สัมภาษณ์ Blognone ตอนนี้ต่างออกไปจากปกติเล็กน้อย เพราะเราไปสัมภาษณ์กันถึงที่ (เหมือนกับตอนสัมภาษณ์ RS/Mixiclub) คราวนี้เป็นการสัมภาษณ์คุณปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาเว็บไซต์และธุรกิจเว็บ บริษัท Mono Technology จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของ MThai เว็บไซต์อันดับ 3 ของประเทศไทย
Q: ที่มาที่ไปคร่าวๆ ของ MThai
MThai เป็นเว็บที่มีคนอื่นพัฒนาไว้ก่อน แล้วทางบริษัทคือ Mono Technology อยากจะแตกไลน์ธุรกิจเข้ามายังด้านเว็บไซต์ เลยคุยกับผู้พัฒนาเดิมและเข้ามาเทคโอเวอร์
บริษัท Mono ก่อตั้งโดยลูกชายของคุณอดิสัย โพธารามิก เจ้าของเครือ Jasmine แต่ Mono ไม่ได้อยู่ในใต้เครือเดียวกัน อาศัยว่าอยู่ตึกเดียวกันเฉยๆ นอกจากธุรกิจเว็บแล้วยังมีกิจการอื่นๆ เช่น นิตยสาร Gossip Star, ธุรกิจท่องเที่ยว จองโรงแรมจองตั๋วเครื่องบินอีกด้วย ส่วนของเว็บไซต์นั้นเริ่มมาเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว
Q: เว็บในเครือมีอะไรบ้างครับ
เว็บในเครือมี MThai, Yenta4 แล้วก็มีเว็บทดลองชื่อ Fwdder.com
ส่วนพวกจองโรงแรมซึ่งอยู่ในฝั่งธุรกิจท่องเที่ยว (Mono Travel) มี Hotelthailand.com พวกแพกเกจทัวร์คือ Monoplanet และสุดท้ายคือ Passionasia แนะนำบริการทัวร์และด้านสุขภาพ เช่น ผ่าตัด
Q: ระหว่าง MThai กับ Yenta4 แยกกลุ่มลูกค้ากันอย่างไร
ตามเซกเมนต์ของผู้ใช้ MThai จะโตกว่า ระดับนักศึกษาขึ้นไปถึงคนทำงาน ดูได้จากความสนใจ การตอบกระทู้จะค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ ส่วน Yenta4 จะจับกลุ่มประถมมัธยม มีมหาวิทยาลัยบ้างสักปี 1-2 คือพวกที่เพิ่งสอบเอนทรานซ์เข้ามา ยังมีความน่ารักสดใสอยู่ ส่วน MThai จะไม่คิกขุเลย (หัวเราะ)
Q: จำนวนผู้เข้าชมล่ะครับ ประมาณเท่าไร
UIP ของ MThai ต่อวันจะอยู่ประมาณ 260,000 อยู่ที่สามใน Truehits ส่วนของ Yenta4 อยู่ที่แสนกว่าๆ
Q: โมเดลธุรกิจนี่คือเน้นโฆษณาเป็นหลัก?
ใช่ครับ เน้นโฆษณาเป็นหลัก แต่เราพยายามจะแยกการโฆษณาให้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น ตอนนี้ยังมีแต่เฉพาะแบนเนอร์ซะเยอะ ซึ่งรบกวนสาย แถมโปรแกรมบล็อคแอ็ดก็มีเยอะ เราเลยอยากจะทำแบบอื่นด้วย เช่น คอนเทนต์
Q: แต่เอเยนซี่ยังไม่ค่อยเข้าใจ ยังอยากได้แบนเนอร์?
ส่วนใหญ่คนที่เป็นเจ้าของสินค้าจริงๆ ไม่ใช่ตัวเอเยนซี่ยังมีความคิดว่าแบนเนอร์เป็น display ad ที่เห็นได้ชัด ลงแล้วเห็นแน่ๆ ภาพมันได้
ฝั่งเอเยนซี่ก็พยายามสร้างโฆษณาที่หรูหรา มีเอฟเฟคต์เยอะ ฟู่ฟ่ามากขึ้น เพื่อเวลาโชว์มันจะได้เห็นชัด เป็นวิธีคิดของเอเยนซี่ ถ้าเป็นรายเล็กที่แนะนำกันเข้ามาผ่านคนรู้จักกัน จะรับกับแนวทางการโฆษณาบนเว็บแนวใหม่ได้ดีกว่า
Q: อันนี้คำถามทั่วไปมาก อยากให้แนะนำว่ามีบริการอะไรเป็นไฮไลท์ของ MThai บ้าง
จุดเด่นของ MThai ช่วงหลังต้องยกให้ตัววิดีโอ (MthA! Video) คือเหมือน YouTube แต่ทำให้คนไทยเข้าใจง่าย เนื้อหาใกล้ตัวคนไทย รูปแบบของการใช้งานพยายามสร้างเอกลักษณ์ให้กับคนโพสต์ เช่น มีหน้าเว็บของเขาเอง มีหน้าวิดีโอไฮไลท์
อย่างที่สองเป็นจุดเด่นของ MThai ตั้งแต่แรกคือเว็บบอร์ด มีคนมาแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา ชอบไม่ชอบก็พูดกันตรงๆ ไม่อ้อมค้อม
อย่างที่สามคือเนื้อหาพวกไลฟ์สไตล์ แฟชั่น ผู้หญิง สุขภาพ ที่เราเน้นและคิดว่าทำได้ค่อนข้างดี
Q: มีทีมนักเขียน?
ใช่ มีทีมนักเขียนมาทำตรงนี้
Q: อัตราส่วนของเนื้อหาระหว่างเขียนเองกับดึงมาจากพาร์ทเนอร์
เนื้อหาจะมีทั้งพาร์ทเนอร์และเขียนเอง รวมถึงไปขออนุญาตนำมาใช้ น่าจะอยู่ในสัดส่วนใกล้ๆ กันหมด
Q: เท่าที่ลองใช้บริการวิดีโอของ MThai มาก็น่าจะดีที่สุดในเว็บไซต์ของไทย อยากถามว่ามีวิสัยทัศน์ยังไงถึงเห็นว่าบริการนี้น่าจะรุ่ง
ตอนนั้น YouTube ดังมากแล้ว เลยมองว่าการไปโฮสต์ที่เมืองนอกมันเปิดช้า และมีกำแพงเรื่องภาษาสำหรับการใช้งาน แล้วกลับมามองดูตัวเองก็เห็นว่าเรามีจุดแข็งคือเรื่อง network ซึ่งอยู่ใกล้กับ TT&T และ Ji-Net ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Jasmine เหมือนกัน เราจึงมีเครือข่ายในประเทศที่เร็ว อีกอย่างคือตอนนั้นคลิปมือถือกำลังฮิต เลยลองวิจัยขึ้นมาทดสอบดู
Q: มีปัญหาเรื่องโหลดไหมครับ
มีครับ ถ้าไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ ISP จะมีค่าใช้จ่ายด้านแบนด์วิธค่อนข้างเยอะ
Q: โฆษณาของวิดีโอนี่เข้ามาในรูปแบบไหน
โฆษณายังเข้ามาเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่ชัดเจนมาก มีบางส่วนที่เข้ามาเป็นพรีโหลด ก่อนดูวิดีโอจะเป็นโฆษณาสั้นๆ คนเริ่มสนใจแต่อยากให้เลือกโฆษณาตามเนื้อหาของวิดีโอ เช่น กีฬา ได้ เราคงต้องทำระบบวิดีโอให้มันซับซ้อนขึ้นอีก แยกประเภทได้ด้วย ซึ่งเป็นแผนในอนาคต
Q: ทำเว็บใหญ่อันดับ 3 แบบ MThai ต้องใช้คนสักเท่าไร
ทีมโปรแกรมเมอร์ประมาณ 15 คน และทีมเว็บมาสเตอร์อีก 15 คน ดูแลตอบปัญหา ลบคอมเมนต์ ป้อนข่าว แก้ไขข่าว
Q: ให้มองอุตสาหกรรมเว็บของเมืองไทย คิดว่าเป็นอย่างไรบ้าง เล็กใหญ่แค่ไหน
ในแง่เม็ดเงินโฆษณายังเล็กอยู่ พวกเอเยนซี่ยังสนใจสื่อเดิมกันมากกว่า จะมีบ้างในแง่เป็นสื่อใหม่ที่ราคาถูกกว่า
แต่ในแง่ธุรกิจ ในแง่ความแพร่หลายภายในสังคม ผมว่ามันมาเยอะแล้ว บรอดแบนด์คนก็ใช้กันเยอะมาก แต่สำหรับเด็กๆ อาจจะเข้ามาในรูปเกมมากกว่า มีอัตราส่วนการใช้งานที่เป็นเกมเยอะมาก ยังมีการใช้ข้อมูลไม่เยอะเท่าไร
Q: อัตราการเจริญเติบโตในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา
ค่อนข้างดีนะครับ เติบโตตามการใช้งานบรอดแบนด์ที่โตขึ้น ส่วนของ UIP นั้นมากขึ้นเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ส่วนของเวลาการใช้งานต่อการเข้าชมเว็บไซต์ก็โตขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน
โฆษณาก็เยอะขึ้น มีการโฆษณาแบบแปลกๆ เข้ามามากขึ้น เช่น ขอไปติดตรงมุมขวาบน พอเอาเมาส์ไปชี้แล้วเปิดออกมา หรือการโฆษณาครอบช่องคอมเมนต์ หรือโฆษณาในผลการค้นหาข้อมูล ซึ่งเราก็จะพิจารณาไม่ให้กระทบกับผู้ใช้ อันไหนมามากเกินก็จะไม่ยอม
Q: แผนการในอนาคตของเว็บไซต์คิดว่าจะเป็นอย่างไรครับ
MThai จะผลักดันให้เป็น social network มากขึ้น ผู้ใช้จะมีส่วนร่วมกับเว็บมากขึ้น
Q: ถ้าตอนนี้ผมสมัครเป็นสมาชิก MThai ผมทำอะไรได้บ้าง
สมาชิก MThai ตอนนี้จะสามารถโพสต์บล็อก อัลบั้ม วิดีโอ มี ranking อันดับแสดงความสามารถของตัวเอง ส่วนในเว็บบอร์ดยังเป็นการถาม-ตอบกระทู้ธรรมดา แต่ในอนาคตอยากให้เขาเข้ามาทำอะไรที่มีคุณค่ากับเว็บมากขึ้น มีส่วนร่วมกับเว็บมากขึ้น เหมือนเป็นเว็บมาสเตอร์มากขึ้น
Q: ฟีเจอร์พวก social network นี้จะไม่ไปทับกับพวก Hi5?
คงไม่ทับครับ ของเราโตขึ้นมาจากเว็บบอร์ด เป็นฐานลูกค้าเดิม ส่วน Hi5 จะเน้นความมีสีสัน คนไทยส่วนใหญ่ก็ใช้จีบกันซะเยอะ ส่วนของ MThai คงไม่น่าจะมีใครเอามาจีบกัน (หัวเราะ) เป็นการนำมาทำความรู้จักกันเพราะเห็นผลงานการโพสต์มากกว่า เช่น โพสต์เก่ง เนื้อหาดี
ในแง่ฟังก์ชันอาจดูทับซ้อน แต่วัตถุประสงค์คงต่างกัน
Q: อนาคตของเว็บมือถือนี่เป็นยังไงครับ ตอนนี้ iPhone ก็เริ่มเข้ามาแล้ว
iPhone แล้วก็พวกมือถือรุ่นใหม่ๆ จะดูเว็บได้เยอะขึ้น เราอาจต้องเตรียมเว็บเวอร์ชันสำหรับมือถือ พวก encoding อาจจะต้องปรับกันไป ถ้าเป็นไปได้ บริการบางอย่างเช่นวิดีโอ บล็อก คอมเมนต์ คงต้องมีวิธีที่ทำได้ง่ายขึ้นผ่านมือถือ
ส่วนกลยุทธ์ระยะสั้นก็คงใช้การร่วมสนุกผ่าน SMS ซึ่งมือถือทุกรุ่นรองรับ
Q: อย่าง iPhone สามารถเขียนโปรแกรมขึ้นไปใช้ได้ ตลาดนี้น่าสนใจแค่ไหน
ตอนนี้ยังเป็นแค่การทดลองกันอยู่ เคยคุยกับพวก TRUE อยู่บ้างว่าโรดแมปจะเป็นอย่างไร อย่าง Android ก็น่าจะสนใจ
แต่สำหรับการนำมาใช้ทางธุรกิจ ยังต้องดูท่าทีกันต่อไป เอาเข้าจริงแล้วคนไทยใช้มือถือกันไม่คุ้ม มีมือถือรุ่นดีๆ แต่ไม่ค่อยได้ใช้ฟังก์ชันอะไรสักเท่าไร ประดิษฐ์อะไรหรูหรามากไปอาจจะไม่คุ้มลงทุน ถ้าพูดตามตรง ดูโอเปอเรเตอร์ยังทำแค่การร่วมชิงโชค หรือไม่ก็ถ่ายรูปแล้วโหลดลงนู่นลงนี่ ก็แค่นั้น
Q: เห็นมีพูดถึงการวิจัยค่อนข้างเยอะ ไม่ค่อยเคยเห็นกับบริษัทในไทย (หัวเราะ) อยากให้ช่วยขยายความเพิ่มเติมได้ไหมครับ
อาจจะมีจากตัวผมซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยของบริษัทด้วยมั้ง ตอนหลังถึงรวมงานด้านไอทีและ network เข้ามาเป็นหน่วยเดียวกัน แนวทางคือเราควรมีงานวิจัยอะไรบางอย่างเพื่อให้ดูว่าสเต็ปถัดไปจะทำอะไร คนที่มาทำงาน MThai ต้องไม่ใช่ว่าอยู่มาทั้งปีแล้วรู้เท่าเดิม เวลาที่ทำงานไปอาจจะ 1-2 เดือนต่อครั้งต้องออกไปดูว่าข้างนอกเค้าทำอะไรกันบ้าง หยิบมาดูกันว่าทำไมเราทำแบบเขาไม่ได้ งานวิจัยจะอยู่ประมาณ 10-20% ของเวลางานทั้งหมด
Q: มีงานวิจัยอะไรบ้างที่เริ่มจากการทดลองแล้วเอามาใช้จริงได้แล้ว
มีตัว Fwdder ที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จ ในแง่ผลิตภัณฑ์หรือธุรกิจยังไม่ได้ผลักดันมากนัก เพราะทีมที่คุมยังเป็นโปรแกรมเมอร์ล้วน ไม่มีเว็บมาสเตอร์ประจำ (หัวเราะ) แต่ในแง่เทคนิคเราก็ได้เอาระบบงานหลายอย่าง เช่น ระบบแท็ก ระบบการเก็บสถิติ กลับมาใช้ใน MThai หรือ Yenta4
Q: คำถามสุดท้าย ถ้าผมเป็นนักศึกษาด้านไอที อยากมาสมัครงาน MThai นี่รับไหมครับ อยากได้ตำแหน่งอะไร ทักษะประมาณไหนถึงจะทำงานกับ MThai ได้
ตอนนี้กำลังรับ database admin ที่กำลังต้องการ อยากได้คนที่เข้าเรื่องงาน database และทำงานด้วยความรอบคอบ จะมาเป็นคนคุมการใช้งาน database ว่าใครใช้อะไรประมาณไหน รับเด็กจบใหม่ด้วยเพราะเรามี senior คอยช่วยดูอยู่แล้ว 1 คน
กลุ่มที่เป็นเว็บมาสเตอร์ ช่วงนี้ยังรับเป็นงานชั่วคราว ทำพวกถามตอบ สังเกตการณ์ แปล
โปรแกรมเมอร์รับเป็นโปรแกรมเมอร์ เขียน PHP ได้ และเข้าใจใน Web 2.0 ใหม่ๆ ใช้ Hi5, Facebook เป็นจะเข้ามาทำงานนี้ได้ง่ายขึ้น
Comments
ช่วงนี้ดูคลิปวีดีโอจาก Mthai ได้เร็วกว่าเดิมมาก สวนทางกับ Sanook ที่โหลดไม่ค่อยจะมาเลย
web ที่คนจะใช้บ่อยๆ ไม่จำเป็นต้องมีสีสันลายตามากครับ ... เข้าไปหน้า VDO มานี่ปวดหัวเลย ...
ผมชอบ mthai นะ ชอบมากกว่า sanook กับ kapook เยอะเลย
ปล. สัมภาษณ์ได้ดีครับ
---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
คาดว่าน่าจะมีทีมงานอ่านอยู่นะครับ
ป.ล. ผมก็ถามตามน้ำไปเรื่อยๆ คนตอบตอบดีมากกว่า
มีอะไรต่างกันบ้างหว่าสำหรับเว็บ portal ในไทย..
Sanook,Kapook,Mthai,Teenee
Mthai สนุกดีครับ
โดยเฉพาะ Comment ต่าง ๆ เพลินจริง ๆ แต่ก็ทำให้ฉุนได้เหมือนกัน
แต่ถ้าให้บอกตรง ๆ ละก็ ถ้าไม่มี AdBlock บางครั้งเครื่องผมค้างได้เลยนะหน้าแรกพี่แก (Flash++)
@TonsTweetings
ปกติเข้า mthai ตลอดนะ สมัยเวบ mthai ทำใหม่ๆ แล้ว
เข้าไปดูข่าวมากกว่า :/
Patrickz's web |
Patrickz's blog | blog @ G2K | blog @ narisa
Patrickz's blog|
linkedin
สำหรับผม mthai + adblock ครับ
ตอนลง firefox ใหม่ ผมเข้า mthai เพื่อจะลง flash เลยนะ หุหุ
ปล. ปกติไม่ใช้ adblock แต่ถ้าอันไหนสร้างความรำคาญมากก็ block หน่อยนึง
Jusci - Google Plus - Twitter
ปัญหาที่พบคือ ระบบจัดการข้อมูลส่วนตัวใน video.mthai เละมาก
ผมใช้แล้วจัดการอะไรไม่ได้เลย แถม webmaster ชอบมาแก้ไขข้อมูลของคลิปเองอีกต่างหาก
ตกลงผมเลยไม่มี privacy อะไรเลยในนั้น
Kohsija
ขอบคุณที่ให้ความเห็นเกี่ยวกับ video mthai ครับ
ทีมงานจะได้นำไปปรับปรุงต่อ ส่วนจัดการข้อมูลส่วนตัวครับ
ตรงที่ webmaster แก้ไขข้อมูลคลิป ไม่แน่ใจว่ามีการละลาบละล้วงข้อมูลคลิปส่วนไหนบ้าง เพราะปกติ จะให้ทีมงานแก้ไขข้อมูลส่วน tag เพื่อให้ค้นหาได้ง่ายขึ้น กับส่วน info สำหรับพวก mv, tv program ให้ค้นหาง่ายเหมือนกัน
อืม...เกรียนกับโฆษณาเยอะดี แต่ก็ชอบอ่านนะ
สัมภาษณ์ได้ดีครับ ชอบ mthai เหมือนกันนะ
webดี ชอบครับโดยเฉพาะข่าวสาร(update)เร็วดีครับ
clipก็เพลินดีครับ
ชอบ aoJvoJ ^^