ปัญหาใหญ่ของรถยนต์ไฟฟ้าคือสถานีชาร์จน้อยและใช้เวลาชาร์จนาน ซึ่ง Tesla ก็พยายามขยายสถานีชาร์จ Supercharger ของตัวเองอยู่ตลอด โดยล่าสุดได้สรุปตัวเลขของปี 2018 ออกมา
Tesla ระบุว่าตลอดปี 2018 บริษัทฯ ได้เพิ่มสถานีชาร์จไฟไปทั้งสิ้น 3,100 จุดทั่วโลก (ที่ Tesla ทำตลาดอย่างเป็นทางการ) โดยขณะนี้สถานีชาร์จครอบคลุม 99% ของประชากรสหรัฐอเมริกาแล้ว รวมถึงครอบคลุม 97% ของประชากรในทวีปยุโรป เรียกว่าถ้าอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาหรือยุโรปก็แทบจะไม่มีปัญหาเรื่องหาสถานีชาร์จแล้ว
นอกจากนี้ในรถยนต์ Tesla ยังมีฟีเจอร์ Trip Planner ช่วยให้การวางแผนเดินทางสะดวกขึ้นเพราะรถจะวางเส้นทางไปยังจุดหมายที่ผ่านสถานี Supercharger ให้อัตโนมัติ รวมถึงบอกระยะเวลาที่ต้องจอดชาร์จไฟด้วย โดยยกตัวอย่างว่าผู้ใช้รถสามารถเดินทางจากเมืองลิสบอนประเทศโปรตุเกสไปยังเมือง Sørkjosen จุดเกือบเหนือสุดของประเทศนอร์เวย์ รวมระยะทาง 5,426 กิโลเมตร
ที่มา - @Tesla
1/ In 2018 we added over 3,100 Superchargers globally. Our network now covers 99% of the US population and 97% of Europe and will continue to grow in 2019 https://t.co/nXy0py2PcR
— Tesla (@Tesla) December 30, 2018
3/ Trip Planner automatically guides you to convenient Superchargers along your route. Just enter a destination and your Tesla tells you when, where, and how long to charge before continuing your journey pic.twitter.com/wPjqx2HRLQ
— Tesla (@Tesla) December 30, 2018
4/ With the Supercharger network, you can go from Miami to Vancouver, Mexico City to Detroit, Lisbon to Sørkjosen. Explore a route at https://t.co/sYRUpnw42V https://t.co/i7qUpNCRHs
— Tesla (@Tesla) December 30, 2018