ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกคำสั่งให้ตรวจสอบการเงินของไปรษณีย์สหรัฐฯ หรือ USPS หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขากล่าวถึง Amazon ว่าใช้งานไปรษณีย์สหรัฐฯ ราวกับเป็นเด็กส่งของของตัวเอง โดยใช้ให้ส่งของเป็นปริมาณมากจนทำให้ USPS ขาดทุนนับพันล้านดอลลาร์ต่อปี และอาจออกคำสั่งให้ Amazon ต้องใช้อัตราค่าส่งใหม่เพื่อให้ USPS ไม่ขาดทุน
คำสั่งของทรัมป์มีตอนหนึ่งที่เขียนไว้ว่า มีปัจจัยหลายอย่างเช่นปริมาณจดหมาย First-Class ที่ลดลงมาก รวมกับข้อบังคับทางกฎหมายที่บังคับใช้กับ USPS มีผลทำให้กิจการต้องขาดความมั่นคงและมีค่าใช้จ่ายที่ยืดหยุ่นไม่ได้ ผลลัพธ์คือเกิดโครงสร้างที่ขาดทุน ซึ่ง USPS กำลังอยู่บนเส้นทางการเงินที่ไม่แน่นอน และจะต้องปรับโครงสร้างเพื่อป้องกันหายนะของกิจการที่ใช้เงินภาษีนี้
แม้ว่าคำสั่งของทรัมป์ที่ออกมาล่าสุดนี้ไม่ได้เผยชื่อของ Amazon โดยตรง แต่จากท่าทีที่ออกมาก่อนหน้าทำให้หลายฝ่ายคาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีนี้ ซึ่งหากทรัมป์จะสั่งให้ USPS ทำข้อตกลงกับ Amazon ใหม่ที่ทางบริษัทต้องจ่ายแพงขึ้น ก็อาจส่งผลกระทบต่อรายได้และผลกำไรของ Amazon อย่างเลี่ยงไม่ได้
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญหลายคนและแม้กระทั่งที่ปรึกษาของทรัมป์เองก็ให้ความเห็นว่าพัสดุปริมาณมากที่ Amazon จ้างให้ USPS ดำเนินการส่งทำให้ USPS มีกำไร ในขณะที่ฝั่งจดหมายที่มียอดการส่งลดลงเรื่อย ๆ นั้นเป็นสาเหตุการขาดทุนของ USPS ต่างหาก
USPS มีเวลา 120 วันในการตอบกลับคำสั่งของประธานาธิบดีโดยจะต้องส่งผลสรุปของการสืบสวนและคำแนะนำกลับมา
ที่มา - NBC (Twitter), The Verge
ภาพ ArtisticOperations/Pixabay (CC0 Creative Commons)
Comments
m44
สรุปว่า ขาดทุนเพราะคนส่งจดหมายน้อยลง (ใช้พื้นที่น้อยส่งได้ทีละเยอะๆ=ต้นทุนต่ำกว่า) แต่มีปริมาณการส่งพัสดุมากขึ้น (ใช้พื้นที่มาก ขนได้ทีละน้อยกว่า=ต้นทุนสูง)
ไปรษณีย์ไทยก็น่าจะดูไว้เป็นตัวอย่าง ทุกวันนี้แถวบ้านผมบางทีจดหมายมาถึงช้าไปอีกวัน สาเหตุเพราะพนักงานนำจ่ายทำงานไม่ทัน จากเดิมที่วิ่งส่งจดหมายเที่ยวเดียวจบ ตอนนี้ต้องวิ่งมากกว่า 1 เที่ยวเพื่อขนพัสดุไปกระจายตามบ้าน
Trump claim ของเค้าคนเดียวครับ ไม่ใช่ fact
และจากข้อมูลที่ออกมาหลายๆฝ่าย เรื่องมันกลับตาลปัดกับที่ Trump บอกครับ
และอย่าลืมว่าที่จริงไปรษณีย์บ้านเราที่กลับมาได้กำไรเพราะการส่งพัสดุนะครับ รายได้จากการส่งจดหมายลดน้อยลงมากจนขาดทุน USPS เองก็เคยตกอยู่ในสภาพเดียวกัน
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ไปรษณีย์แถวบ้านผมเลิกนำจ่ายบิลต่างๆ แล้วครับ รวมถึงเอกสารชิ้นเล็กๆ ด้วย ไปรับพัสดุที่ไปรษณีย์คราวหนึ่ง บิลของ 3BB กองไว้อย่างกับส่งชิงโชค
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
เค้าเลิกได้ด้วยหรอครับ มันหน้าที่เค้าโดยตรงนี่ เว้นแต่เราไม่อยู่บ้านต้องไปรับเอง
บิลเน็ตผมสัก 6 เดือนถึงจะโผล่มาที เอกสารของ มสธ. พวกใบเสร็จค่าเทอม ใบแจ้งสถานที่สอบ ใบผลสอบ ไม่เคยได้เลยครับ
ใช้คำว่า "เลิก" คงจะไม่ถูกต้อง ที่ถูกต้องคือ "ไม่นำจ่าย" ไม่มีใครโทษไปรษณีย์ เพราะไม่มีใครรู้
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
Trump is just being 'Trump'.
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ตามหลักมันต้องลดราคาให้ลูกค้ารายใหญ่ไม่ใช่เหรอ แบบนี้ Amazon ก็มีความคุ้มค่าให้ทำกิจการขนส่งเองสิ
ถ้าเอาอย่างที่ Trump เคลมจริง นั่นก็ต้องไล่ฝั่งผู้บริหารของ USPS ออกเลยนะ
เพราะแปลว่า USPS นี่คิดราคาค่าบริการในราคาขาดทุน แปลว่าอะไร บริหารธุรกิจอย่างไร ไม่รู้จักต้นทุนตัวเอง แล้วดันไปเสนออัตราบริการในราคาเข้าเนื้อ
ความจริงคือ Amazon ก็จ่ายค่าส่งเท่ากับรายใหญ่เจ้าอื่นๆ แต่ที่โดนโจมตีเกิดจากเรื่องส่วนตัวล้วนๆ
ถ้าโดนขึ้นราคาแทนที่ USPS จะมีรายได้เพิ่ม ผมว่าอาจจะลดลงเพราะ Amazon คงหนีไปส่งรายอื่น ไม่ก็ทำบริษัทขนส่งเองเลย
Amazon ใช้บริการส่งของอยู่หลายเจ้านอกเหนือจาก USPS อยู่ครับเช่น UPS, FedEx, Lasership และ ตอนนี้มีบริษัท shipping ของตัวเองเชื่อว่า Amazon Logistics (AMZL) ซึ่งพยายามจะมาใช้แทน USPS ในหลายพื้นที่
แต่เอาจริงๆ แล้วแม้แต่ UPS และ FedEx ที่ Amazon ใช้งาน"บางตัว" ก็ต้องไปพึ่ง USPS ส่งที่ปลายทางอยู่ดี เช่น UPS SurePost, UPS Mail Innovation, FedEx SmartPost ส่วน Lasership กับ AMZL นี่ส่งถึงบ้านเลยไม่ผ่าน USPS
ทัมจะบีบ Amazon ทำบริษัทขนส่งเองหรือยังไง?
ถ้าโครงสร้างรายได้ต้องผูกกับแอมะซอนแบบนี้ วันนึงแอมะซอนเกิดอยากเปลี่ยนตัวผู้ให้บริการ หรืออาจพัฒนาการขนส่งของตัวเองเบ็ดเสร็จแล้ว จะทำให้ USPS ตกที่นั่งลำบากแน่ๆ
ผมไม่รู้ว่าในทางกฎหมายแอมะซอนสามารถเป็นเจ้าของ USPS ได้รึเปล่า ... ถ้าได้ก็เตรียมเละเลย