หัวเว่ยเปิดตัวมือถือพับได้อย่างเป็นทางการในชื่อ Huawei Mate X เมื่ออยู่ในรูปของมือถือทั่วไปจะมีจอสองด้าน จอด้านหน้ามีขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด 2480 x 1148 พิกเซล, จอด้านหลังมีขนาด 6.38 นิ้ว ความละเอียด 2480 x 892 พิกเซล เมื่อกางเป็นแท็บเล็ตจะมีขนาด 8 นิ้ว ความละเอียด 2480 x 2200 พิกเซล แสดงผลเต็มจอ ไร้รอยแหว่ง
Huawei ใช้ดีไซน์ที่เรียกว่า Falcon Wing Design จากมือถือเป็นแท็บเล็ตด้วยการกางจอจากด้านนอก กางเป็นแท็บเล็ตตัวเครื่องจะบาง 5.4 มิลลิเมตร บางกว่า iPad Pro 2018 (บาง 5.9 มิลลิเมตร) เมื่อพับเป็นมือถือตัวเครื่องจะมีความบาง 11 มิลลิเมตร สามารถรันแอพได้ 2 ตัวพร้อมกันแบบแบ่งจอ
กล้องถ่ายจะมี 3 ตัว ใช้เทคโนโลยีจาก Leica วางเรียงเป็นแนวตั้งอยู่ที่สันของตัวเครื่อง ใช้เป็นทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังได้ แต่ไม่ระบุความละเอียด และมีปุ่มสแกนลายนิ้วมือด้านข้าง
สเปก Huawei Mate X ใช้ชิป Kirin 980 และชิป Belong 5000 รองรับ 5G, ใช้งานได้สองซิม หรือสลับใช้ 1 ซิมและ NM Card ก็ได้
Huawei Mate X มีแบตสองก้อนอยู่ทั้งสองฝั่งของหน้าจอ ความจุ 4500 mAh รองรับ Huawei SuperCharge ให้กำลังไฟ 55W มากที่สุดในบรรดามือถือเรือธงของ Huawei ทุกรุ่น
Huawei Mate X ยังมาพร้อมเคสแบบ Full Protection ใช้ได้ขณะเป็นมือถือ
ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 2,299 ยูโร หรือประมาณ 81,000 บาท มากับแรม 8GB, สตอเรจ 512GB วางขายกลางปีนี้
Comments
แพงกว่า Galaxy Fold เกือบสองหมื่นบาท ซึ่ง Galaxy Fold เองก็แพงกว่า iPhone รุ่นแพงสุดเกือบหมื่นเจ็ดพันบาท (ทั้งสามตัว 512GB เหมือนกัน)
ถือว่าซื้อ 2 Device ในเครื่องเดียว ฮ่าๆ ราคาบวกๆ ไป
Galaxy Fold เป็น ufs 3.0 ตัวนี้ใช้สเปคไหนครับ
กาชา?
โอ้ยๆๆ อย่างฮา
จะสเปคไหนก็สร้างประสบการณ์การใช้งานได้ดีไม่ต่างกันครับ
— ประธาน Huawei ไม่ได้กล่าวไว้ —
หน้าตาดูดีกว่า Galaxy Fold ทั้งตอนพับและกาง
สวยมากกกกแต่ราคานี่ .....
ตอนแรกกะไว้ว่าต้องราคาถูกกว่า Galaxy Fold ออกมาจริงดันแพงกว่าซะงั้น ทั้งๆที่มีจอเดียว จำนวนกล้องก็น้อยกว่า RAM น้อยกว่า แบตน้อยกว่า
แต่ดีไซน์นี้ผมว่าโอเคกว่านะ จอถูกพับน้อยกว่า เครื่องบางกว่า มีสันให้จับได้ง่ายด้วย กล้องก็ใช้แค่ด้านเดียวพอ แถมไม่ปูดด้วย
ไม่ชอบสัน. หนา11 mmทั้งตอนพับและกาง
จอพับด้านแบบSSจอจะยืดหดน้อยกว่า. จอพับด้านนอกแบบhuaweiจอจะยืดเยอะกว่าใช้นานๆไม่รู้มีผลต่ออายุการใช้งานไหม
งานจอพับ รอบนี้จีนชนะเกาหลี ดูดีกว่า
สวยกว่า Fold นะ
ชาร์จเร็วของไอโฟนเค้าวัดจากที่มันรองรับจริง หรือ เอาที่แถมมาในกล่องครับ
กรณีนี้ คงเอาที่แถมจากกล่อง ไม่ได้เอาจาก spec ที่รองรับจริงๆ เป็นการเล่นการตลาดให้ภาพลักษณ์ดูดี ดู Apple ตกกระป๋องไปเลย
อัพเกรดจากการโกงสเปคตัวเองเป็นโกงสเปคคนอื่นด้วย มีการพัฒนานะครับ
โกงสเปคคนอื่น ตรงไหนละครับ ในเมื่อไอโพน ตัวชาร์ตในกล่องที่ใส่มันให้มาได้แค่นั่น(ถ้าอยากได้เพิ่มก็ไปชื้อเอา) เพราะที่เขาจะเทียบคงเอาตัวชาร์ที่ให้มาในกล่อง แล้วตัวอื่นมี่ยกมาเขาก็เอาเทียบกับตัวชาร์ตที่ให้มาในกล่อง แล้วมันโกงชาวบ้านเขาตรงไหน ไม่คิดกลับกันถ้าเอาความเร็วสูงสุดที่ชาร์ตได้จริงมาเทียบกับตัวอื่น ไม่คิดบ้างหรือครับ ว่าความคิดแบบนี้โกงชาวบ้านเขา ที่เขาเอาตัวชาร์ตที่ให้มาในกล่องมาเทียบกัน
อคติเเบาๆ ลงหน่อยก็ดีครับ
ใช่ครับ เท่าที่เลื่อนๆ ดูเค้าก็ใช้มาตรฐานแบบนี้นะไม่ว่าจะสินค้าตัวเองหรือเจ้าอื่น เช่น
iPhone Xs Max รับการชาร์จด้วยกำลังสูงได้ ที่ชาร์จในกล่องรองรับการจ่ายไฟ 5W ก็เลยเขียน 5W
ตัว Huawei Mate X เองเวลากางออกมามีส่วนที่หนา 11 มม. กับ 5.4 มม. ก็เลยเขียน 5.4 มม.
เค้าคงตั้งไว้ว่าถ้ามีหลายค่าให้เลือกค่าน้อยสุดมาเขียนครับ
ไม่ได้เลือกค่าน้อยสุด แต่เลือกค่าไหนก็ได้ที่ตัวเองดูดีที่สุด
ไม่ใช่ว่าเป็นค่าที่ adapter ในกล่องที่ให้มาจ่ายได้หรอครับ
ของ Huawei นี่แถมในกล่องมาถึงขนาด 40W เลยเปล่าครับ พอดีไม่เคยใช้
ส่วนรุ่นใหม่นี่ watt เยอะมาก นี่จะเอา adaptor ของ notebook แล้วมั้งเนี่ย
ให้มา 40W ครับ นาทีที่ 1:35
https://www.youtube.com/watch?v=NbBSzuz6HX0
ขอบคุณครับ อันอย่างหนาเลย ตัว 55W นี่จะขนาดไหนเนี่ย
ผมเกลียด Huawei แต่ยอมรับว่า Mate X สวยจริง ๆ
ปล. ราคาแรงมาก
อันนี้ที่ผมเป็นห่วงเวลาจอมันอยู่ด้านนอก กางแล้วจอมันก็จะย่นเข้ามา
กระแสในนี้กำลังดี จุ๊ๆ อย่าเพิ่งสปอยสิครับ
100,000 ฿ soon
สภาพนี้ติดฟิลม์ไม่ได้แน่นอน
หลัง ๆ มามือถือจอขอบจะโค้ง ต้องติดฟิมกระจกแบบไม่เต็มจอซึ่งมันน่าตลกมาก
ผมเลยไม่ติดฟิมล์เลย และก็ไม่เห็นว่าหน้าจอจะเป็นรอยอะไร (ใช้มา 2 ปีละ)
มุมจอเเตกนิดหนึ่งเพราะทำหล่นสองเครื่องละที่ใช้ไม่ติดฟิล์ม
กำลังว่าจะซื้อ MI8 ใหม่ละคงไม่ติดฟิล์มเหมือนเดิม
ประชันนวัตกรรม(ราคา)กันใหญ่แต่ทำมาเยอะๆก็ดีราคาจะได้ลดไวๆ
ต้องไปดูที่เขาลองเล่น บางคลิป จะเห็นปัญหาที่จะเจอแน่ๆ ทั้ง HW และ SW ในการใช้งาน
- การยืดหดของหน้าจอ ในสภาพใช้งานจริง รอยพับ แค่ตัวทดสอบก็ย่นซะแล้ว จะไหวไหม
- การ Switch ระหว่างระหว่างจอแบบครึ่งเดียว กับจอแบบ Full ตอนจับมันอยู่ในสภาพจับบนจอภาพเลย หากจอตอบสนองไม่ทัน หรือ SW ตอบสนองไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
- เหมือน SW ยังไม่รองรับเลย เดโม มีแต่หน้าจอแรกเท่านั้น แล้วก็พับโชว์ ไม่เห็นการใช้งานจริงเลย มีบางที่แอบถ่ายช่วงเปิด App ใช้งานขึ้นมา ปรากฎว่าหน้าจอไม่ตอบสนองการ Touch ซะงั้น
ฯลฯ
แต่ยังไงมันก็ตัว Prototype คงต้องให้เวลาแหล่ะ แต่จากรายการเหล่านี้มันเป็นปัญหาที่การออกแบบด้วย คงต้องใช้เวลาเยอะกว่าของ Samsung เยอะ (มากด้วย)
แต่ยอมรับว่าสวยกว่า Samsung จริงๆ ส่ว่นในการใช้งานจริง คิดว่าคงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจณ์ แต่คิดว่าคงไม่ได้ออกขายเร็วๆ นี้หรอก สภาพตาม Prototype อย่างน้อยก็ 6-8 เดือนขึ้นไป แค่คงต้องการพื้นที่ข่าว เลยรีบร้อนปล่อยออกมา แต่ของ Samsung น่าจะขายได้จริงตามกำหนด
ที่แพง คง5G
ชอบไอเดียตรงมีสัน ในการใช้งานจริงจอขนาดนี้ ต้องมีวิธีการจับมือเดียวที่มั่นคงและไม่ต้องเอามือทาบทับจอมากเกินไป
ที่ยังดูมีปัญหาคือ จอที่พับจะมีความทนทานแค่ไหน
ยุคมือถือถ่ายรูปได้ผ่านไปแล้ว ยุคหน้าจอทัชได้ก็ผ่านไปแล้ว เข้าสู่ยุคมือถือพับได้เต็มตัวแล้วสินะ
แต่ผมคิดว่าไม่เกิดครับ เหมือนกับกล้องที่ใช้เทคนิคป๊อบอัพที่หลายคนบอกว่ามันกำลังจะกลายเป็นเทรนด์ ซึ่งผมไม่เห็นด้วย
pop up มันเป็นแค่ดีไซน์ครับ แต่อันนี้เป็นนวัตกรรม มันต่างกันเยอะเลยครับ ถ้าสามารถทำเทคโนโลยีให้ราคาถูกได้เท่ามือถือปัจจุบันไม่มีเหตุผลที่จะไม่ใช้ครับ ยังไงมันก็มีประโยชน์ อย่าว่าแต่มือถือเลยครับ เราอาจจะเห็น laptop ในรูปแบบอื่น หรือ OS เกิดใหม่เลยครับ
ที่ผมเห็นคือมันยังไม่เรียบง่ายพอครับ การใช้งานในสถานการณ์จริงๆ แบบที่ได้ประโยชน์ก็ยังดูเฉพาะทางเกินไป ผมยังให้ค่ามันเท่ากับทีวีสามมิติ จอของโค้งของซัมซุง หรือ Google glass
ก็ต้องรอดูว่ามันจะสามารถทำอะไรที่คุ้มค่าจนคนยอมใช้อะไรแบบนี้มั้ย เหมือนที่ยุคหนึ่งคนยอมทิ้งมือถือฟีเจอร์เพื่อมาใช้สมาร์ทโฟนทั้งๆ ที่แบตอึดน้อยลงมากๆ
สำหรับผมที่พกมือถือเครื่องเดียวแล้วต้องเปิด google sheet หรือ teamviewer ตอนอยู่ข้างนอกแค่นี้ก็นับว่าเป็นประโยชน์มหาศาลแล้วครับ
เคสของคุณคือตัวอย่างของคนที่มีความต้องการที่เฉพาะเจาะจงที่ชัดเจนมากๆ ครับ ซึ่งมันไม่น่าจะใช่ความต้องการของผู้ใช้งานทั่วไป และเหตุผลนี้แหละครับที่จะทำให้มันไม่ mass
มันไม่ได้เฉพาะทางเลยครับ การที่เราพกมือถือเครื่องเท่าเดิม ฟังก์ชันก็ใช้ได้เหมือนเดิม แต่สามารถขยายจอให้ใหญ่ขึ้นได้เมื่อต้องการ มันจะไม่ mass ยังไงครับ ถ้าต้องการใช้แบบเดิมๆก็พับเก็บเอาไว้เหมือนเดิมก็เป็นมือถือปกติเครื่องนึง แต่อยากใช้งานให้เต็มที่ จะดู youtube จอใหญ่ขึ้น อ่านหนังสือ หรือเล่นเกมก็เปิดออกมาแล้วอะไรคือเหตุผลที่เราจะไม่ใช้หล่ะครับ ผมยังมองไม่เห็นข้อเสียเลยนอกจากราคา แต่อย่างที่ผมบอกตั้งแต่ต้นว่า "ถ้า" ราคามันถูกลงมาจนเท่ากับราคามือถือในปัจจุบันนะครับ
ถ้าคิดว่ามันเป็นเรื่องฟุ่มเฟือยเกินเหตุ ผลว่าเทียบเคสนี้กับเรื่อง HDD SSD ก็ได้ครับ ฟังก์ชันเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือราคากับความเร็ว คนก็ยอมจ่ายเพื่อความสะดวกสบาย
อยากรู้ว่าในผู้ใช้ 10 คน มีกี่คนที่จะใช้ google sheet หรือ teamviewer ครับ ลองออกไปถามดูข้างนอก ซึ่งผมมั่นใจว่าใน 10 คนจะมีที่ใช้งานแบบนี้ไม่เกิน 4 คน ส่วนที่คิดว่ามันไม่ซิมเปิลคือคนเราไม่ได้ต้องการจอใหญ่มากขนาดที่จะต้องเพิ่มเงินหรือเพิ่มความยุ่งยาก (ยุ่งยากในการเก็บการรักษา) มากขนาดนั้นครับ ซึ่งเทียบกับสิ่งที่ต้อง invest กับสิ่งที่ได้มา มันสู้มือถือจอใหญ่ๆ ที่ราคาถูกกว่าไม่ได้ครับ ที่ได้มาคือความเท่กับความที่อาจจะสะดวกขึ้นนิดหน่อยในบางมุม
google sheet กับ teamviewer แค่ตัวอย่างจากการใช้งานของผมคนเดียวครับ ผมบอกแล้วว่าทุกคนได้ประโยชน์หมด วันไหนอยากดูหนัง อยากเล่นเกม หรืออยากทำอะไรที่จอใหญ่ขึ้นก็แค่กางออกมา ไม่อยากใช้ก็ไม่ต้องกางออกมา เรื่องเงินผมอธิบายไว้แล้วครับ ใครอยากใช้ตอนนี้ก็จ่ายก่อน ส่วนใครไม่ไหวก็รอเทคโนโลยีมันถูกลง มีไว้ให้ใช้ก็ดีกว่าไม่มีครับ ตอบโจทย์ลูกค้าหลายกลุ่มมากขึ้น ถ้าคุณบอกว่าคนเราไม่ได้ต้องการจอใหญ่ขนาดต้องเพิ่มเงินอันนี้ผิดครับ สำหรับคุณอาจจะใช่ แต่ไม่ใช่กับทุกคน ไม่งั้น tablet คงขายไม่ออก หรือมือถืออย่าง S10+ XS Max Pixel XL ที่แค่เพิ่มขนาดจอแต่ราคาเพิ่มแบบมหาโหดก็ยังมีคนซื้อเป็นจำนวนมาก เรื่องการเก็บรักษายังไม่มีการพิสูจน์ขอยังไม่พูดถึงครับ
เรื่องจอใหญ่ผมหมายถึงคนส่วนใหญ่ครับ ยิ่งคุณยกตัวอย่าง tablet มามันก็ยิ่งตอกย้ำเรื่องที่ผมพูดให้ยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น ตอนนี้คนส่วนใหญ่ยังมองเรื่องราคาเป็นสำคัญ ถ้าพูดถึงสถานการณ์ปัจจุบันคนยินดีเลือกมือถือจอใหญ่(ราคาถูก) มากกว่าที่จะไปซื้อมือถือระดับไฮเอ็นหรือแท็บเลต หรือในอนาคต ถ้าจอพับได้มันถูกลง นั่นก็จะหมายถึงว่าจอที่ใหญ่และพับไม่ได้ก็จะถูกลงยิ่งกว่านี้เช่นกัน ซึ่งคนที่ concern เรื่องงบก็จะยังคงยินดีเลือกมือถือจอใหญ่มากกว่ามือถือจอพับได้ ถึงแม้ในอนาคตมือถือจอพับจะได้รับความนิยม แต่ผมก็ยังมองว่า มันจะเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มแบบที่ tablet เป็นอยู่ตอนนี้แหละ
สำหรับผมไม่ต้องการอะไรที่วุ่นวายแบบนี้ครับ ต้องการความซิมเปิล พกง่าย ดูสมารืท
สวยนะ แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นจอเดียวกันก็ได้ เป็นห่วงจอตรงพับจะพังเร็ว
แต่งานออกแบบสวยกว่า samsung เยอะ
ฮืออออ ราคาเอื้อมถึงยากจริงๆ
เห็นราคา... ที่เหลือก็ไม่จำเป็นต้องอ่าน >_<"
ถ้าทำตกแล้วขอบลงนี่โดยจอเต็มๆเลยนะเนี่ย
สวยกว่าซัมซุม ตอนพับต่อเล็กก็ดูดีเหมือนมือถือทั่วไป พอกางออกเป็นแท็บเลตเลย
ส่วนของซัมซุงพอพับจอเล็ก ๆ ดูตลก ๆ อยู่ด้านนอก จะใช้จอใหญ่พับอยู่ด้านในอีกทีแยกกัน
แต่ราคาแพงกว่าซัมซุงอีกโหดไปนะ
เห็นคนกังวลกันเยอะจริง ๆ เรื่องพับจอ นี่บริษัทใหญ่นะ ผมว่านักวิจัยเขาคงคิดได้ก่อนอยู่แล้วแหละว่าการพับเข้าออกบ่อย ๆ จะมีผลแบบไหน ต้องได้ทดลองพับเป็นหมื่น ๆ แสน ๆ รอบก่อนที่จะออกขายอยู่แล้ว
เห็นรถฟอร์ดผมไม่กล้าพูดแบบนั้นครับ
I need healing.
555 ลั่น! ช่างตลกอย่างร้ายกาจ (-o-)
แค่การพับจอ ทดสอบการพับจอ เข้า-ออก
มันไม่ได้ซับซ้อนยุ่งยากเหมือนระบบเกียร์
ที่มีเงื่อนไขมากมายอย่างรถยนต์ครับ
คนละเรื่องกันเลยครับเทียบกันไม่ได้
อันนี้เค้าน่าจะหมายถึงรถฟอร์ดที่ปิดประตูแล้วล็อกไม่ได้ที่เป็นปัญหาที่เจอกันบ่อยในบอร์ดพันทิปรึเปล่า เดาเอานะไม่เคยมีรถเพราะจน
ไม่ต้องไปถึงระบบเกียร์ก็ได้ครับ แค่ไอแพดโปรงอได้หรือปัญหาสายแพบานพับบนแมคนี่ก็เป็นตัวอย่างให้เห็นแล้วว่า บริษั่ทใหญ่ก็พลาดง่ายๆ ได้เหมือนกัน
ยังไงสิ่งที่พวกคุณเปรียบเทียบมามันก็มีเงื่อนไขซับซ้อนอยู่ดีกว่า
แต่การที่จอมันพับได้คือสิ่งที่หลายคนกลัว มองเห็นอยู่ไงครับ
ที่ผมพยามสื่อซึ่งเขาก็ต้องคิดไว้ก่อนเหมือนกัน
และต้องผ่านการทดสอบจำนวนมาก
สิ่งที่ผมยกมามันก็เป็นของพื้นฐานที่บริษัทใหญ่จะนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ อยู่แล้วนะครับ เรื่องการทดสอบจุดอ่อนไหวต่างๆ ซึ่งมาค้านกับที่คุณอ้างเรื่องบริษัทใหญ่ point คือมันไม่ได้เกี่ยวกับความซับซ้อนหรือไม่ซับซ้อน แต่เป็นการเสนอแง่มุมในอีกด้านที่ว่าบริษัทใหญ่ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถพลาดในเรื่องที่ดูไม่น่าจะพลาดได้อยู่บ่อยๆ เช่นกัน
งงว่า พอพับได้เจ้านึงก็พับได้กันหมดเลยเหรอ
ผมว่าด้วยความที่เทคโนโลยีของจอมันมาพอดี เลยรีบทำไว้ก่อน ดีหรือไม่ดีไม่รู้ รู้แค่ว่าถ้าไม่ทำเดี๋ยวตกขบวน