ชาว Blognone คงคุ้นเคยกับแบรนด์ ThinkPad กันเป็นอย่างดี คงทราบอยู่แล้วว่าในบรรดา ThinkPad ทุกซีรีส์ รุ่นที่เปรียบเสมือน "เรือธง" ที่สุดย่อมหนีไม่พ้นซีรีส์ X1 Carbon ที่เน้นกลุ่มนักธุรกิจ เด่นเรื่องความบางเบา พกพาสะดวก และมีความพรีเมียมไปพร้อมกัน
เมื่อต้นปีนี้ Lenovo อัพเกรด X1 Carbon ตามรอบประจำปี (นับเป็นรุ่นที่หก 6th Generation) และหลังจาก X1 Carbon เริ่มวางขายจริงไม่นาน ทาง Lenovo Thailand ก็ส่งเครื่องมาให้เรารีวิวกัน
Lenovo มีการปรับดีไซน์และบอดี้ของ ThinkPad X1 Carbon ครั้งใหญ่เมื่อปีที่แล้ว 2017 ในรุ่นที่ห้า 5th Gen ส่วนรุ่นของปี 2018 ที่เรารีวิวกันคราวนี้ ยังใช้บอดี้ตัวเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่ปรับปรุงเพิ่มเติมดังนี้
สเปกของรุ่นที่ได้มาทดสอบเป็นซีพียู Intel Core i7-8550U พร้อมแรม 8GB และ SSD ขนาด 256GB ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 73,900 บาทครับ
สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของ X1 Carbon มาโดยตลอดคือ วัสดุที่ใช้เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ที่ยืดหยุ่น ทนทาน แต่มีน้ำหนักเบา ทำให้น้ำหนักรวมของตัวเครื่องอยู่เพียง 1.13 กิโลกรัมเท่านั้น เบาในระดับที่รู้สึกได้เมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊กระดับใกล้เคียงกันที่หนักประมาณ 1.2-1.3 กิโลกรัม
บอดี้ตัวนี้ที่ X1 Carbon ใช้มาตั้งแต่ปี 2017 มีขนาดโดยรวมเล็กลง ขอบจอค่อนข้างบางโดยเฉพาะด้านข้าง ทำให้สามารถยัดจอภาพขนาด 14" ลงในบอดี้ที่เล็กขนาดนี้ได้
ภาพรวมของดีไซน์ยังคงความเป็น ThinkPad ตระกูล X อย่างครบถ้วน นั่นคือตัวเครื่องเป็นรูปทรงลิ่ม แหลมตรงปลาย ที่ฝาหลังมีคำว่า ThinkPad พร้อมไฟสีแดงตรงตัว i เหมือนเดิม (แต่รอบนี้เปลี่ยนสีตัวอักษรจากเงินเป็นดำ)
ที่ฝาหลังมุมขวาล่างมีโลโก้ของซีรีส์ X1 สีแดงขาว บ่งชี้ว่าชั้นเป็น X1 รุ่นท็อปนะ ไม่ใช่ X รุ่นปกติ แพงกว่ากันเยอะเลย
ในแง่ serviceability ก็ยังคงหลักการเดิมของ ThinkPad คือผู้ใช้สามารถทำเองได้ แค่ไขสกรูที่ด้านใต้เครื่องแล้วเปิดฝาออกมาได้เลย (แต่เครื่องบางระดับ X1 ก็มีของให้เปลี่ยนเองได้น้อยหน่อย)
ในยุคสมัยที่โน้ตบุ๊กแข่งกันเล็ก และโน้ตบุ๊กสายบางเบาเกือบทุกเจ้าหนีไปใช้พอร์ต USB-C กันหมด ถึงแม้จะดูเท่และล้ำสมัย แต่ก็สร้างความลำบากให้ผู้ใช้ในแง่อุปกรณ์เชื่อมต่อมากมาย
ThinkPad X1 Carbon เป็นโน้ตบุ๊กที่ยืนหยัดต้านกระแสนั้น และมอบพอร์ตจำนวนมากให้แก่ผู้ใช้ จนถึงขั้นน่าสงสัยว่าทำได้อย่างไรกับเครื่องที่บางระดับนี้
พอร์ตด้านซ้ายมือของตัวเครื่องประกอบด้วย USB Type-C 2 พอร์ต, Pro Port เฉพาะของ ThinkPad สำหรับเสียบ Dock, USB Type-A 1 พอร์ต และ HDMI ขนาดเต็มไม่ต้องใช้สายแปลงใดๆ อีก 1 พอร์ต
Lenovo Thailand ไม่ได้ให้อุปกรณ์เสริม Docking Station มาด้วย แต่หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ (ภาพจากเว็บไซต์ Lenovo) ต้องอธิบายกับแฟนพันธุ์แท้ ThinkPad ว่าใน X1 รุ่นหลังๆ เปลี่ยนการ dock จากช่องเสียบด้านล่าง มาเป็นพอร์ตที่ด้านข้างแทน
พอร์ตด้านขวามือ USB-A ให้อีก 1 พอร์ต พร้อมช่องเสียบหูฟังมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร
เท่านั้นยังไม่พอ ถ้าพลิกกลับไปด้านหลังเครื่อง ยังมีช่องใส่ซิมการ์ดและ Micro SD ด้วย (เป็น Micro นะครับไม่ใช่ SD ตัวเต็ม) ต้องใช้เข็มจิ้มออกมาเหมือนกับมือถือรุ่นใหม่ๆ ในยุคนี้
หลายคนอาจสงสัยว่าไม่มีพอร์ตสำหรับเสียบสายชาร์จแบบเฉพาะของ ThinkPad คำตอบก็คือตอนนี้เปลี่ยนเป็นสายชาร์จแบบ USB-C หมดละครับ ข้อดีคือสะดวกกว่าในแง่ยืมสายชาร์จโน้ตบุ๊กรุ่นอื่นมาใช้งานแทนได้ ส่วนใครที่สะสมสายชาร์จ ThinkPad รุุ่นเก่าๆ เอาไว้ก็คงต้องเสียใจด้วย
คุณภาพของจอภาพเป็นประเด็นที่ ThinkPad ถูกวิจารณ์มาโดยตลอด (โดยเฉพาะรุ่นราคาถูกที่นำมาขายในไทย ใช้จอคุณภาพไม่ดีนัก) แต่กรณีของ ThinkPad X1 Carbon รอบนี้ต่างออกไป เพราะมาพร้อมกับจอความละเอียด WQHD (2560×1440) ที่คมชัดขึ้นกว่า Full HD มาก (แต่ยังไม่ถึงระดับ 4K ซึ่งในความเห็นผมแล้วก็ไม่จำเป็นนักสำหรับโน้ตบุ๊กขนาด 14" และจับตลาดธุรกิจ ไม่ใช่กราฟิก)
จุดขายของจอตัวนี้คือความสว่างสูงสุด 500 nits ผมลองเปิดในห้องมืดๆ ครั้งแรกนี่แทบจะตาบอดกันเลยทีเดียว เรียกว่าความสว่างไม่ใช่ปัญหา แถมในการใช้งานจริงต้องปรับระดับความสว่างแค่กลางๆ เท่านั้นก็พอ
จอตัวนี้ยังรองรับการแสดงภาพแบบ HDR Dolby Vision ด้วย (ต้องรออัพเดต Windows 10 ให้ซัพพอร์ตด้วย) เรื่องนี้อาจไม่ใช่ฟีเจอร์เด่นที่ใช้บ่อยนัก แต่มีไว้ก็ดีกว่าไม่มีครับ ถือเป็นของที่แถมมา
ต้องบอกว่า X1 Carbon เป็นโน้ตบุ๊กทรงมาตรฐานแบบคลาสสิค ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการทัชหรือการแปลงเป็นแท็บเล็ต จอภาพจะกางได้มากสุดแค่ 180 องศา ราบไปกับพื้นเท่านั้น ถ้าอยากได้มากกว่านี้ต้องไปใช้ X1 Yoga แทนนะครับ
X1 Carbon มาพร้อมกับคีย์บอร์ดที่เป็นเอกลักษณ์และปุ่มแดง TrackPoint ตามมาตรฐานของ ThinkPad ในแง่การใช้งานคงไม่ต่างจาก ThinkPad รุ่นอื่นมากนัก ตัวทัชแพดเป็นแบบแผ่นเดียวคลิกลงไปได้ทั้งอัน ส่วน TrackPoint มีปุ่มคลิกซ้าย-กลาง-ขวาแยกต่างหากอยู่ถัดจากคีย์บอร์ดลงไป
พีซีรุ่นใหม่ๆ เริ่มมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ยืนยันตัวตนด้วย biometric กันบ้างแล้ว สำหรับ ThinkPad X1 Carbon ตัวนี้มาพร้อมทั้งตัวสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างของทัชแพด และกล้อง IR Camera สำหรับสแกนใบหน้า
คนที่เคยใช้ Windows Hello แบบสแกนหน้าคงรู้ว่ามันดีงามมาก (จนแทบไม่ต้องสแกนนิ้วเลย) การที่ X1 Carbon มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆ แบบนี้ถือเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้เป็นอย่างมาก
ภาพรวมของการใช้งาน X1 Carbon (6th Generation) ถือว่าราบรื่นดีไม่มีปัญหาอะไร คีย์บอร์ดของ ThinkPad ทำงานได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น หน้าจอที่คมชัดและสว่าง พอร์ตเชื่อมต่อครบถ้วนไม่ต้องเสียบอะไรเพิ่ม ประสิทธิภาพของซีพียู Core 8th Gen ที่รองรับงานทั่วๆ ไปได้ไม่มีปัญหา (เล่นเกมก็พอถูไถเพราะจีพียูเป็น Intel HD 620)
กลุ่มผู้ใช้ X1 Carbon คงไม่สนใจเรื่องประสิทธิภาพเป็นตัวเลขมากนัก แต่ไหนๆ รีวิวแล้ว ผมเลยลองวัดเบนช์มาร์คของ PCMark มาไว้ด้วย ได้ 4,656 คะแนน รายละเอียดดูได้ตามลิงก์ เรื่องแบตเตอรี่ไม่ได้วัดผลเบนช์มาร์คมาตรงๆ แต่ก็ยาวนานสำหรับเอาไปทำงานตอนเช้า เอากลับมาตอนเย็นโดยไม่ต้องเอาสายชาร์จไปด้วย
ข้อเสียเดียวของ X1 Carbon ที่นึกออกคงมีแค่เรื่องราคาเท่านั้น ถ้ามีกำลังจ่าย ก็รับรองว่าได้ของดีกลับไปครับ
ข้อดี
ข้อเสีย
Comments
กำลังสนใจรุ่นนี้แต่ดูราคาแล้วยังลำบากใจ ไล่อ่านรีวิวเมืองนอกมาไม่เคยเจอส่งสเปคนี้ให้ลองเลยครับ
จริงๆ ก็สนใจฝาปิดกล้องพอควร แต่รุ่นนี้สแกนลายนิ้วมือไม่ธรรมดาแต่ใช้ match in device ทำให้ช้ากว่าปกติมาก กล้อง IR เลยดูดีขึ้นมาเลย
fingerprint scan ช้ากว่าปกติขนาดไหนครับ
ผมดูมาคลิปนึงแต่หาไม่เจอแล้วครับ คือมันก็ไม่ได้นานมากแต่มันทำเอาสะดุดได้เหมือนกัน น่าจะ 2-3 วินาทีได้นะครับ
มีครับ อยู่ข้างๆ พอร์ต Thunderbolt 3 ครับ แกะพลาสติกครอบพอร์ตออกแล้วเอา dongle RJ-45 เสียบได้เลย ถ้าจะใช้ dock ก็ต้องแกะเหมือนกันครับ ผมใช้ T480 อยู่ครับ บอกได้เลย ชีวิตดีมาก!!
อ่อ พอดีไม่เคยเห็นฝาปิดน่ะครับ
T480 ผมสั่งตัว i7 กับจอ 1440p ที่มี GeForce MX150 มา โดยรวมชอบนะครับ แต่ปัญหาจุกจิกมาก บวกกับติด Power Limit Throttling หนักมากครับ เลยส่งคืนไปแล้ว
โหลด CPU อย่างเดียว boost >3 GHz ตลอด แต่พอมีโหลด GPU สัก 5 นาทีผ่านไป CPU จะคลานเป็นเต่า <1 GHz ค้างรัวๆ เปิดดูใน Intel XTU นี่ Package TDP เหลืออยู่แค่ 3-4W ลอง undervolt ก็ไม่ช่วยอะไร เท่าที่เดาปัญหาน่าจะมาจากภาคจ่ายไฟรับโหลด CPU+GPU พร้อมกันไม่ไหว
ปัญหาอื่นๆที่เจอ
สรุปคือถ้าไม่มีปัญหาจุกจิกพวกนี้ผมก็ชอบมากครับ แต่ด้วยปัญหาทั้งหมดทั้งมวลแล้ว ส่งคืนดีกว่า หนักสุดก็ Power Limit Throttling นี่แหละครับ
แย่แล้วกำลังจะสั่งตัวเดียวกันมา แต่ได้ข่าวว่า Update BIOS แล้วปัญหา Power Limit Throttling หายครับ
ไม่หายหรอกครับ เพราะมัน limit จากอุณหภูมิ ระบบระบายความร้อน class นี้มันรองรับได้ที่ 15W เท่านั้น
notebook พวกนี้ ไม่มีตัวไหนวิ่ง full ได้เกิน 5-10 วิสักตัว ไอที่ว่า Turbo 4GHz เนี่ย กิน 20 กว่าวัตต์นะครับ(ยังไม่นับ GPU) วิ่งได้แปปเดียว แล้วก็มาจมอยู่แถวๆ 2-3GHz
ถ้าหมายถึงอุณหภูมิตัว CPU/GPU สูงจนทำให้ติด thermal throttle นี่ผมว่าปัญหาไม่ได้เกิดจากตรงนั้นครับ เครื่องผมเป็น i7-8550U + MX150 ผมลองเทสโหลดสองแบบผลที่ได้คือ
อันนี้เดาล้วนๆนะครับ คือมันน่าจะเกิดจาก thermal throttling ของภาคจ่ายไฟครับ ที่ไม่สามารถจ่ายพอสำหรับโหลดบน CPU และ MX150 พร้อมๆกัน ผมลองอัพไบออสล่าสุดแล้วก็ไม่มีอะไรดีขึ้นครับ เพิ่งส่งเครื่องคืนไปเมื่อวันที่ 28 พฤษภาฯ นี่เองครับ
ของผมรุ่น 20L6S0CW00 ใช้ได้เดือนกว่าๆ แล้ว ไม่มีปัญหาตามที่คุณว่ามานะครับ อาจจะเป็นเพราะเป็นรุ่นล่างสุดก็ได้ (ล็อตแรกของประเทศไทย) คุณภาพการประกอบแน่นมาก จะติก็เรื่องแรม ให้ 8GB เป็นมาตราฐานเถอะครับ 4GB นี่ไม่ไหวอืดมาก! และฝาหลังปิดแน่นไปหน่อยแกะยากมาก!
Lenovo ซีรี่ส์นี้ ถ้าชาร์จช้าใช้ Power Adapter 80 Watts ของแอปเปิลได้ครับ เพราะเป็น Power Delivery เหมือนกัน ถ้าลืม Power Brick ก็ไปหนักคอกับเพื่อนที่ใช้ MBP 15.4" ได้ หรือถ้าไปต่างประเทศแล้วลืมหรือ PB พัง ต้องใช้ด่วนก็วิ่งเข้าแอปเปิลสโตร์ได้เลย
ของผมรุ่น 20L5CTO1WW แต่ customize ไปหลายอย่างอยู่ ราคาสุดท้าย £1252.43 ครับ (กระเป๋าฉีก)
ตอนนี้ผมเปลี่ยนเป้าไป Dell XPS 15 9570 แทนละครับ แต่ก็ยังติดใจคีย์บอร์ด T480 อยู่ พิมพ์แล้วเลิฟมาก
เท่าที่ไล่อ่านรีวิวตัว X1 Carbon 2018 มา เค้าว่าใช้ 8650 แต่ประสิทธิภาพระดับ 8550 เพราะจำกัดไฟไว้ครับ แต่ผลดีที่ได้คือลากยังไง CPU ก็ไม่ throttle (แต่ถ้าอากาศเมืองไทยนี่ผมก็ไม่รู้นะ แต่ยังไงก็คงดีกว่า Surface 3 ผมที่ถ้าหนักจริง CPU ลงไปวิ่ง 500 MHz ในห้องแอร์)
ส่วนเรื่องแบต X1 Carbon 2018 เคลมมาว่าชาร์จจาก 0-80% ได้ในหนึ่งชม. ครับ
ขัดใจนิดนึ่งที่สเปคระดับนี่แต่การ์ดจอนี่ให้ 640 ก็ไม่ได้ ได้แค่ UHD 620
เค้าอาจจะกะให้ไปต่อ external GPU เอาครับ xD
ทุกวันก็เอา T480 เล่น Overwatch ปรับภาพแบบสูงสุดก็ยังเลื่อนๆ ได้ก็เพราะ external GPU + Thunderbolt 3 ครับ
ร้านบูช๊อบขายอยู่ครับ แต่ถ้าซื้อตัวที่กำลังจะขายหมดแล้วอย่าง gen5 จะได้ i7, win 10 pro, ssd 512, ram 16 รู้สึกหน้ามืดไปนิดหน่อย ไม่ใช่เพราะสับสนอะไรนะครับ มันแพง ผมไม่มีตังซื้อ
ว่าจะคอมเม้นถามพอดีว่า มันมีLaptopใส่ชิมได้ด้วยเหรอ
แปลว่า มันใส่ได้ใช่มั้ย ? ถ้าหากมันใส่ได้ แปลว่าเราจะต่อเน็ตได้ทุกที่ ?
มี WWAN ใส่ Sim card ได้ มี Laptopบ้างมั้ยครับ ? ถามเพระไม่รู้จริงๆ
มีครับ แต่ส่วนใหญ่เป็นพวก Notebook แบบ Enterprise
ของผม Thinkpad x240 มีช่องใส่ซิมและสายสัญญาณมารอให้เรียบร้อย ผมซื้อ WWAN M2 มาใส่ ต่อสายสัญญาณ ใส่ซิม Setup APN นิดหน่อยแล้วก็ใช้ได้เลยครับ เวลาใช้งานไม่ต้องหา USB Aircard มาเสียบให้รก
ขอบคุณครับ :)
ใส่ซิมได้ด้วย น่าจับซิมเทพ 4/4 มาใส่
อยากรู้ว่าเสียงพัดลมดังไหม เวลาเล่นเว็บและทำงานทั่วไป มาๆหยุดๆ หรือมายาวๆ
ไม่ชอบเครื่องที่เปิดอะไรแตะอะไรนิดๆหน่อยๆก็หมุนวื้อๆ (gen 5 มันเป็น อยากรู้ว่า gen 6 แก้หรือยัง)
XPS 13 นี่พัดลมติดไม่บ่อย เวลาติดก็ออกโทนต่ำๆ ไม่รำคาญเท่าไหร่ จะเปลี่ยนก็กลัวเรื่องนี้มากสุด เพราะทำงานในห้องเงียบมาก
Mobile เป็น LTE ไหมครับ
ยิ้มน่ารักอ่ะ
my blog
ตัวนี้กับ Macbook Pro ตัวท็อบแสนหนึ่ง ตัวไหนดีกว่าครับ
ใช้ mac มา 5-6 ปี รู้สึกทุกอย่างมันจืดไปหมดแล้ว
พอจับคอมเครื่องที่ไว้เล่นเกมส์ Steam รู้สึกใจเต้นแปลกๆ
มันมีสิ่งที่แทนกันไม่ได้ เทียบตรงๆ ยาก
ถ้าจะเล่นเกม steam ก็ควรข้าม thinkpad ไปด้วยซ้ำ
ถ้าอยากได้บางเบา เล่นเกม ก็มี Asus Zephyrus ในราคาหนึ่งแสนอยู่
เครื่องที่จะซื้อเอาไว้ทำงานครับ Chrome (40-50 tabs), Photoshop, illustrator, after effects.
แต่ตอนนี้พอใช้ Windows 10 ที่ไว้เล่นเกมส์ มันให้ความรู้สึกดีกว่า macOS แบบบอกไม่ถูก ฮ่า ๆ
ถ้าพอให้มีเล่นขำๆ ก็โน้ตบุคฝั่งวินโดวส์แหละครับ
รุ่นสูงๆ ทั้งดีไซน์ ทั้งฟีลลิ่งการใช้งานก็ดีมากๆๆ ครับ ไม่แพ้แมคบุคเลย
ผมก็เป็นคนนึงที่รู้สึกว่า มันแทนกันไม่ได้ dev ยังงัยก็ต้องแมคบุค
ส่วนเกมส์ อารมมันต้องวินโดว์ surface book รุ่นมีการ์ดจอพอจะเล่นเกมส์ได้ แต่ร้อนมาก ถ้าตัดปัญหา ก็ PC ไปเลย
เห็นราคาแล้วเสียวเลย
ปกป้อง | เฟสบุ๊ก | ทวิตเตอร์
ราคา ขนาดนี้ ถ้าไม่ไช่แฟนดพันแท้ ไป surfacebook เหอะ มีรุ่นมีการ์ดจอด้วย
ราคาต่างกันเยอะมากนะครับ รุ่นแรม 16 นี่ต่างกันสองสามหมื่นเลยนะ
เจอราคานี้ขอผ่านครับ
น่ารัก
Mi notebook pro น่าจะดีกว่า
ถ้ามันทนแบบสมัย R61 (ตอนเข้ามาเป็นเลอโนโวใหม่ๆ) ผมกล้าซื้อนะ เครื่องนึงอยู่ได้อย่างน้อย 5 ปี หารแล้วจ่ายปีละหมื่นหน่อยๆ เอง
แต่ช่วงหลังโดนด่าเรื่องความทนทานเยอะเหลือเกิน ไม่กล้าละครับ
ใช้ Gen 4 อยู่ ยังไม่รู้สึกอยากเปลี่ยน (ด้วยราคาซื้อที่แพงมาก กะใช้ 4-5 ปี) รอ Gen 8 มาค่อยตัดสินใจอีกที
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
ช่องเสียบหูฟังนี่ย้ายไปไว้ด้านซ้ายได้มั้ย เพราะนานๆ ทีจะเจอหูฟังที่เอาสายไว้ด้านขวา แถมตำแหน่งที่วางก็ไปเกะกะเมาส์อีก
คาใจพวกเอาหูฟังไว้ขวาเหมือนกันครับ ยังดีที่ผมแทบไม่ใช้เมาส์เวลาใช้ laptop เลยไม่ห่วงเรื่องเป่าลมร้อนอัดมืออีกอย่าง
ผมซื้อเครื่องใหม่แล้วครับ X280 ครับ 12 ช.ม. พังฮะ ชาร์ต Batt, ต่อ mouse Bluetooth, Shutdown นอนครับ ตื่นมา Boot ไม่ขึ้นครับ เอาไปที่ร้าน รื้อฝาหลังมา ถอด batt ออก แล้วประกอบกลับลงไปใหม่ Boot ติด กลับบ้าน ลง Office, Shutdown นอนครับ ตื่นมา Boot ไม่ขึ้นครับ ประทับใจมากครับ กำลังให้ทางร้าน BS ทำเรื่องเคลม Lenovo Thailand อยู่นะครับ
ไม่มีเปลี่ยนตัวใหม่ทันทีภายใน 7 วันเหรอครับ?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
กำลังทำเรื่องเปลี่ยนเครื่องอยู่ครับ คือผ่านร้าน BS ก็จริง แต่ตัวเครื่องที่ผมซื้อ (i7, 8GB/512GB, Win10pro จอ 720p) น่าจะนำเข้าโดย Lenovo Thailand หน่ะคับ แล้ว case นี้ทดสอบยากครับ เพราะคงไม่มีที่ใหน test shutdown ข้ามคืนแล้วลองเปิดว่ามันติดหรือเปล่าอะนะครับ ทางร้านก็ Support ดีมากครับ ไม่ได้มีปํญหาอะไรครับ
ได้เครื่องใหม่มาแล้วครับ ปัญหาเครื่องที่เจ๊งไปคือ จริงๆเครื่องไม่ได้ กดแล้วมันไม่เปิดนะครับ เปิดติดแต่จอไม่ติดครับ ที่รู้เพราะผมต่อจอนอกแล้วดึง hdmi ออกมันมีเสียงดังตึ๊ง ผมเลยลองเสียบ usb ดูมันก็ดังตึ๊ง แต่จอไม่ติดครับดับสนิทเลย โอเคเปลี่ยน ได้อีกเครื่องมา คราวนี้ ok แล้วครับ
.
pro
คล้าย X1 ตัวเครื่องหนาพอๆ กัน เบาเหมือนกัน port ต่อเชื่อมมีเท่าๆ กัน แต่ตัวเครื่องเล็กกว่า ที่เสียบหูฟังอยู่ด้านซ้าย
.
con
เพิ่ม ram ไม่ได้ ลดก็ไม่ได้ เปลี่ยนก็ไม่ได้
ราคาแพงสะดุ้งเหมือน X1 แต่ลด spec ลงราคาเลยดูเหมือนถูกกว่า เช่น ได้จอไม่สว่าง ไม่ใช่จอที่ calibrate ค่าสีมาแล้ว ต้องตั้งเอง เครื่องตัวที่ซื้อมา i7-8550U, Ram 8 GB, SSD SS MZVLB512HAJQ (981 3D วิ่ง R:3000 W:1800) Sound Realtek HD (อุ๊ยโหยว) แล้วก็ Lan I219V กับ WiFi AC8265 มี slot Micro SD
+ Micro Sim แบบเอา คลิ๊บหนีบกระดาษแทง แต่เครื่องผมไม่มี module 4G
สรุปคือ เหมือนตอนที่ผมซื้อ X240 ไอ้ notebook บางๆ ก๊องแก๊งๆ usb port ด้านซ้ายมือ พังเองตั้งแต่ปีแรก มันจะไปรอดหรือฟะ ? ทำไปทำมา 4 ปีมันก็ยังใช้งานได้ดี กรอบแตกนิดหน่อย ก็ถือว่าใช้ได้ แต่ตัวใหม่ของปีนี้ ยอมรับว่าราคาแพงจริงๆ
ถอยมาแล้ว 1 เครื่อง จอโอเค คีย์บอร์ดพอใช้ได้แต่เมื่อเทียบกับ X220 แล้วถือว่าทำได้ไม่ดีนัก ความรู้สึกเวลากดปุ่มมันไม่แน่นแต่ก็เด้งสู้นิ้วดี เวลากางจอ 180 องศา ขอบจอด้านล่างจะถูกับพื้นเป็นรอย
และ..จะเคลือบผิวด้วยยางกันลื่นทำไม เป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก และเคลือบผิวแบบนี้ใช้ไปไม่นานก็จะลอกน่าเกลียด อยากได้ผิวพลาสติก ABS เหมือนรุ่นอดีตมากกว่า