Jack Dorsey โพสต์ทวิตเตอร์ว่าได้ไปนั่งสมาธิสงบจิตสงบใจที่เมียนมาร์เป็นเวลา 10 วัน โดยตัดขาดจากการใช้อินเทอร์เน็ต อ่านโซเชียล และยังถือปฏิบัติอย่างเข้มงวด ไม่กินเนื้อสัตว์ ไม่พูดคุย สบตากับใคร และยังบอกด้วยว่าเมียนมาร์เป็นประเทศที่สวยงาม ผู้คนมีความสนุกสนาน อาหารดี
สิ่งเหล่านี้สร้างความไม่พอใจให้ชาวทวิตเตอร์ เพราะที่เมียนมาร์มีปัญหาร้ายแรงอย่างยิ่งโดยเฉพาะเรื่องสงครามศาสนาระหว่างชาวพุทธและชาวโรฮิงญา มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ มีการใส่ร้ายและข่าวปลอมเกี่ยวกับชาวโรฮิงญาบนโซเชียลมีเดีย แม้ส่วนใหญ่จะเป็นข่าวที่แพร่ใน Facebook ก็ตาม (ชาวเมียนมาร์ส่วนใหญ่ใช้ Facebook เป็นช่องทางตามข่าว)
ชาวเน็ตถึงกับบอกว่า เสียงกรีดร้องของชาวโรฮิงญาไม่ได้ทำลายความเงียบเลยหรือ มันเป็นสิ่งที่ต้องใช้การฝึกฝนอย่างมากในการไปที่นั่นและละเลยว่ามีเรื่องน่ากลัวแบบนี้เกิดขึ้น
Jack Dorsey ยังบอกด้วยว่าในการทำสมาธิ เขาใช้ Apple Watch และแหวน Oura (เปิดโหมดเครื่องบิน) ติดตามข้อมูลสุขภาพของตัวเอง การนอนหลับ การเต้นของหัวใจว่าสม่ำเสมอหรือไม่ เพื่อจะพิสูจน์ว่าการทำสมาธินั้นสำเร็จ
ชาวเน็ตก็สวนกลับอีกว่า Dorsey ไม่ได้เข้าใจการทำสมาธิเลย เพราะการทำสมาธินั้น ไม่มีอะไรมาวัด มาประเมินได้ ไม่มีตัวเลขบอกความสำเร็จ
Myanmar is an absolutely beautiful country. The people are full of joy and the food is amazing. I visited the cities of Yangon, Mandalay, and Bagan. We visited and meditated at many monasteries around the country. pic.twitter.com/wMp3cmkfwi
— jack (@jack) December 9, 2018
ที่มา - Quartz
Comments
ผมว่าปัญหาในพม่ามันมาจากหลายปัจจัยนะ จะโทษ CEO Twitter อย่างเดียวก็ไม่ได้ ทั้งข่าวปลอม รัฐบาลทหาร ความเกลียดชัง ความขัดแย้งระหว่างศาสนา ความเชื่อ ฯลฯ
เข้าใจว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้ แต่ทุกฝ่ายก็ควรจริงจังกับเรื่องนี้ หรือจะรอให้มีมือที่สามเข้ามาจัดการทั้งสองฝั่งจนหมดประเทศโดยไม่สนอะไรเลย จนกลายเป็นเขตอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไป ศพกลายเป็นปุ๋ยกลับสู่พื้นดิน จะเอาไหม
อีกเรื่อง แม้ว่าเขาไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนอะไร เพียงแค่ไปนั่งสมาธิอย่างเดียวก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ควรจะรู้หรือตื่นตัวกับสถานการณ์ในสถานที่ที่ตัวเองอยู่สักหน่อยก็ดีนะ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
เท่าที่เคยไปเที่ยวมาหลายๆเมืองในพม่า ไม่ได้น่ากลัวเลยครับ (ไม่นับรัฐยะไข่ ที่มีปัญหาอยู่)
เขาก็ใช้ความรู้ของตัวเองวัด ไม่มีใครผิดใครถูกเรื่องการนั่งสมาธิหรอกครับ
มาไทยเถอะ วัดป่าที่ไหนสักแห่งก็ได้
ดีครับ ไปหาความสงบ
ที่ไทยมีที่นั่งสมาธิเยอะแยะ จะได้ไม่ปวดหัวเรื่องพวกนี้ด้วย
ในเรื่องนี้ผมว่าเขาไม่ได้ผิดอะไรนะ ถ้าดูจากสิ่งที่ Dorsey เป็นอยู่ การออกไปหาความสงบเพื่อผ่อนคลาย ชาร์จแบต สร้างพลังให้ตัวเองหรืออะไรก็ตามแล้วแต่จะเรียก ก็ดูเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับเขาในตอนนี้ เรื่องปัญหาภายในประเทศหนึ่งๆ มันไม่ได้เป็นหน้าที่ของคนนอก หรือเป็น first priority ที่จะเข้าไปยุ่มย่าม
มองในแบบปัจเจก ถ้าเราไปเที่ยวที่ไหนเราต้องเข้าไปแก้ปัญหาภายในให้กับประเทศนั้นๆ ด้วยเหรอ มันเป็นตรรกะที่แปลกๆ อยู่นะครับ
บุคคลสาธารณะย่อมถูกวิพากษ์วิจารณ์ ถ้าไปเที่ยวเฉย ๆ ก็ไม่ควรออกสื่อเพราะมันจะตามมาซึ่งคำถามว่าที่พูดมาจริงแค่ไหน เขาเลือกจะทำแบบนี้เหมือนเป็นโฆษณาประเทศพม่าให้ผู้ติดตามรู้สึกไปในทางใดทางหนึ่ง คนที่ไม่เห็นด้วยก็ย่อมต้องแย้งว่ามันไม่ได้ดีไปทุกอย่าง อันนี้เรียกว่าเสรีทั้งคนเปิดประเด็นและคนออกความเห็นครับ
ครับ
นั่นสิ
Dorsey เป็นผู้บริหารบริษัทเอกชนนะ ไม่ใช่ตัวแทนสหประชาชาติ
ผมว่าเขาก็แค่ไปเที่ยวนะ งี้ไปเที่ยวพวกโซนตะวันออก จะโดนบอกว่าไม่สนใจสงครามหรอ
สาธุ ได้ปฏิบัติธรรมแบบนี้ก็ดี จิตใจน่าจะสงบขึ้น ไม่หวั่นไหวกับสิ่งเร้าที่มากระทบจิตทั้งหลาย
ถ้ามาเมืองไทยคงมีคนแซะว่าทำไมมาประเทศเผด็จการที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนสูง #อ่านข่าวนางงามจักรวาลไปทำเนียบรัฐบาลแป๊บ
ทำไมผมรู้สึกว่าข่าวนี้ไม่เหมือนข่าว Blognone เลย
เหมือนข่าวพวกกระปุก mthai พวกนี้ที่อ้าง "ชาวเน็ต"
คอมเม้นแบบนั้น แบบนี้กัน ก็เป็นข่าวแล้ว
ชาวเน็ตวิจารณ์หนัก หลัง “อร BNK48” ตอบคำถามแฟนๆ แบบนี้
ชาวเน็ตรุมวิจารณ์! รถดับเพลิงโดนใบสั่ง "ใช้ความเร็วเกินกำหนด"
ไม่เกี่ยวกัน? หลังชาวเน็ตบางส่วนลาม รุมต่อว่าแม่ 'น็อต อัครณัฐ' ปมสั่งกราบรถ
คงเป็นชาวเน็ตเลเวล100 หูเทพ ได้ยินเสียงในจินตนาการได้
ดูจากหลายๆคอมเมนต์ผมเศร้าใจแทนชาวโรฮินญาจริงๆ
ได้ทำอะไรเพื่อชาวโรฮิงญาและลดความเศร้าใจให้ตัวเองบ้างไหมครับ .. นอกจากคอมเม้น
my blog
ปัญหาชนกลุ่มน้อยที่พม่า ชาวโรฮินญาดูจะเป็นที่รู้จักกันไปทั่ว แต่ที่จริงแล้วยังมีชนกลุ่มน้อยอีกหลายกลุ่มที่มีปัญหากับรัฐบาลแต่คนประเทศอื่นยังไม่รู้