ที่ขายในบ้านเรานั้นมีราคาถูก และเป็นสินค้าที่ออกจะควบคุมมากๆเลยทีเดียว (คือถ้าวันนี้ตลาดบอกว่าให้มีัแต่ HDD ของ WD รุ่น 500GB ... ก็จะสามารถซื้อคุ้มแค่ WD 500GB เท่านั้น ตัวอื่นไม่ราคาสูงลิ่วก็หาของไม่ได้เลย) ทำให้ตลาดไม่ได้ขยายวงกว้างเท่าไหร่ ... เพราะตลาดขายฮาร์ดแวร์ไม่มีการแข่งขันกัน ส่วนบริการด้าน IT นั้นบ้านเราอาจจะสำรวจได้ยาก เพราะบริการด้าน IT ในเมืองไทยไม่ค่อยมีเพราะคนยังไม่เชื่อในส่วนนี้เท่าไหร่ ส่วนถ้าชาวบ้านตาสีตาสาเค้าก็จะเรียนรู้ที่จะ Format แล้วก็ลง WinXP ปลอมใหม่แล้วก็ลง MSN แล้วก็ Winamp แล้วก็ Word ปลอม แล้วก็จบ ... มันก็มีอยู่เพียงเท่านี้ ... ดังนั้นแทบจะไม่มีบริการเลยก็เป็นได้
จำนวนผู้ใช้ Broadband ในไทยสถิติมีนาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 600000 คน ... เพราะว่าประเทศไทยติดปัญหาที่ตลาดเป็นตลาดที่แข่งขันกันน้อยราคาลงช้าเพราะยังถือเป็น Luxury อยู่ ไม่ใ่ช่ปัจจัยพื้นฐานทางด้านการโทรคมนาคม (ระหว่างที่โทรศัพท์มือถือนั้นมีกันแทบทุกคน) แต่ถ้ารวมคนใช้เน็ตทั้งประเทศแล้ว 20.5% ถือว่าไม่เลวนักสำหรับประเทศการเกษตรเดิมอย่างประเทศไทยครับ
ส่วนท้ายสุดคือจำนวนเซอร์เวอร์ ... อันนั้นก็คงอยู่ที่การที่พัฒนาบุคลากรที่ดีๆมาเพิ่มการผลิตครับ ... ซึ่งการศึกษาไทยยังทำไม่ได้ครับ (อันนี้ใช้ประสบการณ์ส่วนตัวจากที่รับสมัครโปรแกรมเมอร์มา 200 คนได้แล้วครับ ... ส่วนใหญ่จบตรีมาแต่เขียนอะไรไม่ไ้ด้เลย ... มาร้องให้หน้าคอมตอนให้ทดสอบงานก็มี ฮาๆ) ... ดังนั้นหมายถึงว่าบุคลากรของเรายังไม่พร้อมที่จะผลิตงาน ... ผลิตไปก็สู้ตลาดไม่ได้ทั้งที่ตลาดเกือบจะเป็นตลาดแนวราบที่ทุกๆคนมีสิทธ์ในการแข่งขันกันได้อยู่แล้ว
อีกส่วนที่น่าสังเกตุคือประเทศไทยเป็นประเทศที่มีค่านิยมผิดๆกับอินเตอร์เน็ตครับ ... ส่วนใหญ่จะมองในเชิงลบมากกว่าบวก (เช่นเดียวกับที่มองดาราเป็นพวกเต้นกินรำกิน และมองคนขายไก่ KFC เป็นขี้ข้าสังคม) ดังนั้นยังเป็นเรื่องยากที่จะทำใ้ห้คนเห็นคุณค่าของการใช้อินเตอร์เน็ตสำหรับ Service ต่างๆและการติดต่อสื่อสารครับ
แต่เดี๋ยวก็ตามทันครับ ... ถ้าทุกประเทศทั่วโลกมี Fibre กันทุกบ้านฟรีั ทุกที่ทั่วโลกใช้แต่ Internet ในการติดต่อสื่อสาร ประมาณเดียวกับถ้าทั้งโลกผลิตแต่รถยนต์ นั่งแต่รถยนต และรถยนต์ฟรีหมดทุกคัน ... เราคงจะัไม่นำเข้า ขี่จักรยานกันทั้งประเทศหรอกมั้งครับ
แค่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เท่านั้นเองครับ : )
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
:: Take minimum, Give Maximum ::
ผมล่ะอยาก
oakyman Thu, 09/18/2008 - 02:38
In reply to ผมว่าก็ตร by adamy
ผมล่ะอยากเห็นจริงๆ คนที่จบตรีด้านคอมมาแล้วเขียนโปรแกรม "ไม่เป็นเลย" เนี่ย
(อาจจะไม่นับพวกจบมานานแล้ว เปลี่ยนสาย เลยไม่ได้ใช้)
Oakyman.com
เพื่อนผมเ
plynoi Thu, 09/18/2008 - 10:51
In reply to ผมล่ะอยาก by oakyman
เพื่อนผมเยอะครับ ท่องเก่ง ไม่ต้องเีขียนไรได้ ได้เกียรตินิยม
แต่เดี๋ยว
platalay Thu, 09/18/2008 - 03:17
In reply to ผมว่าก็ตร by adamy
แต่เดี๋ยวก็ตามทันครับ … ถ้าทุกประเทศทั่วโลกมี Fibre กันทุกบ้านฟรีั ทุกที่ทั่วโลกใช้แต่ Internet ในการติดต่อสื่อสาร ประมาณเดียวกับถ้าทั้งโลกผลิตแต่รถยนต์ นั่งแต่รถยนต และรถยนต์ฟรีหมดทุกคัน … เราคงจะัไม่นำเข้า ขี่จักรยานกันทั้งประเทศหรอกมั้งครับ
ถ้าทุกประเทศมี fiber ฟรีทุกบ้าน ตอนนั้นประเทศไทยคงจะพึ่งมี net 8M ในราคาที่ชาวบ้านพอจ่ายไหว
ผมว่าแต่ล
invisibleMind Thu, 09/18/2008 - 09:07
ผมว่าแต่ละประเทศย่อมจะมีค่านิยมและพฤติกรรมที่แตกต่างกันออกไป
สำหรับเรื่อง กฎหมายลิขสิทธิ์ ผมเองเห็นด้วยครับ ที่มึนควรจะพัฒนาขึ้น สามารถมีผลบังคับใช้ไดจริงๆ แต่เอาแค่ในระดับที่ทำธุรกิจก็พอ ภาคการศึกษา กับการใช้งานส่วนตัว ควรจะผ่อนปรนบ้าง เพราะคนที่เค้าพัฒนาออกมา เค้านั่งหลังขดหลังแข็ง เพื่อให้ได้มันออกมา แต่ก็ถูกคนเอาเปรียบ เอาของเค้าไปคัดลอก คนที่ทำ เค้าคงจะไม่สามารถพัฒนาต่อยอดต่อไปได้ ถ้าคนขยันกับคนชี้เกียจทำงานได้เท่ากัน ใครจะนั่งทำงาน ถ้าคนมีความรู้ กับคนที่ไม่มีความรู่ทำงานได้เท่ากัน ใครจะเรียนหนังสือ
ส่วนตัว
p_gallery Thu, 09/18/2008 - 11:48
ส่วนตัว อ่านแล้วก็เลยอยากจะถามตัวเองว่า เรากำลังทำอะไรอยู่ในอุตสหกรรมนี้ การเรียนการสอนในระบบของเราเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับเพื่อนบบ้าน และ ในอนาคตลูกหลานของเราจะอยู่และทำมาหากินกับเขาได้ไหม เราควรจะมองกว้างๆ และยาวๆ ครับ อยากให้คนที่ทำหน้าที่พัฒนาบ้านเมื่อสนใจจริงๆ จังๆ เสียทีครับ