แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้ง Alibaba ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg TV เผยว่าเขามีแผนที่จะวางมือจากการทำงานให้ Alibaba เพื่ออุทิศเวลาให้กับมูลนิธิการกุศล Jack Ma Foundation ที่เน้นกิจกรรมด้านการศึกษา
มูลนิธิดังกล่าว แจ็ค หม่า ก่อตั้งในปี 2014 มีเป้าหมายเพื่อปฏิรูประบบการศึกษาในประเทศจีน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท เฉพาะปีที่แล้วเขาลงเงินไปมากกว่า 45 ล้านดอลลาร์ เพื่อปรับปรุงระบบฝึกอบรมครูในพื้นที่ห่างไกล เขายังบอกว่า บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ คือต้นแบบที่ทำให้เขาอยากวางมือจากธุรกิจที่สร้างขึ้น เพื่ออุทิศเวลาให้กับการกุศล
หากใครคุ้นกับประวัติของแจ็ค หม่า ก็คงทราบว่าก่อนมาทำ Alibaba เขาเคยเป็นครูสอนภาษาอังกฤษมาก่อน ซึ่งจากตรงนั้นทำให้เขาได้มีโอกาสไปอเมริกาและรู้จักกับอินเทอร์เน็ต จนเป็นแรงผลักดันให้สร้าง Alibaba ขึ้นมาถึงปัจจุบัน ในเรื่องนี้เขาบอกว่า สำหรับการสอนหนังสือนั้น น่าจะเป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ดีกว่าการเป็นซีอีโอ Alibaba นอกจากนี้เขาบอกว่า ตัวเองเขาอาจไม่รวยเท่าบิล เกตส์ แต่สิ่งที่เขาทำได้เหนือกว่าแน่ คือเกษียณตัวเองจากงานเร็วกว่าเกตส์ (ปัจจุบันแจ็ค หม่า อายุ 54 ปี) อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้บอกว่าจะเกษียณเมื่อใด แต่บอกเพียงเร็ว ๆ นี้
แจ็ค หม่า ยุติหน้าที่ในฐานะซีอีโอ Alibaba ไปตั้งแต่ปี 2013 แต่ยังดำรงตำแหน่งประธานบริษัท
อัพเดต: มีข้อมูลว่า แจ็ค หม่า จะประกาศเกษียณจากตำแหน่งประธานบริษัทในวันจันทร์นี้ โดยคงเหลือเพียงตำแหน่งกรรมการบอร์ดและที่ปรึกษา ซึ่งวันจันทร์นี้มีความหมายพิเศษ เพราะ แจ็ค หม่า จะมีอายุครบ 54 ปี และยังเป็นวันครูแห่งประเทศจีน (The New York Times)
ที่มา: Business Insider
Comments
ทำได้ดีกว่าเป็น CEOของ Alibaba นี่ขนาดไม่ดียังขนาดนี้นะเฮีย
เชพเอียน!!!
ว่าแล้วว่าต้องมีคนคิดแบบนี้!
Mekokung's Story บล็อกส่วนตัวที่ย้ายไป Blogger แล้วนะ
รอท่านกลับไทยนะครับ........กลับมาลงทุนในไทยเพิ่ม......หน้าคล้ายจริงๆ
รูปมาจาก - Beartai
"เขาอยากวางมือจากธุรกิจที่สร้างขึ้น เพื่ออุทิศเวลาให้กับการกุศล"
ตัดภาพมาที่คนใหญ่คนโตแถวบ้านเรา
ทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำโดยไม่กังวลเรื่องปากท้องคือชีวิตในอุดมคติของผมแล้ว
เข้าสู่การเมือง
ในไทยน่าจะมีคนทำบ้างนะ ประเทศจะไปได้ไกลกว่านี้เยอะเลย
จริงคนรวยในไทยหลายๆคน ก็ตั้งโรงเรียนตั้งมหาวิทยาลัยนะครับ เช่น มหาลัยชินวัตร วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ ภาคเอกชนก็มีสนับสนุนสถานศึกษากับให้ทุนไม่ใช่น้อยเหมือนกัน ตอนนี้ผมว่าปัญหาหลักการจะปรับปรุงบุคคลากรด้านการศึกษาอย่างไรต่างหาก เพราะถ้าไม่เส้นใหญ่กันมากๆแตะไม่ได้ ก็จะอยู่ห่างไกลยากจะพัฒนา ครูรุ่นใหม่ไฟแรงก็โดนกดด้วยความอาวุโสต้องก้มหัวให้รุ่นพี่ใกล้เกษียณ ให้คนใกล้เกษียณเป็นใหญ่ดูแลมันก็ไฟมอดหมดแล้วเตรียมรับบำนาญใส่เกียร์ว่างกันหมดเปลี่ยนกันไม่ได้ง่ายๆได้เลย
ปตท ก็มี ม ปลาย (กำเนิดวิทย์) กับ มหาวิทยาลัย (สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระยอง: RAIST) นะครับ
S&P ก็มี ปวช
C.P. All ก็มี มปลาย ปวช มหาลัย
ไปรษณีย์ไทยก็มี ปวช
ทหารยังมีทั้ง ปวช มปลาย วิทยาลัยเลย 555
หลายๆสถาบันที่กล่าวๆกันมา มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อผลิตบุคลากรให้กับองค์กรตัวเอง ให้ครบ supply chain
อาจจะพูดได้ไม่เต็มปากว่าทำเพื่อสังคมอะไรแบบนั้นนะครับ
+1 ถ้าเอาแบบตปท.บอกไปเลยบริจาคที่นั่นที่นี่เท่าไหร่แล้วให้สถาบันจัดการเอง ที่กล่าวก็เป็นธุรกิจเท่านั้น
+1
ชัดเจนครับ
ผมก็มีความคิดแบบนี้นะ คือถ้ารวยจนไม่รู้จะทำไงแล้ว ก็อยากจะอุทิศตนเพื่อสาธารณะประโยชน์
เพียงแต่ว่า ความสามารถมันไปไม่ถึงตรงนั้นที่จะลอยตัวก้าวข้ามเรื่องรายได้ ตอนนี้ยังลำบากอยู่เลย