Reuters เผยแพร่บทความระบุว่า Facebook กำลังพยายามหลีกเลี่ยงกฎคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล GDPR ลดจำนวนผู้ใช้ที่จะได้รับการคุ้มครองตามมาตรฐาน GDPR ลง
ผู้ใช้ Facebook ที่อยู่นอกสหรัฐ แคนาดา รวมประมาณ 1.5 พันล้านราย อยู่ภายใต้ข้อกำหนดในการให้บริการที่ได้ตกลงกับสำนักงานใหญ่ระหว่างประเทศของ Facebook ที่ตั้งอยู่ในไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ในความคุ้มครองของ GDPR อย่างไม่ต้องสงสัย
แต่สิ่งนี้กำลังจะเปลี่ยนไป โดย Facebook เตรียมบีบจำนวนผู้ใช้ที่จะอยู่ใต้ข้อกำหนดการบริการตามสำนักงานไอร์แลนด์ ให้เหลือเพียง 370 ล้านคนในยุโรป ส่วนที่เหลือ แม้ Facebook จะออกมายืนยันว่าทางบริษัทจะใช้มาตรฐานคุ้มครองเดียวกัน แต่ในทางปฏิบัติ ผู้ใช้ Facebook ราวๆ 70% จะไม่ได้อยู่ในความคุ้มครอง GDPR
กฎ GDPR ระบุว่าหากบริษัทไอทีทำผิดกฎ เก็บข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้รับความยินยอม จะถูกปรับ 4% ของรายได้ สำหรับ Facebook สามารถตีมูลค่าสูงเป็นพันล้านดอลลาร์ หากมีความผิดเกิดขึ้นจริง ตัวเลขค่าปรับของ Facebook ก็จะจำกัดเฉพาะผู้ใช้ที่ได้รับการคุ้มครองจาก GDPR ซึ่งเป็นแค่ส่วนหนึ่ง ไม่ใช่ผู้ใช้ทั้งหมดของ Facebook
Michael Veale นักวิจัยด้านนโยบายเทคโนโลยีของ University College London บอกว่า ในทางปฏิบัติ ถ้ามีความผิดเกิดขึ้น ผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบจำนวน 1.5 พันล้านคนจะไม่สามารถยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการการคุ้มครองข้อมูลของไอร์แลนด์หรือศาลไอร์แลนด์ได้ แต่จะได้รับการควบคุมโดยกฎหมายว่าด้วยความเป็นส่วนตัวของสหรัฐฯแทน
มีข้อความยืนยันจาก Facebook ส่งมาถึง Reuters ระบุว่า "เราใช้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลแบบเดียวกันทุกแห่งไม่ว่าข้อตกลงของผู้ใช้จะอยู่ภายใต้ Facebook Inc หรือ Facebook Ireland"
ภาพจาก Shutterstock
ที่มา - Reuters
Comments
อ่านข่าวแล้วไม่ค่อยเข้าใจอย่างหนึ่ง เหมือนใจความมันหายไป
ผมสงสัยว่า Facebook จะบีบลดจำนวนผู้ใช้จาก 1.5 พันล้านคนเหลือ 370 ล้านคนได้อย่างไร
That is the way things are.
อาจจะย้ายผู้ให้บริการครับ หมายถึงว่า 370M users ได้รับบริการโดย Facebook Ireland จึงได้รับความคุ้มครองจาก GDPR แต่ที่เหลือได้รับบริการจาก Facebook Inc (US) จึงไม่ได้รับความคุ้มครองจาก GDPR
ทีี่ => ที่