วันนี้สภาของสิงคโปร์มีมติผ่านกฎหมายที่จะอนุญาตให้เจ้าหน้าที่รัฐตัดการสื่อสารทุกช่องทางทุกรูปแบบได้ทั้งหมดในกรณีที่เกิดเหตุก่อการร้าย แน่นอนว่าเรื่องนี้เต็มไปด้วยเสียงคัดค้านจากหลายฝ่าย
ด้วยอำนาจที่กฎหมายใหม่ได้ให้ไว้ เจ้าหน้าที่รัฐจะสามารถกันคนออกจากบริเวณที่เกี่ยวพันกับเหตุก่อการร้าย และสั่งห้ามการบันทึกภาพหรือวิดีโอ ตลอดจนการสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ ทั้งการติดต่อผ่านทางข้อความหรือโทรศัพท์ทุกรูปแบบ
อีกด้านหนึ่งของเหรียญ กฎหมายนี้ถูกโจมตีในประเด็นการลิดรอนสิทธิ์ของสื่อ ซึ่งปัจจุบันนี้สิงคโปร์ก็ใช่ว่าจะมีภาพลักษณ์เรื่องเสรีภาพสื่อดีเท่าใดนัก โดยสิงคโปร์ถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 151 จาก 180 ประเทศ ตามการจัดอันดับ World Press Freedom Index ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดเรื่องเสรีภาพของสื่อ ซึ่งเป็นการจัดอันดับโดย Reporters Without Borders ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ต่อสู้รณรงค์เรื่องเสรีภาพของสื่อสารมวลชน
ที่มา - SCMP
Comments
เห็นชอบบอกประชาชนว่าไม่ได้ทำผิดกลัวอะไรกับการบันทึกข้อมูล
รัฐบาลสิงคโปร์ปกติก็ไม่ค่อยฟังเสียงประชาชนอยู่แล้ว
เพราะการไม่ฟังเสียง แต่คิดถึงความเจริญของประเทศจริงๆ ถึงได้เจริญมาขนาดนี้ไง
ลองดูบางประเทศแถวๆ นี้สิ
ประเทศขนาดเล็ก มันคุมได้ง่ายกว่า ทำอะไรนิดหน่อยก็รู้กันได้ง่าย
แล้วเขาเปิดประเทศทางด้านการค้ามานา รวมทั้งได้รับการสนับสนุนจากฝรั่งมาตั้งแต่อดีต
จะเอาเราๆ ไปเทียบก็ลำบากอยู่ ประเทศใหญ่กว่า กว้างกว่า สอดส่องยากกว่าอีก
จะบอกว่าเขาจะเจริญกว่า ก็ไม่แปลก
เค้าตั้งประเทศ โดยคนเชื้อชาติจีน ล้มสุรต่านสิงคโปร์แห่งรัฐมลายู แล้วประกาศเอกราช นะครับ
เลือกตั้งยังไง คนเชื่อสายจีนก็ชนะ
เหมือนที่ มาเลเซีย คนกุมอำนาจเศรษฐกิจคือคนจีน แต่คนส่วนมากคือชาวมลายู เลือกตั้งยังไง ชาวมลายูก็ชนะ
ถ้าพลิกข้างขึ้นมา % ประเทศแตก มีสงครามกลางเมือง แบบฆ่าล้างเผ่าพันธ์ สูงมาก เพราะงั้น
condition ประเทศเค้า โหดกว่าเราเยอะครับ
ไม่นานเราคงจะได้อยู่ภายใต้กฎหมายแนว ๆ นี้ด้วย
ลายเซ็นยาวเกินไปครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม: World Press Freedom ในปี 2017 ไทยอยู่อันดับ 142 ซึ่งอยู่ในกลุ่มประเทศสื่อถูกจำกัดเสรีภาพอย่างมาก (โซนสีแดง) เช่นเดียวกับสิงคโปร์
แต่อันดับดีกว่า ต้องชื่นชม