หนึ่งในกลยุทธ์การ transform ของธนาคารไทยพาณิชย์คือการตั้งบริษัทลูก Digital Ventures (DV) ขึ้นมาเพื่อเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ พัฒนานวัตกรรมด้านการเงิน และลงทุนในสตาร์ทอัพเพื่อต่อยอดให้กับธุรกิจของธนาคาร
ความโดดเด่นของ Digital Ventures คือมีวัฒนธรรมองค์กรเป็นของตัวเองในแบบของสตาร์ทอัพ แต่พนักงานยังคงได้สวัสดิการต่างๆ เหมือนกับพนักงานของไทยพาณิชย์ และตอนนี้ Digital Ventures ก็กำลังมองหาคนรุ่นใหม่มาร่วมงานอยู่ด้วย
Digital Ventures (DV) เป็นบริษัทลูกในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ ตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2016 ด้วยจุดประสงค์เพื่อผลักดันและสร้างสรรค์เทคโนโลยีด้านการเงิน (FinTech) ให้กับบริษัทแม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในวิสัยทัศน์หลักของธนาคาร ที่ต้องการลงทุนเพื่อยกระดับเทคโนโลยีรากฐาน พร้อมนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าธนาคาร
ปรัชญาของ DV คือค้นหาและทดลองสิ่งใหม่ๆ บนความเป็นไปได้ที่ไม่รู้จบ ถูกสะท้อนออกมาผ่านโลโก้บริษัทที่เกิดจากรูป Tangram ตัวต่อปริศนา 7 ชิ้นของจีนโบราณ ที่สามารถต่อออกมาได้เป็นร้อยเป็นพันรูปแบบอีกด้วย
โครงสร้างองค์กรของ DV เองถูกแบ่งออกเป็น 3 หน่วยงานย่อยได้แก่
CVC คือหน่วยลงทุนองค์กร ทำหน้าที่เฟ้นหา ศึกษา ทำความเข้าใจและตัดสินใจลงทุนในสตาร์ทอัพหรือกองทุนทั่วโลกที่ตอบโจทย์ธนาคาร โดยเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ (strategic investment) เพื่อหาความรู้ หาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการธนาคารไทยพาณิชย์ อาทิ ลงทุนในสตาร์ทอัพ Ripple ที่เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีบล็อคเชนสำหรับธนาคาร เพื่อศึกษาและทดสอบเทคโนโลยีบล็อคเชน ในกระบวนการโอนเงินระหว่างประเทศ
ทีม CVC จะมี 2 ทีมย่อยคือทีมที่ดูแลการลงทุนทั่วโลก (global) และทีมที่ดูแลการลงทุนในประเทศจีนโดยเฉพาะ เงินทุนรวมสำหรับการลงทุนจะอยู่ที่ราว 150 ล้านเหรียญสหรัฐ
โครงการที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโดยเฉพาะภายใต้โครงการที่ชื่อ U.REKA ที่พุ่งเป้าไปที่การสนับสนุนงานวิจัยและเทคโนโลยี Deep Tech อย่าง AI, Blockchain, Cloud & Security, Big Data, IoT, AR/VR และ Quantum Computing เพื่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ จากเทคโนโลยีเหล่านี้ออกมาเพื่อแก้ปัญหาทางธุรกิจได้จริง เป้าหมายระยะยาวของโครงการนี้คือเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มขีดความสามารถของการพัฒนานวัตกรรมให้กับประเทศไทยด้วย
นอกจากเฟ้นหาเทคโนโลยีจากภายนอกผ่านการลงทุนและบ่มเพาะแล้ว DV ยังมีหน่วยงานพัฒนาเทคโนโลยี FinTech ภายในเป็นของตัวเองด้วย โดยจะเปิดกว้างเปิดพื้นที่ให้ทดลองและพัฒนานวัตกรรมใหม่โดยอาศัย Deep Tech เป็นหลัก
ตัวอย่างโซลูชันที่ออกมาจาก Discovery Lab แล้วได้แก่ B2P (Blockchain Solution for Procure-to-Pay) ที่นำข้อมูลกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างขึ้นไปรันบนบล็อคเชนของ R3 และB.VER แพลตฟอร์มตรวจสอบทรานสคริปต์บน Ethereum เป็นต้น
ทีมนักพัฒนาที่อยู่ในทีม Discovery Lab มีทั้งกลุ่มที่ดูแล DevOps, Infrastructure รวมถึงที่เป็น Business Analyst ซึ่งทั้งหมดมีโอกาสได้ทดลองเล่นและสัมผัสกับเทคโนโลยีใหม่แห่งอนาคตอยู่ตลอดเวลา โดยส่วนใหญ่ในทีมนักพัฒนาจะเป็นคนรุ่นใหม่ที่มี passion ในการพัฒนาเทคโนโลยีด้าน Deep Tech
บรรยากาศการทำงานของ DV จะมีความเป็นสตาร์ทอัพสูง บรรยากาศสบายๆ เน้นที่ผลงานเป็นหลัก สนับสนุนให้พนักงานลองผิดลองถูก มีปัญหาหรือมีไอเดียสามารถเข้าไปพูดคุยกับผู้ใหญ่หรือผู้บริหารได้โดยตรง ซึ่งก็มักจะได้รับการสนับสนุนกลับมาอย่างเต็มที่ให้ลองอะไรใหม่ๆ ทำให้บทบาทของผู้บริหารที่นี่เหมือนเป็นโค้ชมากกว่าด้วยซ้ำไป
facility ในออฟฟิศก็มาพร้อมเทคโนโลยีอย่างระบบสแกนใบหน้า สำหรับการเข้าออฟฟิศ, จองห้องประชุมผ่านระบบออนไลน์ หรือหน้าจอทีวีในห้องประชุมก็รองรับ stylus และทัชสกรีน สามารถขีดเขียนเข้าไปได้เลย
ออฟฟิศของ Digital Ventures จะไม่ได้อยู่ที่สำนักงานใหญ่ของธนาคารไทยพาณิชย์ที่รัชโยธิน แต่ตั้งอยู่ที่ชั้น 10 อาคาร FYI Center ตรงข้ามศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สามารถเดินทางมาด้วยรถไฟฟ้า MRT สถานีศูนย์สิริกิติ์ ทางออก 1
DV ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ของพนักงาน เลยเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถเรียนด้วยตัวเองนอกเวลางานผ่านคอร์สออนไลน์ต่างๆ เช่น Udemy ซึ่ง DV มีแอคเคาท์ Udemy for Business ให้พนักงานทุกคน
นอกจากเรียนด้วยตัวเองแล้วยังมีการจัด Knowledge Sharing Session ที่เชิญผู้เชี่ยวชาญภายนอกหรือจากภายในบริษัทเข้ามาสอนหรือแชร์ความรู้ในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี หรือไม่ก็เปิดพื้นที่ให้เพื่อนร่วมงาน ที่ทำงานในโปรเจ็คต่างๆ มาแชร์ประสบการณ์และความรู้ให้กับทีมอื่นๆ ฟัง อีกทั้งยังมีส่งพนักงานไปร่วมงานอีเวนท์หรือ Tech Conference ในต่างประเทศ อาทิ AWS Summit ด้วย
สวัสดิการของพนักงาน DV ไม่ต่างกับบริษัทแม่อย่างธนาคารไทยพาณิชย์มากนัก สวัสดิการพื้นฐานมีให้ครบ พิเศษกว่านั้น ที่นี่ยังมี ขนมให้ไม่อั้น, มีแมคบุ๊คให้, มีเกม มีคาราโอเกะในออฟฟิศและเอ้าติ้งประจำปี เป็นต้น
หากคุณเป็นนักพัฒนาที่สนใจใน Deep Tech มีความมุ่งมั่นที่อยากจะเปลี่ยนสังคมให้ก้าวหน้าด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ สามารถดูตำแหน่งที่เปิดรับได้ที่ Blognone Jobs
หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Digital Ventures Website