ถึงจะได้รับความนิยมในหลายประเทศทั่วโลก แต่อนาคตของ PUBG Mobile เกมแนว Battle Royale บนมือถือชื่อดังในอินเดียอาจจะไม่สดใสนักแม้ว่าจะมีผู้เล่นเป็นจำนวนมากก็ตาม เนื่องจากมีแรงต้านจากหลายฝ่ายในประเทศทั้งด้านความกลัวเรื่องความรุนแรงจากเกมและการติดเกม
Bloomberg ได้รายงานสถานการณ์ของ PUBG Mobile ได้อย่างน่าสนใจ โดยในขณะนี้มีหลายเมืองที่แบนเกมนี้ รวมถึงมีการจับกุม 10 นักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่เล่น PUBG Mobile ในอินเดียตะวันตกโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย
นอกจากนี้ Navbharat Times หนึ่งในหนังสือพิมพ์ภาษาฮินดีที่ใหญ่ที่สุดของอินเดียยังได้ตีพิมพ์บทความว่า PUBG Mobile นั้นเปรียบได้กับ “โรคระบาด” ที่เปลี่ยนเด็กให้กลายเป็น “คนโรคจิต” และทำให้เด็กหลายคนสูญเสียความสมดุลทางจิตใจอีกด้วย
สำหรับการต่อต้านที่เกิดขึ้นมานี้ Bloomberg วิเคราะห์ว่าน่าจะมาจากการที่เกมออนไลน์เติบโตในอินเดียแบบก้าวกระโดดจนผู้ปกครองหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับมือไม่ทัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมาถึงของสมาร์ทโฟนราคาถูกและราคาอินเทอร์เน็ตมือถือที่เข้าถึงได้ทำให้ชุมชนชายขอบที่ไม่เคยมี PC หรือเครื่องคอนโซลได้สัมผัสการเล่นเกมเป็นครั้งแรก
อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์เด็กติดเกมในอินเดียคือ การที่ยังไม่มีกฏหมายควบคุม เช่น การควบคุมอายุของผู้เล่นเกิดขึ้น เนื่องจากเกมเป็นหัวข้อที่ใหม่มากของอินเดีย
ทั้งนี้ ต้องติดตามต่อไปว่าอินเดียจะมีมาตรการรับมือกับกระแสของเกมมือถือที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างไรในฐานะตลาดสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่เติบโตเร็วที่สุดและใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองรองจากจีน
ที่มา: Yahoo News
Comments
ตามหลังไทยมาติดๆ
ไม่รู้ใคร โรคจิตกว่ากัน ระหว่างเล่นเกมส์ กับไม่ได้เล่นเกมส์
เด็ก ออนไลน์ครั้งแรก เลยเพิ่งได้เล่นเกมส์
ผู้ใหญ่ ออนไลน์ครั้งแรก เลยไม่เห็นพวกบทความบนอินเตอร์เว็บส์ที่บอกว่าเกมส์ไม่ได้ทำให้เป็นคนรุนแรง
อืม มีความเป็นไปได้นะ เด็กพวกนี้พอลองได้เล่นเกมครั้งแรกแล้วติดจนไม่ทำอะไรอยากจะเล่นทั้งวันทั้งคืน พอไม่ได้เล่นก็จะโมโหฉุนเฉียวง่าย ยิ่งบางบ้านปล่อยเล่นแบบไม่ควบคุมอะไรเพราะตัวเองก็ต้องไปทำมาหากิน
อันนี้ไม่ได้หมายถึงว่าเกมยิง ๆ กันทำให้คนมีความรุนแรงนะอันนั้นไม่เกี่ยวกัน แต่เป็นความขาดความยับยั้งชั่งใจในการเล่นเกมมากกว่า
ส่วนตัวตอนเด็ก ๆ ก็เป็นเล่นเกมแบบไม่สนอะไรทั้งนั้น เคยครั้งนึงไปเล่นเกมที่ร้านตั้งแต่เช้าร้านเปิด 10โมง กลับบ้าน 4 ทุ่ม ไม่ได้กินข้าวกินน้ำเลย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกหิวอะไร
เกมผิดอีกแล้ว คล้ายๆเมืองไทยดี
ดูหนังโป๊มาเป็นร้อยเรื่องยังไม่เคยข่มขืนใครนะครับ
หนังโป๊มันทำงานคนละแบบกับเกมส์นะครับ เวลาติดเกมส์มันสามารถเล่นได้ข้ามวันข้ามคืน แต่การดูหนังโป๊นี่คงน้อยคนนักที่จะดูติดๆ กันข้ามวันข้ามคืนหรือนานเป็นหลายๆ ชั่วโมง ส่วนใหญ่ก็ดูไม่น่าจะเกินชั่วโมง ดีไม่ดี skip ข้ามๆ ไปรวมแล้วก็ไม่กี่นาที ฉะนั้นอาการเสพติดมันก็น่าจะต่างกันอยู่พอสมควรนะครับ
ผมว่าเหมือนกันนะครับ อย่างผมก็เล่นเกมนานๆไม่ได้ เบื่อ เหนื่อย แต่บางคนข้ามคืนได้
เคยอ่านบางคนเสพย์ติดหนังโป๊ ต้องดูตลอด บางคนก็ 'edging' บางคนก็หลายรอบ จนส่งผลให้พอถึงเวลาจริงมันไม่รู้สึกอะไร
ก็เป็นไปได้ครับ "How Gaming and Porn Addiction Are Ruining a Generation"
หนังโป๊คุณทำกิจเสร็จก็ไม่มีอารมณ์อยากดูต่อแล้ว
มันก็มีพวกที่ข่มขืนบอกเพราะดูหนังโป๊
ก็ต้องมี Remark จากผู้ผลิตว่า
"ห้ามอ้างตัวผลิตภัณฑ์กับอาชญากรรมที่ก่อขึ้น เนื่องจากการรับชมผลิตภัณฑ์นี้ เป็นความรับผิดชอบและสามัญสำนึกของผู้ซื้อหรือผู้รับชม ทั้งทางจริยธรรมและกฎหมาย ไม่สามารถนำมาใช้เป็นข้ออ้างในการก่อเหตุได้ในทุกกรณี
หากคุณหรือผู้รับชมมีปัญหาดังกล่าวหรือมีแนวโน้มที่จะก่ออันตารยจากผลิตภัณฑ์ ควรทำการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ทั้งก่อนและหลังการรับชม"
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
อินเดียประชากรเขาเยอะ ความเหลื่อมล้ำสังคมชนชั้นอีก
ลองมีเด็กติดเกมแล้วทำตัวเละเทะสัก 1% ของประชากรก็แย่ล่ะ
อันนี้ต้องโทษเด็กและผู้ปกครองแล้วหละ อย่าโทษแต่เกม เหมือนไทยในตอนนี้
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
เล่นเกมส์ แล้วเป็นโรคจิต
วิธี " สร้างผีให้คนกลัว " โดยหนังสือพิมพ์
เป็นการทำลายตัวเองอย่างช้าๆ
เกมส์มันไม่มีปากเสียง ด่ามันยังไงก็ได้ วาดภาพให้เลวยังไงก็ได้ ในวันนี้
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ซัก 10 ปี เมื่อคนที่เล่นเกมส์ ซึ่งเป็นฐานประชากรณ
แบบหนึ่งขึ้นมาอยู่ในระดับชนชั้นทำงาน ที่มีกำลังซื้อ
จะเลิกอ่าน นสพ. ที่ชอบลงข่าวแบบนั้นไปเลย
ยกตัวอย่างเช่น นสพ. หัวสีเขียว
นสพ ประมาณนี้นะ รอวันเจ๊งเถอะ มากราบให้อ่าน ยังไม่อ่านเลย หึหึหึ
หนังสือพิมพ์ที่เจ๊งนี่ผมว่ามันเป็นไปตามยุคมากกว่านะครับ ซึ่งดูแล้วเทรนด์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทย ส่วนเรื่องผีเรื่องอะไร (ดราม่า) ถ้าพูดถึงเมืองไทย เรื่องนี้ยังคงขายได้เสมอมาครับ เพียงแต่ว่ามันเปลี่ยนไปอยู่ในรูปแบบอื่นแทนมากกว่า
เขาอาจจะมองว่า อาการสมาธิสั้น เป็นโรคจิตก็ได้นะครับ
ไม่รู้ทำไมต้องมาปกป้องเกมกันจัง? กลัวจะไม่ได้เล่น? ถ้าไม่สร้างปัญหาจริงจะมีข่าวอยู่เรื่อยๆแบบนี้เหรอ? เกมอื่นที่สร้างสรรค์มีเยอะแยะเป็นพันเป็นหมื่นเกม เล่นกันไม่ได้?
ผมมองว่าเกมที่มีเนื้อหารุนแรง ก็คล้ายๆเหล้าบุหรี่ แค่อันตรายน้อยกว่า ที่ไม่ใช่ทุกคนที่ติดแล้วมีจะอาการหนัก แต่ก็มีผลกระทบไม่ดีต่อตัวคนแน่ๆ มากน้อยแล้วมันแล้วแต่คน ถึงต้องมีการควบคุม ถ้าลองปล่อยให้เหล้าบุหรี่ขายให้เด็กได้แบบควบคุมไม่อยู่เหมือนเกมในตอนนี้ดูสิ คิดว่าจะเละเทะกันขนาดไหน
แต่แค่ว่าบางคนเล่นจนติดแล้วบอกไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย(หรือที่จริงตัวเองทำเป็นมองไม่เห็นปัญหา) ก็เหมารวมเลยว่าเกมทั้งหมดไม่สร้างปัญหา
คนเล่นเกมเวลาออกมาปกป้องเกมในข่าวต่างๆ เพราะสื่อมัก exaggerate ให้เกมรับทุกเรื่องแย่ๆที่เกิดขึ้นกับเด็กเล่นเกมไปครับ ทั้งที่มันเป็นกับตัวบุคคลนั้นๆไหมก็ไม่สนใจ ทั้งที่ขึ้นกับครอบครัวไหมก็กลายเป็นกระเด็นรองไป ฯลฯ ซึ่งคนเล่นเกมจะเกาหัว บ่นกันว่า 'เฮ้ย พวกคุณก็ว่าไป มันไม่ใช่แบบนั้นทั้งหมดหรอก'
ส่วนที่ว่าเกมเนื้อหารุนแรงส่งผลกระทบแค่ไหน มันเริ่มมีการศึกษาออกมาบ้างแล้วครับ (งานวิจัยหลังๆล่าสุดนี่คือ ไม่ส่งผลกระทบใดๆมากนัก) ก็สามารถเอาข้อมูลมาใช้ได้ คือทุกคนมีสิทธิ์มองอย่างที่ตัวเองต้องการ แต่ก็อยากให้อ้างอิงข้อมูลกันบ้างครับ ข้อมูลผิดถูกยังไงก็คุยกันบนพื้นฐานที่ว่ามีข้อมูลจากการสำรวจจริงๆไม่ใช่คิดไปเอง เพราะถ้าจะควบคุบ กฏหมายควรมีการอ้างอิงข้อมูลจริงในการตัดสินใจด้วย
นี่เป็นความเห็น extreme อีกอย่างที่พึ่งเกิดช่วงหลังๆ ถ้าเป็นแต่ก่อนนะ ประโยคจะกลับกันกลายเป็น
"แต่แค่ว่าบางคนเล่นจนติด แล้วบอกคนเล่นมีปัญหาหมดทุกคน(หรือที่จริงทำเป็นมองไม่เห็นปัญหาด้านอื่น) ก็เหมารวมเลยว่าเกมทั้งหมดสร้างปัญหา"
อย่างนั้นละครับ
คหสต.ผมก็ได้แต่หวังว่าคนในสังคมจะเริ่มเห็น extreme หลายๆด้านว่ามันไม่เวิร์ค เวลาเราออกกฏหมายแก้ปัญหามา จะได้ตั้งอยู่บนพื้นความเป็นจริงมากกว่าเดิมครับ
TL;DR ผมเห็นด้วยกับคุณว่าปกป้องกันจังเกมนะ แต่ผมก็เข้าใจว่านี่เป็นกระบวนการที่ต้องเกิดในการถกปัญหาอะไรซักอย่าง เห็นเหรียญด้านแรกแล้วก็ต้องมีเห็นด้านสอง สุดท้ายได้แต่หวังว่าคนจะฉลาดกว่าเดิมในที่สุด จบ
ผมนี้นี้เก็บไปฝันเลยครับ คือมันสูบชีวิตมาก มีคืนหนึ่งละเมอกระโดดลงเตียงเลยทีเดี่ยว
มีความเห็นในใจ แต่คิดอีกทีคิดว่า ถ้าลงแล้วจะโดนข้อหา racistsm แหง ๆ เลยไม่ลงดีกว่า (ฮา)
ปัญหาน่าจะมาจากเกมส์สมัยใหม่นี้มันดูrealมากขึ้น จนอาจจะมากเกินไป
อย่างเกมส์ doom contra warcraft ฯลฯ ที่เราๆเล่นกันเมื่อสิบกว่าปีก่อน คือดูยังไงๆมันก็ไม่สมจริง ทำให้เด็กแยกโลกความเป็นจริงกับโลกของเกมส์ออกได้ง่าย แต่เกมส์ยุคใหม่ๆนี้ มันดูสมจริงมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ จนอาจทำให้เด็ก(บางคน)สับสนจนแยกไม่ออก แล้วมันค่อยๆฝังลงไปในจิตใต้สำนึกได้
ไม่ใช่แค่ไทยสินะ