Japan Display (JDI) บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนหน้าจอของญี่ปุ่น ประกาศรับเงินช่วยเหลือรวม 80,000 ล้านเยน หรือราว 23,000 ล้านบาท จากกลุ่มกองทุนของจีนและไต้หวัน ได้แก่ TPK บริษัทผลิตชิ้นส่วนจอสัมผัสของไต้หวัน, Harvest Tech กองทุนจากจีน และ Cosgrove Global กลุ่มทุนจากไต้หวัน โดยจะเป็นการออกหุ้นเพิ่มทุน เพื่อช่วยให้ JDI สามารถขยายตลาดสินค้าจากจอ LCD มาสู่ OLED รวมทั้งลดการพึ่งพาลูกค้าหลักอย่างแอปเปิล
ประเด็นที่น่าสนใจคือ JDI นั้น เป็นบริษัทร่วมทุนที่มีผู้ถือหุ้นหลักคือกองทุน Innovation Network Corp of Japan (INCJ) ของรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งต้องการช่วยเหลือผู้ผลิตจอ LCD สัญชาติญี่ปุ่นซึ่งประสบปัญหาในการแข่งขัน โดยเป็นการรวมธุรกิจผลิตหน้าจอของ โซนี่ โตชิบา และฮิตาชิ เข้ามาเป็นบริษัทเดียวกัน จากดีลดังกล่าวจึงทำให้ JDI เปลี่ยนไปไม่ใช่บริษัทญี่ปุ่น เนื่องจากกลุ่มทุนใหม่จะถือหุ้นรวม 49.8%
ถือเป็นการปิดดีลบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนหน้าจอของญี่ปุ่นอีกครั้ง หลังจากเมื่อไม่กี่ปีก่อน Sharp ก็ตัดสินใจขายธุรกิจผลิตหน้าจอให้กับ Foxconn
ที่มา: Japan Times
Comments
เมื่อก่อน ผลิตภัณฑ์ของญี่ปุ่นเคยทำของดีราคาถูกออกมาขาย แต่ตอนนี้เจอจีนตีตลาดที่งของราคาถูกไปของหรูเลย ความก้าวหน้าและประสบการณ์ที่ทำของแบบนี้ออกมาในอดีต ทำไม่ไม่เอาออกมาใช้หรือประยุกต์ให้เข้ากับของในปัจจุบัน ไม่เข้าใจจริงๆ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ยากครับโครงสร้างรายได้พื้นฐานเปลี่ยนไปแล้ว ค่าครองชีพถูกยกขึ้นตามรายได้ประชาชาติทำให้ต้นทุนที่อยากกดลงแค่ไหนก็มีส่วนที่ทำไม่ได้อยู่ แถมเทคโนโลยีก็ถูกเลียนแบบได้ง่ายขึ้น ความได้เปรียบด้านเทคนิคที่อาจทำให้นำหน้าคู่แข่งหลายปีก็ทำได้ไม่นาน ราคาก็เลยตั้งสูงไม่ได้ต้องตั้งพอๆกัน โครงสร้างเศรษฐกิจก็ไม่ทำให้ได้เปรียบมากเหมือนแชโบลด้วย สินค้าไม่ต่างกันแต่ต้นทุนสูงกว่าสายป่านก็ไม่ยาวยังไงก็แข่งไม่ได้ครับ เขากดราคามาสู้ก็ตายแล้ว
ญี่ปุ่นเคยทำของถูกกรอครับ สมัยผูกขาดนี่ฟันกำไรกันหน้าลือดมาก
ผมพูดถึงสมัยอดีตช่วง 1970-2000 ช่วงที่ของญี่ปุ่นไหลเข้าประเทศและในฝั่งตะวันตก (โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ทำให้แบรนด์เดิมๆ หายไปเยอะมาก) นะครับ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
หมายถึงยุค SNES ของอเมริกาแพงกว่าญี่ปุ่นเหรอครับ?
ประมาณนั้น แต่ถูกกว่าเครื่องเล่นของแบรนด์ในบ้านตัวเอง บวกกับสหรัฐฯ เจอวิกฤติตอนต้นถึงกลางยุค 80 และเกมพี่นินเยอะกว่า ไม่แปลกที่จะขายดี
เหมือนกับเครื่องใช้ภายในบ้านและรถนะครับ ที่ในสหรัฐฯ ก็โดนแย่งส่วนแบ่งไปเยอะพอสมควร
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ถ้ากรณีนั้น ผมมองว่าของญี่ปุ่นมันแพงยังไงก็ยังงั้นแหละ แต่ก่อนไม่มีจีนแบบปัจจบันเปรียบเทียบไง
แต่ก่อนเราเรียกจีนแดงๆ กัน ของถูกมากแต่ห่วยครับ
อนาคตจีนก็อาจจะเป็นเช่นเดียวกันกับญี่ปุ่น
ตอนนี้ของ low tech ก็ผลิตในจีนไม่ได้แล้ว เพราะค่าแรงแพง
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นประเทศที่จะต่อจากจีนได้
อินเดีย, แอฟริกา, อเมริกาใต้ น่าจะยังไม่พร้อมในอนาคตอันใกล้
เวียตนามล่ะครับ
ผมยังคิดว่า จอหลอดยังมีดีอีก และ อนาคตคงมีน่าจะดี