เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา HMD Global ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือแบรนด์ Nokia ประกาศนำเข้าโทรศัพท์มือถือของ Nokia เข้ามาจัดจำหน่ายในประเทศไทยจำนวนสามรุ่น หนึ่งในนั้นคือ Nokia 7 Plus ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนตัวรองเรือธงของ Nokia
ผู้เขียนมีโอกาสใช้โทรศัพท์เครื่องนี้เป็นโทรศัพท์หลัก จึงขอถ่ายทอดรีวิวออกมาประกอบการตัดสินใจผู้อ่านในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนครับ
หลังจากดีล Nokia-Microsoft ในตำนาน บริษัท HMD Global ก็ได้สิทธิ์ในการใช้แบรนด์ Nokia เพื่อผลิตสมาร์ทโฟนจำหน่าย
แนวทางของ HMD Global คือทำโทรศัพท์มือถือ Android One ออกมา โดยสมาร์ทโฟนตัวแรกของ HMD Global คือ Nokia 3, 5 และ 6 ก่อนที่จะเข็นสมาร์ทโฟนเรือธง Nokia 8 ลงสู่ตลาด (บล็อกนันเคยมีริวิวไปก่อนหน้านี้)
Nokia 7 Plus เป็นโทรศัพท์มือถือที่ออกมาเพื่อต่อยอดความสำเร็จของ Nokia 7 ที่วางขายเฉพาะในจีน โดยเพิ่มกล้องเป็นกล้องคู่ เปลี่ยนขนาดและอัตราส่วนหน้าจอ ที่สำคัญคือไม่ได้ขายเฉพาะในจีนอีกต่อไปแล้ว
สำหรับผู้เขียนแล้ว Nokia 7 Plus เป็นหนึ่งในมือถือที่ออกแบบมาได้สวยเครื่องหนึ่ง ตัวเครื่องด้านหน้าให้ความรู้สึกสะอาดตา โลโก้ของ Nokia ที่ใส่มาไว้ด้านหน้าก็ไม่ได้ทำให้การออกแบบด้อยลงไปมากนัก (เทียบกับโทรศัพท์ของผู้ผลิตหลายรายที่ใส่โลโก้ไว้ตรงกลางเลย) ตัวเครื่องมีจำหน่ายสองสี คือสีดำ และสีขาว
หน้าจอของ Nokia 7 Plus เป็นหน้าจอขนาด 6 นิ้ว FHD+ อัตราส่วน 18:9 (หรือ 2:1) ผู้เขียนรู้สึกว่าจอภาพให้สีที่สดกว่าจอภาพทั่วไป (ยิ่งเมื่อเทียบกับแล็ปท็อปของผู้เขียนซึ่งเป็นจอ IPS เหมือนกัน เห็นได้ชัดว่าหน้าจอของ Nokia 7 Plus ให้ภาพที่สีสดกว่า)
บริเวณขอบรอบเครื่องเป็นอะลูมิเนียมสีแดง ด้านขวาของเครื่องมีปุ่มปิดเปิดเครื่อง และปุ่มปรับระดับเสียง
ปุ่มปิดเปิดเครื่องนอกจากจะใช้กดหนึ่งทีเพื่อปลดล็อกเครื่องแล้ว การกดปุ่มนี้สองทีจะเป็นการเรียกแอปพลิเคชั่นกล้องขึ้นมาทันทีด้วย
ด้านซ้ายของเครื่องเป็นช่องถาดใส่ซิม ข้อสังเกตคือเมื่อใส่ซิมไปแล้วตัวถาดใส่ซิมเข้าไปในตัวเครื่องเล็กน้อย ไม่เรียบเสมอพอดีกับขอบของเครื่อง ด้านบนเป็นรูหูฟังมาตรฐาน
ด้านล่างเป็นไมโครโฟน ลำโพง และช่องเสียบสาย USB Type-C
แบตเตอรี่ของ Nokia 7 Plus มีความจุอยู่ที่ 3,800 mAh ถือว่าค่อนข้างเยอะ ยิ่งเมื่อเทียบกับการใช้ของผู้เขียนที่ใช้เป็นแค่เครื่องมือติดต่อสื่อสาร และหยิบมาถ่ายภาพบ้างบางครั้งเท่านั้น
ตัวเครื่องด้านหลังมีกล้องเลนส์คู่จาก ZEISS, แฟลชแบบสองสี และเซนเซอร์ลายนิ้วมือ
Nokia เคลมว่าตัวเครื่องด้านหลังใช้เทคนิคพ่นเคลือบเซรามิกบริเวณฝาหลัง แต่เท่าที่ผู้เขียนลองจับดูแล้วพบว่าตัววัสดุไม่ได้ให้ความรู้สึกต่างจากพลาสติกแบบด้านมากสักเท่าไหร่
ด้วยความที่ผู้เขียนมือค่อนข้างใหญ่ การจับโทรศัพท์ขนาด 6 นิ้วจึงไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด ตัวเครื่องเมื่อสัมผัสให้ความรู้สึกที่แน่นหนา
หนึ่งในจุดที่ต้องชมเกี่ยวกับโทรศัพท์รุ่นนี้คือมีเคสใสแถมมาให้พร้อมในกล่อง ผู้เขียนเชื่อว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนจำนวนมากเลือกใส่เคสให้กับโทรศัพท์ของตัวเอง การที่ผู้ผลิตโทรศัพท์เลือกแถมเคสมาให้เลยจึงเป็นเรื่องดีที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องตระเวนหาเคสมาใช้เอง
ข้อดีของ Nokia 7 Plus คือตัวโทรศัพท์เป็นสมาร์ทโฟนตระกูล Android One ที่ได้รับการันตีการอัพเดตแอนดรอยด์จาก Google ทั้งหมดสองรุ่นใหญ่ และอัพเดตแพตช์ความปลอดภัยไม่ต่ำกว่าสองปี และ ณ เวลาที่เขียนบทความรีวิว Nokia 7 Plus ได้รับอัพเดต Android Oreo 8.1 เป็นที่เรียบร้อย ผู้เขียนถือว่าอัพเดตมาค่อนข้างเร็ว
ที่สำคัญ ประสบการณ์การใช้งานมือถือ Pure Android นั้นนับว่าดีมาก ผู้เขียนไม่จำเป็นต้องหงุดหงิดกับการลบแอปที่ไม่ได้ใช้งาน การเซ็ตอัพมือถือเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว และการใช้งานก็เป็นไปอย่างคล่องตัว
หนึ่งในจุดขายของ Nokia 7 Plus คือกล้องหลังคู่ที่ผลิตโดย ZEISS ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
ในสภาวะแสงปกติ ภาพที่ถ่ายออกมาถือว่าดี รายละเอียดของภาพชัดและสมบูรณ์ ตัวกล้องให้ภาพที่มีความตื้นลึก (depth-of-field) ได้ดี
ในสภาพแสงน้อย สีของภาพที่ได้จากกล้องเริ่มลดน้อยลง ภาพเริ่มมี noise มากขึ้น แต่รายละเอียดหลายๆ อย่างในภาพยังคงอยู่ (เช่นความเป็นขนของตุ๊กตาแมวในภาพ)
โหมด Live Bokeh คือโหมดถ่ายภาพแบบ "หน้าชัดหลังเบลอ" ซึ่งผู้ใช้สามารถกำหนดระยะความเบลอเองได้
ภาพ: ภาพในโหมด Live Bokeh ที่ตั้งความเบลอไว้น้อยสุด (ไม่เบลอเลย) และมากสุด ตามลำดับ
ข้อจำกัดเล็กน้อยของการถ่ายภาพในโหมดนี้คือวัตถุที่ต้องการโฟกัสจำเป็นจะต้องถอยห่างออกไปจากตัวกล้องระยะหนึ่ง (~1m ขึ้นไป) แต่โดยรวมถือว่าให้ภาพที่น่าประทับใจ
กล้องหน้าของ Nokia 7 Plus ให้ภาพที่คมชัดทั้งในสภาพที่แสงดี และในสภาพที่ย้อนแสง ตัวซอฟต์แวร์กล้องมีตัวช่วยสำหรับเกลี่ยสีผิวให้เสมอกันมาให้ด้วย
โดยสรุปแล้ว Nokia 7 Plus เป็นโทรศัพท์มือถือราคาดีที่น่าจะตอบโจทย์ใครหลายๆ คนได้ทั้งในแง่ของฮาร์ดแวร์ (งานประกอบที่แข็งแรง จอที่ใหญ่และสีสด แบตเตอรี่ที่ให้มาเยอะ) และซอฟต์แวร์ (Android One ที่มาพร้อม Oreo)
หากกำลังมองหาโทรศัพท์มือถือราคาไม่เกินสองหมื่นบาท Nokia 7 Plus จัดได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมากตัวหนึ่งในตลาด เพราะสำหรับผู้เขียนแล้ว มือถือเครื่องนี้สามารถใช้งานเป็นมือถือเครื่องหลักได้โดยไม่ยากเลย
Comments
ของ => ขอบ
เทคนิก => เทคนิค
ขอบคุณครับ
Blog | Twitter
รอสีขาว ไม่มาสักที -.-
ตรงข้อสังเกตเป็น Google Assistant นะครับ ไม่ใช่ Google Now
ขอบคุณครับ
Blog | Twitter
รอสีขาว + หาไม่ได้ซะที + อยากได้ 2 ซิมจริงๆ ไม่เอา Hybrid
กับตัว oneplus 5t ตัวไหนน่าซื้อกว่า