Xiaomi Mi MIX 3 สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงในตระกูล MIX เน้นการออกแบบที่โดดเด่นเป็นหลัก
จุดเด่นของรุ่นนี้คือหน้าจอขนาด 6.39 นิ้ว เต็มตาไร้ขอบ โดยใช้เทคนิคการซ้อนกล้องหน้าด้วยกลไกแม่เหล็กสไลด์ด้วยมือ แยกหน้าจอแสดงผลกับตัวเครื่องหลัก สเปคโดยรวมยังคงใช้ชิป Snapdragon 845, แรมเริ่มต้นที่ 6GB รอมเริ่มต้นที่ 128GB, กล้องหน้า-หลังคู่, รองรับการชาร์จไร้สายแบบเร็ว 10W และแถมแท่นชาร์จไร้สายมาให้ด้วย วางขายในไทยเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2018 ราคา 18,990 บาท
ตัวผู้เขียนสั่งจองล่วงหน้าผ่าน Lazada ได้ Mi Band 3 และ Mi Home Security Camera 360 เป็นของแถม
เปิดกล่องมาจะพบกับตัวเครื่องเป็นอันดับแรก
หลังจากหยิบเครื่องออกจากกล่อง จะเป็นคำนำจาก Lei Jun CEO
อุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้แก่ ตัวแปลง 3.5 mm. To Type-C, เข็มจิ้มถาดซิม
หัวชาร์จ Quick Charge จ่ายไฟออก 5V 2.5A, 9V 2A และ 12V 1.5A และสาย USB Type-C
แท่น 10W Wireless Charging เป็นพลาสติกนุ่มๆ กันลื่นได้ดี รองรับไฟเข้า 5V 2A และ 9V 2A
เคสพลาสติกตามสีเครื่อง ก็มีแถมมาให้ด้วย
เคสถูกตัดออกครึ่งหนึ่ง เพื่อให้จอสไลด์ผ่านลงได้
อุปกรณ์ทั้งหมด
เครื่องที่ใช้ในการรีวิวนี้เป็นสี Sapphire Blue ตัวเครื่องหนักมาก แต่การจับถือถนัด
หน้าจอสัดส่วน 19.5:9 และไร้ติ่ง ให้ความรู้สึกเต็มตา โดยส่วนด้านล่างจะหนากว่าขอบด้านอื่นๆ เล็กน้อย
การแสดงสีสันชัดเจน ส่วนการใช้งานกลางแจ้งก็มีการเร่ง contrast หน้าจอเพื่อสู้แสงแดดอัตโนมัติ
ฝาหลังใช้วัสดุเป็นเซรามิกตามแบบฉบับตระกูล MIX ซึ่งเป็นร้อยนิ้วมือง่ายมากๆ
มีการวางกล้องคู่เป็นแนวตั้ง มีเซนเซอร์อ่านลายนิ้วมืออยู่ตรงกลาง อ่านได้ไวและแม่นยำ
กรอบโดยรอบของตัวเครื่องหลักเป็นกรอบตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียม ส่วนกรอบหน้าจอเป็นพลาสติก
ด้านบนมีไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน 1 ตัว
ด้านซ้ายมีถาดซิม ถัดไปเป็นปุ่ม AI ซึ่งสามารถตั้งค่าเพื่อเรียก Google Assistant, เปิดไฟฉาย เปิดกล้องหลังเป็นต้น
ด้านขวาเป็นปุ่มเพิ่มลดเสียง และปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ทุกปุ่มค่อนข้างนิ่ม ระยะการกดสั้น
ด้านล่างฝั่งซ้ายเป็นช่องไมโครโฟน ตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C ฝั่งขวาเป็นลำโพงให้เสียงดังปานกลาง มีเบสแทรกเล็กน้อย
มาถึงจุดเด่นของรุ่นนี้ คือการสไลด์จอลงด้วยมือ หลังจากสไลด์แล้วจะพบกับกล้องวัดความตื้นลึก ถัดมาเป็นกล้องหน้าหลัก 24MP, ลำโพงสนทนา และขวาสุดเป็นไฟแฟลช
ในส่วนของหน้าจอแสดงผลจะมีการเจาะรูลำโพงสนทนาไว้ที่ขอบด้านบน ถัดไปเป็นเซนเซอร์ proximity, ambient light และไฟ LED สำหรับแจ้งเตือน แสดงแค่สีขาวเท่านั้น
Mi MIX 3 มาพร้อมกับ Android Pie 9.0 จากโรงงาน โดยครอบทับด้วย MIUI 10 อีกที
ชิป Snapdragon 845 และแรม 6GB รองรับการใช้งานทั่วไปได้ครบถ้วน ลื่นไหลดี มีโหมด full screen gesture เพื่อซ่อนแถบ navigation ด้านล่างและใช้การปัดหน้าจอแทนปุ่ม รองรับการแสดงผลเต็มจอ ก็ทำได้สะดวกมาก
คะแนนจาก AnTuTu Benchmark v7.1.3 ได้ 292,274 คะแนน
ทดสอบเกมอย่าง PUBG Mobile ตั้งค่ากราฟิคได้ที่ HDR และเฟรมเรทที่ Ultra สามารถเล่นลื่น การระบายความร้อนดี เล่นติดต่อกันแค่อุ่นๆ
ระบบ Dual GPS ด้วยแอพ GPS Test ทดสอบในอาคารได้ความคลาดเคลื่อนที่ 4 เมตร จับดาวเทียมได้ 35 ดวง ส่วนการนำทางด้วย Google Maps นั้นสามารถจับพิกัดที่อยู่ได้รวดเร็วและแม่นยำ
หน้าจอรองรับ Full HD แบบ HDR บน YouTube ด้วย แต่น่าเสียดายที่รุ่นนี้ยังคงไม่สามารถชม Netflix แบบ Full HD ได้ (Widevine CDM L3)
จุดเด่นที่สุดของ MIX 3 คือการสไลด์ด้วยมือเพื่อเปิดถึงตัวเครื่องหลักที่มีกล้องหน้าคู่ ลำโพงสนทนาและไฟแฟลชซ่อนอยู่
โดยใช้แม่เหล็กแรงสูงเป็นตัวหยึดที่ Xiaomi เคลมว่ารองรับการสไลด์ได้ถึง 300,000 ครั้ง
จังหวะการสไลด์ทำได้ประทับใจ แน่นหนา รู้สึกสนุก แต่ฝุ่นเข้าง่ายมาก นอกจากจะสไลด์เพื่อเปิดกล้องหน้าแล้ว ยังสามารถเรียกใช้แทนการรับ-วางสายโทรศัพท์, เรียกแอพ, เรียก shortcut control (เครื่องคิดเลข, ไฟฉาย คล้ายๆ Control Center ใน iOS) หรือใช้เพื่อปลดล็อคด้วยใบหน้าก็ได้
และเราสามารถตั้งเสียงของการสไลด์ได้ด้วย ฟังตัวอย่างเสียงได้จากคลิปด้านล่าง
กล้องหลังคู่ใช้ชุดเลนส์เดียวกับ Mi 8 และ MIX 2S การที่มี Dual Pixel ทำให้การโฟกัสทำได้รวดเร็วมาก
การถ่ายภาพที่มีแสงเพียงพอ ทำออกมาใส ได้ดีมาก แต่ถ้ามีที่แสงน้อย ยังทำได้ไม่ดี ถึงแม้จะใช้โหมดถ่ายกลางคืนแล้วก็ตาม
การเปิดโหมดให้ AI ช่วยแต่งภาพนั้น ส่วนใหญ่จะทำแค่เร่งค่า saturation ทำให้สีสดเกินไป จนเพี้ยนโดยเฉพาะอาหาร
ตัวอย่างภาพถ่ายด้านล่าง
แสงน้อย
แสงน้อยเปิด night mode
auto
auto + HDR
auto
auto + AI
auto
auto + AI
portrait
close up
indoor
สำหรับการถ่ายวิดีโอ กล้องหลังทำออกมาได้ดีมาก โดยสามารถทำความละเอียดได้ที่ 4K 60fps พร้อมเปิดกันสั่น OIS แต่เสียงยังคงแย่เหมือนเดิม การถ่ายวิดีโอ slow-motion ได้ที่ 120 fps, 240 fps และแบบ interpolation ที่ 960 fps
แต่น่าเสียดายที่กล้องหน้าถ่ายวิดีโอได้แค่ 1080p 30fps เท่านั้น แต่การถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้ามี portrait mode ด้วย ซึ่งจะทำให้ได้ภาพเคลื่อนไหวแบบชัดตื้นของบุคคลแบบเรียลไทม์ ในโหมดนี้จะถ่ายได้แค่ 720p เท่านั้น
ตัวอย่างวิดีโอด้านล่าง
กล้องหลัง
กล้องหน้าเปิดโหมด portrait
ด้วยความจุเพียง 3,200 mAh สามารถใช้งานทั่วไปเช่น Facebook, YouTube, Chrome และถ่ายรูป/วิดีโอบ้าง ได้ต่อเนื่อง 5-6 ชั่วโมงเท่านั้น และจะน้อยลงอีกหากใช้เล่นเกมหรืองานกราฟฟิคหนักๆ
การชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% ถึง 100% ใช้เวลาประมาณ 1 ชัวโมง 30 นาที
ถึงแม้กระแสหน้าจอมีติ่งจะมาแรงก็ตาม แต่จากคอนเซ็ปต์ Art x Technology ทำให้ Mi MIX 3 กลายเป็นมือถือเรือธงรุ่นล่าสุดของตระกูล MIX ที่รักษาความเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างครบถ้วน ด้วยหน้าจอไร้ติ่ง แสดงผลได้เต็มตา ขอบบาง นำกลไกการสไลด์มาซ่อนกล้องหน้าไว้หลังจอแสดงผล แต่คงไม่เหมาะสำหรับคนที่ใช้กล้องหน้าบ่อยๆ
มีการใช้ AI มาช่วยในเรื่องการถ่ายภาพและวิดีโอ อีกทั้งสร้างมาตรฐานใหม่ด้วยการแถมแท่นชาร์จไร้สายมาในกล่องอีกด้วย
Comments
สไลด์ใช้จริงๆยากไปหน่อย จอมันลื่นเกินจะสไลด์จอลงมาได้ต้องสองนิ้ว เราต้องกด+บีบหนักๆช่วย เสียดายทำให้ต้องเลิกใช้วิธีการปลดล็อคด้วยใบหน้าที่เร็วมากๆไปเลย เพราะต้องมาเสียเวลาออกแรงสไลด์ แถมการใส่เคสที่แถมมาก็ไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่เหมือน Dual GPS ก็แอบกินแบตฯหนักอยู่ โดยเฉพาะเวลาเล่น Pokemon GO
ประทับใจการออกแบบเสาสัญญาในเครื่องมากๆ จับ WiFi กับสัญญาณมือถือได้ดีที่สุดตั้งแต่ใช้มาเลย
เครื่องค่อนข้างกินแบตฯ ตอนนี้นั่งปรับแต่งมา 2 วันแล้วหวังว่าจะทำให้อยู่ได้ยาวกว่านี้ได้(ลอง Grayscale โหมดอยู่ไม่รู้จะช่วยได้ขนาดไหน)คือไม่อยากต้องมาแบกมือถือหนักๆติดตัวแล้วต้องมาแบก Power Bank ด้วย.....รู้สึกเจ็บปวดอ่ะ :-(
ถ้าสไลด์แบบนี้มาแรง แนวคีย์บอร์ด Physical สไลด์ข้างอาจกลับมาด้วย ผมชอบนะ
แต่ชอบกล้องแบบ Pop-up ของค่ายนึงมากกว่า จำชื่อไม่ได้ ถ้าได้ดีไซน์แบบนี้ร่วมด้วย ผมว่าน่าใช้กว่าสไลด์จอเปิดกล้องนะ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
Vivo NEX ปะครับ
ใช่ครับ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
แบตไม่อึด ใช้ไม่ถึงวัน จริงๆไม่น่าจะมีในมือถือรุ่นใหม่แล้วนะ
แบตไม่ถึงวัน กล้องไม่มีกันสั่น
ซดแบตเกิน
Pubg เล่นนานใหมครับ ผม mi8 ปรับสุดได้ แต่เล่นไปสักพัก พอร้อนมากมันจะ dim แสงหน้าจอลง ทั้งๆที่ปรับสุด เล่นต่อไม่ได้เลย
เทียบกับ Lenovo Z5 Pro GT ที่สไลด์จอลงมาเพื่อเปิดกล้องหน้าเหมือนกัน ดูสเปคของ Lenovo มีภาษีกว่าพอสมควรทั้งสแกนนิ้วมือใต้จอ Snap 855
แต่ติดที่การซัพพอร์ตของ Lenovo มากกว่า กลัวจะแถมแพ และไม่รู้เดี๋ยวนี้ ui ของ Lenovo ยังหน่วงอยู่มั้ย
เห็นว่า ui เปลี่ยนใหม่แล้วนะครับ ได้ยินว่าลื่นพอตัวเลย แต่เรื่องแพนี่ขนาด moto เองยังไม่ค่อยจะรอดเลย
ชอบ review ตรงที่ทดสอบเรื่อง GPS ด้วยครับ
That is the way things are.
เดาว่าเพราะเรื่อง GPS ยังเป็นจุดอ่อนและโดนเพ่งเล็งอยู่ครับ การพยายามทำ Dual GPS ก็เพื่อแก้ไขตรงจุดนี้ การรีวิว GPS ก็ถือว่าเป็นประโยชน์มากๆ กับผู้บริโภค
อยากซื้อมาใช้ แต่ผมทำตกบ่อย (มาก) ดูเคสที่ร้าน Mi ในจีนแล้ว ไม่มีเคสแบบกันกระแทกเลย
กลัวตกแล้วสไลด์พัง เลยไม่ซื้อมาใช้
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
ตายเรื่องแบตจริงๆ
[S]