By: BlackMiracle 
on 10 July 2018 - 09:37
Tags:
ช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเราคงเห็นสำนักข่าวและเว็บไซต์ในไทยหลายเจ้าแชร์ภาพ “ยานชูชีพ” หรือ escape pod สีส้มๆ ที่รีบออกแบบและผลิตเพื่อส่งมาช่วยนำตัวเด็กๆ ออกจากถ้ำหลวง ผลิตจากโพลียูริเทน ซึ่งข่าวต้นทางระบุว่าทีมงาน SpaceX โทรหาบริษัท Wing Inflatables เพื่อขอความช่วยเหลือในการผลิตยานดังกล่าว
อย่างไรก็ตามในฝั่ง Elon Musk ไม่เคยพูดถึงยานแบบนี้บนทวิตเตอร์ของเขาเลย มีเพียงไอเดียท่ออุโมงค์ลมที่จะทำเป็นทางเดินใต้น้ำ และ escape pod หรือ mini-sub ที่ผลิตจากชิ้นส่วนของจรวดเท่านั้น และหลังจากรูปยานชูชีพสีส้มถูกแชร์ในไทยเป็นจำนวนมาก ฝั่ง Elon ก็ปล่อยรูป mini-sub ออกมา ซึ่งไม่ใช่ยานสีส้มแบบที่กำลังฮือฮากัน
ส่วนตัวผมในตอนแรกก็ตั้งคำถามว่ายานของบริษัท Wing Inflatables นี้เป็นข่าวจริงหรือไม่ เพราะไปค้นดูไม่มีเว็บไซต์ข่าวต่างประเทศเจ้าใหญ่ๆ เล่นข่าวนี้เลย และเมื่อวานหลัง Elon Musk ปล่อยภาพ mini-sub ของเขาออกมา ผมจึงเขียนอีเมลไปสอบถาม SpaceX โดยตรงเพื่อขอคำยืนยันว่ายานชูชีพของ Wing Inflatables เป็นข่าวจริงหรือไม่
เจ้าหน้าที่จาก SpaceX ตอบอีเมลกลับมาว่ายานทั้งสองอันเป็นการพัฒนาคู่ขนานกัน โดยยานสีส้มเป็นการร่วมมือกันระหว่าง SpaceX และ Wing Inflatables ส่วน mini-sub ที่ Elon Musk โชว์นั้นเป็นการร่วมมือของวิศวกรระหว่าง SpaceX, The Boring Company และ Tesla
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
สรุปว่าเป็นของจริงทั้งคู่
คนที่ด่าคนเอาข่าวไปลงตามเว็บต่างๆนี่คงเงิบตีลังกา10รอบไปเลย
เพจข่าว/นักข่าวน่าจะเอาข่าวนี้ไปลงนะครับ กลายเป็นแชร์ว่าอันนี้ปลอมอันนั้นจริงมั่วซั่วไปหมดแล้ว
มองอีกมุมด้วยคือ ไม่มีนักข่าว(จริงๆ)คนไหนไปสอบถามทางต้นทางเลยสักคน แชร์ๆ กันมาอย่างเดียว
ทุกวันนี้ผมไม่อ่านข่าวไทยเลย เพราะเวลาถามหาอ้างอิงทีไรก็บอกหาในเน็ต แถมบางที่ไม่บอกเลยก็มีครับ
โคตรงงครับ อย่างผมเห็นตัวยานที่โชว์ก็เข้าใจว่าอันนี้คือของจริง ส่วนอันส้มมีคนบอกว่าเป็นของฝรั่งเศสสำหรับเหตุการณ์อื่น
เดี๋ยวได้ทำบริษัทโพลียูริเทน อีกอัน 55
my blog
นอกจากเรื่องบทเรียนกู้ภัยแล้ว รัฐควรมาทบทวนวิธีการแก้ปัญหาข่าวปลอมด้วย รอบนี้เรื่องข่าวปลอมเห็นเลยว่าสอบตกแบบสุดๆ ถ้าเจอเรื่องคอขาดบาดตายกว่านี้เละเทะแน่นอน
ผวจ. บอกแล้วนี้ ว่าให้ฟังข้อมูลจากกองอำนวยการฯ เท่านั้น
และคนที่รับข่าวจะที่อื่น แล้วมาโทษรัฐบาล ผมว่าคนรับข่าว กับคนส่งข่าว พวกนี้พอกัน
ไม่ควรจะไปโทษใครนะครับต้องแก้ปัญหาต่างหาก คือสังเกตุได้ง่ายๆ เลยว่าพวกนี้ปล่อยข่าวปลอมหลังแถลงข่าว กว่าจะมาแก้ข่าวกันก็แถลงข่าวรอบหน้าแล้ว ข่าวปลอมรอบนี้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องไกลตัวมันเลยดูแค่มันเรื่องสนุกปาก แต่ถ้าข่าวสำคัญระดับอนาคตของประเทศละ? ผลที่ตามมาบางครั้งมันย้อนไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ดูอย่างตอนเลือกตั้งที่อเมริกา
คนรุ่นใหม่ที่คาดว่าจะอยู่รอดต้องทนต่อข่าวปลอมครับ
ต้องติดตั้ง Firewall ให้ตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น
Like รัวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
จริงส่วนหนึ่ง แต่ผู้เผยแพร่และผู้ให้ข่าวต้องมีจิตสำนึกด้วย ไม่ใช่สักแต่ออกข่าวใส่สีตีไข่จนเละ ต่อให้มี Firewall เองก็ยังไม่พอครับ พูดเหมือนโบ้ยให้ให้ดูแลตัวเองโดยไม่จัดการอะไรเลยแบบนี้ก็ไม่ไหวนะครับ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
จริงครับ โทษผู้บริโภคอย่างเดียวไม่ได้
สื่อต้องมีจรรยาบรรณ ต้องมีการตรวจสอบข่าวก่อน ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมถ้าเสนอข่าวออกไป ต้องไม่ใส่ความเห็นหรือทัศนคติลงไป ฯลฯ
แต่ 10กว่าปีหลัง มีการชูว่าให้เป็นหน้าที่ผู้บริโภค โดยฝั่งสื่อต้องมีเสรีภาพระดับ จะเสนอข่าวผิดจรรยาบรรณเละเทะยังไงก็ได้ ทุกอย่างเป็นความรับผิดชอบของผู้บริโภค
ผมว่าแนวคิดแบบนี้ ไม่เวิร์ค
รอบนี้ผมว่าจัดการได้ดีอยู่นะครับ
ทั้งเรื่องการสื่อสารกับการรักษาความเป็นส่วนตัวของเด็ก
ส่วนที่หลุดออกมา ก็มาจากการกระทำที่ขาดจรรยาบรรณของสื่อทั้งนั้น
เขาทำแล้วครับ แต่เด็กมันซน แต่คนเชื่อง่ายก็มีเยอะ
ผมก็เงิบด้วย ตอนดูข่างจากกระปุก ผมก็พิมพ์ในความเห็น Blognone ตามที่ผมเห็น สรุปคือของจริงทั้งคู่ แต่ได้ยินจากแค่ฝั่งของ Elon อย่างเดียว แต่ไม่มีรายละเอียดจากฝั่งยานส้มเลย
แบบนี้ก็ผิดที่ Musk ไม่ให้รายละเอียดของทั้งคู่ให้ชัดเจน ทำให้คนทั่วไปมองเป็นข่าวปลอมทั้งที่เป็นของจริงทั้งคู่ และสำนักข่าวที่นำภาพและเนื้อหามาเขียนโดยไม่มีการอ้างแหล่งที่มาหรืออธิบายให้ชัดเจน หรือยืนยันความถูกต้องของข้อมูลเลย กลายเป็นประเด็นถกเถียงขึ้นมาทั้งที่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้ตั้งแต่แรก
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
เข้าใจแบบนี้เช่นกันครับ
...
แล้วที่เอามามอบให้เราใช้ มาทั้งสองแบบรึป่าวครัช