อย่างที่รู้กันดีว่ายุคนี้วงการวิดีโอเกมมีความเติบโตและพัฒนาในหลายแง่ จากจุดเริ่มต้นคือนวัตกรรมเพื่อความบันเทิง กลายมาเป็นอุตสาหกรรมธุรกิจใหญ่ทั้งในแง่การพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในของฝั่งผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่าย อีกทางหนึ่งในฝั่งผู้เล่นก็ไม่ใช่แค่เล่นเพื่อเอามันอย่างเดียว มีการแข่งขันกลายเป็นกีฬา eSport มีการถ่ายทอดสตรีมการเล่นเกมเกิดเป็นสายงานอาชีพนักแคสต์เกม ถึงวันนี้ก็มีอีกด้านหนึ่งที่ทำเงินได้จากกระแสวิดีโอเกมเกิดขึ้นมาอีกอย่าง นั่นคือ "ธุรกิจการพนัน"

Players Lounge คือตัวอย่างที่จะกล่าวถึงในครั้งนี้ จากสตาร์ทอัพที่ก่อตั้งในปี 2015 เริ่มต้นจากการจัดอีเวนท์การแข่งเกม FIFA ในบาร์ ต่อยอดออกมากลายเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้ผู้เล่นเกมสามารถวางเดิมพันการแข่งขันระหว่างกันได้ จากวิดีโอเกมสายกีฬาบนเครื่องคอนโซลอย่าง Madden และ FIFA ก็แผ่ขยายออกมาสู่ตลาดเกมที่ใหญ่ขึ้นอย่างเกมพีซีด้วย

Players Lounge ไม่ใช่ร้านค้าขายเกม แต่ทำตัวเหมือนเป็นเวทีประลองที่จุดเด่นสำคัญคือเปิดให้ผู้เข้าแข่งขันวางเดิมพันติดปลายนวมกันได้ เมื่อผู้เล่นสร้างบัญชีผู้ใช้ของตนเองในระบบของ Players Lounge ผู้เล่นจะสามารถเติมเงินเข้าไปเก็บไว้ในระบบได้โดยใช้การใช้บัตรเครดิต, PayPal หรือจ่ายด้วย Bitcoin จากนั้นเมื่อจะทำการแข่งขันวิดีโอเกมกับผู้เล่นอื่นก็สามารถวางเงินเดิมพันได้ตั้งแต่ 2.50 ดอลลาร์ ไปจนถึง 500 ดอลลาร์ต่อเกม Players Lounge จะหักเงินเดิมพันนี้ออก 10% เป็นรายได้ ส่วนเงินที่เหลือผู้ชนะแต่ละเกมก็รับไป

ในขณะนี้ Players Lounge รองรับเกมบน 3 แพลตฟอร์ม คือ Xbox One, PS4 และพีซี โดยมีจำนวนเกมให้เลือกแข่งขันกันได้ 12 เกม ได้แก่ FIFA, Madden, NBA 2K, Fornite, MLB Show, NHL, PES, UFC, Call of Duty, Injustice, Street Fighter และ Mortal Kombat

ตัว Players Lounge ไม่ได้เชื่อมโยงระบบของตนเองเข้ากับระบบพีซีหรือเครื่องคอนโซลของผู้เล่นโดยตรง ผู้เล่นที่แข่งขันกันจะต้องเชื่อมต่อและเล่นผ่านโหมดออนไลน์ในเกมกันเอง ในการตัดสินผลแพ้ชนะหลังการแข่ง จะต้องอาศัยการรายงานผลจากผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่ายกลับมายังระบบของ Players Lounge เสียก่อน จึงจะยืนยันผลการแข่งขันและการจ่ายเงินแก่ฝั่งผู้ชนะ

ผู้เล่นที่มีการแข่งขันวางเดินพันตั้งแต่ 5 ดอลลาร์ขึ้นไปอย่างน้อย 3 เกม จะเริ่มได้รับการจัดอันดับในระบบของ Players Lounge การจัดอันดับนี้ก็เพื่อเป็นตัวเลขช่วยบ่งบอกระดับความเก่งของการเล่นเกม เพื่อที่แต่ละคนจะได้สามารถหาคู่แข่งขันที่มีความสามารถใกล้เคียงกับตนเองและแข่งกันได้ (เพราะแน่นอนว่าไม่มีใครอยากกลายเป็นหมูให้คนอื่นเชือด)

ในแง่ของกฎหมาย การวางเดิมพันแข่งขันวิดีโอเกมเช่นนี้ถือเป็นการพนันแบบใช้ทักษะ ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำได้ในหลายรัฐของสหรัฐอเมริกา มีเพียงรัฐ Arizona, Iowa, Louisiana และ North Dakota เท่านั้นที่ห้ามการพนันรูปแบบนี้ ซึ่งทำให้ผู้เล่นที่อยู่ในรัฐที่ว่ามาจะไม่สามารถใช้ระบบการวางเดิมพันได้

Players Lounge มีแผนจะพัฒนาระบบให้รองรับการแข่งกันเป็นทีมได้ในอนาคต รวมทั้งเพิ่มเกมใหม่ๆ เข้ามาในระบบด้วย ในภาพรวมแล้วถือได้ว่า Players Lounge จับตลาดใหม่และไปได้สวยในเรื่องการทำเงิน เพราะในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาก็สามารถเพิ่มรายได้แบบเดือนต่อเดือนสูงถึง 100% ส่วนฐานผู้ใช้งานก็ค่อนข้างเหนียวแน่น โดยพบว่า 30% ของบรรดาผู้เล่นมักจะกลับมาแข่งเกมวางเดิมพันอีกครั้งในภายในช่วงเวลา 3 เดือน

ที่มา - TechCrunch