Docker ประกาศเปิดตัว Docker Enterprise 3.0 แพลตฟอร์มคอนเทนเนอร์สำหรับองค์กร ซึ่งจะเป็นการเน้นที่เครื่องมือเพื่อการพัฒนาซอฟต์แวร์บนคอนเทนเนอร์ที่เร็วและลดความผิดพลาดในระหว่างการพัฒนา พร้อมสำหรับการนำไปรันบนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย

Docker Enterprise 3.0 มีไฮไลต์ฟีเจอร์ที่น่าสนใจดังนี้

สิ่งแรกคือ Docker Desktop Enterprise เครื่องมือใหม่สำหรับนักพัฒนาที่ขยาย Docker Enterprise Platform มายังเครื่องเดสก์ท็อปของนักพัฒนา เพื่อเพิ่ม productivity ในการพัฒนาซอฟต์แวร์และลดระยะเวลาในการส่งออกแอปใหม่สู่ตลาด โดยในส่วนของ Docker Desktop Enterprise มีฟีเจอร์ดังนี้

• Application Designer ระบบเวิร์คโฟลวที่มีเทมเพลตสำหรับการสร้างแอปบนคอนเทนเนอร์ ไม่ต้องใช้คอมมานด์ของ Docker CLI
• เวอร์ชันแพคที่สามารถปรับแต่งได้ สามารถทำสำเนา environment ที่ปรับแต่งไว้แล้วในโปรดักชั่นมาใช้กับเดสก์ท็อปได้ทันที เพื่อลดความแตกต่างระหว่าง environment
• ศูนย์รวมการจัดการ ใช้ไฟล์แพคเกจเป็นมาตรฐาน MSI (สำหรับ Windows) และ PKG (สำหรับ Mac) เพื่อกระจายให้ใช้งานกับเครื่องมือจัดการด้าน endpoint
• ออโตเมชั่นพร้อมกับระบบเทมเพลต ให้มีผู้อนุมัติให้ใช้เทมเพลตของ Dockerfile, Docker Compose file และ CI pipelines สำหรับให้นักพัฒนาใช้งาน

ถัดไปคือ Docker Application เครื่องมือชุดใหม่สำหรับการทำแอปที่ช่วยตั้งแต่เรื่องการพัฒนาไปจนถึงขั้นตอนการดำเนินงาน ผู้ใช้สามารถจัดการแอปที่ซับซ้อนได้เหมือนคอนเทนเนอร์แยก มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจดังนี้

• ใช้มาตรฐาน CNAB ที่ Docker ร่วมกับ Microsoft, Bitnami, HashiCorp และ CodeFresh พัฒนาขึ้นมา
• Docker Application Template ทำให้การแชร์และทำให้แอปเป็นมาตรฐานนั้นทำได้ง่ายขึ้น ด้วยการทำเทมเพลตของแอปรวมถึงพารามิเตอร์สำหรับการดีพลอย
• Docker Assemble สร้าง Dockerfile จากไฟล์ที่เกี่ยวข้องสำหรับเฟรมเวิร์คของแอปทั่ว ๆ ไปโดยไม่ต้องใช้ความรู้ขั้นสูงของ Docker

Docker Kubernetes Service หรือ DKS เป็นระบบที่อินทิเกรต Kubernetes ตั้งแต่เดสก์ท็อปของนักพัฒนา ไปจนถึงเซิร์ฟเวอร์บนโปรดักชั่น เพื่อทำให้การใช้ Kubernetes ง่ายขึ้นในองค์กร โดย DKS จะใช้ Kubernetes 1.14 รองรับ Container Storage Interface เต็มตัว รวมถึงเป็นแพลตฟอร์มเดียวสำหรับนักพัฒนาและโอเปอเรเตอร์ ที่จะซิงค์กันตั้งแต่ขั้นตอนการพัฒนาไปจนถึงโปรดักชั่น เพื่อการควบคุม lifecycle ของการพัฒนาซอฟต์แวร์ได้เต็มรูปแบบ

ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ ในอัพเดตรอบนี้ เช่น

• การอัพเกรดคลัสเตอร์ สามารถใช้การอัพเกรดแบบ blue-green กับคอนเทนเนอร์เพื่อลดผลกระทบ และควบคุม lifecycle ของซอฟต์แวร์ส่วนโครงสร้างพื้นฐานได้ง่ายขึ้น
• Docker Cluster: ดีพลอยขึ้นคลัสเตอร์ได้แบบอัตโนมัติไม่ว่าจะเป็น environment ไหนก็ตามที่ระบบรองรับ
• Group Managed Service Accounts สำหรับ Swarm เพื่อทำให้ Docker Enterprise รองรับการยืนยันตัวตนแบบ Active Directory รวมถึง Swarm ยังเปิดให้สร้าง credential specs ด้วย Docker Configs เพื่อทำให้การใช้ gMSA ง่ายและเป็นอัตโนมัติ
• รองรับการยืนยันตัวตนแบบ PKI Ceritificate เพิ่มเติมจาก LDAP/AD และ SAML 2.0

ตอนนี้ Docker Enterprise 3.0 เปิดให้ทดสอบแบบ public beta แล้ว หากสนใจสามารถลงชื่อทดสอบได้ทางเว็บไซต์ Docker

ที่มา - VentureBeat, Docker