อินเดียถือเป็นประเทศที่บริษัทเทคโนโลยีต่างให้ความสนใจทำตลาด ทั้งโอกาสเติบโต และจำนวนประชากรที่มีอยู่มาก จนน่าจะเป็นตลาดที่ร้อนแรงเหมือนจีนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในตลาดสมาร์ทโฟนนั้น ซัมซุงครองส่วนแบ่งเป็นเบอร์หนึ่งมายาวนานถึง 6 ปี และเพิ่งเสียแชมป์ให้กับ Xiaomi เมื่อไตรมาส 4 ปีที่แล้ว
เรื่องน่าสนใจมากกว่านั้นคือ Xiaomi เพิ่งเริ่มบุกตลาดในอินเดียเมื่อ 3 ปีที่แล้วเท่านั้น และบริษัทก็ไม่ได้เริ่มต้นสวยนัก โดยเฉพาะปี 2016 ที่ต้องแข่งขันรุนแรงกับคู่แข่งจากจีนด้วยกันอย่าง OPPO และ Vivo ซึ่ง Harish Jonnalagadda แห่ง Android Central มีบทวิเคราะห์ว่า Xiaomi ทำอย่างไรจึงมาถึงจุดนี้ได้
เราทราบดีอยู่แล้วว่าซัมซุงเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่มีการออกรุ่นต่างๆ เยอะมาก โดยมีการปรับสเป็กเล็กน้อยต่างกันไป โดยเฉพาะซีรี่ส์ J ที่ขายดีมากในอินเดีย Xiaomi เองก็เลือกเดินตามแนวทางนี้ ออกรุ่นต่างๆ เยอะมาก ตั้งแต่ Mi A1, Redmi Y1 และ Y1 Lite, Redmi 5 และ Redmi 5 Plus รวมทั้ง Redmi Note 5 และ Redmi Note 5 Pro
เมื่อมีรุ่นออกมาหลากหลาย Xiaomi ก็สามารถทำสเป็กเทียบกันกับซัมซุงได้แบบรุ่นต่อรุ่น โดยมีจุดขายคือราคาที่ถูกกว่าเล็กน้อย จึงทำให้ Xiaomi ดูโดดเด่นขึ้นมา
ช่วงสองปีที่ผ่านมา Xiaomi ตัดสินใจตั้งโรงงานผลิตสมาร์ทโฟนขึ้นที่อินเดีย ซึ่งทำให้ได้ประโยชน์จากภาษีและการสนับสนุนของรัฐ แทนที่จะนำเข้าจากจีน โดยสมาร์ทโฟน Redmi ทั้งหมดประกอบขึ้นที่อินเดีย
กลยุทธ์นี้ซัมซุงเองก็ทำอยู่เช่นกัน โดยโทรศัพท์ซัมซุงที่ขายอินเดียนั้นก็ผลิตขึ้นที่อินเดียทั้งสิ้น
ปัจจุบัน Xiaomi มีโรงงานในอินเดียสองแห่ง และเตรียมตั้งโรงงานเพิ่มแห่งที่สาม รวมทั้งตั้งอีกโรงงานเพื่อผลิตพาวเวอร์แบงก์ของ Xiaomi เองอีก
Xiaomi มีจุดแข็งคือไลน์สินค้าอื่นที่เกี่ยวข้อง และเชื่อมต่อกับระบบนิเวศของตนเอง บนราคาที่ถูกกว่าคนอื่น ซึ่งแนวทางนี้ก็ถูกนำมาใช้ในอินเดียเช่นกัน โทรทัศน์ Mi TV มีการจำหน่ายที่อินเดียและได้ผลตอบรับที่ดีมาก เหตุผลสำคัญก็คือมันมีราคาถูกกว่าโทรทัศน์ของซัมซุงและแอลจี
ในกลุ่มสินค้าโทรทัศน์นั้น Xiaomi ไม่ได้เน้นสเป็กที่ดีที่สุด ไม่มีรุ่นจอ OLED จึงทำให้สินค้ามีคุณภาพพอควรในราคาที่ไม่สูง
หนทางขยายสู่สินค้าอื่นยังมีอีกมาก โดย Xiaomi จะใช้วิธีเดียวกับที่ทำสำเร็จในจีน โดยเตรียมนำสินค้าไลฟ์สไตล์มาจำหน่ายเพิ่ม อย่างเช่นเครื่องฟอกอากาศ และอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอื่นๆ
ที่มา: Android Central ภาพจาก Xiaomi
Comments
เกรงว่าจะไม่ใช่แค่ถูกกว่าเล็กน้อยครับ แต่ถูกกว่า เท่าตัวเลยน่ะสิ
ถือว่าตีโจทย์แตกกระจุยเลย เพราะตลาดกลางกับล่างในอินเดียยังไปได้อีกไกล
ตลาดปราบเซียนคับ ขนาดใหญ่มาก และยังไม่อิ่มตัวแบบจีน แอปเปิ้ลยังกุมขมับอยู่เลยคับ สำหรับที่นี่ สู้กันดุเดือดจิงๆ