Elon Musk ซีอีโอ SpaceX, The Boring Company และ Tesla ประกาศผ่านทางบัญชี Twitter ของเขาว่าทีมวิศวกรของบริษัท SpaceX และ Boring Company กำลังเดินทางมายังประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาทางช่วยเหลือโค้ชและนักฟุตบอลทีมหมูป่า ซึ่งติดอยู่ในถ้ำหลวง และตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการลำเลียงผู้ประสบเหตุออกจากถ้ำ
ในทวีตนี้เริ่มต้นจากคุณ @MabzMagz ได้ทวีตสอบถามว่าตัว Musk สามารถช่วยเหลือเรื่องนี้ได้หรือไม่ ซึ่งตอนแรกเขาบอกว่ายินดีช่วย แต่คิดว่ารัฐบาลก็น่าจะจัดการเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว แต่การสนทนาก็ยังดำเนินต่อ เนื่องจากเชื่อว่า The Boring Company เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการขุดเจาะ ซึ่งอาจใช้สำหรับสถานการณ์นี้ได้
ในวันนี้คุณ @MabzMagz ได้บอก Musk ถึงเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่อดีตหน่วยซีลได้เสียชีวิตในถ้ำหลวงวันนี้ ทำให้เกิดการสนทนาต่อว่าอุปกรณ์ของ The Boring Company และ SpaceX น่าจะสามารถช่วยเรื่องนี้ ซึ่ง Musk ก็ได้ให้ความเห็นทางเทคนิคหลายอย่าง เช่น อาจนำท่อลมไนลอนเข้าไปในถ้ำ แล้วสูบลมเข้าไปให้พองเหมือนสร้างบ้านลมของเล่น และก็สรุปว่าวิศวกรของบริษัทกำลังเดินทางมาประเทศไทย
โฆษกของ Elon Musk ยืนยันว่าทีมงานกำลังติดต่อกับทางการไทยในเรื่องนี้
ที่มา: บีบีซี
SpaceX & Boring Co engineers headed to Thailand tomorrow to see if we can be helpful to govt. There are probably many complexities that are hard to appreciate without being there in person.
— Elon Musk (@elonmusk) July 6, 2018
Comments
กำลังจินาการว่าเดี๋ยวเอาเครื่องเจาะภูเขา และส่ง Teala Roadster เข้าไปรับหรือขุดเพื่อส่ง spaceX เข้าไปแล้วเจาะขึ้นแนวดิ่ง
ชอบชื่อบริษัทที่ Elon Musk เป็น CEO ทุกบริษัทเลย ทั้ง Tesla, SpaceX และ The Boring Company
สร้า >> สร้าง
สูบ ลม เปล่าครับ
ตอนอ่านทีแรกผมก็จินตนาการไปว่า ใส่น้ำไปแล้วดำน้ำในนั้นจะง่ายกว่าเพราะน้ำใส และมีเรื่องความดันมาเกี่ยวข้อง (มโนเอานะ ไม่ได้มีความรู้)
ผมมองว่าไม่น่าจะทำได้ ถ้าในเส้นทางมีน้ำไหลตลอดเวลา ทางกว้าง 1 เมตร ปกติมีน้ำไหล 75 ซม. ถ้าเอาท่อ 50 ซม. ไปขวางทางน้ำ คิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น ปริมาตรน้ำอีก 25 ซม. ไม่มีทางไหลออก แรงดันจะเพิ่มทันที ปริมาณน้ำจะสูงขึ้น อันตรายก็จะเพิ่มขึ้น ในกรณีที่อั้นไม่ไหว ทะลักทีนี้มิดเลย
ก็น่าคิดแต่ผมว่าท่อพองตัวเสร็จก็เดินมุดไปเลย น้ำจะล้นก็ช่างงี้หรือเปล่า
เท่าที่อ่านดู เขาจะสูบลมครับ
คือ เดินก็มุดท่อเอาไม่ต้องดำน้ำ
ครับ ต้นฉบับ write เขียนสูบน้ำ เลยงงเลยครับ
ผมคิดว่าปลายท่อมันเปิดปิดได้ ก็ดำไปไว้อีกฝั่งแล้วค่อยเปิดปลายท่อสูบลมจากข้างนอกเข้าไปตามท่อ
คนโม้ 2018
หลังๆ ความน่าเชื่อถือหายไปเยอะ
ยังดีกว่าคนในทีวีวันศุกร์ครับ
โม้ยังไงครับ ช่วยอธิบายหน่อย
ผมว่าไม่โม้นะ เขาสร้าง Tesla จนกลายเป็นบริษัทใหญ่โต ผลิตรถไฟฟ้าที่ใช้งานได้จริง ขายดิบขายดีจนกลายเป็นผู้นำตลาดด้านนี้ ถึงขนาดยักษ์ใหญ่สั่นคลอน และเป็นผู้นำด้าน self driving car ด้วย (แม้ของ tesla จะเป็นแค่ level 2 แต่ผมยกให้เป็นผู้นำในฐานะที่ทำตลาดเชิงพาณิชย์ให้คนทั่วไปใช้งานได้จริงเป็นเจ้าแรก) ผมถือว่าแกก็พอตัวแหละไม่ธรรมดาแล้ว แต่ที่มีปัญหาผมว่ามันเป็นที่ประสบการณ์ด้วย Tesla ไม่ใช่บริษัทที่ผลิตรถมายาวนานเหมือนยี่ห้อเก่าๆ มันก็ต้องเรียนรู้กันอีกเยอะ ผมถือว่าไม่โม้นะเพราะเขาทำผลิตภัณฑ์ออกมาได้จริง ขายจริง (ไม่เหมือนพวกยักษ์ใหญ่ ทำรถต้นแบบ Fuel cell ขายฝันเป็นสิบปีแล้วยังไม่ขายจริงซักคัน) แต่ที่ดูเหมือนโม้เพราะ elon ทำไม่ได้อย่างที่ว่าเนื่องจากประเมินสถานการณ์การผลิตผิดพลาด ก็เพราะเรื่องประสบการณ์นั่นแหละ ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ก็น่าจะอยู่ยาว แต่ถ้าไม่ก็คงจะแย่เหมือนก้น
ที่ไม่โม้อีกอย่างคือ SpaceX อันนี้ก็ต้องยอมรับว่าของจริงจริงๆ โดยเฉพาะระบบลงจอดอัตโนมัติของส่วนตัวจรวด อันนี้นวัตกรรมเปลี่ยนโลกเลยนะเพราะทำให้ค่าใช้จ่ายส่งจรวดถูกขึ้นมาก พัฒนาไปเรื่อยๆ การเดินทางไปอวกาศคงไม่ใช้เรื่องเกินเอื้อมอีก แม้แต่ตอนนี้ NASA ยังเปิดทางให้เอกชนอย่าง SpaceX มาวิจัยเรื่องการเดินทางอวกาศนี่ผมก็ว่าไม่ธรรมดาแล้ว
ส่วน Hyperloop อันนี้คงต้องดูกันไปก่อน อยากให้มันใช้งานเชิงพาณิชย์ได้จริงๆ ซักทีจะได้เลิกโดนด่าว่าโม้ซักที
นั่นล่ะครับ ส่วนตัวผมมองว่า elon musk ไม่ใช่คนธรรมดานะ แกมาเปลี่ยนโลกจริงๆ เพียงแต่หลายอย่างอย่างผลิตรถยนต์มันต้องมี know how มีประสบการณ์ยาวนาน ใหม่ๆ แบบนี้มันก็ต้องมีพลาดมีเรียนรู้บ้างปหละ แต่เป็นบริษัทรถยนต์หน้าใหม่ที่ทำให้ยักษ์เก่าสะเทือนได้ผมว่าก็เจ๋งมากแล้ว
คนโมั คือพวกขายฝันไปวันๆ แต่ไม่มีอะไรเชิงประจักษ์ที่ใช้ได้จริงออกมา แต่ elon musk นี่ทำจริง ใช้งานได้จริง ขายจริง เพียงแต่ยังต้องอาศัยประสบการณ์เรียนรู้กันไป
ธรรมดาครับ
อุปสรรคสำคัญหนึ่งของคนเก่งคือ คนหมั่นไส้ครับ
คนส่วนใหญ่ ไม่มีแม้ประสบการณ์จะโม้ ก็ย่อมหมั่นไส้เป็นธรรมดา
เพิ่มคุณค่าตนเองไม่ได้ ลดคุณค่าคนอื่นได้ในใจก็ยังดี เป็นการเยียวยาความรู้สึกไร้ค่าของตนเองครับ
ผมว่าโม้นะ จะผลิตรถให้ได้เท่านู้นเท่านี้ ที่ทำไม่ได้
แล้วเอาจริงๆ ไม่เห็นจะมียักษ์ไหนสั่นคลอนเลย บริษัทจีนทำรถไฟฟ้าวิ่งเกลื่อนกลาด เพียงแต่ไม่ได้รับการ hype เท่า
พวกเรื่องต้นทุนตัวเลขก็อย่าเชื่อมาก อย่างปล่อยจรวดก็กดราคา ใช้ซ้ำลดต้นทุนจริง แต่ไม่ได้เยอะเท่าที่ถูกทำให้เหมือน และเอกชนในอวกาศมันมีหลายเจ้า สเปซเอ็กซ์'เป็นหนึ่งในนั้น ไม่ได้ขนาดมาเท่ โดดๆ
ส่วนไฮเปอร์ลูปมันยากในการทำจริง เพราะทำไปทำมาอาจจะแพงกว่าเครื่องบิน เป็นคอนเซ็ปต์ที่เก่ามากแล้ว แต่ก็ยังติดปัญหา เช่นการรักษาสูญญากาศ เป็นต้น ประมาณว่ายังมี unobtainium นั่นเอง
ถามว่าอีลอนเก่งมั้ย ก็เก่ง แต่คนก็อวยยังกับเทพเจ้า เห็นแต่ด้านดี ด้านเสีย ไม่เห็น จนบางทีคนอื่นรำคาญ เหมือนรำคาญติ่งจอบส์ ไรต่างๆ
ที่หนักกว่าคือ ชอบพล่ามอะไรบนทวิตเตอร์คล้ายๆ ทรัมป์ อาการแบบอะไรไม่อยากตอบก็ไม่ตอบต่อให้ควรจะตอบ เอาใจแฟนคลับอย่างเดียว
ครับ
ถ้าให้พูดว่ายักษ์ใหญ่เจ้าไหนสั่นคลอน ผมบอกได้เลยว่าบริษัทนั้นคือ Toyota ครับ ไม่ได้ไกลตัวเราเลย
ผมเชื่อนะว่ายุคของเครื่องยนต์สันดาปภายใน (รถใช้น้ำมัน) ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ มันมาถึงช่วงท้ายๆ ของเทคโนโลยีนี้แล้ว อย่างเก่งก็ใช้อีกไม่เกิน 20 ปีแล้วกัน ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง ราคาน้ำมันเอย ความซับซ้อนของเครื่องยนต์กลไกเอย แต่ที่สำคัญที่สุดคือมลพิษกับมาตรฐานที่เข้มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะฝั่งยุโรป ที่ตอนนี้เครื่องยนต์ดีเซลก็แทบจะตายจากตลาดยุโรปเรียบร้อยแล้วเพราะทำให้มลพิษต่ำสู้กับมาตรฐาน EU ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ไหว
อันนี้บริษัทผลิตรถทุกเจ้าก็น่าจะตระหนักถึงเทรนด์เหล่านี้ดีถึงการหมดยุคเครื่องยนต์ใช้น้ำมัน และน่าจะคิดได้มานานแล้ว ถึงได้วิจัยนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น Toyota ที่เสนอรถพลังงานไฮโดรเจนเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนนั้นรถไฟฟ้าล้วนที่เก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่แทบไม่อยู่ในสารบบเลยเพราะเทคโนโลยีแบตในสมัยนั้นยังไม่คุ้มค่าที่จะทำโดยเฉพาะระยะทางที่วิ่งได้
มาถึงยุคที่เทคโนโลยีแบตก้าวไปเยอะ Tesla เป็นเจ้าแรกๆ ที่ทำรถยนต์ไฟฟ้าล้วนแล้วใช้งานได้จรืง ขายจริง แถมขายดีด้วย ในขณะที่ Toyota ยังหมกมุ่นกับการวิจัยทำรถ Fuel cell ต้นแบบอยู่เลย กับรถ Hybrid แต่ไม่ได้เตรียมการรับมือกับรถไฟฟ้าล้วนไว้ จนกลายเป็นผู้ตามหลังในเรื่องนี้
มาถึงยุคนี้ที่คนยอมรับกันแล้วว่ารถไฟฟ้าล้วนมันเวิร์ค หลายๆ บริษัทก็เริ่มตีจากพลังงานไฮโดรเจนกันไปหมดแล้ว และไปโฟกัสกันที่รถยนต์ไฟฟ้าล้วนหมด อย่างนิสสัน epower นี่ก็ชัดเจนเลยว่าเตรียมพร้อมมากแล้ว (แก้ขัดเรื่องแบตไปพลางๆ ก่อนด้วยการเอาเครื่องยนต์มาปั่นไฟ แต่ตัวระบบขับเคลื่อนเป็นไฟฟ้า 100% แล้ว) แต่ในขณะที่ Toyota ที่ชูเรื่องรถพลังไฮโดรเจนมาตลอด (ซึ่งก็ยังเป็นแค่รถต้นแบบ กับขายในวงจำกัด) ก็มาไกลเกินกว่าจะกลับลำให้เสียหน้า ก็กลายเป็นชูเรื่องนี้อยู่คนเดียว (ซึ่งก็คงไม่รอดแน่ๆ) ในขณะที่เจ้าอื่นแห่ตาม Tesla ในเรื่องรถไฟฟ้าล้วนกันหมด แค่นี้ผมก็ว่าสั่นคลอนยักษ์ใหญ่มากแล้ว
ที่เจ็บที่สุดคือ ผู้บริหารของ Toyota บอกว่ายังไม่อยากให้รถไฟฟ้าล้วนเกิดเร็วไปในสิบปีนี้ เพราะอุตสาหกรรมรถเครื่องยนต์สันดาปภายในจะตายกันหมดนี่แหละ นี่แสดงให้เห็นว่าสั่นคลอนมากๆ แสดงว่าไม่ได้เตรียมรับมือกับรถยนต์ไฟฟ้าไว้เลย จริงๆ ระดับ Toyota ทำขายจริงได้แล้ว แต่ซักคันก็ไม่ทำ นี่ก็แอบอยากแช่งให้เป็น Nokia แต่ก็แช่งไม่ลงเพราะ Toyota ก็ถือว่าผูกกับเศรษฐกิจบ้านเราไว้เยอะมาก เกิดอุตสาหกรรมรถยนต์สันดาปภายในล่มสลาย บ้านเราก็แย่เหมือนกัน
แต่ผมว่าเอาจริงๆ Tesla ก็เหอะ ระยะยาวอาจสู้รถไฟฟ้าล้วนจากจีนไม่ได้ เพราะรถไฟฟ้าทำง่ายกว่าเยอะ ซับซ้อนน้อยกว่า และต้นทุนต่ำกว่าเครื่องสันดาปภายใน (ถ้าไม่นับแบต) นึกๆ ไปอีก 20 ปีข้างหน้า เราคงจะเห็น Toyota เป็น Nokia / Apple เป็น Tesla และสารพัดแบรนด์จากจีนรวมถึง MG เป็น Huawei Oppo Vivo ก็ได่
เห็นด้วยเรื่องความซับซ้อนของรถที่เป็นเครื่องยนต์สันดาป
ทำไมต้องมีชิ้นส่วนอะไรมากมาย
แล้วคนไม่โม้อย่างคุณมีพลังพอจะเอาวิศวกรชั้นนำไปช่วยงานนี้หรือเปล่าครับ ไม่ต้องจิกด่าเขาไปทุกที่ก็ได้ครับเขามาช่วยเราเขาเสียตังนะครับควรขอบคุณน้ำใจเขาด้วยซ้ำ อย่าไปทำตัวเหมือนมนุษย์ใบอนุญาตคนนั้นเลยครับ...
เขามาช่วยเป็นเรื่องดี ผมก็ขอบคุณ แต่ที่บอกโม้คือ จะทำได้อย่างที่พูดจริงหรือ ดูจากโปรเจคที่ผ่านมา
เห็นคุยว่าสุดยอดตลอด พอโปรดักซ์จริงออก ก็รู้สึกเฉยๆ ไม่เห็น wow แบบที่คุยไว้เลย
ส่วนที่กล่าวหาผมทำตัวแบบ ตร คนนั้น ผมไม่ถือสาละกัน ขำๆ ไป
ผมว่า Tesla นี่ว้าวนะ Battery farm ก็ว้าว แค่ผลิตช้าไปหน่อย
คือเค้าปะทะกะทั้ง
วิดวะเครื่องกลที่บอกว่ารถไฟฟ้าไม่เวิร์ค
วิดวะไฟฟ้ากำลังที่ค่อนข้างอคติกับพลังงานทางเลือก
ก็เจ๋งพอตัวนะ
ผู้นำต้องวางเป้าหมายครับ แล้วให้กำลังใจว่าเราไปถึงแน่
จะให้ออกมาบอกว่า ทางไกลชิบหาย ไปไม่ถึงแน่ๆเหรอครับ แล้วลูกน้องที่ไหนจะอยู่ร่วมสู้ไปด้วยกัน
เขามาไกลมากกว่าบริษัททุกคนในโลกนี้แล้วครับ
ผู้ชมข้างสนาม คอยดูถูกนักวิ่ง
เป็นผม ผมจะเทียบตัวเองกับเขา เทียบกันที่การกระทำก็ได้ครับ ใครมีผลงานมากกว่ากัน ผมเทียบเขาไม่ติดเลย
บูมม ได้อุโมงค์กรุงเทพ - ถ้ำหลวงเดินทางภายใน 40 นาที
อ่านความเห็นบอร์ดนอกเหมือนจะไม่ค่อยเชื่อฝีมือแกกัน lol
เดี๋ยวนะ The Boring Company เอาจริงดิ
Boring แปลว่าขุดก็ได้ครับ
เป็นการเล่นคำ
สมัยผมเห็นครั้งแรก เห็นเป็น The Poring Company
... เอ้า ... เพลงมา!! :D
เอาจริงเหรอเนี่ย!! จะสำเร็จหรือเปล่าก็อีกเรื่องนึง อย่างน้อยก็ได้เห็นน้ำใจที่มอบให้ของมัสก์ น่าชื่นชมครับ!
วิทัศน์ กับโม้มันก็แค่เส้นบางๆ อย่างดาวินชี ลองคิดดูว่าถ้าคุณเป็นคนสมัยนั้นดูสมุดจดบันทึกของเขาคุณจะคิดว่าไง ร้อยทั้งร้อยก็ว่าโม้ สิ่งที่พิสูจน์ได้ คือ การนำมาพัฒนาเป็น Product ถึงแม้ตัวผู้คิดจะไม่ได้มีชีวิตอยู่แล้วก็ตาม ส่วนตัวผมมองว่า Elon Musk เป็นคนมีวิสัยทัศน์นะ แต่ไม่มีทีมที่คิดทันในสินค้าบางตัวจนแกต้องลงมาเล่นเอง
ที่ผมกล่าวมาเช่นนี้ คือผมเคยเจอคนแบบนี้มาก่อน ก่อนผมเข้าทำงานพี่เขาจะคุยกับใครไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะแนวคิดแกยาก สำหรับคนไทยในช่วงนั้น พอผมเข้าทำงาน ก็เลยเหมือนล่ามแปลไทยเป็นไทยให้คนอื่นเข้าใจวิธีคิดของแกอีกที เลยทำให้แก้ปัญหาหลายเรื่องไปได้ เพราะทีมเข้าใจแล้วว่าพี่เขาต้องการอะไรกันแน่ แล้วผมจะเป็นคนบอกว่าต้องทำยังไรบ้างถึงจะได้ผลลัพธ์ที่พี่เขาอยากได้
คนคิดเก่ง วิสัยทัศน์ดีจะมีปัญหาอยู่อย่าง คือเปิดไอเดียให้คนอื่นได้ แต่จะคิดไว้ไม่จบตัองหาคนไปสานต่อให้จบ เช่น อยากได้ตึกทรงนี้ แต่ไม่รู้หรอกว่าจะต้องทำอย่่างไร จึงจะสร้างได้ ถ้าไม่มีมือขวาที่เข้าใจก็จะโดนคนรอบข้างนินทาว่าฝันเฟื่องเสมอในทุกสังคม
เห็นด้วยว่ามันละเอียดอ่อนมากจริงๆ คิดเก่งแต่ต้องรอบด้าน ไอเดียต้องเกิดผลเสียกับส่วนรวมน้อย ไม่งั้นสังคมมันจะย้อนกลับมาทำลายตัวเขาเอง บางครั้งไอเดียพวกนี้ต้องผ่านการตกผลึกร่วมกันกับทีมงาน ผลงานจะได้ออกมามีประสิทธิภาพ
ถ้าช่วยครั้งนี้แล้ว ถ้ามีภัยพิบัติเกิดขึ้นที่อื่น ประเทศอื่นก็คงเอาอย่างบ้าง งานเข้าแน่ Musk เอ๋ย
musk เขาช่วยมาหลายภัยพิบัตแล้วครับ
ส่วนรายละเอียดอัญเชิญคุณ @panurat2000
The Last Wizard Of Century.