กระทรวงการโทรคมนาคมแห่งอินเดียได้ผ่านกฎควบคุม Net Neutrality หรือกฎควบคุมความเป็นกลางทางอินเทอร์เน็ตอย่างเป็นทางการ โดยมีการระบุห้ามผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตปฏิบัติต่อทราฟฟิกบนอินเทอร์เน็ตอย่างไม่เท่าเทียม อย่างเช่นบล็อก, ลดแบนด์วิดท์, ให้แบนด์วิดท์เพิ่ม หรือไม่คิดปริมาณข้อมูลโดยแบ่งแยกตามเงื่อนไขต่าง ๆ
จากรายงานของ The Wire เผยว่ากฎ Net Neutrality ฉบับใหม่ของอินเดียออกมาเพื่อป้องกันการแบ่งแยกหรือการรบกวนข้อมูลทุกประเภท แต่มีข้อยกเว้นสำหรับข้อมูลจากบริการเฉพาะบางอย่างที่จำเป็นต้องได้รับสิทธิ์ในการวิ่งผ่านระบบสูงกว่าข้อมูลประเภทอื่น โดย R.S. Sharma หัวหน้าหน่วยงานกำกับดูแลโทรคมนาคมของอินเดีย (Telecom Regulatory of India หรือ TRAI เปรียบเทียบได้กับ กสทช.) บอกว่าเหมือนรถฉุกเฉินที่มีสิทธิ์ในการวิ่งบนถนนโดยไม่ต้องปฏิบัติตามกฎจราจรปกติ
ภายใต้กฎใหม่นี้ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทุกรายในประเทศอินเดียจะต้องยอมรับและปฏิบัติตาม ซึ่งหากฝ่าฝืนมีโทษถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาต
กฎ Net Neutrality ของอินเดียนั้นเริ่มร่างมาตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งตอนนั้นนักกิจกรรมได้รวบรวมกำลังสนับสนุนจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเมื่ออินเดียมีบริการ Free Basics ของ Facebook ที่จะให้อินเทอร์เน็ตฟรีแบบไม่คิดค่าใช้จ่ายกับประเทศกำลังพัฒนาซึ่งจำกัดการใช้งานเว็บไซต์จนทำให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมระหว่างบริษัทท้องถิ่นกับบริษัทยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ และในปี 2016 นั้น TRAI ก็เคยออกกฎห้ามคิดค่าบริการประเภทเดียวกันต่างกันโดยเลือกจากเนื้อหาจนทำให้ Free Basics ต้องหยุดให้บริการมาแล้ว
หากมองไปที่ฝั่งสหรัฐฯ FCC เพิ่งจะยกเลิกมาตรการควบคุม Net Neutrality ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งทำให้ถูกวิพากษ์อย่างหนักจนทำให้ตอนนี้บางรัฐของสหรัฐฯ อย่างแคลิฟอร์เนียก็เริ่มออกกฎ Net Neutrality ใช้เองภายในรัฐแล้ว
Comments
Net Neutrality นี่ อีกนานกว่าจะมีในไทย เห็นตอนนี้ออกโปรกระหน่ำจากทุกค่ายเลย
ส่วนบทลงโทษของเขา กสทช. ควรรับและเอามาใช้อย่างยิ่งยวด โดยเฉพาะกรณีเกิดปัญหาในการให้บริการล่าช้า หรือห่วย และกรณีประมูลคลื่นเล่นด้วย ต้องจริงจังโดยไม่มีความปราณีเพื่อประโยชน์ส่วนรวมครับ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ก่อนจะไปถึงเรื่อง Net Neutrality ผมว่าเราน่าถกกันเรื่อง ทำยังไงให้ กสทช กลายเป็นหน่วยงานที่คุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ใช้บริการแทนการคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ให้บริการก่อนดีกว่าครับ
true ต้องฟังไว้แล้วเก็บเอาไปคิดให้มากๆ
CAT ก็เช่นกัน ไม่ใช่ปล่อยให้เขาเช่าไปแล้ว จะเอาไปปู้ยี่ปู้ยำได้ตามใจชอบ
ลูกค้าในส่วนของ CAT แท้ๆ ถึงจะไม่ได้มาก แตก็ต้องดูแลด้วย ไม่ใช่นั่งเล่นด้วยกันแต่ลูกค้าcat จับสันญานไม่ติดเลย แต่true วิ่งฉลุย
ตลกมากครับ เมื่อคืนนั่งคิดเล่นๆ ผมผ่านมาตั้งแต่ยุค Modem 56K, ถัดมาก็ Edge/Gprs, ต่อมาก็ 3G, ถัดมาอีกก็ 4G ต่อไปก็ 5G (นั่งคิดเพลินๆ ผ่านมาแล้วมากกว่า 30 ปี แต่ Net มือถือผมยังช้าเท่า Edge โอ้ 30 ปีผ่านไปก็ใช้ได้แค่ Edge เหมือนเดิม)
ติด fup 64kbps เหรอครับ
โปรเน็ตไม่รั่วสินะ
ลองเปลี่ยนจาก GSM เป็น UMTS/WCDMA/LTE ดูครับ
ผม sim ลูกเทพ 4M ครับ (ปรับไปใช้ทุกอย่างแม้กระทั่ง LTE Only ก็เล่นอะไรไม่ได้เลย แต่ก็เป็นเฉพาะช่วง 19.00-23.00 ซึ่งช่วงเวลานี้ เละเทะหมดทุกเจ้าเพราะผมใช้มาหมดทั้ง AIS True DTAC) ช่วงเวลา 19.00-23.00 เน็ตมันจะกลับไปเร็วเท่าสมัยเมื่อ 30 ปีก่อน
งงกับ reply บนๆ
ผมยังไม่เห็น provider ในไทยมีมีปัญหาเรื่อง Net Neutrality เลยนะ
เหมือนเคยเห็นว่ามี free basic ของ facebook อยู่มั้งครับ // ส่วนเน็ตไทยนั่นผมก็ประมาณว่าเห็นด้วย คือไม่ได้เป็นปัญหาเรื่อง net neutrality แต่มีปัญหาคุณภาพการให้บริการเฉยๆ
ถ้าเน็ตบ้านยังไม่ไม่มีปัญหาครับ แต่ค่ายมือถือนี้ไม่ใช่ Net Neutrality แน่นอนครับ เพราะมีโปรใช้แอพไม่อั้น ดู Youtube ฟรี ฯลฯ เต็มไปหมดครับ แต่ไม่มีใครบนในตอนนี้ เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่แคร์ด้วยครับ ขอให้ใช้แอพหรือดูวีดีโอลื่นก็พอแล้ว
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ผมเห็นมีอยู่บางค่ายครับ
- Line Mobile ใช้ Line ได้ไม่คิดปริมาณ
- dtac ได้ Music Infinite
- True บางโปรมี TrueID ไม่คิดปริมาณ
- AIS Fibre upspeed Youtube/Facebook
ถ้าในไทย เท่าที่นึกออกก็จะมีแต่แนวใช้ฟรี ไม่คิด data อย่างที่คุณ meathasith บอก นอกนั้นก็ติดข้อจำกัดตามโปรโมชั่นที่ใช้ ส่วนของ US นี่บีบจนไม่เหลืออะไรเลย อย่างล่าสุด ComCast จำกัดความละเอียด video streaming ไว้ที่ 480p เลยครับ
เน็ตบ้านที่บีบแบนด์วิทของ BitTorrent กับ ต่างประเทศนับมั้ยครับ
ตอนผมใช้ที่ต่างประเทศ บีบครับ ขอยืนยัน 1 เสียง
ไม่มีปัญหาเพราะกสทช.เรามันเสือกระดาษครับควบคุมอะไรไม่ได้เลย ไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยซ้ำว่าเราโดนบีบแบรนด์วิธตัวไหนหรือเปล่า แค่คุณภาพตามโฆษณาใช้จริงได้ไม่ถึงครึ่งกสทช.ยังไม่ทำอะไรเลย