ต่อจากประเด็น Trump ประกาศจับมือประธานาธิบดีจีน แก้ปัญหา ZTE โดนแบน ล่าสุดประธานาธิบดี Trump ทวีตข้อความว่าเขาเจรจากับ ZTE เสร็จเรียบร้อยแล้ว
รายละเอียดของการเจรจาครั้งนี้ยังมีน้อย Trump บอกเพียงว่า ZTE จะกลับมาทำธุรกิจได้ แต่ต้องแลกกับการตรวจสอบด้านความมั่นคงที่เข้มข้นขึ้น, เปลี่ยนตัวผู้บริหารและบอร์ดบริหาร, จ่ายค่าปรับ 1.3 พันล้านดอลลาร์ และการันตีซื้อชิ้นส่วนจากสหรัฐอเมริกาเป็นจำนวนหนึ่งด้วย
ข้อมูลจาก Reuters ระบุว่าสหรัฐจะส่งเจ้าหน้าที่ด้าน compliance ไปนั่งที่ ZTE เพื่อตรวจสอบกระบวนการทางธุรกิจ ส่วนตัวเลขค่าปรับ 1.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 900 ล้านดอลลาร์ที่ ZTE เคยตกลงจ่ายในช่วงก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม การเจรจาครั้งนี้ของ Trump ก็ได้รับเสียงวิจารณ์อย่างมาก ในแง่เรื่องการค้ากับจีน และปัญหาความมั่นคงจากอุปกรณ์เครือข่ายของ ZTE ทำให้ในทวีตของเขาต้องโต้กลับฝั่งของพรรคเดโมแครตและรัฐบาลโอบามาด้วย
ที่มา - Reuters
Senator Schumer and Obama Administration let phone company ZTE flourish with no security checks. I closed it down then let it reopen with high level security guarantees, change of management and board, must purchase U.S. parts and pay a $1.3 Billion fine. Dems do nothing....
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) May 25, 2018
Comments
Trump ไม่ได้กล่าวไว้
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เก็บค่าต๋ง ..
my blog
เป็นการปรามจีนทางอ้อม
จับมือกันยังไง ทำไมเมกาได้อยู่ฝ่ายเดียว
ฝ่ายที่ได้เปรียบย่อมกุมอำนาจต่อรองไว้ครับ กรณีแบบนี้คือการ์ดเราด้อยกว่าแต่ถ้ายอมเสียหายในระดับที่ยังมีชีวิตรอดได้ เป็นใครก็ต้องยอม ยกเว้นโดนกดจนตายนั่นแหละถึงจะยอมไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ zte ไม่มีการ์ดเลย การที่บ.ใหญ่ขนาดนี้ถอนตัวออกจากประเทศมีผลแน่นอนอย่างน้อยก็การจ้างงานล่ะ ไม่งั้นทรัมป์ไม่เจรจาหรอกครับไล่กลับจีนไปเลยจบแล้ว zte ก็ยังได้ประโยชน์ถ้ายังทำธุรกิจได้มันก็ยังมีโอกาสทำกำไร จีนก็น่าจะได้ประโยชน์ตรงเรื่องการรักษาภาพลักษณ์ ช่องทางการค้าไว้ได้ที่อาจมีผลต่อบ.จีนอื่นๆที่ทำธุรกิจใน us ด้วย
ผมได้ยินมานะครับไม่แน่ใจว่าเท็จจริงแค่ไหน ว่าห้ามใช้ผลิตภัณฑ์เมกาทำงานด้วย นี่คือสาเหตุหลักที่ต้องหยุดทำงานกันเลยครับ คอมส่วนใหญ่ก็ intel AMD เมกาถือไพ่เหนือกว่าเห็นๆ
wat
กลืนเลือดกันเลยทีเดียว
จีนเจ๋งอ่ะ สุดยอด
เล่นกับตา Trump ขานี้ธรรมดาซะที่ไหนล่ะ เป็นเทคติกเฉพาะตัวของทีมงาน Trump เลยล่ะ ด้านความมั่นคงก็ป่วนเสร็จแล้วขายอาวุธให้ประเทศที่ได้รับผลกระทบกันรัวๆ แล้วตัวเองก็ลอยตัวเหนือปัญหาทันทีเมื่่อได้ตามเป้าหมาย American First จริง
หลักเลยผมว่าไม่ใช้แค่ ZTE แต่ supply chain ที่ส่งเข้าไปอีกกระทบอุสาหกรรมอิเล็กครอนิกจีนเป็นลูกโซ่ เรื่องนี้เลยมีการรีบคุยครับ และ ZTE ก็คือจีนเพราะรัฐบาลเป็นคนสนับสนุนหลัก แล้วถ้าเกิดbanจริง ไม่ใช้แค่ZTEที่จะเป๋แต่จะเป็นทั่งอุสาหกรรมเลย
อีกด้านความเชื่อมันใน ZTE จะหมด แล้ว ZTE ส่งอุปกรณืเข้าแต่ละประเทศในแบบ B To G ก็จะกระทบหมดเพราะขาดความเชื่อมั่น
ดูอุปกรณ์ในภาครัฐไทยเป็นตัวอย่างว่าใช้สินค้า ZTE เยอะขนาดไหน
ดักตีหัวปล้นกันชัดๆ
ของจะขายในไทยบังคับแบบนี้บ้างนะ
แปลกใจว่า ศาลตัดสินแล้ว(อำนาจตุลาการ)
อำนาจบริหารมาแก้โทษได้ตามใจ?
หรือผมเข้าใจอะไรผิด?
คนแบนคือกระทรวงพาณิชย์ ไม่ใช่ศาล
ซื้อจรวดได้อีกเยอะเลย 555
เค้าเป็นขายไม่ได้เป็นคนเป็นซื้อ เด้อ
งานนี้จีนทำชื่อเสียแบบเปิดเผยและโดนจับได้ให้คนเห็น โดยเฉพาะเรื่องเก็บข้อมูลกลับประเทศ ทำให้กลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันที โดนแบนแถมงานบริษัทกระทบกับธุรกิจทั่วโลกอีก กลายเป็นสหรัฐฯ ใช้จุดนี้มาถ่วงดุล สร้างโอกาสให้ตัวเอง และหารายได้ไปในตัว อำนาจในการต่อรองกลายเป็นของกล้วยๆ
ส่วนสหรัฐฯ พฤติกรรมการเก็บข้อมูลก็พอๆ กับจีน หรือหนักกว่านั้นแต่เก็บได้ดี ไม่กระทบมาก กว่าเรื่องจะปูดก็ได้กำไรมามหาศาลแล้ว แถมได้ข้อมูลด้วย หนีลอยนวล
ยิ่งสหรัฐฯ มี lobby แทบทุกด้านและหน่วยงาน ยิ่งหายเข้ากลีบเมฆได้เลย ประชาชนได้แต่กร่นด่า เงียบ โวยวาย ทำอะไรไม่ได้ เศร้าแท้
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
จับผู้นำตัดหัวเสียบประจาน ปล้นเมือง แล้วส่งคนของตัวเองไปคุมความประพฤติผู้นำคนใหม่ นี่มันไม่ต่างกับการต่อสู้กินเมืองแบบสมัยโบราณเลย