บริษัทวิจัยตลาด ABI Research คาดว่าตลาด RFID (Radio Frequency Identification) ทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงกว่า 5.3 พันล้านเหรียญ และในอีก 5 ปีข้างหน้ายังจะคงมีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี
RFID เป็น ระบบเก็บข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างหนึ่ง (หรือเป็นวิธีการเก็บข้อมูลหรือระบุข้อมูลแบบอัตโนมัติ) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการคำนวณ และการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล โดยทำงานผ่านการรับสัญญาณจากแท็ก (tag) เข้าสู่ตัวส่งสัญญาณ ผ่านทางคลื่นวิทยุ ทั้งนี้ปกติแท็กของ RFID มีขนาดเล็ก สามารถติดตั้งเข้ากับผลิตภัณฑ์สินค้า สัตว์ บุคคลได้ ซึ่งเมื่อตัวส่งสัญญาณส่งคลื่นวิทยุไป และพบกับแท็กนี้ สัญญาณจะถูกส่งกลับพร้อมกับข้อมูลที่เก็บไว้ในแท็ก โดยตัวส่งสัญญาณนี้เองยังสามารถบันทึกข้อมูลลงในแท็กได้
มีการคาดการณ์กันว่าเทคโนโลยีดังกล่าว จะเข้ามามีบทบาทในการดำเนินธุรกิจ และการใช้ชีวิตประจำวันในระดับเดียวกับเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์, พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือแม้กระทั่งระบบสื่อสารไร้สาย
เราสามารถนำระบบ RFID มาประยุกต์ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น การค้าปลีก, การค้าส่ง, การผลิต, การรักษาความปลอดภัย, การทดแทนระบบบาร์โค้ด, การเก็บประวัติ และติดตามสัตว์ เป็นต้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนในปัจจุบัน ได้แก่ บัตรโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน และบัตร Proximity ที่ใช้เป็นบัตรพนักงาน หรือเข้าออกสถานที่ เป็นต้น
ที่มา - cellular-news
Comments
อันนี้มองโลกในแง่ร้ายนะครับ ทำให้ความเป็นส่วนตัวเลย เพราะว่าทำให้เราโดนติดตามจากระบบได้ตลอดเวลาว่าเราไปไหน