เป็นธรรมเนียมของ OnePlus ไปแล้ว กับการออกสมาร์ทโฟนเรือธง T ซีรีส์ ถัดจากรุ่นปกติ ซึ่งปีนี้เราได้เห็น OnePlus 6 ที่ทีมงาน blognone เคยรีวิวไปแล้ว กับอีกรุ่นคือ OnePlus 6T ที่วางขายในไทยแล้วเช่นกันมี 2 ราคา ได้แก่ 18,999 บาท รุ่นแรม 6GB + 128GB และ 20,999 บาท รุ่นแรม 8GB + 256GB

สเปก OnePlus 6T ที่ได้มารีวิว มีดังนี้

• จอขนาด 6.41 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล)
• ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 845, จีพียู Adreno 630
• ระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย Oxygen OS
• แรม 6GB, สตอเรจ 128GB
• กล้องหลังคู่ 20 ล้านพิกเซล + 16 ล้านพิกเซล
• กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล
• มีสแกนลายนิ้วมือในจอ
• แบตเตอรี่ความจุ 3700 mAh พร้อม Fast Charge

ตัวเครื่อง

ความแตกต่างระหว่าง OnePlus 6 กับ OnePlus 6T ที่สังเกตได้ง่ายเป็นรอยบากหน้าจอ ซึ่งรุ่น 6T จะมีรอยบากขนาดเล็กคล้ายหยดน้ำ

ส่วนขนาดหน้าจอของ OnePlus 6T อยู่ที่ 6.41 นิ้ว ใหญ่ขึ้นกว่า OnePlus 6 ที่จอมีขนาด 6.28 นิ้ว มีน้ำหนัก 185 กรัม หนักกว่าเช่นกัน ไม่ส่งผลให้ปวดเมื่อยข้อมือเมื่อถือด้วยมือเดียวเป็นเวลานานๆ ขณะที่ความละเอียดหน้าจอก็เพิ่มจาก OnePlus 6 เล็กน้อย จาก 2280 x 1080 พิกเซล เป็น 2340 x 1080 พิกเซล การแสดงผลทำได้คมชัดทั้งในที่แสงปกติและสู้แสงมากๆ ได้

ฝาหลัง OnePlus 6T ที่ผู้เขียนนำมารีวิวเป็นสีดำ (Mirror Black) วัสดุเป็นกระจก (เมื่อตอนเปิดตัวจะมีอีกแบบเป็นสีดำ Midnight Black ฝาหลังทำจากวัสดุผิวด้าน แบบเดียวกับรุ่น OnePlus 6) ไม่ลื่นหลุดมือง่ายขณะอยู่ในมือ แต่แน่นอนว่าความเงางามของฝาหลังย่อมตามมาด้วยรอยนิ้วมือและฝุ่นที่เกาะค่อนข้างง่าย

ปุ่มหรือพอร์ทโดยรอบทางด้านขวาตัวเครื่องจะมีปุ่มพิเศษสำหรับเปิดเสียง, เปิดโหมดสั่น และปิดเสียง, ปุ่มถัดลงมาจะเป็นปุ่มพาวเวอร์ ขณะที่ด้านซ้ายตัวเครื่องเป็นช่องใส่ซิม รองรับ 2 ซิม แต่ไม่รองรับ microSD card และมีปุ่มปรับระดับเสียง

ขอบด้านล่างเป็นตำแหน่งลำโพงเสียง และพอร์ท USB Type-C

การใช้งาน

OnePlus 6T มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย Oxygen OS เป็นรอมที่ OnePlus พัฒนาขึ้นเองและ มี UI คล้ายกับเพียวแอนดรอยด์

ชิปประมวลผลใน OnePlus 6T ยังเป็น Snapdragon 845 เหมือนกับ OnePlus 6 ส่วนเครื่องที่รีวิวนี้มากับแรม 6GB (รุ่นสูงสุดแรม 8GB) สามารถเล่นเกมกราฟิกระดับสูงได้อย่างลื่นไหล แต่อาจทำให้ผู้ใช้บางรายหงุดหงิดเล็กน้อยกับติ่งเล็กๆ ที่กินพื้นที่การแสดงผลในขณะเล่นเกม ส่วนการเปิดปิดและสลับใช้งานแอพต่างๆ สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว

สแกนลายนิ้วมือ

OnePlus 6T มาพร้อมสแกนลายนิ้วมือในจอ แค่แตะนิ้วที่จุดบนหน้าจอก็สามารถปลดล็อกหน้าจอได้อย่างรวดเร็วเพียงเสี้ยววินาทีโดยไม่จำเป็นต้องลงน้ำหนัก

อย่างไรก็ตามจากการทดสอบผู้เขียนพบว่าบางครั้งเซ็นเซอร์ไม่สามารถตรวจจับลายนิ้วมือได้ แม้ในขณะนั้นบนหน้าจอจะไม่มีฝุ่นเกาะ รวมถึงนิ้วมือไม่ได้เปียกน้ำแต่อย่างใด ซึ่งไม่แน่ใจว่าหากเป็นเครื่องที่ขายจริงผู้ใช้จะพบปัญหาแบบนี้บางหรือไม่

กล้องถ่ายภาพ

สเปกกล้องหลังคู่ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล + 16 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/1.7, เซ็นเซอร์ Sony IMX 519, มีกันสั่น OIS + EIS ซึ่งการใช้ในภาพรวมทำได้น่าประทับ การโฟกัสและการจับภาพทำได้รวดเร็ว, สีสันของภาพเป็นธรรมชาติไม่สดจนเกินไป และมีความคมชัด

ส่วนตัวผู้เขียนชื่นชอบโหมด Nightscape สำหรับถ่ายกลางคืน ซึ่งสมาร์ทโฟนบางรุ่นแม้จะมีโหมดถ่ายภาพกลางคืนมาให้ แต่ต้องใช้เวลาลากชัตเตอร์ (Long Exposure) เป็นเวลานาน หากไม่มีขาตั้งสำหรับสมาร์ทโฟนช่วยก็อาจทำให้ภาพที่ออกมาเบลอได้ แต่สำหรับ OnePlus 6T สามารถถ่ายภาพกลางคืนให้สวยได้ง่ายๆ ด้วยโหมด Nightscape โดยใช้เวลาลากชัตเตอร์เพียง 2 วินาทีเท่านั้น

ตัวอย่างภาพจากล้องหลัง ปรับขนาดภาพลงมาเท่านั้น ไม่มีปรับแต่งเพิ่มแต่อย่างใด

แบตเตอรี่

จุดเด่นอีกหนึ่งข้อใน OnePlus 6T มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3700 mAh ใหญ่ขึ้นกว่า OnePlus 6 ที่มีแบตเตอรี่ 3300 mAh ไม่ว่าจะใช้เช็กอีเมล, ตอบแชทใน LINE, เล่น Facebook, ดู YouTube, เล่นเกม หรือถ่ายภาพต่อเนื่อง แบตเตอรี่ก็อึดพอที่จะได้อยู่ตลอด 1 วัน แบบไม่ต้องง้อพาวเวอร์แบงค์สำหรับชาร์จระหว่างวัน

สรุป

แม้สเปกภายในของ OnePlus 6T จะใกล้เคียงกับ OnePlus 6 แต่สิ่งที่ทำได้ดีกว่าคือ ความละเอียดหน้าจอที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้การแสดงผลทำได้คมชัดทั้งในที่แสงปกติและสู้แสงมากๆ ได้ เรียกได้ว่าไม่ได้ทำให้หน้าจอใหญ่ขึ้นเพียงอย่างเดียว ขณะที่กล้องหลังในการถ่ายภาพแสงปกติก็ให้ภาพที่ออกมาดีอยู่แล้ว เพิ่มเติมด้วยโหมด Nightscape ที่ใช้เวลาลากชัตเตอร์ เพียง 2 วินาที ช่วยถ่ายภาพกลางคืนเป็นเรื่องง่ายดายมากขึ้นโดยไม่ง้อขาตั้งสมาร์ทโฟน