By: ตะโร่งโต้ง 
on 5 July 2018 - 02:53
Tags:
Topics:
Xiaomi เปิดตัว "MiniJ" เครื่องซักผ้าขนาดเล็กติดตั้งบนฝาผนัง ตั้งโปรแกรมการซักได้จากสมาร์ทโฟน เน้นการใช้งานซักเสื้อผ้าที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
MiniJ เป็นเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าขนาดเล็ก ตัวเครื่องออกแบบมาในรูปทรงแบบหยดน้ำกลับหัว ติดตั้งใช้งานโดยยึดเข้ากับฝาผนัง สามารถใช้งานซักผ้าได้น้ำหนักรวม 3 กิโลกรัม ตัวฝาหน้าถูกปิดทับด้วยกระจกนิรภัยแบบตัดแสงสะท้อนและมีจอ LED แบบสัมผัสฝังในตัว ผู้ใช้สามารถเลือกตั้งโปรแกรมการซักได้จากหน้าจอสัมผัสส่วนฝาหน้าของเครื่อง หรือจะตั้งค่าการใช้งานจากแอพในสมาร์ทโฟนก็ได้
ถังซักภายในของ MiniJ ขับเคลื่อนด้วยเพลาต่อตรงกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ปรับความเร็วรอบได้ ตัวเครื่องมีระบบวัดปริมาณน้ำและพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ไปกับการซักซึ่งสามารถแสดงค่าได้ทั้งบนหน้าจอที่อยู่ส่วนฝาหน้าของเครื่อง และผ่านแอพบนสมาร์ทโฟน
ขนาดตัวเครื่อง MiniJ นั้นมีความกว้าง 57.5 เซนติเมตร และสูง 67 เซนติเมตร ต้องการพื้นที่บนฝาผนังกว้างไม่น้อยกว่า 90 เซนติเมตร และความสูงไม่น้อยกว่า 110 เซนติเมตร สามารถต่อสายไฟและท่อน้ำแบบฝังผนังมาเข้าทางด้านหลังเครื่องได้ ทำให้การติดตั้งใช้งานดูสวยงามคล้ายของตกแต่งบ้านในตัว
Xiaomi นำเสนอว่า MiniJ ออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสำหรับการซักเครื่องนุ่งห่มที่บอบบาง เช่น ผ้าอ้อมเด็ก หรือชุดชั้นใน แต่แน่นอนผู้ใช้สามารถเลือกซักเสื้อผ้าประเภทอื่นได้ตราบเท่าที่ไม่เกินที่เครื่องจะปั่นไหว รวมแล้วตั้งค่าการทำงานได้ 8 โหมด โดยมีโหมดน้ำร้อนสำหรับการซักที่ต้องการความสะอาดเป็นพิเศษ เช่นเสื้อผ้าเด็กอ่อน สามารถใช้งานกับน้ำอุณหภูมิสูง 95 องศาเซลเซียส ซึ่ง Xiaomi อ้างว่าสามารถฆ่าเชื้่อแบคทีเรียได้ 99.99%
Xiaomi เริ่มขายเครื่องซักผ้า MiniJ แล้วในราคาเครื่อง 2,499 หยวน โดยเปิดให้ลูกค้าในจีนสั่งซื้อผ่านทาง Xiaomi Youpin ร้านค้าออนไลน์ของ Xiaomi เองได้แล้วตั้งแต่ตอนนี้
ที่มา - Abacus, Gizmochina
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
2,499 Chinese Yuan equals
12,497.87 Thai Baht
นับว่าแพงแต่ไม่คุ้มจริงๆ
ถ้าคิดว่าแพงมันก็ไม่คุ้มอยู่แล้วล่ะครับ ก็นะราคาเท่าเครื่องใหญ่แต่อันนิดเดียว ซักสะอาดไหมก็ไม่รู้ แต่ผมว่ามันก็ตอบโจทย์พวกคอนโดเล็กๆนะครับที่ไม่มีที่วางเครื่อง
3 โล นี่ กางเกงยีนส์ก็ซักไม่ได้แล้วครับ
กางเกงตัวนึงไม่น่าถึง 3 โลนะที่จริง
May the Force Close be with you. || @nuttyi
เครื่องฝาหน้าบอกน้ำหนักนี่จะรวมน้ำหนักของน้ำด้วยนะครับ
ผมจำได้ว่าปกติจะเป็นน้ำหนักของผ้าแห้งนะครับ (เห็นอยู่ในคู่มือ แต่จำรายละเอียดไม่ได้ละ)
ซึ่งถ้านับตามผ้าแห้งจริง ยีนส์ตัวนึงปกติ 0.5-1kg แหละครับ
แต่ก็นั่นสิครับ ถ้ารวมน้ำหนักน้ำนี่น่าจะซักอะไรไม่ได้แล้วผมคงจำผิด 555
จะว่าไปเครื่องฝาหน้า 8 KG ผมยังซักผ้านวมที่คลุมเตียง 6 ฟุตอยู่เลย ถ้ารวมน้ำหนักน้ำด้วยนี่ยังไงก็คงรับไม่ไหว - -"
ไม่ใช่นะครับ ปกติเซลจะเป่าหูคนซื้อว่า เครื่องซักผ้าฝาหน้าจะเป็นน้ำหนักของผ้าแห้ง แต่ฝาบนจะเป็นน้ำหนักรวมน้ำ เพราะฝาหน้ามันแพงกว่า ซักผ้าได้น้อยกว่ากลัวขายไม่ออก
แต่ในความเป็นจริง ทั้งฝาหน้าและฝาบนจะเป็นการนับน้ำหนักของผ้าแห้งครับ
ป.ล. ฝาบนใช้น้ำครั้งนึงเป็น 100 ลิตร น้ำหนักลิตรละประมาณ 1 กิโล ถ้ารวมน้ำนี่ไม่ต้องซักอะไรละครับ 555 ส่วนฝาหน้าครั้งนึงใช้น้ำประมาณ 20-30 ลิตร
นอกจากมั่วแล้วผมยังจำสลับมาด้วยเหรอครับเนี่ย 555
เครื่องผมฝาหน้า (9 กก. แฮะไม่ใช่ 8 ผมจำผิดครับ - -") โหมดผ้าฝ้าย 9 กก. (ที่ใช้ทั่วไป) ใช้น้ำ 94 ลิตรครับ
ใช้น้อยที่สุด (ไม่นับโหมด 15 นาที) คือโหมดผ้าใยสังเคราะห์ 4.5 กก. ก็ยังใช้น้ำ 55 ลิตรเลยครับ ส่วนถ้าใช้โหมดลดสารก่อภูมิแพ้นี่เล่นไป 140 ลิตรเลยแถมยังใช้ไฟฟ้าเยอะกว่าโหมดผ้าฝ้ายไปอีกสามเท่า ?
แต่นี่คือน้ำทั้งโปรแกรมนะครับไม่ใช่ซักต่อถัง ถ้านับต่อถังอันนั้นก็น้อยกว่าฝาบนมากโขอยู่
เยอะเหมือนกันนะเนี่ย แต่ผ้าผมขนาดยัดผ้าจนเต็มถังลองชั่งน้ำหนักดูยังได้แค่ 4-5kg เอง น้ำนี่ใช้ minimum ตลอด
มีโหมดผ้าฝ้ายแบบประหยัด ปั่นนานขึ้นราวชั่วโมงนึงใช้ไฟเพิ่มขึ้นนิดเดียวแต่น้ำลงมาเหลือ 6x ลิตรครับก็โอเคอยู่ แล้วคือปกติก็ไม่ได้ใส่ผ้าเยอะมันก็ไม่ได้ใช้น้ำเต็มที่ด้วย อยู่คนเดียวเสื้อผ้าคนเดียวซักสัปดาห์ละสองครั้งงี้ - -"
ปั่นนานไม่ใช่ปัญหาด้วยครับ เอาผ้าใส่แล้วตั้งเวลาไว้ตั้งแต่กลางคืน ตื่นมากินข้าวเช้าซักเสร็จช่วงประมาณนั้นพอดี ?
ลองอ่านดูนะครับ ว่าน้ำหนักผ้าแห้งจริง แต่เค้าไม่ได้คำนึง water pick up capacity ของผ้าครับ ซึ่ง ยีนส์มันเยอะมาก
เครื่องซักผ้าผม 14 กก ซักได้สูงสุด 6 ตัวเองครับ มากกว่านี้คราบติด
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1946494855388939&id=506996079338831
ถ้าจะซักกางแกง ก็ไม่ควรซื้อตั้งแต่แรกแล้ว
การอยู่เป็นบ้าน ครอบครัวหลายคน
บางทีมันจะมีความต้องการซัก ของเล็กๆน้อยๆ เช่น
ผ้าเช็ดจานเช็ดแก้ว ผ้าเช็ดหน้า ผ้าอ้อม
ซึ่งจะให้เปิดเครื่องใหญ่ ซักทีเดียว มันก็เปลืองไฟ เปลืองน้ำ และช้า ไม่สะดวก
ผมว่า มันตอบโจทย์คนกลุ่มนึงได้ดีทีเดียว
แค่อย่าคาดหวัง ว่ามันจะไปซักกางเกงยีน
เหมาะกับ ซํก ผ้าอ้อมเด็ก หรือชุดชั้นใน แต่ราคาสู้เครื่องซักขนาด 8-9 โลได้เลย
8 โลก็มี เพิ่ม 100Yuan(500)
อ่าน ค.ห. ด้านบนแล้วมีความรู้สึกเหมือนอ่าน กระทู้ eco car สมัยก่อน
จะวิ่งไหวเหลอ ?
ขนของไม่ได้ นั่งลำบาก จะซื้อไปทำไม
ราคานี้ซื้อ กระบะตัวต่ำสุดเกียรธรรมไม่ดีกว่าเหลอ ขนของได้ด้วย
สุดท้าย eco car ก็เจอตลาด ก็ขายออก ก็วิ่งเต็มบ้านเต็มเมืองอ่ะนะครับ แต่เครื่องซักผ้า spec นี้ ต้องรอดูกัน ขายตามคอนโดอาจจะ work ก็ได้ อาบน้ำก็ซัก กกน. เลย แล้วก็ตากไม่ต้องหมักไว้ 3 วัน 5 วันแล้วซักทีเดียว
เทียบ Eco Car กับ กระบะก็ผิดแล้วละครับ ฮ่าๆ
Eco car เทียบกับ เก๋งปกติใหญ่ขึ้นมาหน่อย จริง มันต่างราคากันอยู่แล้ว
ส่วนกรณีนี้นี่ต่างกันที่ capcity ที่ราคาเท่ากัน มันก็เป็นตัวเลือกที่ต้องคิดหน่อย จ่ายเท่ากันแต่ใช้งานได้น้อยกว่า แต่ก็มี feature ทดแทนบ้าง
เครื่องซักผ้าที่กินพื้นที่น้อยๆ มีอยู่ในตลาดแล้วนะครับ ตัวนี้อาจจะแตกต่างออกมาหน่อยตรงสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟนกับการจัดวาง(ส่วนตัวมองว่าวางยากกว่าแบบทั่วไปอีก) ปัญหาที่คนส่วนใหญ่เจอมันจะเป็นเรื่องขนาดของเครื่องมีผลโดยตรงกับความสะอาดและข้อจำกัดในการซัก ซึ่งผมคิดว่าต่อให้มันล้ำขนาดไหนก็ไม่น่าแก้ปัญหาตรงนี้ได้
ตามความจริง ระดับ 3.5 กก. ทั้งโลกมีแต่ยี่ห้อประหลาด ใช้แป๊บ ๆ ก็พัง
แต่มีแล้วคุณภาพชีวิตดีนะครับ ตอนเย็นอาบน้าก็โยน กกน. ของวันนี้ลงไป ซัก ตาก จบ สบาย
หรือ บางบ้าน ที่ซื้อสองเครื่องมาซักแยก เสื้อกับกางเกง แยกตู้ ก็ซื้อไอ้นี่ไปอีกตัว
ซักชั้นในล้วนๆไปเลย
แต่ญี่ปุ่น-ฝรั่ง ไม่เล่นตลาดนี้ไงครับ ไปซัดกันที่รุ่นโบราณ ปั่นแรงๆ ถังคู่ 8-10 กก ถูกๆ แล้วก็
ฝาบน กับ ฝาหน้า ตัวประมาณ 15,000 พอเจอแบบ 3 กิโล ใช้ซัก กกน. 10,000 บาท ช๊อกราคา
เคยเห็นของเกาหลี (ใต้) เกือบหน้ามืดสั่งมาละ แต่ก็ฉุกคิดได้ว่า "เออ รวมๆ ไว้ซักทีเดียวก็ได้".
ยี่ห้อ L* สินะครับ ราคาก็ใช่ย่อย 1.4/ 1.7 หมื่นนี่หละ
คนขายเชียร์ยิกๆๆๆ
ของใหม่ๆออกมาก็แพงแหละ ถ้าติดตลาดก็คงจะซื้อได้ทั่วไป
ผ้าอ้อมเด็กนี่ตัวโหดเลย ทั้งต้องต้มให้ร้อน(ไม่งั้นอุนจิไม่ละลายออกจากเนื้อผ้า) ทั้งใช้เวลานาน เมนูซักผ้าเด็กนี่ใช้เวลาซักนานที่สุดแล้ว
นี่เค้าไม่รู้จริงๆ หรอ ว่าปัญหาของการซักผ้า อยู่ที่การเอาผ้าไปลงถัง กับการเอาออกมาตาก
เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า การเอาผ้าลงถัง กับการเอาออกมาตาก ไม่ยากนะครับ และไม่ต้องยกสูงด้วย (กรณีแขวนก็กำหนดความสูงเองได้)
ฝาหน้ามักจะสะอาด ถนอมผ้า และประหยัดน้ำกว่า แต่ เครื่องแพง ปั่นไม่ค่อยแห้ง และ ต้องระวังผงซ้กฟอกบางอย่างกัดยางกันน้ำ ประเทศที่ค่าน้ำสูง หรือคนบางกลุ่มที่ใส่เสื้อผ้าราคาแพงจะนิยมกัน
... เคสนี้น่าจะเน็นลูกค้าคนจีนที่อยู่ในย่านที่ดินราคาแพง เพราะห้องมีขนาดเล็ก พอแขวนแล้วไม่กินที่มากกว่า
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ยอมรับว่าเครื่องแพง แต่ปั่นไม่ค่อยแห้งนี่น่าจะอยู่ที่รุ่นนะครับ
เป็นข้อจำกัดที่เกิดจากถังซักแนวนอนด้วยครับ ที่บ้านสั่งปั่นความเร็ว 1400 rpm เครื่องสั่นยังกับผีเข้า เลยใช้แค่ 1000 เดียว มันก็แห้งพอตากได้ แต่ไม่แห้งเท่าพวกฝาบน
ลองปรับขาดูครับ ถ้า balance เป้ะมันจะสั่นน้อยมากครับ
เครื่องผมปั่น 1,400 RPM ได้และใช้เป็นปกติเลยครับ เสียงไม่ดัง ไม่กระเทือนเท่าไหร่ด้วยได้เกือบราวๆ ในคลิปนี้เลยครับ แต่มีโอกาสเสียงดังบ้างถ้าผ้ามันเรียงไม่ดีซึ่งมันก็จะรีบหยุดแล้วค่อยๆ เร่งขึ้นไปใหม่ (โดยหวังว่าผ้าจะเรียงสมดุลย์แล้ว) ซึ่งอาการนี้เครื่องฝาบนเองก็มีโอกาสเกิดอยู่เหมือนกัน
ปรกติถ้าผมจำไม่ผิดฝาบนมันไม่มีปั๊มเอาน้ำออกมีแต่น้ำเข้า เปิดประตูน้ำปุ๊ด
น้ไหลกราวิตี้ออกไป พอปั่นน้ำไหลออกทะลุถังซัก
ไปชนตัวกรอบนอกตัวถังแล้วไหลลงท่อน้ำทิ้ง
ส่วนพวกฝาหน้าจะมีปั๊มคอยช่วงสูบน้ำออก อาาจะเนื่องด้วยข้อจำกัดการดีไซน์
ปัจจุบันที่จะต่อระบบท่อได้แค่นี้
ส่วนเรื่องปั่นแห้งไม่แห้งประเทศที่มีอณหภูมิเฉลี่ย 30+ ผมไม่ซีเรียสนะ
ขอให้มันเอาออกมาไม่หยดพอหละ
อุณหภูมิ 30+ แต่ชื้นนี่สิ บางช่วงฝนตกทุกวัน แถมหลายๆครั้งต้องซักตากกลางคืนด้วย T T
คห. นี้ เค้าหมายถึงปัญหาของการซักผ้า คือความขี้เกียจครับ 555
WE ARE THE 99%
นี่ไง คนที่เข้าใจจริงๆ เห็นมะ คนเป็นเดฟ ส่วนใหญ่มักจะคิดเยอะเกินไป
ปัญหาของการซักผ้า คือ การนำผ้าในตะกร้า เข้าถังซักผ้า กับการเอามันออกไปแล้วตาก นั่นแหละคือปัญหาที่แท้ทรู
สิ่งที่ต้องการจริงๆ คือ เครื่องซักผ้าที่มีระบบตากอัตโนมัติ กับ ถังที่รับค่าน้ำหนักจากตะกร้าผ้าที่เราใส่แล้ว เมื่อถึงน้ำหนักที่เหมาะสม เครื่องซักผ้าจะนำตะกร้าผ้าลงถังอัตโนมัติ แล้วก็เมื่อเสร็จ ก็จะตากอัตโนมัติ
นี่แหละ คือ นวัตกรรม ที่แท้ทรู ล็อตเลิต อะไรไร้สาระ
ถถถถถถ จริงด้วย ผมไม่ใช่เดฟผมก็คิดแค่นี้อ่ะ นวัตกรรมมันคือสิ่งที่ช่วยเรื่องขี้เกียจๆของคนเรานี่แหละ
น่าสน ไม่รู้ว่ามีปั่นหมาดในตัวมั้ย กลัวซักไปๆมาๆแล้วหลุดออกจาผนังจัง
รุ่นที่แล้วมีนะ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผมอยากได้นะ ไว้ซักพวกกางเกงในหรือถุงเท้าแยก ราคามันแพงหน่อยแต่คิดว่าซื้อครั้งเดียวใช้อย่างต่ำ 5-10 ปี
เหมาะกับซักวันต่อวันเท่านั้นเลย ไม่ก็ใช้ซักแค่ผ้าอ้อมลูก
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ไม่เหมาะเครื่องซักผ้ามีมานานแล้ว ถ้ามีรุ่น 3 โล แล้วติดตลาด มันคงมีมานานแล้ว
ผมซื้อรุ่น 10 โลขึ้น ถ้าใครใช้เครื่องซักผ้ารุ่นต่ำกว่า 8 โล แล้วจะรู้ว่าเครื่องพวกนี้ทำอะไรไม่ได้บ้าง ซักผ้านวมได้ไหม
ปั่นผ้าที จะสั่นทั้งห้องมั้ย
พ่อบ้านเพียบ
ไม่คิดว่าเมนต์แรกของผม จะมีคนต่อกันเยอะขนาดนี้ !!!
มันอาจจะออกแบบมาสำหรับประเทศที่มีพื้นที่จำกัดจริงๆ อย่างเช่นฮ่องกงก็เป็นได้
บางคนก็ไม่ได้มีที่อยู่กว้างขวาง แต่อยากซักผ้าอะไรนิดหน่อย แบบนี้
สำหรับคนไทยที่พื้นที่มันมีเยอะมากอยู่แล้ว ยังไงแบบถังใหญ่ก็ได้เปรียบกว่า
รอจีนก๊อป
จีนก็อปจีนอีกหรอครับ
ใช่ครับ
ออกแบบสวยถ้าคนซื้อเพราะดีไซน์จริงๆ คงต้องยอม