ปัจจุบันบริการหลายอย่างเริ่มเปลี่ยนวิธีการขายจากเดิมซึ่งมักจะเป็นการขายขาดมาเป็นการสมัครสมาชิกโดยเก็บค่าใช้จ่ายรายเดือนหรือรายปีมากขึ้น แต่บริการเหล่านี้มักจะมีช่วงให้ทดลองฟรีโดยให้ผูกบัตรเครดิตไว้ก่อน พอหมดเวลาทดลองก็ตัดเงินทันทีโดยไม่แจ้งเตือนให้ผู้ใช้ทราบอีกครั้งก่อนที่จะมีการตัดเงิน
Mastercard ต้องการจะแก้ปัญหานี้ ทางบริษัทจึงออกนโยบายใหม่ที่กำหนดให้ผู้ให้บริการสมัครสมาชิกจะต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ใช้ก่อนที่จะตัดเงินจากบัตร และต้องบอกด้วยว่าจะยกเลิกอย่างไรก่อนที่จะถูกตัดเงิน
นโยบายล่าสุดของ Mastercard กำหนดให้ผู้ให้บริการจะต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ถือบัตรก่อนที่จะเรียกเก็บเงิน โดยผู้ให้บริการจะต้องแจ้งเตือนผู้ใช้บัตรผ่านอีเมลหรือ SMS ซึ่งจะต้องมีรายละเอียดจำนวนเงิน, วันที่จะต้องจ่ายเงิน, ชื่อผู้ให้บริการ และวิธีการยกเลิกหากไม่ต้องการให้หักเงิน ส่วนการเรียกเก็บเงินจากบัตรของผู้ใช้ในครั้งถัด ๆ ไป ผู้ให้บริการจะต้องส่งใบเสร็จรับเงินให้ผู้ถือบัตรทางอีเมลหรือ SMS ด้วยเช่นกัน โดยทุกครั้งที่มีการเรียกเก็บเงิน ผู้ให้บริการจะต้องระบุ URL ของเว็บไซต์หรือเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองด้วย
อัพเดต 18 มกราคม 5.58: Mastercard ชี้แจงเพิ่มเติมว่า นโยบายนี้มีผลบังคับใช้เฉพาะสินค้าประเภทจับต้องได้เท่านั้น - Engadget
ที่มา - Mastercard
ภาพจาก Pexels
Comments
ผู้ให้บบริการ => ผู้ให้บริการ
เยี่ยม
มีอีกแบบคือเก็บค่าสมาชิกราคาถูกมากแต่ได้แค่ช่วงเวลาหนึ่งพอหมดช่วงก็ตัดเงินเต็มทันทีอัตโนมัติอ่านไม่ดีก็โดนฟันเละ
ที่เคยเข้าไปดูแต่ละเว็บมีแต่บอกว่าจ่ายรายเดือน แต่ยกเลิกไม่ได้ ส่วน visa กับ paypal ไม่มีนโยบายแถมเงียบเป็นเป่าสาก ต้องเปิด dispute เอาเอง
ดีๆ
เมื่อไหร่ค่ายมือถือเราจะมีนโยบายแบบนี้บ้าง
ล่าสุดผมเพิ่งโดนมาครับ สมัครทดลองใช้แอพ 3 วัน พอสมัครเสร็จปุ๊บมันหักเงินผมเลย :(
อัพเดต 18 มกราคม 5.58: Mastercard ชี้แจงเพิ่มเติมว่า นโยบายนี้มีผลบังคับใช้เฉพาะสินค้าประเภทจับต้องได้เท่านั้น
ที่เขาเดือดร้อนกัน มันเป็นพวกแอปรายเดือนทั้งนั้นนิ บอกงี้ยกเลิกนโยบายไปเลยก็ได้นะ
ที่เห็นทำแบบนี้มาสักพักแล้วก็ HostGator ที่มันจะส่งเมลมาก่อนตัดเงินออโต้ทุกเดือน แล้วตอนจะตัดจริงก็ส่งบอกอีกทีนึงตลอด
เฉพาะสินค้าที่จับต้องได้เท่านั้น?
แล้วมันมีอะไรบ้างที่จับต้องได้ และจ่ายรายเดือนหละครับ ถ้าไม่นับ บ้าน, รถ
“...เฉพาะสินค้าประเภทจับต้องได้เท่านั้น...” โอเคแยกย้าย
หลังๆ เวลาจะทดลองซื้อของอะไร
ผมจะใช้กับ virtual card ของ Mastercard ใน True wallet
อย่างน้อยมันก็เป็นแบบ prepaid ปกติผมจะเติมเงินไม่เยอะ เวลาเกิดอะไรขึ้นก็ไม่มีอะไรเสียหายมาก
เดี๋ยวๆ แล้วมันจะมีประโยชน์อันใด ?
ที่มีปัญหากัน มันคือสินค้า digital - electronic ไม่ใช่เหรอ
นโยบายเหมือนจะดี แต่มาตายตอนจบ
เฉพาะสินค้าที่จับต้องได้...หาไม่เจอจริงๆ ว่ามีอะไรบ้างที่เข้าข่าย