Samsung Galaxy Tab S4 เป็นแท็บเล็ตระดับเรือธง ที่เปิดราคาวางขายในไทยไปเป็นที่เรียบร้อยที่ 23,900 บาท ซึ่งแท็บเล็ตรุ่นล่าสุดจากซัมซุงนี้มีการเปลี่ยนแปลงพอสมควรจาก Tab S3 ไม่ว่าจะเป็นขนาดหน้าจอ, สเปก, แบตเตอรี่ รวมไปถึงดีไซน์ของปากกา S Pen ที่ถูกออกแบบใหม่ให้มีลักษณะภายนอกคล้ายกับปากกาลูกลื่น
อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นครับว่า Samsung Galaxy Tab S4 มีการเปลี่ยนแปลงพอสมควรจากรุ่นก่อนหน้า ไม่มีปุ่มโฮมแล้ว โดยขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 10.5 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด 2560x1600 พิกเซล อัตราส่วนภาพ 16:10 ขณะที่ Tab S3 หน้าจอขนาด 9.7 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด 2048x1536 พิกเซล อัตราส่วนภาพ 4:3
ส่วนของน้ำหนักของ Tab S4 รุ่น LTE นี้จะอยู่ที่ 483 กรัม ตัวเครื่องบาง 7.1 มม. ซึ่งหนักและหนากว่า iPad Pro 10.5 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular ที่มีน้ำหนัก 477 กรัม และบาง 6.1 มม. แต่ด้วยน้ำหนักและความหนานี้ไม่ได้ส่งผลอะไรมากต่อการหยิบจับ จะพกพาใส่กระเป๋าก็ทำได้สะดวก
จอแสดงผลใน Tab S4 มาพร้อมความละเอียดที่สูงพอสมควร ให้ความสว่างและสีที่คมชัด ทั้งการดูหนังและการเล่นเกม
ส่วนประกอบอื่นๆ ของ Tab S4 มาพร้อมช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., พอร์ต USB Type-C, ลำโพงที่ออกแบบโดย AKG มี 4 ตัว (ด้านล่าง 2 ตัว ด้านบน 2 ตัว) และรองรับระบบเสียง Dolby Atmos
ตัวเครื่องฝั่งขวาเป็นปุ่มพาวเวอร์ กับปุ่มระดับเสียง ส่วนฝั่งซ้ายเป็นช่องใส่ microSD card และซิม
ปากกา S Pen เป็นอุปกรณ์คู่กายที่ทำให้การใช้งาน Tab S4 สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะแถมมาให้ในกล่องด้วยเลยโดยที่เราไม่ต้องไปซื้อเพิ่ม ไม่ใช้แบตเตอรี่หรือต้องอาศัยการเชื่อมต่อบลูทูธก็สามารถเขียนได้ทันที ลักษณะภายนอกได้รับการออกแบบใหม่ให้ด้ามปากกาดูกลม ให้ความรู้สึกคล้ายปากกาลูกลื่น มีน้ำหนักเบา สามารถหยิบจับและขีดเขียนได้สะดวก
ปากกา S Pen ใหม่นี้ระดับความไวของแรงกดอยู่ที่ 4,096 ระดับ การเขียนหรือการวาดทำได้อย่างลื่นไหล รองรับ Screen off memo หรือฟีเจอร์เขียนหน้าจอได้แม้ขณะหน้าจอดับอยู่ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีใน Galaxy Note 8 และ Note 9 เมื่อต้องการจดข้อความด่วนเพียงกดปุ่มที่ S Pen ค้างไว้สักครู่ ก็สามารถจดข้อความลงบนหน้าจอในขณะปิดอยู่ได้แล้ว
ข้อสังเกตอย่างหนึ่ง คือ Tab S4 จะไม่มีที่เก็บปากกามาให้ ทำให้มีโอกาสลืมหรือทำหล่นหายได้ง่าย ซึ่งแนะนำว่าควรหาซองหรือกระเป๋าใส่ให้อยู่คู่กันจะดีกว่าครับ
Samsung Galaxy Tab S4 มาพร้อมชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 835 อาจไม่ใช่ชิประดับท็อปที่ใหม่ที่สุด แต่การทำงานทั่วไป เช่น การเรียกใช้, ปิด หรือสลับแอพสามารถยังทำได้อย่างรวดเร็ว รองรับการทำงานแบบแบ่งสองหน้าจอหรือ Multitasking พร้อมกันได้แบบไม่มีสะดุด รวมถึงเล่นเกม RoV ได้อย่างลื่นไหล
นอกจากนี้ใน Tab S4 ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยอย่างการจดจำใบหน้า และสแกนม่านตา (Iris Scanner) ซึ่งจากการทดสอบสแกนม่านตาก็นับทำได้รวดเร็ว เพียงเสี้ยววินาทีก็สามารถปลดล็อกและเข้าสู่หน้าโฮมได้ทันที
เป็นอีกหนึ่งจุดใน Tab S4 ที่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะในรุ่นนี้ให้แบตเตอรี่ความจุถึง 7300 mAh มากกว่า Tab S3 ที่มีแบตเตอรี่ความจุ 6000 mAh ถือว่าเพิ่มมาค่อนข้างเยอะ ขณะเดียวกันยังมาพร้อม Fast charging โดยจากการใช้งานทั่วไปตั้งแต่ชาร์จแบตเต็ม เช่น เช็คอีเมล, เปิด Facebook, เล่นเกม, แต่งภาพ, ดูหนังผ่าน YouTube 3-4 ชั่วโมงติดต่อกัน แบตก็ยังมีมากพอที่จะใช้ต่อไปได้ทั้งวัน
ในภาพรวมของ Samsung Galaxy Tab S4 เป็นแท็บเล็ตให้ประสิทธิภาพแบบครับครัน ขนาดตัวเครื่อง ความละเอียดหน้าจอ ทำออกมาได้อย่างลงตัว พกพาไปใช้ตามนอกสถานที่ได้สะดวก ปากกา S-Pen ใหม่ มีทั้งความเบาและให้การขีดเขียนที่ลื่นไหล แต่เนื่องจากตัวแท็บเล็ตจะไม่มีช่องเก็บปากกา ฉะนั้นผู้ใช้งานงานอาจจะต้องหาซื้อพวก Book Cover Keyboard ที่มีช่องเก็บปากกามาเพิ่ม ขณะที่แบตเตอรี่ความจุ 7300 mAh ก็นับว่าเพียงที่จะใช้งานได้แบบเต็มวัน
Comments
ข้อสังเกตหยอย่างหนึ่ง
แรมน้อยไปไหม ผมใช้ S8 แรม4 Gb ไม่พอแล้วจริงๆ
หนาและหนักขึ้นเรื่อยๆ
นึกถึงสมัย tab s2 ที่หนักสองร้อยกว่ากรัม เบาจริงๆ ตัวหลังๆนี่หนักกว่า ipad ทั้งนั้น
จะมี tablet ไหนเบาๆ เอาไว้อ่าน ebook ต่อเนื่องยาวๆหลายชั่วโมงโดยไม่เมื่อยมือได้อีกบ้างเนี่ย (พวก e-ink ก็ไม่สะดวกในเรื่องของ format file ที่ใช้ บางครั้งอ่านเป็นเวบด้วย)
ดีหมดเลย นี่ใช้จาก Note 8 มา Note 9 ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ รอดูตัวนี้อยู่ แต่น่าเสียดาย ซัมซุงทำ Hardware ดีแล้ว แต่ไม่มี Software ดีๆ เท่าไร อยากได้ Procreated แต่คงไม่มาแน่ Autodesk Sketchbook วนไป เฮ้ออออ ?
my blog
อยากรู้ความไหลลื่นการใช้งานกับการเขียนด้วยปากกาครับ
ว่าสามารถสู้ iPad 2018 ได้ไหม
เห็นราคาแล้ว iPad 2018 เถอะ แน่นอนกว่าเยอะ
นี่คือครั้งแรกที่อยากได้ Tab มากกว่า iPad
iPad 2018 (ความเร็วพอๆ กับ iPhone 7 คะแนน Antutu ประมาณ 170,000 น่าจะพอๆ กับ Snapdragon 835) + Apple Pencil ให้ความรู้สึกการเขียนที่ดีกว่า (เทียบกับที่ใช้ Note 8 อยู่ เพราะ S-Pen มันเล็ก) แต่ Apple Pencil เหมาะมือมากกว่า และแน่นอน ก็ต้องใหญ่กว่า
แต่ iPad Pro + Apple Pencil เยี่ยมกว่า (Note 8) มากมาย (คหสต.)
แต่มันโทรศัพท์มะได้
ผมใช้ ipad 18 กับดินสอมันอยู่ทุกวัน วันนี้ไปลอง tab s4 ก็รู้สึกว่ามันดีพอๆกันนะครับ ถ้าเทียบว่าปากกามันไม่ต้องชาร์จแบตทุกวันสองวันนี่กลายเป็นดีกว่าเยอะไปเลย ข้อเสียคือมันแพงกว่า กับเรื่อง patch ที่ไม่รู้ SS อัพเดทให้ tablet บ่อยหรือนานแค่ไหน
รุ่นนี้โทรศัพท์ได้ไหมครับ