ท่ามกลางมรสุมที่รุมเร้า Huawei เหริน เจิ้งเฟย (Ren Zhengfei) ผู้ก่อตั้งบริษัทที่ออกสื่อน้อยมาก ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่ออย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดให้สัมภาษณ์กับ CCTV ของจีน แสดงความมั่นใจคุณภาพระดับโลกของอุปกรณ์ไร้สายและเครือข่าย 5G ของ Huawei
"มันจะเป็นเรื่องเขลามาก (สำหรับประเทศตะวันตก) หากไม่ซื้ออุปกรณ์จาก Huawei", "ความสูญเสียจะเกิดกับประเทศเหล่านั้น (ไม่ใช่ Huawei)" ผู้ก่อตั้ง Huawei กล่าว "เรามีหลายอย่างที่ประเทศอเมริกันและยุโรปต้องการ และพวกเขาจะต้องมาซื้อกับเรา", "หากคุณทำผลิตภัณฑ์ของคุณดี คุณก็ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องยอดขาย" เหริน เจิ้งเฟยแสดงความมั่นใจในเทคโนโลยีไร้สายและ 5G ของ Huawei
เหรินบอกด้วยว่ายังไงบริษัทก็จะยังคงขายอุปกรณ์ให้กับประเทศที่ปฏิเสธ Huawei นั่นก็เพราะ Huawei เป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับลูกค้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Huawei ก็จะโฟกัสกับประเทศที่ต้องการจะซื้อผลิตภัณฑ์จากบริษัทเป็นหลักอยู่ดี
ตอนนี้หลายประเทศที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐทยอยแบนหรือกำลังพิจารณาแบนผลิตภัณฑ์ของ Huawei อยู่เรื่อยๆ ล่าสุดที่มีข่าวว่ากำลังพิจารณาก็คือประเทศนอร์เวย์และไต้หวัน
ทั้งนี้ผู้ก่อตั้ง Huawei ยืนยันด้วยว่า ตัวเขาถูกบังคับจากทีมพีอาร์ให้ช่วยสัมภาษณ์ออกสื่อ ในช่วงที่บริษัทกำลังเผชิญวิกฤติขณะนี้และสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าและพนักงานมากขึ้น
Comments
เช็คที่มาของรอยเตอร์ด้วยครับ เปิดไม่ได้
แก้แล้วครับ ขอบคุณครับ
อุปกรณ์ 5G นี้หมายถึงมือถือ เหรอครับ?
อุปกรณ์ Network ครับ
ไปขู่เขาอีก
แค่นี้ชาติตะวันตกคงเขลาพอที่ได้ซื้อไปใช้แล้วล่ะ เขาคงไม่เขลาอีกรอบหรอก
จะหมู่หรือจ่าแบบตอน ZTE ?
ZTE นี่ เหมือนจีนเสียรู้ฝรั่งจอมตระบัตสัตย์เลย
ยอมจ่ายเงินก้อนโต คิดว่าถ้าลุยขายปีสองปีอาจจะพอได้คืน
พอจ่ายเสร็จ ออกกฎมาแบนซะอย่างงั้น
ถ้ารู้ว่าแบนก็ไม่มีวันจ่ายหรอก
+1
เคส ZTE ตอนแรก แบนเพราะเรื่องขายของให้อิหร่าน พอจ่ายค่าปรับก็ยกเลิกแบน
ส่วนรอบสอง อ้างเรื่องความมั่นคง ดักฟัง..
แต่ ZTE เจ็บหนักกว่า Huawei เพราะใช้อุปกรณ์ส่วนประกอบที่ผลิตจากสหรัฐจำนวนมากด้วย ตอนแรกที่โดนแบนเรียกว่าผลิตต่อไม่ได้เลย ไม่ใช่แค่มาขายในเมกาไม่ได้
ไม่พูดจะดีกว่าไหม?
แกว่งเท้าหาเสี่ยนจริงๆ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าคุณโทรมาตอนนี้เราแถมBaiduให้ฟรี
เขาก็พูดตรงและถูก..เพราะโลกตะวันตกกลัวเทคโนโลยีทางเอเชียก้าวเกินหัว นี่หากจีนเป็นประชาธิปไตยก็ง่ายหน่อย
ผมก็คิดคล้ายๆ กันว่าที่ Huawei โดนกีดกันเพราะว่าไม่ต้องการให้ Huawei เป็นผู้นำของโลกสื่อสารในยุคถัดไป
ที่เค้ากลัวกันเพราะ Huawei ไม่ใช่บริษัทเอกชนจากจีนแผ่นดินใหญ่ แต่เป็นเหมือนรัฐวิสาหกิจของจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจแบบ ปตท. หรือ CAT ของไทยครับ
+100
หนักกว่านั้นอยู่บ้าง พ่อเจ้าของHuaweiเคยเป็นสมาชิกพรรคคอมระดับผู้นำท้องถิ่น ตัวเจ้าของHuaweiเคยเป็นนักวิจัยการสื่อสารในกองทัพ ถึงจะอ้างว่าออกมาทำธุรกิจในช่วง1980 แต่เชื่อได้ว่ามีความสัมพันธ์กับพรรคคอมอย่างไม่ธรรมดา (ZTEเปิดตัวว่าเป็นของรัฐเลย) การมีสัมพันธ์กับรัฐหรือการที่รัฐหนุนหลังอาจไม่ใช่ประเด็นหลักเพราะบริษัทใหญ่ๆทั่วโลกก็เหมือนกัน (ประมาณ King Power กับสัมปทานผูกขาด) นั่นเป็นเหตุผลที่ทุกประเทศยอมให้ค้าขาย ทั้งหมดที่ว่ามาแค่เบื้องต้น ที่น่ากลัวคือทางการจีนออกกฏหมาย(น่าจะ2017)ประมาณว่าทุกบริษัทของจีนต้องเป็นหูเป็นตาให้ประเทศ เจตนาประกาศให้เป็นสายลับกันทั้งประเทศ เป็นหนึ่งในสิ่งที่อเมริกาเตือนพันธมิตร เพราะธุรกิจHuaweiคือการสื่อสาร(โทรศัพท์เป็นแค่ส่วนเล็กมากๆ) เท่ากับทุกการสื่อสารรวมทั้งความลับของรัฐอาจหลุดได้ อาจจะไม่มีหลักฐานแต่กันไว้ดีกว่าแก้ เร็วๆนี้ในจีนมีการ์ตูนสอนเด็กๆให้คอยสอดส่องคนรอบข้าง ไม่ใช่เรื่องใหม่ มีมากว่าสี่สิบห้าสิบปีแล้ว แค่มาปัดฝุ่นให้ทันยุค กระทั่งมีชาวฮ่องกงเขียนบทความว่าสีจิ้นผิงจะกลับไปคุมประเทศแบบเหมาเซตุงซึ่งต่างกับเติ้งเสี่ยวผิง(ในบทความอ้างว่ามีการเก็บรูปของรัฐบุรุษท่านนี้ออกจากพิพิธภัณฑ์ต่างๆด้วย) สุดท้ายนี้ผมแค่เติมโดยไม่ได้มีหลักฐานใดๆ คือไม่ใช่แค่ชาวต่างชาติ ประชาชนจีนในประเทศเองก็จะขาดอิสรภาพไปยิ่งกว่าเดิม อาจเป็นเหมือนยุคฝรั่งจับแม่มด