By: nismod 
on 11 May 2019 - 15:53
Tags:
Topics:
Mortal Kombat เป็นเกมต่อสู้ที่ขึ้นชื่อมานานแล้วเรื่องความโหด ความรุนแรงเลือดสาดของตัวเกม ซึ่งผู้เล่นก็มีทางเลือกที่จะพักหรือเลิกเล่น หากรับไม่ไหวกับความรุนแรงจากเกม แต่ทางเลือกนั้นไม่ได้เกิดกับนักพัฒนาตัวเกม ที่แทบจะต้องอยู่กับเลือดและสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความรุนแรงอยู่ตลอดในกระบวนการพัฒนาเกม
Kotaku ได้เผยบทสัมภาษณ์นักพัฒนาเกม Mortal Kombat คนหนึ่งที่ออกมายอมรับว่าตัวเขามีสภาวะความผิดปกติทางจิตจากความรุนแรง (Post-Traumatic Stress Disorder - PTSD) จากการที่ต้องขลุกอยู่กับแอนิเมชันและแหล่งอ้างอิงต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในกระบวนการค้นคว้าและออกแบบตัวเกม ให้ฉากเลือดสาดต่างๆ ออกมาสมจริงและโหดที่สุด
นักพัฒนาคนดังกล่าวเล่าให้ฟังว่าการทำให้แอนิเมชันออกมาสมจริงที่สุด ทีมต้องเก็บข้อมูลจากโลกแห่งความจริง หากเดินเข้าไปในออฟฟิศ คุณจะเห็นบางคนดูวิดีโอแขวนคอ บางคนดูภาพของเหยื่อที่ถูกฆาตกรรม หรือวิดีโอวัวกำลังถูกฆ่า และที่น่ากลัวที่สุดคือทีมงานเหล่านี้ต้องสร้างความคุ้นเคยกับความรุนแรงเหล่านี้
เขาเล่าให้ฟังว่าเขาถึงกับเก็บภาพความรุนแรงเหล่านั้นไปฝัน ทำให้เขาไม่อยากจะนอนและต้องฝืนตัวเองให้ตื่นอยู่ตลอดเวลา ก่อนที่เขาจะไปพบจิตแพทย์และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น PTSD ก่อนจะพบว่าเพื่อนร่วมงานเขาก็เผชิญปัญหาเดียวกัน เพื่อนร่วมงานเขาเล่าให้ฟังด้วยว่าเวลาที่มองสุนัขที่บ้าน ภาพเครื่องในต่างๆ มักจะลอยตามมาทุกครั้ง ซึ่งตัวเขาเองและเพื่อนร่วมงานหลายคนตัดสินใจลาออกจากปัญหานี้
นักพัฒนาคนนี้เล่าด้วยว่าตัวสตูดิโอหรือองค์กร ไม่มีกระบวนการที่รองรับหรือแก้ปัญหาในลักษณะนี้เลย ระดับผู้บริหารที่ไม่ได้สัมผัสกับความรุนแรงโดยตรง ก็มักจะเน้นย้ำหรือถามถึงประเด็นฉากรุนแรงต่างๆ ในเกม เช่น "อย่าลืมนะว่าคุณต้องรู้สึกถึงความ "กร๊อบบ" เวลาดึงกระดูกสันหลังออกจากร่างกาย"
Fatality ซีนรุนแรงที่เป็นเหมือนเครื่องหมายของเกมนี้
ทั้ง Warner Bros และ NetherRealm สตูดิโอที่พัฒนาเกม ไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ เมื่อ Kotaku สอบถามในประเด็นนี้
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
ตัวอย่างที่ดีของคำว่าทำนาบนหลังคนสินะ
+1
เอาจริง ๆ สตูดิโอเขาก็เคยออกมาแย๊บ ๆ ว่าอยากทำเกมอื่นบ้างแล้วเหมือนกันครับ
เดาว่าน่าจะเป็นฝั่ง publisher ที่ไม่ยอม
Fidelity --> Fatality รึเปล่าครับ
สภาพวะ ?
ตลอดตลอด ?
ลักณะ ?
Fatality ครับ ไม่ใช่ Fidelity
edit : รีเฟรชปึ๊บ แก้ไปละ
จะมีนักพัฒนาเกมโป๊ เจอปัญหาแบบเดียวกันมั่งไหมนะ
ไม่เคยคิดจะเล่น ยิ่งเจอข่าวนี้เข้าไปยิ่งไม่นึกอยากเล่น
+1
เล่นสมัย SFC
ไม่รู้สึกถึงความสนุก-โหดอย่างเดียว
เลยไม่เคยยุ่งกับเกมซีรี่ส์นี้อีกดลย
เรื่อง You are what you eat(consume) นี้คิดมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือบันเทิงก็เถอะ
แต่ปกติไม่มีใครกล้าพูดถึงเลย นอกจากนานๆ ที จะมีเคสแบบนี้หลุดออกมา พอพูดก็โดนหาว่าเซ้นซิทีฟ โลกสวยอีก เฮ่อ
ถ้า You are what you eat ปัญหาจะต้องเป็นว่ากลุ่มผู้พัฒนาอยากออกไปหักคอคนนอกบ้านครับ
อันนี้คือฝืนรับข้อมูลในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ชอบจนเกิดปัญหาทางจิตซะมากกว่า
ผมไม่เล่นไม่ดูเลย เกมนี้
สมัย ps1 ps2 ภาพยังไม่สมจริงเท่าสมัยนี้ ก็ยังพอเล่นได้
แต่ภาคล่าสุดขอบาย ขนาดเกม re2 ฉากตำรวจครึ่งท่อนยังติดตาเลย มีฉากแบบนี้มากๆ คงไม่ไหว
อื้อหือ ผมไม่เคยเห็น ภาพสมจริงก็เรื่องนึงแต่ความรุนแรงในเกมนี่มันบ้าชัดๆ
นั่งดูคลิปรวม Fatality ของ mk11 ใน youtube
ลองคิดเล่นๆว่า ตัวละครในเกมทั้งฝ่ายดีและฝ่ายร้าย หากมีตัวตนในชีวิตจริง ทุกคนนี้ก็ฆาตกรโรคจิต สุดซาดิส ดีๆนี้เอง
ผมเคยอัดยารักษามาแล้วครับ(เลยคิดจะลาวงการ) ถ้าให้ร่วมงานกับค่ายนี้คงได้กินวันละหลายเม็ดแน่ๆ
เคยเล่นใน Android มันโหดเท่ากันปะครับ เล่นแล้วไม่รู้สึกอะไร
ตรงนี้น่าจะพอบอกได้ว่า ความรุนแรงในสื่อ เช่นความรุนแรงในเกมส์มีผลกับพฤติกรรมมนุษย์ จะมีใครมาแย้งในประเด็นนี้ เช่นผมเล่นมาริโอก็ไม่เคยอยากที่จะวิ่งไปชกอิฐเก็บเห็ดอีกมั้ย
อ่านจากข่าวแล้วการได้เสพความรุนแรงแบบต่อเนื่องจะไปเป็น PTSD มากกว่าชวนให้ทำตามนะ แล้วการหาข้อมูลในเรื่องพวกนี้เพื่อทำเกมมันหนักกว่าการเล่นเกมมากๆทั้งเวลา เนื้อหา แล้วก็ปริมาณของข้อมูล
คงต้องแยกระหว่างฝั่งผลิตสื่อกับเสพสื่อด้วยนะครับ
มาริโอ้ เกมมันเด็กๆ ภาพไม่สมจริงอะไรด้วยนะครับ
แต่อย่างกรณีนี้ เขาต้อง research ภาพ สื่อ ต่างๆ เพื่อเอาทำ animation ในเกม
คนเล่นเกม ก็เล่นเอาสนุก ยังไงก็ไม่เหมือนกัน
ตอบรวมๆ เลยแล้วกันนะครับ
โดยส่วนตัวยังเชื่ออย่างแรงกล้าว่าสื่อและสภาพแวดล้อมมีอิทธิพลกับพฤติกรรมของมนุษย์แน่นอน แต่มันจะส่งผลมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยแตกต่างกันไป ทั้งจากภายนอกและภายในของตัวผู้รับเอง
เรื่องชวนให้ทำตามนี่ผมเข้าใจครับ เกมส์ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้บอกให้ทำตามอยู่แล้ว แต่ก็มักจะมีคนยกเอาประเด็นที่ผมบอกมาพูดถึงอยู่เสมอๆ จริงๆ ผมก็ไม่อยากยกมาเท่าไหร่เพราะมันไม่ครอบคลุม ส่วนเรื่องการหาข้อมูล เนื้อหา และปริมาณข้อมูล ถ้าอิงจากเกมส์นี้ แม้จะเป็นฝั่งผู้เล่นเกมส์ แต่สิ่งที่เกมส์สื่อออกมามันเป็นภาพที่ถ่ายทอดแบบสมจริงกว่ายุคก่อนมากขนาดนี้ ชนิดที่ว่าบางทีภาพมันก็ชัดเจนมากกว่าตัว ref ของผู้ผลิตเสียอีก(เคยเห็นผ่านตามาบ้างกับวิดีโอประเภทนี้ ส่วนมากมักจะมาจากกล้องมือสมัครเล่น มองไม่ชัดเจน มืดๆ มัวๆ) ฉะนั้นผมว่า ถ้าใช้ระยะเวลากับมันมากพอๆ กันก็น่าจะเกิด effect ได้เหมือนกัน
ตอบคุณ TeamKiller สำหรับเกมส์มาริโอ้ถือว่าผมยกตัวอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แล้วกันครับ อย่างที่บอกไว้ข้างบน ความรุนแรง เลือด เนื้อ กระดูกที่หักที่ผู้ผลิตพยายามใส่เข้ามาเพื่อให้ภาพที่ได้ออกมาสมจริงโดยอิงจาก ref ฉะนั้นมันก็น่าจะเป็นการเสพความรุนแรงจาก ref โดยทางอ้อมเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะเล่นแค่เอาสนุก แต่การเล่นจริงๆ มันไม่ได้มีแค่ความสนุกนะครับ ตัวอย่างเช่นความเครียดระหว่างเล่นเกมส์
ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นมุมมองส่วนตัวนะครับ เพราะผมเองก็ไม่ได้มีความรู้หรือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา ที่จะสามารถฟันธงว่าอันไหนถูกหรือผิด
PTSD ไม่ใช่พฤติกรรมนะครับ มันเป็นความผิดปกติทางจิต มันไม่เกี่ยวกับพฤติกรรมเลย อันนี้ไม่แน่ใจว่าคุณ nrml เข้าใจเรื่องนี้รึเปล่า เป็นไปได้ว่าเข้าใจแล้วพูดรวบๆ หรือคิดว่ามันคือเรื่องเดียวกันครับ? (อันนี้ไม่ได้ต้องการคำตอบ)
แต่ยังไงก็ตาม ผมเชื่อว่าทุกอย่างในโลกมีผลต่อพฤติกรรมมนุษย์ครับ โดยเฉพาะการ expose กับสิ่งเดิมซ้ำๆ ก็มีสิทธิจะเบี่ยงเบนไปตามสิ่งนั้นได้ (เบี่ยงเบนแปลว่าเบี่ยงไปจากปกติ บางคนได้ยินคำว่าเบี่ยงเบนแล้วนึกถึงรสนิยมทางเพศอย่างเดียว)
คนที่เกิดในชุมชนที่มีแต่ความรุนแรงก็มีแนวโน้มจะใช้ความรุนแรงมากกว่าประชากรในกลุ่มอื่นๆ แต่อาจไม่ใช่ทุกคนที่จะใช้ความรุนแรง มนุษย์มีทั้งต่อต้าน สนับสนุน เลียนแบบ ฯลฯ
โดยเฉพาะสื่อที่เข้าถึงคนได้ทุกเพศทุกวัย ... ผมมองว่าการเสพสื่อเป็นเรื่องของวินัย และครอบครัวมีส่วนรับผิดชอบต่อการเสพสื่อมากกว่าสังคมอื่นๆ เพราะถ้าเป็นตัวเด็กที่มีแนวโน้มจะใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะเสพสื่อชนิดไหนก็คงใช้ความรุนแรง หรือแม้จะไม่ได้เสพสื่อก็มีแนวโน้มจะใช้ความรุนแรงได้ (ความรุนแรงไม่ได้เพิ่งมามีในยุคสื่อบูม)
การควบคุมโดยรัฐเป็นเพียงปลายเหตุ การห้ามเล่นเกมก็เป็นแค่การแก้ที่ปลายเหตุ เพราะสาเหตุของความรุนแรงมันไม่ได้อยู่ที่ตัวสื่อ แต่อยู่ที่สภาพแวดล้อม การอบรม การเลี้ยงดูมากกว่าครับ
ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ ผมอาจจะสื่อผิดไป อยากจะเสริมในย่อหน้าสุดท้ายว่า นอกจากสภาพแวดล้อม การอบรม การเลี้ยงดู ก็ยังมีเรื่องของสภาพจิตใจและแนวคิดภายในของบางคน ที่ไม่ว่าจะสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีหรือว่าพยายามเลี้ยงดูอย่างดีมากขนาดไหน ก็ไม่สามารถทัดทานแรงขับด้านความรุนแรงนั้นได้ ตรงนี้มีตัวอย่างให้เห็นอยู่บ่อยๆ ครับ
เห็นด้วยครับ บางคนโตมาในชุมชนแออัดมีแต่ความรุนแรง แต่กลับได้ดี
บางคนโตมาในสภาพแวดล้อมที่ดี แต่บั้นปลายชีวิตล้มเหลว
ผมเชื่อว่า EF คือ ปัจจัยสำคัญในการนำทางชีวิตของคน ส่วนพวก psychopath อะไรนี่คงเอามานับรวมไม่ได้
ผมชอบเกมส์นี้นะ แต่ที่ไม่เล่นไม่ใช่เพราะความรุนแรง
แต่คอมโบมันยากกกก
ผมดู Fatality ของ mk11 ใน youtube ไม่จบ ดูได้แค่ครึงเดียว แต่ภาคก่อนๆ ผมดูได้จนจบ ต้องตอบเลยว่าความโหดพัฒนาไปไกลมาก ขนาดนั่งดูยังรู้สึกได้ว่ามันรุนแรงไปหรือเปล่า คนทำเกมคงไม่ต้องพูดถึงว่านั่งเสพจนจิตตกถาวร
ดูแล้วถึงกับโอ้โห! ภาคนี้ดูโหดสมจริงเกิ๊น ?
ผมนี่ดูแล้วว้าวนะ ในแง่ของเทคโนโลยี
ไม่น่าเชื่อว่าเกมที่ทำเครื่องในมนุษย์ได้สมจริงก่อน คือเกมแอ็คชั่น
เอาจริง ๆ MK เป็นซีรียส์ทำให้เกิด ESRB และระบบเรทติ้งต่าง ๆ ครับ เผื่อบางท่านจะไม่ทราบ
ส่วนตัวมองว่า ... เขาเลือกที่จะอยู่ในสิ่งแวดล้อมนี้เอง และจริง ๆ ก็เป็นคนที่น่าจะมีส่วนในการเปลี่ยนแปลงซีรียส์นี้ได้ แต่ไม่ทำเพราะ อาจจะคิดว่าออกมาแล้วจะหางานอื่นทำได้มั้ย หรือถ้าไปแก้เกมแล้วเกมไม่เหมือนเดิมจะโดนลูกค้าด่าหรือเปล่า?
ผมไม่ได้จะซ้ำเติมอะไรนะ แค่จะบอกคนอื่นว่า อย่าปล่อยให้ตัวเองอยู่ในสถาณการลำบาก อย่าไล่ต้อนตัวเอง ชีวิตมีทางเลือก ทางนี้ไปแล้วมีปัญหาก็รีบเปลี่ยนซะก่อนจะสายเกินไป
ถ้าเกมมันหาคนทำต่อไม่ได้เดี๋ยวเขาก็เลิกทำเอง
ปล. ผมล่ะไม่เข้าใจพนักงาน Sony ที่ Emquartier ที่เปิด MK11 เล่นกลางห้าง ... นี่หาเรื่องมากเลยนะครับ หาเรื่องเดือดร้อนให้คนเล่นเกมทั้งประเทศเลยเนี่ย พวกเราเองพยายามที่จะบอกว่าต้องดูแลเด็กไม่ให้เล่นเกมที่รุนแรงกว่าอายุเขา นี่เอาเกม 18+ เปิดเล่นมันกลางห้างเลย ไม่รู้ว่าต้องการอะไรเหมือนกัน ... (ว่าแล้วเดี๋ยวเมล์ไปหา Sony หน่อยดีกว่า)
ผู้เล่นก็ส่วนนึง แต่คนทำงานถือว่า เค้าได้ดูฟุตเทจของจริง คลุกอยู่กับภาพจริงๆที่มีความบาดเจ็บหรือตายมันเลยการเป็นภาพติดในหัวไปเลย
งานนี้ เห็นใจคนพัฒนาที่ต้องดูของแบบนั้นเอามาพัฒนาเกมไม่รู้จบ ส่วนหัวหน้าและผู้ถือหุ้น สนแต่กำไรและผลงาน ไม่ได้คลุกคลีหน้างานเหมือนนักพัฒนา ไม่รู้ปัญหาของพนักงานเลย น่าเวทนาจริงๆ
งานนี้คงต้องทำใจและออกมาหางานอื่นเถอะ หรือขอการชดเชยและเรียกค่าเสียหายด้วยน่าจะดี เพราะเป็นผลจากการทำงานในบริษัท ไม่ใช่จากตัวผู้พัฒนาเอง
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว